Accelerator แอคเซลาเรเตอร์ 一方通行
Level 5 อันดับ 1 ของเมืองแห่งการศึกษา ได้รับฉายาว่า "The One Who Wields the Power of God" (ผู้ใช้พลังแห่งพระผู้เป็นเจ้า) ชื่อพลังคือ Accelerator (ควบคุมเวกเตอร์) เขาเป็นตัวเอกคนที่ 2 รองจาก "คามิโจว โทวมะ" เขาถูกระบุว่าเรียนอยู่โรงเรียนนางะเทนโจคิ 1 ใน 5 โรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง (แค่ระบุชื่อโรงเรียนในประวัติส่วนตัว ที่จริงพี่แกไม่ไปโรงเรียน) โดยเขาเป็นผู้ใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา ตัวเขานั้นเป็นระดับ Level 5 มาตั้งแต่ยังเด็ก และยังเป็นคนที่สามารถไปถึง Level 6 ได้อย่างมีเสถียรภาพที่สุด ซึ่งคนที่ค้นพบหลักการพลังของเขาและยังเป็นอาจารย์ที่ฝึกฝนให้เขาใช้พลังคือ "คิฮาระ อามาตะ"
ชื่อ "แอคเซลาเรเตอร์" นั้นเป็นเพียงแค่ฉายาที่ตั้งขึ้นตามรูปแบบพลังของเขา ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยชื่อจริง (รู้แค่ว่าชื่อ-สกุลเป็นอักษร 3 ตัว) ซึ่งในมังงะอินเดกซ์ตอนที่ 34 มีฉากที่โทวมะจินตนาการว่าแอคเซลาเรเตอร์เป็นผู้หญิงและมีชื่อว่า "สึซึชินะ ยูริโกะ" และในนิยายอินเดกซ์ NT 15 "ซาโลเมะ" ก็เคยบอกว่า "ชื่อจริงของแอคเซลาเรเตอร์น่ารักผิดคาด" (รึว่าจะชื่อยูริโกะจริงฟ่ะ)
รูปร่างและบุคลิกที่เด่นชัดของเขาคือ มีผมสีขาว ดวงตาสีแดง ผิวซีดเซียว (ร่างกายมนุษย์จะสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเพื่อป้องกันรังสี UV แต่ตอนเด็กพี่แกสะท้อนรังสี UV ออกไปหมดแล้ว ร่างกายจึงไม่จำเป็นต้องสร้างเม็ดสีขึ้นมา ทำให้มีผมขาวและผิวซีด) เขามีมนุษย์สัมพันธ์ที่แย่ ไม่ค่อยไว้ใจคนอื่นเท่าไหร่ ชอบทำตัวแบบไม่เห็นคุณค่าของชีวิต มีนิสัยมั่นใจในพลังตนเองสุดกู่ และเชื่อมั่นว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้
ตัวเขาถูกนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อทดสอบลักษณะพลังต่างๆ นานา ต่อมาก็ถูกเชิญไปทดลองเพื่อเลื่อนระดับให้เป็น Level 6 คนแรกโดยใช้ร่างโคลนของ "มิซากะ มิโคโตะ" ที่เรียกว่า "Sister's" จำนวน 20,000 คน มาใช้เป็นคู่ต่อสู้ในการทดลอง โดยเขาต้องฆ่าร่างโคลนทั้งหมด ถึงจะสามารถไปถึง Level 6 ได้ แต่การทดลองถูกระงับลงหลังจากที่เขาได้พ่ายแพ้ให้โทวมะ จนวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับ "Sister's หมายเลข 20,001" (Last Order) ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ปัจจุบันสมองของเขาได้รับความเสียหายในด้านการสื่อสารและการคำนวณ (เนื่องจากถูก "อามาอิ อาโอะ" ยิงหัวในขณะที่ใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการช่วย Last Order) ทำให้เขาในตอนนี้ไม่สามารถขยับร่างกายตามต้องการหรือพูดจาสื่อสารได้ เขาจึงต้องพึ่งพาสมองของ "Misaka