พบกับนิลอีกเช่นเคย หมู่นี้ตั้งกระทู้รีวิวในพันทิปบ่อยมาก เหมือนจะกลายเป็นมนุษย์บ้ารีวิวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ถ้ารีวิวของนิลมีประโยชน์กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านที่แวะเวียนกันเข้ามา ก็ดีใจและยินดีค่ะ
กลับมาคราวนี้กับเรื่องของผม ที่จริงนิลเป็นคนผมแห้งมากนะคะ เนื่องจากเมื่อก่อนตากแดดบ่อย แถมยังสระผมทุกวัน ไม่สระแล้วนอนไม่ได้ค่ะ (ค่อนข้างโรคจิตหน่อยๆ ด้วยสิ) ถึงจะเป็นหน้าหนาว นอกจากวันนั้นหนาวจริงๆ ก็จะทำใจ 1 วัน ด้วยเหตุนี้ เลยไม่ค่อยอยากยุ่งอะไรกับผมมาก กลัวมันจะแห้งเสีย แตกปลายไปมากกว่านี้ เพราะขนาดบำรุงแล้วบำรุงอีก ทั้งครีมนวด เซรั่ม น้ำมันมะพร้าว ก็ยังค่อนข้างแห้งอยู่ดี ทว่าวันนึงที่อยากลุกขึ้นมาไว้ผมยาว แล้วดันเกิดปัญหาใหม่ตามมา ทำให้นิลต้องเริ่มหันมาให้ความสนใจกับเครื่องหนีบผมเข้าจนได้
ปัญหาที่ว่าคือผมบานเป็นหางเป็ดจากการไว้ผมยาวค่ะ ช่างตัดผมที่นิลใช้บริการประจำบอกกับนิลว่า เป็นเพราะผมกำลังยาวอยู่ในระดับของบ่า ทำให้มันบานได้บานดีตลอดเวลา ทั้งที่เมื่อก่อนช่วงที่นิลไว้ผมสั้น มันก็ไม่บาน และค่อนข้างตรงชนิดที่บางคนคิดว่านิลไปยืดผมมาด้วยซ้ำ (ตามรูปด้านล่างนะคะ) นอกจากนี้มันยังบานเหมือนกันทั้งสองข้างรับกับหน้ากลมๆ ของนิล จนรู้สึกเหมือนตัวเองติดตั้งจานดาวเทียมไว้บนหน้ามากๆ พยายามใช้น้ำมันมะพร้าวเร่งให้มันยาว ก็ยังช้าไม่ทันใจ สุดท้ายนิลเลยต้องตัดใจลองไปหาซื้อเครื่องหนีบผมมาใช้ เพราะรอให้ผมยาวจนเลิกบานไปเองไม่ไหว
รูปปีนี้ ก่อนใช้เครื่องหนีบผม แหะๆ
รูปตอนไปญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วค่ะ ผมยังตรงอยู่เลยแท้ๆ ปีนี้กลายร่างเป็นเป็ดซะแล้วเรา
แต่อย่างที่รู้ๆ เครื่องหนีบผมทำให้ผมของเราแห้งมากขึ้น จากความร้อนที่ส่งตรงไปถึงเส้นผม ยอมรับว่าอยากผมตรงเหมือนเดิม แต่ก็กลัวผมแห้งหนักกว่าเก่า นิลเลยตั้งสเปคเครื่องเอาไว้อย่างสูงส่งแล้วพยายามหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตมาประกอบการตัดสินใจ แค่ถูกและดีมันไม่พอนะ และนี่คือ 5 คุณสมบัติที่นิลตั้งเอาไว้ว่าเครื่องหนีบผมต้องทำให้นิลได้ (ยิ่งกว่าหาแฟนอีก ฮาาาา)
