ว่าด้วยความคิดเห็นหลังชมหนัง Transformers ภาค 5 : The Last Knight
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.youtube.com/user/NapatSL อันนี้เผื่อใครไม่อยากอ่าน สามารถตามไปกดSubscribeเป็นแบบฟังรีวิวแทนได้นะครับ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่สร้างภาคต่อกันมาอย่างยาวนาน และยังมีผู้กำกับกลับมาคุมบังเหียนในทุกๆภาคเป็นคนเดียวกัน นั่นก็คือเจ้าพ่อมือระเบิดภูเขาเผากระท่อม หรือผู้กำกับฉายา อาฉลองเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ด คงเป็นใครไม่ได้จริงๆนอกจากอา “ไมเคิล เบย์”
รอบนี้ตัวผมเองก็พยายามตั้งสติมาก่อนแล้ว ว่าการเข้าโรงไปดูหนังเรื่องนี้ คงไปคาดหวังเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้เลย ขอเพียงแค่ว่าได้ไปดูฉากแอ๊คชั่นตระการตา ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นกำไรชีวิตของการไปดูหนังเรื่องนี้แล้ว
แต่หลังจากที่ดูจบ ก็พบว่า หนังมันมีดีที่ฉากต่อสู้และสเปเชี่ยลเอฟเฟคจริงๆ ที่ยังอลังการงานสร้างล้านดาวอยู่เช่นเคย แต่ว่าก็ไม่ได้รู้สึก “ว้าว” หรือแปลกใหม่อะไรไปมากกว่าเดิม สำหรับผมรู้สึกว่าตัวหนังพยายามยัดเยียดฉากแอ๊คชั่นเข้ามาอย่างไม่บันยะบันยัง และอีกเดี๋ยวก็เป็นฉากรถซิ่งชนิดที่เรียกได้ว่าไม่แพ้หนังชุด The Fast รวมไปถึงฉากเรือดำน้ำ ฉากสู้กันกลางอากาศ และฉากอะไรต่างๆมากมายที่อยู่ดีๆก็จับพลัดจับพลูเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมาได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย รวมไปถึงการตัดต่อด้วยภาพฉับไวอย่างไม่ปราณีคนดู ต่อให้จะเป็นเพียงฉากคุยกันในห้องสมุด ที่เต็มไปด้วยรูปภาพใส่กรอบของศิลปินและบุคลระดับโลกมากมาย ยังถูกตัดสลับไปมาอย่างเร็วและรัวขั้นเนิร์ดเอาเรื่อง
นอกจากนี้ยังได้เห็นความรั่วของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างท่านเซอร์ แอนโธนี่ ฮ๊อปกิ้นส์ ที่เรียกได้ว่าเล่นใหญ่เกินรัชดาลัยเธียเตอร์ไปเลยสำหรับการเข้ามามีบทบาทในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ดี เพราะถึงกับหลุดหัวเราะในจริตการแสดงของปู่แกไปหลายรอบเหมือนกัน
รวมๆแล้ว หนังออกทะเลไปเยอะมาก มากเสียจนกู่ไม่กลับ หนังได้รวมยำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เป็นตำนานเล่าขานกันมาอย่างกษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลม ไปจนถึงการปะติดปะต่อเรื่องราวในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งยิ่งยำ ก็รู้สึกว่ายิ่งเละ เลยคิดว่าขอเอามันส์ผ่านฉากแอ๊คชั่นก็พอ แต่ทว่า สำหรับผม ในแง่การเล่าเรื่องแล้ว ภาคที่แล้วน่าจะยังทำได้ดีกว่า ดูรูเรื่องเข้าใจได้มากกว่าเสียอีก
สรุปสั้นๆว่า “นี่มันเป็นหนังอาร์ตทุนพันล้าน” ดีๆนี่เอง คือพอดูจบผมไม่รู้จะออกมาสปอยส์อะไรเลย เพราะไม่รู้จริงๆว่าเมื่อสักคู่เราไปอยู่โลกไหนมา ต้องขอจูนเครื่องสักพักใหญ่ๆ กระนั้นไม่ว่าคำวิจารณ์ของสำนักไหนจะสาปส่งหนังเฮียแกอย่างไร หนังแฟรนไชส์นี้ก็ขึ้นชื่อว่าต้องทำเงินทุกทีสิน่า และผมก็เชื่อว่าคนที่ด่าหนังแกทุกภาค พอภาคใหม่มา ก็ยังเข้าไปดูมันอยู่ดี ก็นี่ไง อย่างน้อยผมก็คนนึงล่ะ อยากฟังผมเม้าส์แบบจัดเต็มก็กดฟังต่อในคลิปรีวิวได้ครับ
