วันนี้ได้ขับรถออกไปทำธุระข้างนอกแต่เช้า หลังจากเสร็จธุระขากลับมาบ้านบังเอิญเจอขบวนแห่นาคพอดี โดยมีเจ้าหน้าที่อปภร.ใส่ชุดสีกากียืนปิดถนนอยู่ ทำให้ต้องขับรถตามหลังขบวนแห่นาคเป็นรถคันแรกพอดี ผมก็ทนขับไปสักระยะใช้เวลาเกือบ 20 นาทีรถขยับไปไม่น่าจะเกิน 50 เมตร แล้วก็หยุดนิ่งขบวนแทบไม่เคลื่อนที่เลยเนื่องจากมีทั้งคนเมา คนเต้น คนเดินเติมเครื่องดื่มมึนเมาให้กับผู้ร่วมงานตลอดเวลา ผมต้องทนติดขบวนแห่นาคที่ยึดถนนเต็ม 1 ช่องจราจร ทั้งๆที่ถนนเส้นนี้มีช่องทางเดินรถอยู่เพียงช่องจราจรเดียว จนต้องตะโกนถามเจ้าหน้าที่อปภร.ที่คอยมาอำนวยความสะดวกให้ขบวนนี้ว่าช่วยเร่งให้หน่อยได้ไหมรถติดมาก คำตอบคือทำไม่ได้คนที่รำหน้าขบวนไม่ยอมเดินเอาแต่เต้นกัน เมาแล้วด้วยบอกก็ไม่ฟัง ผมก็ได้แต่ทนรับสภาพแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครึ่งชม.ต่อมาบังเอิญมีแท๊กซี่ในเลนฝั่งตรงข้ามจอดส่งคนพอดีผมเลยรีบหักขวาแซงขบวนไปอย่างรวดเร็วพอถึงหน้าขบวนกำลังจะปาดเข้าซ้ายเพื่อเข้าสู่เลนตัวเอง ปรากฏว่ามีเสียงดังมากเกิดที่ท้ายรถ (รถผมเป็นกระบะ 4 ประตู) มองกระจกซ้ายเห็นพอดีว่าคนเมาคนหนึ่งได้โดดถีบบริเวณท้ายรถผม ผมก็เลยจอดรถจะลงกำลังจะลงไปดู แต่ก็มีคนเมา 4-5 คนเข้ามารุมล้อมตะโกนบอกว่า ขับรถแซงมาแบบนี้ได้ไงวะ.. ไม่เห็นหรอนี่มันงานบุญ คนเขาจะไปทำบุญกัน แต่ก็มีเจ้าหน้าที่อปภร.เข้ามาห้ามเพราะบางคนถือขวดเบียร์จะเข้ามาทำร้าย ผมก็เลยแจ้งให้กับอปภร.ว่าหน้ารถผมมีกล้องและผมไม่ได้ขับไปเฉี่ยวหรือไปใกล้ใครเลย เปิดกล้องดูก็ได้ แต่ที่ต้องขับรถเร็วก็เพราะเกรงว่าจะแซงขบวนไม่พ้นก็เท่านั้น แต่การที่ผมโดนทีบรถแบบนี้ผมไม่ยอมจะแจ้งความ คนที่โดดถีบรถผมก็ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายผมโดยถอดเสื้อแล้วยืนกวักมือเรียกให้ผมออกมาจากรถตลอด แต่ทางแม่นาคที่บวชได้เข้ามาไล่คนเมาคนนั้นไป และยกมือไหว้ขอโทษผมและขอให้ผมยอมสักวัน เพราะแม่นาคเองก็ควบคุมคนพวกนี้ไม่อยู่และไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ จึงอยากจะขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การที่จะแห่นาคในเมืองที่การจราจรติดขัดแบบนี้ ควรจะต้องขออนุญาติจากทางสน.และให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวก พร้อมกับจำกัดเวลาการแห่นาคให้สั้นที่สุดเพื่อทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อนแบบผมครับ