1. ราคาไม่แพงเกินไป ข้อนี้มาวินอันดับแรก อันเนื่องมาจากต้องการเก็บตังค์ไปญี่ปุ่นอีกรอบ (ไม่ใช่ละ) ความจริงก็คือนิลมองว่าเครื่องหนีบผมมันก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆ ที่วนเวียนอยู่กับผม ทำให้ผมของเราตรงสวยขึ้น และบางยี่ห้อก็ใช้ม้วนผม หรือทำปลายผมให้ดูงุ้มๆ ได้ ไม่ควรจะราคาแพงมากเหมือนกับใช้แล้วสามารถทำให้ผมของเรางอกออกมาเป็นสีทองได้อะไรแบบนี้ นิลเลยตั้งเป้าไว้ที่ไม่เกิน 2,000 บาทขาดตัว ถ้าแพงกว่านี้ขออนุญาตคัดออกเน้อ
2. แบรนด์เป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงในเรื่องเครื่องหนีบผมพอสมควร ข้อนี้หลายคนอาจจะมองว่านิลยึดติดกับยี่ห้อมากเกินไป แต่นิลมองว่าถ้าแบรนด์นั้นๆ ผลิตเครื่องหนีบผมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไว้สำหรับเส้นผม อย่างพวกไดร์เป่าผมหรือเครื่องม้วนผมด้วย และวางจำหน่ายมานานแล้ว ก็แสดงว่าสินค้าของเขามีคุณภาพ สามารถจำหน่ายออกไปชนิดที่ทำกำไรเพียงพอจะช่วยให้เขาอยู่ในตลาดด้านนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ (คิดตามประสาคนจบบริหาร... ล่ะมั้ง แหะๆ) นิลก็คงจะสามารถมั่นใจในเครื่องหนีบผมของเขาได้เช่นเดียวกัน ประมาณนี้ค่ะ ดังนั้นแล้ว ขอเลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานานก่อน
3. น้ำหนักเบา พกพาไปไหนมาไหนง่าย และจะดีมากถ้าเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ (ฮาาาา) ถ้าใครย้อนไปดูรีวิวก่อนๆ ของนิล จะเห็นว่าช่วงหลังนิลไปญี่ปุ่นทุกปี มันคงจะดีมากถ้าเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ และรูปที่ถ่ายออกมาสวยงาม ไม่ต้องพบว่าหน้าตัวเองเหมือนจานข้าวหรือจานดาวเทียมเพราะผมบานๆ ที่ช่วยส่งเสริมกันดีนักอีกต่อไป
สำหรับข้อนี้เพื่อนๆ หลายคนอาจบอกว่าเธออยากพกไปใช้ที่ญี่ปุ่น แต่ฉันไม่ได้อยากด้วย ทำไมเครื่องหนีบผมถึงจำเป็นต้องมีข้อนี้ ก็แหม ใครจะรู้ว่าอีก 1 ปีข้างหน้า เราจะได้ไปนั่งหนีบผมที่โตเกียว โซล นิวยอร์ก ลอนดอนหรือเปล่าจริงไหมล่ะคะ ความใฝ่ฝันของคนเราเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกปี นิลเองจากคนที่ชอบอยู่แต่บ้าน แต่แล้วหลายสิ่งหลายอย่างก็ยังหล่อหลอมหัวใจดวงนี้ ให้อยากออกเดินทางไปเผชิญโลกกว้างเลย เพื่อนๆ ก็อาจจะเป็นเหมือนกันก็ได้นะ