Network" ในการคำนวณเพื่อใช้พลังจิตและเพื่อช่วยทำให้เขาพูดจาสื่อสารได้ และต้องติดขั้วแบตเตอรี่ไฟฟ้าไว้บริเวณคอ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากในการใช้พลัง (สวิตซ์ขั้วไฟฟ้ามีแบบโหมดปกติกับโหมดเปิดใช้พลัง) ซึ่งแบตเตอรี่ขั้วไฟฟ้าจะมีเวลา 15 นาที ในการใช้พลัง (ถ้าแบตหมดหรือถูกคลื่นรบกวนแทรกแซงก็จะกลับสู่โหมดคนพิการ) และพอไปอยู่กับกลุ่ม "GROUP" ก็ยืดเวลาเป็น 30 นาที และยังต้องใช้ไม้เท้าในการช่วยพยุงร่างกายเวลาไม่ใช้พลัง
แต่ถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าตนเหลือพลังเพียงครึ่งเดียวจากปกติเพราะสมองเสียหายจนคำนวณพลังได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ความร้ายกาจของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าสมองของเขาทรงพลังขนาดไหน (การคำนวณของ Sister's จำนวน 20,000 คนรวมกัน ยังทำการคำนวณได้เพียงครึ่งเดียวของสมองแอคเซลาเรเตอร์ก่อนโดนยิงหัว) ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้แอคเซลาเรเตอร์ถูกเรียกว่า "ผู้ที่มีมันสมองและทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา"
Accelerator (ควบคุมเวกเตอร์)
พลังควบคุม "เวกเตอร์" ของทุกสิ่งที่เขาสัมผัสหรือเข้ามาโดนม่านเวกเตอร์ของเขา เป็นพลังที่จะนำเวกเตอร์ทั้งหมดในโลกมาไว้ในการควบคุมโดยไม่แบ่งแยกประเภท และยังมีไพ่เด็ดคือ "เกราะเวกเตอร์" ที่มีรัศมีล้อมรอบตัวที่สามารถย้อนเวกเตอร์ที่พุ่งเข้ามาหาให้กลายเป็นทิศตรงข้าม หรือก็คือ "การสะท้อน" นั่นเอง ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติและจะสะท้อนทุกสิ่งที่แอคเซลาเรเตอร์เข้าใจว่าเป็นอันตราย (ไม่จำเป็นต้องเห็นหรือรับรู้ถึงสิ่งนั้น แค่จิตสำนึกของเขาเข้าใจโครงสร้างและอันตราย เมื่อสิ่งนั้นสัมผัสเกราะเวกเตอร์ก็จะโดนสะท้อนโดยอัตโนมัติ)
โดยสามารถสะท้อนการโจมตีได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น "กระสุน, ระเบิด, นิวเคลียร์, เสียง ขนาดแสงยังเข้าไม่ถึงตัว" และการสะท้อนจะทำให้แรงและความเร็วที่ถูกส่งมา "ถูกสะท้อนกลับไปด้วยความแรงและความเร็ว 2 เท่า" ซึ่งการสะท้อนนั้นไม่จำเป็นต้องทำการคำนวณอะไรทั้งสิ้นเพราะตั้งค่าให้สะท้อนอัตโนมัติไว้แล้ว และจะสะท้อนกลับไปยังทิศเดิมเสมอ คือมาจากทางไหนก็สะท้อนกลับไปทางนั้น (เว้นแต่เจ้าตัวจะจงใจคำนวณให้สะท้อนไปในทิศทางต่างๆ ที่ตนกำหนด) และไม่สนในเรื่องของความแรงและความเร็วของสิ่งที่พุ่งเข้ามา เพราะตราบใดที่ยังมีเวกเตอร์ที่เขาเข้าใจอยู่ในการโจมตีนั้นๆ ก็สามารถสะท้อนกลับไปได้ แต่มีจุดอ่อนคือ "สะท้อนเวกเตอร์ที่เขาไม่เข้าใจไม่ได้ (เช่น เวกเตอร์ DM ที่อยู่นอกกฏสามัญสำนึกของคาคิเนะ เทย์โทคุ) และหากสะท้อนสิ่งที่พุ่งไปด้านหลัง สิ่งนั้นก็จะพุ่งมาด้านหน้าแทน (เช่น การโจมตีของคิฮาระ อามาตะ) หรือในกรณีใช้สมาธิทั้งหมดไปกับอย่างอื่น เกราะเวกเตอร์ก็จะไม่ทำงาน (เช่น ตอนช่วย Last Order)" ในกรณีของเวทมนตร์นั้นจะไม่สามารถสะท้อนหรือควบคุมได้ ทำได้อย่างมากคือทำให้มันกระจายตัว (แต่ปัจจุบันทำได้แล้ว)
