สวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่านค่ะ เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์มา และมันสวยมากกกกกก เลยอยากจะรีวิวทริปงงๆทริปนี้บนพันทิปให้คนอ่านบ้าง
ทริปนี้อย่างที่บอกค่ะ 3คืน 4วัน เราและเพื่อนอีกคนนึง(ซึ่งเป็นคนขับรถตลอดการเดินทาง)คิดทริปตอนสี่ทุ่มของวันอาทิตย์ คือมันปุบปับมากๆ เรานั่งวางแผนจนถึงเกือบตี3ของวันอาทิตย์เพราะในใจกลัวว่าทริปจะล่ม ยังวางแผนไม่ทันเสร็จเพื่อนเราจองตั๋วเครื่องบินตรงมาหาเราในวันต่อไปเลยจ้า 5555 คือนางอยู่ ภาคเหนือที่โคตะระไกลจากเรา(เพื่อนอยู่Haparandaส่วนเราอยู่Göteborg เมืองใหญ่อันดับสองของสวีเดน) ถือว่านางใจมากกับทริปที่ไม่รู้จะได้ไปหรือปล่าว

หลังจากที่รุ้ว่าเพื่อนจองตั๋วเครื่องบินและจะไปแน่ๆ  เราก็เริ่มวางแผนและหาข้อมูลเกี่ยวกับนอร์เวย์ค่ะ คือเมืองแรกที่มีในใจอยู่แล้วคือBergen เมืองอันดับสองของนอร์เวย์ ที่อยู่ห่างเมืองหลวงจากOsloประมาน600-700กว่ากิโล(ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกเส้นทางไหน)
ตอนแรกวางแผนกันว่าวันว่าจะนั่งรถบัส>Oslo และไปกับทัวร์จนถึงBergen แล้วนั่งรถไฟและรถบัสรวดเดียวจากBergen>Göteborgตอนขากลับ แต่เพราะคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วมันแพงกว่าที่คิดค่ะและเป็นโรคประจำตัว(โรคทรัพย์จาง555555) เลยเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าจะเช่ารถไปกันซึ่งมันถูกกว่าจริงๆ รวมทุกอย่างประมาน 2200kr +ค่าประกันอีก 3080ซึ่งเราจะได้เงินนี้คืนหลังจากที่เราคืนรถ
1วันก่อนทริปจะเริ่ม(13มิ.ย.) เป็นวันที่เพื่อนเราบินมาจากHaparanda หลังจากที่นัดเจอกันแล้วเราสองคนไปหาซื้อของตุนไว้กันค่ะ รู้มาว่าของที่นอร์เวย์แพงหูฉี่ เลยกะจะขนอาหารง่ายๆ และไม่แพงมากเพื่อที่จะซื้อของที่นู้นให้น้อยที่สุดค่ะ ไม่งั้นอาการทรัพย์จางของเราจะกำเริบ5555

ของอย่างเดียวที่ถูกและง่ายที่สุดของเราสองคนคือบะหมี่ค่ะ555 เราไปซื้อกันที่ร้าน Saigon มีหลายราคาจาก3kr
ซื้อจนพอใจเราก็Heading homeเพื่อแพคกระเป๋า

เราสองคนแบ่งหน้าที่กันว่าเพื่อนเราจะเป็นคนจองรถ ส่วนเราจองโรงแรม ซึ่งส่วนของเราไม่เป็นอย่างที่คิดจ้าาาสส ไม่มีโรงแรมถูกๆดีๆเลย สุดท้ายเลยได้จองแบบที่อยู่ร่วมกับเจ้าของที่ปล่อยให้เช่า..
วันต่อมาคือวันที่เราต้องเริ่มออกเดินทางค่ะ(14มิ.ย) เราจองรถกันไว้และต้องไปเอาที่สนามบินLandvetterค่ะ รถที่คิดไว้คือรถเก๋งคันเล็ก3ประตู แต่พอไปรับรถ สิ่งที่ได้คือ....

ผ่าม ผ่ามมมมมมมมมม Volvo 5ประตู คือเกินคาดมากและก็เกร็งมากเช่นกันว่าจะทำรถเขาพัง นั่งทำใจกันอยู่นานก่อนจะออกรถ
เราเริ่มออกเดินทางกันประมานเที่ยงครึ่ง ขับรถมาเรื่อยๆและพักจอดที่เมืองเล็กๆชื่อ Fjällbackaที่อยู่ติดริมทะเล