4. ร้อนเร็ว ปรับระดับความร้อนได้ หนีบผมตรงได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ มีแนวโน้มว่าจะไม่ทำให้ผมนิลแห้งเสียไปมากกว่าที่เป็น ข้อนี้เหมือนจะขอมากประหนึ่งขอพรกับยักษ์จินนี่ แต่นิลว่าเครื่องหนีบผมที่ดีควรมีคุณสมบัติเหล่านี้จริงๆ นะ นิลต้องดูแลแม่ ต้องทำงานบ้าน ทำสวน ออกไปซื้อของเข้าบ้านทุกอาทิตย์ ต้องปั่นงานบทความสุขภาพ งานนิยายวรรณกรรมเยาวชน เลิฟแฟนตาซี บลาๆ ๆ ดังนั้น เวลานิลมีจำกัดมากกกกกกก (ก ไก่ล้านตัว) คิดว่าในโลกยุคปัจจุบันทุกคนก็น่าจะเป็นเหมือนกัน แถมตัวนิลเองผมยังแห้งขนาดนี้ ถ้าเครื่องหนีบผมรุ่นไหน แบรนด์ไหนตอบโจทย์ข้อนี้ไม่ได้ นิลคงต้องขอลาเช่นกัน ดีกว่าลาขาดจากผมตัวเองนี่เนอะ
5. หาซื้อง่าย เป็นอีกข้อที่สำคัญมากสำหรับนิล เนื่องจากถึงแม้บ้านจะอยู่ใกล้ห้างหลายห้าง แต่เพราะความที่อยู่ต่างจังหวัด สินค้าบางตัว บางรุ่น บางยี่ห้อจึงมาไม่ถึง จนหลายครั้งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นลูกเมียน้อยยังไงยังงั้น (ฮาาาาา) จะซื้ออะไรทีก็มีให้เลือกไม่มาก และนิลไม่ชอบซื้อของออนไลน์ ดังนั้น หากแบรนด์ไหนหาซื้อง่าย ก็จงเอาใจปายยยยยย
สเปคสูงขนาดนี้นิลไม่คาดหวังว่าจะได้เครื่องหนีบผมในเร็ววันนะคะ แต่สุดท้ายตอนนี้ก็มีเครื่องหนีบผมใช้กับชาวบ้านเขาแล้ว ฮิๆ เป็นเครื่องหนีบผม Lesasha Shine Infrared Hair Straightener ของแบรนด์เลอซาช่า ซึ่งนิลคิดว่าก็ครองตลาดด้านนี้มานานพอสมควร น่าจะเชื่อถือได้ และไม่ทำให้ผมของนิลแห้งเสีย หงิกงอหนักกว่าเดิม
อันนี้เป็นรูปเครื่องหนีบผมนะคะ น้ำหนักเบา ถือด้วยมือเดียวได้แบบสบายๆ
ต่อมาเป็นรูปก่อนใช้ ระหว่างการใช้ และรูปหลังการใช้ค่ะ จากรูปแรกที่เหมือนผมจะบานสู้กลายเป็นผมตรงขึ้นมาละ แบบนี้ดีกว่าเนอะ หน้าไม่บาน ดูเหมือนเป็นอีกคนไปเลย ฮาาาา ส่วนสายไฟก็ยาวใช้ได้เลยค่ะ ตอนแรกนิลถ่ายในบ้าน ขอบอกว่าหน้าดำมาก (แหะๆ) เลยออกมาถ่ายตรงระเบียง โดยเสียบปลั๊กไฟไว้ในบ้าน สายก็ยาวพอนะคะ รีดผมสบาย
เมื่อยัยสาวผมตรง ถูกวิญญาณเป็ดก๊าบๆ เข้าสิง (ไม่ใช่ละ ดูอนิเมะมากไป)
เอาล่ะ มาเริ่มหนีบๆ กันเลย (ท่าเหมือนถือที่แปลงร่าง ฮาาาา)
เสร็จแล้ววววววว โชว์ด้านหน้าและด้านข้างให้เห็นว่าไม่บานอย่างที่เคยบานแล้วเนอะ
ตามที่เขาโฆษณาไว้คือ เหมาะกับผู้มีผมหยิก ชี้ฟู และต้องการหนีบผมให้เรียบตรงเป็นเงางาม โดยสามารถม้วนทำลอนที่ปลายผมได้ มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะเป็นการกระจายความร้อนเข้าถึงแกนผม ทำให้หนีบผมได้เรียบตรงเงางามภายในระยะเวลาอันสั้น ผมไม่แห้งเสีย แต่หลังใช้นิลก็ชโลมน้ำมันมะพร้าวด้วยนะ แล้วก็เปิดความร้อนระดับต่ำ เพื่อความชัวร์ว่าผมเราจะไม่แห้งเสีย ตรง นุ่มลื่น และยาวเร็ว