และไม่ใช่แค่สะท้อนการโจมตีทุกรูปแบบอย่างเดียว แต่เขายังสามารถประยุกต์พลังมาใช้ในรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย เช่น
- ควบคุมทิศทางเวกเตอร์ของลมมารวมไว้เป็นปีกพายุหมุนตรงกลางหลังทำให้บินได้ หรือใช้สร้างเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่
- สร้างคลื่นกระแทกบนพื้นดินโดยการกระทืบพื้นเบาๆ เพื่อทำให้เกิดแรงระเบิดรอบๆ พื้นที่กระทืบเท้าลงไป
- ปรับเปลี่ยนกระแสคลื่นไฟฟ้าในร่างกายมนุษย์ ทำให้สามารถเขียนความทรงจำและบุคลิกภาพของผู้คนได้ใหม่
- ย้อนทิศทางการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ถูกสัมผัสระเบิดเป็นชิ้นๆ
- ควบคุมกระแสไฟฟ้าภายในระบบประสาทเพื่อทำลายเส้นประสาททั้งหมด
- ขยายและแปลงเวกเตอร์ที่อยู่รอบตัว เช่น "น้ำหนัก" เพื่อสร้างการโจมตีที่มองไม่เห็น หรือสร้างแรงดูดซับทุกสิ่งในพื้นที่ไปยังจุดที่กำหนด (เลียนแบบแรงโน้มถ่วงของหลุมดำ)
- ควบคุมเวกเตอร์แบบลูกโซ่ได้ ด้วยการสัมผัสที่จุดๆ หนึ่ง และจะส่งผลโดยตรงไปยังอีกจุดหนึ่ง
- บีบอัดอากาศ ลม และชั้นบรรยากาศ ให้มารวมอยู่ในจุดๆ เดียว เพื่อสร้างเป็นพลังงานพลาสม่าขนาดใหญ่ที่มีความร้อนถึง 10,000°
- ชิงพลังการหมุนของดาวเคราะห์มาเพิ่มพลังจนทำให้มีพลังโจมตีที่รุนแรงมาก เช่น ยกตึกแล้วคว้างใส่คู่ต่อสู้ (ความสามารถนี้ต้องใช้พลังอย่างมาก และจะทำให้โลกหมุนช้าลง 5 นาที)
- รับรู้และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งหมดรอบตัวผ่านเวกเตอร์ เช่น ความถี่ ความเร็ว ขนาด โครงสร้าง อุณหภูมิ ฯลฯ
Awakening Black Wings (สภาวะการตื่นปีกสีดำ)
พลังที่โชว์ครั้งแรกตอนสู้กับ "คิฮาระ อามาตะ" (แต่ภายหลังเผยว่าใช้ครั้งแรกตอนรับคลื่นพลังจากโกเลมของ "อิสอัค โรเซนธาล") โดยมันเกิดจากการที่คลื่นสนามพลัง AIM ควบแน่นจนก่อตัวเป็นรูปร่าง ทำให้ใช้พลังได้เกิน 100% ของพลังเดิม แต่เขาจะสูญเสียการควบคุมและจะพูดภาษา "ทูตสวรรค์" แต่จะได้รับความสามารถบางอย่างมาทดแทน นั่นคือการควบคุมเวกเตอร์ได้ละเอียดขึ้นในระดับไมโคร โดยร่างนี้มีพลังมหาศาลถึงกับ "สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องต้องขยับตัวเลยสักนิด" (เพราะควบคุมเวกเตอร์ได้ละเอียดขึ้น) ตัวเขาในร่างนี้จึงเปรียบเป็น "ผู้ที่เเสดงให้เห็นถึงเศษเสี้ยวของพลังที่เท่าเทียมกับพระเจ้า"