ไปดู Transformers : The Last Knight มาหรอ??? ไหนขอหมอดูอาการหน่อยซิ (ความรู้สึกหลังชมหนัง)
ว่าด้วยความคิดเห็นหลังชมหนัง Transformers ภาค 5 : The Last Knight
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่สร้างภาคต่อกันมาอย่างยาวนาน และยังมีผู้กำกับกลับมาคุมบังเหียนในทุกๆภาคเป็นคนเดียวกัน นั่นก็คือเจ้าพ่อมือระเบิดภูเขาเผากระท่อม หรือผู้กำกับฉายา อาฉลองเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ด คงเป็นใครไม่ได้จริงๆนอกจากอา “ไมเคิล เบย์”
รอบนี้ตัวผมเองก็พยายามตั้งสติมาก่อนแล้ว ว่าการเข้าโรงไปดูหนังเรื่องนี้ คงไปคาดหวังเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้เลย ขอเพียงแค่ว่าได้ไปดูฉากแอ๊คชั่นตระการตา ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นกำไรชีวิตของการไปดูหนังเรื่องนี้แล้ว
แต่หลังจากที่ดูจบ ก็พบว่า หนังมันมีดีที่ฉากต่อสู้และสเปเชี่ยลเอฟเฟคจริงๆ ที่ยังอลังการงานสร้างล้านดาวอยู่เช่นเคย แต่ว่าก็ไม่ได้รู้สึก “ว้าว” หรือแปลกใหม่อะไรไปมากกว่าเดิม สำหรับผมรู้สึกว่าตัวหนังพยายามยัดเยียดฉากแอ๊คชั่นเข้ามาอย่างไม่บันยะบันยัง และอีกเดี๋ยวก็เป็นฉากรถซิ่งชนิดที่เรียกได้ว่าไม่แพ้หนังชุด The Fast รวมไปถึงฉากเรือดำน้ำ ฉากสู้กันกลางอากาศ และฉากอะไรต่างๆมากมายที่อยู่ดีๆก็จับพลัดจับพลูเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมาได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย รวมไปถึงการตัดต่อด้วยภาพฉับไวอย่างไม่ปราณีคนดู ต่อให้จะเป็นเพียงฉากคุยกันในห้องสมุด ที่เต็มไปด้วยรูปภาพใส่กรอบของศิลปินและบุคลระดับโลกมากมาย ยังถูกตัดสลับไปมาอย่างเร็วและรัวขั้นเนิร์ดเอาเรื่อง
นอกจากนี้ยังได้เห็นความรั่วของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างท่านเซอร์ แอนโธนี่ ฮ๊อปกิ้นส์ ที่เรียกได้ว่าเล่นใหญ่เกินรัชดาลัยเธียเตอร์ไปเลยสำหรับการเข้ามามีบทบาทในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ดี เพราะถึงกับหลุดหัวเราะในจริตการแสดงของปู่แกไปหลายรอบเหมือนกัน
รวมๆแล้ว หนังออกทะเลไปเยอะมาก มากเสียจนกู่ไม่กลับ หนังได้รวมยำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เป็นตำนานเล่าขานกันมาอย่างกษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลม ไปจนถึงการปะติดปะต่อเรื่องราวในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งยิ่งยำ ก็รู้สึกว่ายิ่งเละ เลยคิดว่าขอเอามันส์ผ่านฉากแอ๊คชั่นก็พอ แต่ทว่า สำหรับผม ในแง่การเล่าเรื่องแล้ว ภาคที่แล้วน่าจะยังทำได้ดีกว่า ดูรูเรื่องเข้าใจได้มากกว่าเสียอีก
สรุปสั้นๆว่า “นี่มันเป็นหนังอาร์ตทุนพันล้าน” ดีๆนี่เอง คือพอดูจบผมไม่รู้จะออกมาสปอยส์อะไรเลย เพราะไม่รู้จริงๆว่าเมื่อสักคู่เราไปอยู่โลกไหนมา ต้องขอจูนเครื่องสักพักใหญ่ๆ กระนั้นไม่ว่าคำวิจารณ์ของสำนักไหนจะสาปส่งหนังเฮียแกอย่างไร หนังแฟรนไชส์นี้ก็ขึ้นชื่อว่าต้องทำเงินทุกทีสิน่า และผมก็เชื่อว่าคนที่ด่าหนังแกทุกภาค พอภาคใหม่มา ก็ยังเข้าไปดูมันอยู่ดี ก็นี่ไง อย่างน้อยผมก็คนนึงล่ะ อยากฟังผมเม้าส์แบบจัดเต็มก็กดฟังต่อในคลิปรีวิวได้ครับ