ที่ชอบมากๆ คือนำไปใช้ได้ทั้งที่ญี่ปุ่นและทั่วโลก (ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ แฮะ) แล้วก็หาซื้อง่ายดีค่ะ นิลเป็นขาประจำโลตัส ไปเจอเลยสอยมาซะเลย ปกติโลตัสแถวบ้านมีแบรนด์สินค้าให้เลือกน้อย (อย่างที่บอกบ้านนอกมั้ง แหะๆ) แต่แบรนด์นี้รุ่นนี้นี้มีแฮะ ตัดสินใจไม่นาน ใครว่านิลบ้า ผมแค่บ่าดันซื้อเครื่องหนีบผม แต่ขอบอกว่านิลกะซื้อไว้ใช้จนผมยาวเลยค่ะ ชอบให้ผมตัวเองตรงแต่ปลายงุ้มเข้า เครื่องนี้ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ด้วย อีกอย่างคืออยากบริจาคผมให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เลยต้องพยายามรักษาเส้นผมของเราให้ดีหน่อย ถึงตอนนี้ใช้มาสักพัก ผมของนิลก็ไม่ได้แห้งเสียมากขึ้นว่าเดิม ไม่ผิดหวังค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ขอจบรีวิวเกี่ยวกับเรื่องผมไว้เพียงเท่านี้ โอกาสหน้าถ้านึกสนุกอยากรีวิวขึ้นมาอีก ก็จะชะแวบมาใหม่ค่ะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ บ๊าย บายผมหางเป็ด
ฟิ้วววววววววววววว...
[CR] (รีวิว) ไม่ใช่แค่ถูกและดี! 5 คุณสมบัติที่เครื่องหนีบผมที่ดีควรตอบโจทย์
กลับมาคราวนี้กับเรื่องของผม ที่จริงนิลเป็นคนผมแห้งมากนะคะ เนื่องจากเมื่อก่อนตากแดดบ่อย แถมยังสระผมทุกวัน ไม่สระแล้วนอนไม่ได้ค่ะ (ค่อนข้างโรคจิตหน่อยๆ ด้วยสิ) ถึงจะเป็นหน้าหนาว นอกจากวันนั้นหนาวจริงๆ ก็จะทำใจ 1 วัน ด้วยเหตุนี้ เลยไม่ค่อยอยากยุ่งอะไรกับผมมาก กลัวมันจะแห้งเสีย แตกปลายไปมากกว่านี้ เพราะขนาดบำรุงแล้วบำรุงอีก ทั้งครีมนวด เซรั่ม น้ำมันมะพร้าว ก็ยังค่อนข้างแห้งอยู่ดี ทว่าวันนึงที่อยากลุกขึ้นมาไว้ผมยาว แล้วดันเกิดปัญหาใหม่ตามมา ทำให้นิลต้องเริ่มหันมาให้ความสนใจกับเครื่องหนีบผมเข้าจนได้
ปัญหาที่ว่าคือผมบานเป็นหางเป็ดจากการไว้ผมยาวค่ะ ช่างตัดผมที่นิลใช้บริการประจำบอกกับนิลว่า เป็นเพราะผมกำลังยาวอยู่ในระดับของบ่า ทำให้มันบานได้บานดีตลอดเวลา ทั้งที่เมื่อก่อนช่วงที่นิลไว้ผมสั้น มันก็ไม่บาน และค่อนข้างตรงชนิดที่บางคนคิดว่านิลไปยืดผมมาด้วยซ้ำ (ตามรูปด้านล่างนะคะ) นอกจากนี้มันยังบานเหมือนกันทั้งสองข้างรับกับหน้ากลมๆ ของนิล จนรู้สึกเหมือนตัวเองติดตั้งจานดาวเทียมไว้บนหน้ามากๆ พยายามใช้น้ำมันมะพร้าวเร่งให้มันยาว ก็ยังช้าไม่ทันใจ สุดท้ายนิลเลยต้องตัดใจลองไปหาซื้อเครื่องหนีบผมมาใช้ เพราะรอให้ผมยาวจนเลิกบานไปเองไม่ไหว