อีกทั้งยังมี "ปีกสีดำ" โผล่ออกมา ปีกที่ดำสนิทยิ่งกว่าถ่าน ดูดกลืนแม้แต่แสง และตัวปีกก็สามารถยืดออกไปได้ยาวกว่า 100 เมตร จนผ่าตึกได้ง่ายๆ โดยปีกดำนี้จะช่วยควบคุมและคำนวณเวกเตอร์ให้เขาแบบอัตโนมัติ ซึ่งเร็วกว่าตอนที่สมองของเขายังสมบูรณ์เสียอีก และไม่ต้องใช้ Misaka Network ในการช่วยคำนวณ ทำให้ปีกสีดำนี้สามารถสะท้อนทุกสิ่งได้แทบจะสมบูรณ์แบบ ถือเป็น "สัญลักษณ์แห่งการทำลายที่แท้จริง" โดยมันมี "แรงและพลังงานมากกว่าของทั้งโลกรวมกัน" ซึ่งเป็นไปได้ว่าในร่างปีกดำนี้ "แอคเซลาเรเตอร์อาจสามารถทำลายโลกได้" โดยที่เงื่อนไขในการเกิดปีกสีดำคือ ความรู้สึกด้านลบ เช่น การสูญเสียสิ่งสำคัญหรือความรู้สึกอยากทำลายเป้าหมายอย่างแรงกล้า
Awakening White Wings (สภาวะการตื่นปีกสีขาว)
พลังที่ได้รับมาในช่วง "สงครามโลกครั้งที่ 3" เป็นพลังที่ตรงกันข้ามกับปีกดำและทรงพลังกว่ามาก โดยเป็นสภาวะที่ทำให้เขาอยู่ในสถานะเดียวกับ "ทูตสววรค์" ซึ่งพลังนี้เกิดจากการนำ "Telesma" (พลังแห่งเทวดา) เข้าสู่ร่างกายจากการทำความเข้าใจเวทมนตร์จากเพลงในกระดาษหนังแกะ และจะมี "ปีกสีขาว" และ "วงแหวนเทวดา" ปรากฏขึ้น โดยในร่างนี้เขาจะถูกเปรียบเป็น "The one who wield the power of God" (ผู้ใช้พลังแห่งพระผู้เป็นเจ้า)
ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าพลังของมันคืออะไรกันแน่ แต่ที่เห็นคือมันสามารถสลายลำแสงพลัง Telesma ของ "เฟียมม่า" ที่ปล่อยออกมาจาก "Star of Bethlehem" ที่สามารถกวาดล้างทวีปยูเรเชียได้อย่างง่ายดายแบบไร้รอยแผล (ปกติแล้วแอคเซลาเรเตอร์สะท้อนหรือควบคุม Telesma ไม่ได้ เพราะมันเป็นพลังงานบริสุทธิ์จากสวรรค์) และตัวเขาในร่างนี้ยังมีสัมผัสที่ 6 ที่สามารถรับรู้ได้มากกว่ามนุษย์ทั่วไป โดยเงื่อนไขในการเกิดปีกสีขาวคือ ความรู้สึกด้านบวก เช่น ความรู้สึกอยากปกป้อง
Awakening Platinum Wings (สภาวะการตื่นปีกสีแพลทินัม)
พลังที่เกิดจาก "เจตจำนงของ Misaka Network" ร่วมมือกับ "ปีศาจ Qliphah Puzzle 545" เพื่อสร้างระบบต้นไม้ใหม่ "โครนอธ" ขึ้นมา (ระบบเดิมคือ "เซฟิรอธ" กับ "คลิฟฟอธ") ซึ่งปีกแพลทินัมนี้สามารถทำให้โครงสร้างจักรวาลพังพินาศได้หากเกิดความผิดพลาดจากการพยายามสร้างระบบต้นไม้ใหม่ขึ้นมา ซึ่งพลังของมันก็ยังไม่แน่ชัด แต่ที่เห็นคือมันสามารถเขย่าวิญญาณศัตรูออกจากกายเนื้อได้ (เพราะระบบต้นไม้เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของมนุษย์)
Magic (เวทมนตร์)
เขาสามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยใช้เวกเตอร์เข้าช่วย เช่น ทำความเข้าใจเพลงที่ "อินเดกซ์" ร้องจนสามารถร่ายเวทเพื่อช่วย Last Order ได้ (แถมยังทำให้ได้รับปีกขาวมาด้วย) หลังจากได้ฟังหลักการของเวทมนตร์จาก "เลวิเนีย เบิร์ดเวย์" เขาก็เริ่มใช้มันได้ในระดับนึง เช่น "ใช้ความรู้ด้านเวทมนตร์กับหลักฮวงจุ้ย" ในการใช้เวทค้นหา โดยเขาจะใช้เวกเตอร์ควบคุมการไหลเวียนของเลือดทำให้เส้นเลือดไม่แตกออกมาขณะใช้เวท ทำให้เขาเป็น 1 ในคนที่ใช้เวทมนตร์ได้ทั้งที่เป็นผู้ใช้พลังจิต (ปัจจุบันจากการทำสัญญากับปีศาจ Qliphah Puzzle 545 ทำให้เขาอาจสามารถใช้เวทมนตร์ได้อีกเยอะจากการช่วยเหลือของปีศาจในการดึงความรู้ด้านเวทมาจากต้นไม้โครนอธ)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากที่นี่ได้