บรรยากาศดีค่ะ เหมาะกับการนั่งกินข้าวในรถชิลๆ
เราเริ่มออกเดินทางต่อ วิวข้างทางจากGöteborgมาOsloก็ไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้น จนชะนีคนขับรถแทบจะหลับเพราะความน่าเบื่อของวิวที่เจอคล้ายๆแบบนี้ทุกวัน
กว่าจะมาถึงที่พักที่Osloทำเอาเราสองคนเหนื่อยเลยค่ะ ขับรถไม่เท่าไหร่ แต่หลงเยอะและเกร็งมาก55555 ในOsloคนเยอะ เดินยั๊วเยี๊ยะเต็มไปหมด ไหนจะจักรยานที่จะปั่นบนถนนเดียวกับรถอีก เกร็งไปหมดว่าจะขับไปชนคนหรือปล่าว แต่ก็รอดมาได้ค่ะ

เราหาที่พักเจอประมานเกือบสองทุ่ม เจ้าของใจดีค่ะ โชคดีที่เค้าพูดสวีดิชได้เลยซื่อสารกันได้แบบไม่ติดขัด ห้องกว้างดี แต่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับเจ้าของห้อง แต่ที่จอดรถนี่หาจอดอยากมากค่ะเนื่องจากเป็นที่ที่คนอยู่เยอะ ทำให้เราสองคนต้องไปหาP-houseจอด และมันซัดเราไป450kr(NOK) TT

อ่อ การจองโรงแรมครั้งนี้เราพึ่งเว็บ Airbnb ค่ะ ห้องพักถูกๆดีๆมีให้เลือกเยอะ
หลังจากที่เช็คอินเข้าห้องพักแล้วเราก็ออกไปหาเดินเล่นในเมือง ซึ่งตัวเมืองอยู่ไกลจากที่พักประมาน20-30นาทีโดยทางเท้าค่ะ แต่บรรยากาศในเมืองสวยค่ะ(ผู้ชายก็งานดี5555) ไม่รู้สึกเบื่อในระหว่างเดิน

แล้วก็มาถึงจุดหมายของเราในOsloค่ะ Opelahouse ที่ตั้งอยู่ติดกับทะเล

ระหว่างที่ถ่ายรูปและสูดดมบรรยากาศก็เจอพระไทยค่ะ ท่านมาประจำที่นอร์เวย์ ได้พูดคุยกับท่านนิดหน่อยก่อนที่จะแยกกัน
วันถัดมา(15มิ.ย)เราสองคนออกเดินทางจากOsloเพื่อนมุ่งหน้าไปที่Bergen

เราเดินทางตามเส้นทางในภาพนี้ค่ะ ช้ากว่าทางตรงประมานชั่วโมงครึ่งแต่เราสองคนอยากเห็นบรรยากาศที่มันไม่ซ้ำกับตอนขากลับ555เลยเลือกทางนี้กัน
กองทับต้องเดินด้วยท้องค่ะ55555เราจอดกินข้าวเช้ากันที่จุดพักรถนอกเมืองOsloหลังจากที่ขับรถหลงทางหาออกนอกเมืองประมาน30กว่านาที ตอนนั้นเวลาประมาน11โมงกว่าๆ ข้าวเช้าคือซูชิที่ลดราคา40%เพราะเหลือแค่วันเดียวก็หมดอายุไม่งั้นคนทรัพย์จางอย่างเราจะไม่มีโอกาสได้กินแน่ๆ55555

เราออกเดินทางต่อโดยที่มีจุดหมายพักรถที่ต่อไปคือเมืองFlåm กะว่าจะตรงไปรวดเดียวเลย แต่ไม่ไหวค่ะ หวิวข้างทางมันเว้าวอนให้เราจอดถ่ายรูปมากกก เรากับเพื่อนตื่นเต้นกันใหญ่ เห็นอะไรสวยๆหน่อยก็กรี๊ดกันเหมือนคนบ้า5555555 ทิวทัศน์รอบๆระหว่างการเดินทางมันสวยมากจริงๆ แตกต่างจากที่ๆเราอยู่ที่มีแต่ป่าสนกับทุ่งหญ้ากว้างๆ


เรามาถึงFlåmประมานเกือบๆ5โมงเย็นค่ะ คือโชคดีที่ถึงเพราะจอดดูวิวกันบ่อย แต่พอมาถึงเมืองจุดหมายอย่างFlåmแล้วปรากฏว่าไม่มีอะไรเล๊ยยยย(หรืออาจจะเพราะเราไม่รู้5555) วนหาร้านขายของชำก็ไม่มี รอบๆมีแต่แคมป์ปิ้งกับท่าเรือเฟอร์รี่

ตอนเราสองคนขับรถรอบๆFlåmเพื่อหาร้านขายของชำก็เจอนักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยม2คนมาขอติดรถไปด้วยที่ท่าเรือค่ะ คือเค้าเล่าว่าเค้าตกเรือรอบบ่ายสามกัน เพราะความผิดพลาดที่ภรรยาของเค้าอยากจะชมวิว เราตอนนั้นคือรู้สึกโชคดีเหมือนกันที่ตัดสินใจเช่ารถเพราะขนาดเค้าเป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ๆยังมีผิดแผนกันเลย นับประสาอะไรกับเด็กผู้หญิงอายุ20ต้นๆอย่างเรา2คนที่เด๋อๆด๋าๆ ไม่เต็มบาท ถ้าเกิดตกรถตกเรือแบบนักท่องเที่ยว2คนนี้คงทำได้แค่นั่งร้องไห้กัน55555