รูปปีนี้ ก่อนใช้เครื่องหนีบผม แหะๆ
รูปตอนไปญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วค่ะ ผมยังตรงอยู่เลยแท้ๆ ปีนี้กลายร่างเป็นเป็ดซะแล้วเรา
แต่อย่างที่รู้ๆ เครื่องหนีบผมทำให้ผมของเราแห้งมากขึ้น จากความร้อนที่ส่งตรงไปถึงเส้นผม ยอมรับว่าอยากผมตรงเหมือนเดิม แต่ก็กลัวผมแห้งหนักกว่าเก่า นิลเลยตั้งสเปคเครื่องเอาไว้อย่างสูงส่งแล้วพยายามหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตมาประกอบการตัดสินใจ แค่ถูกและดีมันไม่พอนะ และนี่คือ 5 คุณสมบัติที่นิลตั้งเอาไว้ว่าเครื่องหนีบผมต้องทำให้นิลได้ (ยิ่งกว่าหาแฟนอีก ฮาาาา)
1. ราคาไม่แพงเกินไป ข้อนี้มาวินอันดับแรก อันเนื่องมาจากต้องการเก็บตังค์ไปญี่ปุ่นอีกรอบ (ไม่ใช่ละ) ความจริงก็คือนิลมองว่าเครื่องหนีบผมมันก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆ ที่วนเวียนอยู่กับผม ทำให้ผมของเราตรงสวยขึ้น และบางยี่ห้อก็ใช้ม้วนผม หรือทำปลายผมให้ดูงุ้มๆ ได้ ไม่ควรจะราคาแพงมากเหมือนกับใช้แล้วสามารถทำให้ผมของเรางอกออกมาเป็นสีทองได้อะไรแบบนี้ นิลเลยตั้งเป้าไว้ที่ไม่เกิน 2,000 บาทขาดตัว ถ้าแพงกว่านี้ขออนุญาตคัดออกเน้อ
2. แบรนด์เป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงในเรื่องเครื่องหนีบผมพอสมควร ข้อนี้หลายคนอาจจะมองว่านิลยึดติดกับยี่ห้อมากเกินไป แต่นิลมองว่าถ้าแบรนด์นั้นๆ ผลิตเครื่องหนีบผมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไว้สำหรับเส้นผม อย่างพวกไดร์เป่าผมหรือเครื่องม้วนผมด้วย และวางจำหน่ายมานานแล้ว ก็แสดงว่าสินค้าของเขามีคุณภาพ สามารถจำหน่ายออกไปชนิดที่ทำกำไรเพียงพอจะช่วยให้เขาอยู่ในตลาดด้านนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ (คิดตามประสาคนจบบริหาร... ล่ะมั้ง แหะๆ) นิลก็คงจะสามารถมั่นใจในเครื่องหนีบผมของเขาได้เช่นเดียวกัน ประมาณนี้ค่ะ ดังนั้นแล้ว ขอเลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานานก่อน
