ขอร้องเรียนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เรื่องการปฏิบัติที่อาจทำให้คนไข้อยากฆ่าตัวตายซ้ำอีกครั้ง

เนื่องจากข้าพเจ้าได้เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศตอนวัยเด็ก
และภาพนั้นได้หลอกหลอนข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าต้องกินยานอนหลับ
เมื่อประมาณวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้กินยาเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตาย
แต่เนื่องจากได้พูดคุยกับมารดาของข้าพเจ้าทางโทรศัพท์
มารดาของข้าพเจ้าจึงให้คุณครูมารับข้าพเจ้าไปโรงพยาบาล ซึ่งก็คือโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ข้าพเจ้าได้เล่าทุกอย่างให้ทางแพทย์หรือบุรุษพยาบาล (ข้าพเจ้าไม่แน่ใจ) ว่าข้าพเจ้าถูกล่วงละเมิดทางเพศตอนเด็ก และต้องการฆ่าตัวตาย
ในตอนแรกนั้น ทางโรงพยาบาลต้องการให้ข้าพเจ้าสอดท่อทางจมูกเพื่อดูดเอายาออกมา
ข้าพเจ้าจึงปฏิเสธด้วยการโวยวาย และออกไปนั่งข้างนอก
ต่อมา ทางโรงพยาบาลบอกกับข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องสอดท่อ แค่นอนเฉย ๆ บนเตียงของโรงพยาบาลก็เพียงพอแล้ว และจะใช้วิธีการอื่นในการรักษา
อาจารย์ของข้าพเจ้าสามารถเป็นพยานได้
พ่อแม่ของข้าพเจ้าก็รับรู้ว่าข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องสอดท่อเข้าทางจมูก แต่สามารถกินคาร์บอนแทนได้
เมื่อข้าพเจ้าหลับไปได้ 3-4 ชั่วโมง ข้าพเจ้าได้ตื่นขึ้นมา และพบว่าตัวเองถูกมัดอยู่กับเตียง
ข้าพเจ้าต้องการให้เขาปล่อย แต่เขาไม่ยินยอม
นอกจากนี้ยังปิดผ้าม่าน และพยายามจะสอดท่อทางจมูกให้แก่ข้าพเจ้าให้จงได้
แม้ว่าข้าพเจ้าจะโวยวาย เขาก็บอกให้ข้าพเจ้าโวยวายต่อไป
และบอกว่าอยากรักษาคนที่ต้องการรักษา
กระทั่งมีบุรุษพยาบาลหรือหมอคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชาย (ข้าพเจ้าไม่แน่ใจ) บอกกับผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็นหมอว่าสามารถดื่มคาร์บอนได้
ข้าพเจ้ารีบพูดว่าจะดื่มคาร์บอน แต่ผู้หญิงซึ่งน่าจะหมอ บอกแก่ข้าพเจ้าว่าคุยกันสองคน ท่าทีไม่ต้องการให้ข้าพเจ้าเลือกวิธีการรักษา
ท่าทีต้องการเอาชนะข้าพเจ้า และไม่ปฏิบัติตามคำพูดของโรงพยาบาลที่เคยกล่าวไว้กับข้าพเจ้าว่าจะไม่สอดท่อทางจมูกของข้าพเจ้า
แต่โชคดีที่บุรุษพยาบาลหรือหมอผู้ชายคนนั้นตัดสินใจให้ข้าพเจ้าดื่มคาร์บอนแทน
ข้าพเจ้ายังถูกมัดอยู่ต่อไป แม้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ในอาการสลึมสลือ และไม่ได้โวยวายอีกแล้ว
จนกระทั่งญาติของข้าพเจ้ามาเยี่ยม จึงได้คลายปมที่มัดอยู่ให้หลวมขึ้น เพราะข้าพเจ้าเจ็บ
ข้าพเจ้าขออนุญาตพยาบาลเพื่อเข้าห้องน้ำ และนั่นเอง จึงทำให้พยาบาลแก้มัดที่มัดข้าพเจ้าไว้
พ่อของข้าพเจ้าคุยกับใครบางคนที่เคาท์เตอร์
และพบว่าหัวใจของข้าพเจ้ายังเต้นไม่ปกติ
ข้าพเจ้าจึงต้องนอนที่โรงพยาบาล 1 คืน
ในคืนนั้น ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาตอนตีสอง และได้ยกมือขอเรียกให้พยาบาลนำเครื่องตรวจวัดการเต้นของหัวใจ
แต่หมอผู้ชายคนหนึ่งกลับไม่ยินยอม และกล่าวกับพ่อของข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าโวยวาย ทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้าเป็นคนขี้เกรงใจ และไม่ได้เสียงดัง หรือพูดจาโวยวายในตอนกลางคืนที่มีคนหลับอยู่มากมายแต่อย่างใด อันที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องโวยวายอีกแล้ว เพราะข้าพเจ้าได้รับคาร์บอนแทนการสอดท่อทางจมูกแล้ว
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าทั้งหมดที่เล่ามานี้เป็นความสัตย์จริงทุกประการ

ข้าพเจ้าต้องการร้องเรียนเพื่อเป็นแนวทางในการรักษาคนไข้รายต่อ ๆ ไป
ว่าการปฏิบัติเช่นนี้เป็นการล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพของคนไข้ ทำให้คนไข้เกิดความเจ็บช้ำใจ
สมมติว่าหากมีใครที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือถูกข่มขืนแล้วกินยาเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตายเช่นข้าพเจ้า
คำถามก็คือการปฏิบัติของโรงพยาบาลเช่นนี้ จะทำให้เขาคิดอยากฆ่าตัวตายซ้ำอีกครั้งหรือไม่
ข้าพเจ้าได้รับความรักจากครอบครัว จึงไม่คิดฆ่าตัวตายอีก
แต่คนอื่น ๆ เล่า? ถ้าหากเขาประสบปัญหาที่เลวร้ายอย่างที่ข้าพเจ้าได้ยกตัวอย่างไป เขาจะคิดฆ่าตัวตายอีกหรือไม่?
นี่เป็นคำถามที่โรงพยาบาลและบรรดาแพทย์ทั้งหลายจะต้องตอบให้ได้
ด้วยจรรยาบรรณทั้งหมดที่พวกท่านมี
(แก้ไขเพื่อความชัดเจน)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่