หลังจากที่ส่งนักท่องเที่ยว2คนขึ้นเรือแล้วเราก็เปลี่ยนแผนกันว่าจะไม่พักที่Flåmค่ะ เราเสิร์ชร้านขางของชำที่อยู่ทางระหว่างFlåmกับBergenเพื่อที่จะพักกินข้าวค่ะ ในใจของเราตอนนั้นคือไม่สนวิวสวยๆแล้ว ต้องหาที่กินก่อน และเราก็เจอที่นึงค่ะ อยู่แถวเมืองVoss ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอวิวสวยๆ เพราะหิวกันจนหมดแรงว้าวแล้ว5555 แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ Google mapพาเราสองคนมาในจุดที่ไม่ใช่ร้านขายของชำแต่กลับเป็นร้านกิ๊ฟช็อปที่ไม่มีแม้แต่อาหาร หลังร้านมีแค่น้ำตก ซึ่งมันอลังการมากๆจนลืมหิว

เห็นอะไรในรูปหรือปล่าวคะ? ดูไม่ผิดหรอกค่ะ ท่านคือพระซึ่งคือกลุ่มเดียวกันกับที่เราสองคนเจอที่Oslo 55555ทริปครั้งนี้คือพระคุ้มครองจริงๆค่ะ ก็ตามไสตล์คนไทยค่ะ เข้าไปขอพร ท่านก็อึ้งที่เจอพวกเราอีกเพราะไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงสองคนจะขับรถมาไกลกันได้ขนาดนี้

เราสองคนลาท่านและเริ่มขับรถต่อไปที่Bergenค่ะ ซึ่งกว่าจะมาถึงBergenก็ปาไป3ทุ่มกว่าๆ แหะๆ เรามาถึงกันดึก ฝนก็ตก แถมเจ้าของห้องยังไม่รับโทรศัพท์ทำให้เราสองคนต้องนั่งรอหน้าบ้านค่ะคือรอไปนานอยู่เหมือนกันก่อนที่เจ้าของห้องจะมาและพาเราไปดูห้อง เรากับเจ้าของห้องยืนคุยกันนานเลย ไม่ใช่เพราะมีเรื่องคุยเยอะแยะ แต่เพราะภาษา55555 เราพูดสวีดิชเป็นส่วนใหญ่ส่วนเจ้าของบ้านพูดนอร์วิเจี้ยนซึ่งก็ฟังกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จนอยู่ๆเจ้าของห้องบอกว่าจอดรถหน้าแถวนี้ไม่ได้นะ พวกเธอต้องมีParking ticket นั้นไง งานเข้าตั้งแต่มาถึงเลย5555555 เรารีบไปร้านขายของแถวนั้นเพื่อนซื้อparking ticketแต่โชคร้ายคือตอนนั้นเวลา22.10 ซึ่งร้านขายของปิด22.00 เรากับเพื่อนเครียดกันจนหน้าบูดหน้างอกลัวว่าจะโดนใบสั่ง แต่ขับรถมาเรื่อยๆก็เจอเซเว่นค่ะ ซึ่งอันนี้คือถ้าใครหาParking ticket อยู่อย่าเข้าไปนะคะ ปล่าวประโยชน์555555 เราเสียเงินฟรี30กว่าNokเพราะเข้าใจว่าพนักงานเอาParking Ticketให้ โชคดีที่เราอ่านภาษานอร์เวย์ออกนิดหน่อยเลยรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะซื้อ55555 ข้ามเรื่องนี้ไปค่ะสุดท้ายเราเจอแอพของเมืองBergenที่ใช้สำหรับซื้อตั๋วออนไลน์ ตอนนั้นคือนอนหลับกันได้เต็มตาแล้วค่ะ ไม่เสี่ยงโดนใบสั่งแล้ว5555

  เช้าวันต่อมา(16มิย)เราตัดสินที่จะไม่แตะรถเลยค่ะ ให้คนขับรถและรถได้พักบ้างหลังจากที่ขับมาแล้ว2วันเต็ม เราเดินเล่นกันในเมือง Bergenเป็นเมืองที่น่ารักมากกกก สิ่งปลูกสร้างทุกอย่างในเมืองสวยงามจริงๆ วันที่เราไปเมฆหนาและฝนตกปรอยๆ ตอนแรกถือร่มมาด้วย แต่เจ้าของหอพักบอกเอาไปทำไม ที่นี่เค้าไม่เรียกว่าฝนนะ เลยตัดสินใจเอาไปเก็บเพื่อไม่ให้ดูเป็นคนบ้าค่ะ555555