3. น้ำหนักเบา พกพาไปไหนมาไหนง่าย และจะดีมากถ้าเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ (ฮาาาา) ถ้าใครย้อนไปดูรีวิวก่อนๆ ของนิล จะเห็นว่าช่วงหลังนิลไปญี่ปุ่นทุกปี มันคงจะดีมากถ้าเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ และรูปที่ถ่ายออกมาสวยงาม ไม่ต้องพบว่าหน้าตัวเองเหมือนจานข้าวหรือจานดาวเทียมเพราะผมบานๆ ที่ช่วยส่งเสริมกันดีนักอีกต่อไป
สำหรับข้อนี้เพื่อนๆ หลายคนอาจบอกว่าเธออยากพกไปใช้ที่ญี่ปุ่น แต่ฉันไม่ได้อยากด้วย ทำไมเครื่องหนีบผมถึงจำเป็นต้องมีข้อนี้ ก็แหม ใครจะรู้ว่าอีก 1 ปีข้างหน้า เราจะได้ไปนั่งหนีบผมที่โตเกียว โซล นิวยอร์ก ลอนดอนหรือเปล่าจริงไหมล่ะคะ ความใฝ่ฝันของคนเราเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกปี นิลเองจากคนที่ชอบอยู่แต่บ้าน แต่แล้วหลายสิ่งหลายอย่างก็ยังหล่อหลอมหัวใจดวงนี้ ให้อยากออกเดินทางไปเผชิญโลกกว้างเลย เพื่อนๆ ก็อาจจะเป็นเหมือนกันก็ได้นะ
4. ร้อนเร็ว ปรับระดับความร้อนได้ หนีบผมตรงได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ มีแนวโน้มว่าจะไม่ทำให้ผมนิลแห้งเสียไปมากกว่าที่เป็น ข้อนี้เหมือนจะขอมากประหนึ่งขอพรกับยักษ์จินนี่ แต่นิลว่าเครื่องหนีบผมที่ดีควรมีคุณสมบัติเหล่านี้จริงๆ นะ นิลต้องดูแลแม่ ต้องทำงานบ้าน ทำสวน ออกไปซื้อของเข้าบ้านทุกอาทิตย์ ต้องปั่นงานบทความสุขภาพ งานนิยายวรรณกรรมเยาวชน เลิฟแฟนตาซี บลาๆ ๆ ดังนั้น เวลานิลมีจำกัดมากกกกกกก (ก ไก่ล้านตัว) คิดว่าในโลกยุคปัจจุบันทุกคนก็น่าจะเป็นเหมือนกัน แถมตัวนิลเองผมยังแห้งขนาดนี้ ถ้าเครื่องหนีบผมรุ่นไหน แบรนด์ไหนตอบโจทย์ข้อนี้ไม่ได้ นิลคงต้องขอลาเช่นกัน ดีกว่าลาขาดจากผมตัวเองนี่เนอะ
5. หาซื้อง่าย เป็นอีกข้อที่สำคัญมากสำหรับนิล เนื่องจากถึงแม้บ้านจะอยู่ใกล้ห้างหลายห้าง แต่เพราะความที่อยู่ต่างจังหวัด สินค้าบางตัว บางรุ่น บางยี่ห้อจึงมาไม่ถึง จนหลายครั้งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นลูกเมียน้อยยังไงยังงั้น (ฮาาาาา) จะซื้ออะไรทีก็มีให้เลือกไม่มาก และนิลไม่ชอบซื้อของออนไลน์ ดังนั้น หากแบรนด์ไหนหาซื้อง่าย ก็จงเอาใจปายยยยยย
สเปคสูงขนาดนี้นิลไม่คาดหวังว่าจะได้เครื่องหนีบผมในเร็ววันนะคะ แต่สุดท้ายตอนนี้ก็มีเครื่องหนีบผมใช้กับชาวบ้านเขาแล้ว ฮิๆ เป็นเครื่องหนีบผม Lesasha Shine Infrared Hair Straightener ของแบรนด์เลอซาช่า ซึ่งนิลคิดว่าก็ครองตลาดด้านนี้มานานพอสมควร น่าจะเชื่อถือได้ และไม่ทำให้ผมของนิลแห้งเสีย หงิกงอหนักกว่าเดิม
อันนี้เป็นรูปเครื่องหนีบผมนะคะ น้ำหนักเบา ถือด้วยมือเดียวได้แบบสบายๆ
ต่อมาเป็นรูปก่อนใช้ ระหว่างการใช้ และรูปหลังการใช้ค่ะ จากรูปแรกที่เหมือนผมจะบานสู้กลายเป็นผมตรงขึ้นมาละ แบบนี้ดีกว่าเนอะ หน้าไม่บาน ดูเหมือนเป็นอีกคนไปเลย ฮาาาา ส่วนสายไฟก็ยาวใช้ได้เลยค่ะ ตอนแรกนิลถ่ายในบ้าน ขอบอกว่าหน้าดำมาก (แหะๆ) เลยออกมาถ่ายตรงระเบียง โดยเสียบปลั๊กไฟไว้ในบ้าน สายก็ยาวพอนะคะ รีดผมสบาย
เมื่อยัยสาวผมตรง ถูกวิญญาณเป็ดก๊าบๆ เข้าสิง (ไม่ใช่ละ ดูอนิเมะมากไป)
เอาล่ะ มาเริ่มหนีบๆ กันเลย (ท่าเหมือนถือที่แปลงร่าง ฮาาาา)
เสร็จแล้ววววววว โชว์ด้านหน้าและด้านข้างให้เห็นว่าไม่บานอย่างที่เคยบานแล้วเนอะ
ตามที่เขาโฆษณาไว้คือ เหมาะกับผู้มีผมหยิก ชี้ฟู และต้องการหนีบผมให้เรียบตรงเป็นเงางาม โดยสามารถม้วนทำลอนที่ปลายผมได้ มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะเป็นการกระจายความร้อนเข้าถึงแกนผม ทำให้หนีบผมได้เรียบตรงเงางามภายในระยะเวลาอันสั้น ผมไม่แห้งเสีย แต่หลังใช้นิลก็ชโลมน้ำมันมะพร้าวด้วยนะ แล้วก็เปิดความร้อนระดับต่ำ เพื่อความชัวร์ว่าผมเราจะไม่แห้งเสีย ตรง นุ่มลื่น และยาวเร็ว
ที่ชอบมากๆ คือนำไปใช้ได้ทั้งที่ญี่ปุ่นและทั่วโลก (ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ แฮะ) แล้วก็หาซื้อง่ายดีค่ะ นิลเป็นขาประจำโลตัส ไปเจอเลยสอยมาซะเลย ปกติโลตัสแถวบ้านมีแบรนด์สินค้าให้เลือกน้อย (อย่างที่บอกบ้านนอกมั้ง แหะๆ) แต่แบรนด์นี้รุ่นนี้นี้มีแฮะ ตัดสินใจไม่นาน ใครว่านิลบ้า ผมแค่บ่าดันซื้อเครื่องหนีบผม แต่ขอบอกว่านิลกะซื้อไว้ใช้จนผมยาวเลยค่ะ ชอบให้ผมตัวเองตรงแต่ปลายงุ้มเข้า เครื่องนี้ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ด้วย อีกอย่างคืออยากบริจาคผมให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เลยต้องพยายามรักษาเส้นผมของเราให้ดีหน่อย ถึงตอนนี้ใช้มาสักพัก ผมของนิลก็ไม่ได้แห้งเสียมากขึ้นว่าเดิม ไม่ผิดหวังค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ขอจบรีวิวเกี่ยวกับเรื่องผมไว้เพียงเท่านี้ โอกาสหน้าถ้านึกสนุกอยากรีวิวขึ้นมาอีก ก็จะชะแวบมาใหม่ค่ะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ บ๊าย บายผมหางเป็ด
ฟิ้วววววววววววววว...