-
https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414/3099266853468819/
-
https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414/3099284306800407/
-
https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414/3099312686797569/
-
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid035x5HjWqaMTijojXMaE2uSod31cAfQ9jvr4A6vwTbo3xz4GJDGbVr9d3Vea9ZcczMl&id=1109409519121239
ผู้ใช้พลังจิต Level 5 อันดับ1 ของเมืองแห่งการศึกษา "แอคเซลาเรเตอร์"
ชื่อ "แอคเซลาเรเตอร์" นั้นเป็นเพียงแค่ฉายาที่ตั้งขึ้นตามรูปแบบพลังของเขา ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยชื่อจริง (รู้แค่ว่าชื่อ-สกุลเป็นอักษร 3 ตัว) ซึ่งในมังงะอินเดกซ์ตอนที่ 34 มีฉากที่โทวมะจินตนาการว่าแอคเซลาเรเตอร์เป็นผู้หญิงและมีชื่อว่า "สึซึชินะ ยูริโกะ" และในนิยายอินเดกซ์ NT 15 "ซาโลเมะ" ก็เคยบอกว่า "ชื่อจริงของแอคเซลาเรเตอร์น่ารักผิดคาด" (รึว่าจะชื่อยูริโกะจริงฟ่ะ)
รูปร่างและบุคลิกที่เด่นชัดของเขาคือ มีผมสีขาว ดวงตาสีแดง ผิวซีดเซียว (ร่างกายมนุษย์จะสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเพื่อป้องกันรังสี UV แต่ตอนเด็กพี่แกสะท้อนรังสี UV ออกไปหมดแล้ว ร่างกายจึงไม่จำเป็นต้องสร้างเม็ดสีขึ้นมา ทำให้มีผมขาวและผิวซีด) เขามีมนุษย์สัมพันธ์ที่แย่ ไม่ค่อยไว้ใจคนอื่นเท่าไหร่ ชอบทำตัวแบบไม่เห็นคุณค่าของชีวิต มีนิสัยมั่นใจในพลังตนเองสุดกู่ และเชื่อมั่นว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้
ตัวเขาถูกนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อทดสอบลักษณะพลังต่างๆ นานา ต่อมาก็ถูกเชิญไปทดลองเพื่อเลื่อนระดับให้เป็น Level 6 คนแรกโดยใช้ร่างโคลนของ "มิซากะ มิโคโตะ" ที่เรียกว่า "Sister's" จำนวน 20,000 คน มาใช้เป็นคู่ต่อสู้ในการทดลอง โดยเขาต้องฆ่าร่างโคลนทั้งหมด ถึงจะสามารถไปถึง Level 6 ได้ แต่การทดลองถูกระงับลงหลังจากที่เขาได้พ่ายแพ้ให้โทวมะ จนวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับ "Sister's หมายเลข 20,001" (Last Order) ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ปัจจุบันสมองของเขาได้รับความเสียหายในด้านการสื่อสารและการคำนวณ (เนื่องจากถูก "อามาอิ อาโอะ" ยิงหัวในขณะที่ใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการช่วย Last Order) ทำให้เขาในตอนนี้ไม่สามารถขยับร่างกายตามต้องการหรือพูดจาสื่อสารได้ เขาจึงต้องพึ่งพาสมองของ "Misaka Network" ในการคำนวณเพื่อใช้พลังจิตและเพื่อช่วยทำให้เขาพูดจาสื่อสารได้ และต้องติดขั้วแบตเตอรี่ไฟฟ้าไว้บริเวณคอ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากในการใช้พลัง (สวิตซ์ขั้วไฟฟ้ามีแบบโหมดปกติกับโหมดเปิดใช้พลัง) ซึ่งแบตเตอรี่ขั้วไฟฟ้าจะมีเวลา 15 นาที ในการใช้พลัง (ถ้าแบตหมดหรือถูกคลื่นรบกวนแทรกแซงก็จะกลับสู่โหมดคนพิการ) และพอไปอยู่กับกลุ่ม "GROUP" ก็ยืดเวลาเป็น 30 นาที และยังต้องใช้ไม้เท้าในการช่วยพยุงร่างกายเวลาไม่ใช้พลัง
แต่ถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าตนเหลือพลังเพียงครึ่งเดียวจากปกติเพราะสมองเสียหายจนคำนวณพลังได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ความร้ายกาจของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าสมองของเขาทรงพลังขนาดไหน (การคำนวณของ Sister's จำนวน 20,000 คนรวมกัน ยังทำการคำนวณได้เพียงครึ่งเดียวของสมองแอคเซลาเรเตอร์ก่อนโดนยิงหัว) ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้แอคเซลาเรเตอร์ถูกเรียกว่า "ผู้ที่มีมันสมองและทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองแห่งการศึกษา"
Accelerator (ควบคุมเวกเตอร์)
พลังควบคุม "เวกเตอร์" ของทุกสิ่งที่เขาสัมผัสหรือเข้ามาโดนม่านเวกเตอร์ของเขา เป็นพลังที่จะนำเวกเตอร์ทั้งหมดในโลกมาไว้ในการควบคุมโดยไม่แบ่งแยกประเภท และยังมีไพ่เด็ดคือ "เกราะเวกเตอร์" ที่มีรัศมีล้อมรอบตัวที่สามารถย้อนเวกเตอร์ที่พุ่งเข้ามาหาให้กลายเป็นทิศตรงข้าม หรือก็คือ "การสะท้อน" นั่นเอง ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติและจะสะท้อนทุกสิ่งที่แอคเซลาเรเตอร์เข้าใจว่าเป็นอันตราย (ไม่จำเป็นต้องเห็นหรือรับรู้ถึงสิ่งนั้น แค่จิตสำนึกของเขาเข้าใจโครงสร้างและอันตราย เมื่อสิ่งนั้นสัมผัสเกราะเวกเตอร์ก็จะโดนสะท้อนโดยอัตโนมัติ)
โดยสามารถสะท้อนการโจมตีได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น "กระสุน, ระเบิด, นิวเคลียร์, เสียง ขนาดแสงยังเข้าไม่ถึงตัว" และการสะท้อนจะทำให้แรงและความเร็วที่ถูกส่งมา "ถูกสะท้อนกลับไปด้วยความแรงและความเร็ว 2 เท่า" ซึ่งการสะท้อนนั้นไม่จำเป็นต้องทำการคำนวณอะไรทั้งสิ้นเพราะตั้งค่าให้สะท้อนอัตโนมัติไว้แล้ว และจะสะท้อนกลับไปยังทิศเดิมเสมอ คือมาจากทางไหนก็สะท้อนกลับไปทางนั้น (เว้นแต่เจ้าตัวจะจงใจคำนวณให้สะท้อนไปในทิศทางต่างๆ ที่ตนกำหนด) และไม่สนในเรื่องของความแรงและความเร็วของสิ่งที่พุ่งเข้ามา เพราะตราบใดที่ยังมีเวกเตอร์ที่เขาเข้าใจอยู่ในการโจมตีนั้นๆ ก็สามารถสะท้อนกลับไปได้ แต่มีจุดอ่อนคือ "สะท้อนเวกเตอร์ที่เขาไม่เข้าใจไม่ได้ (เช่น เวกเตอร์ DM ที่อยู่นอกกฏสามัญสำนึกของคาคิเนะ เทย์โทคุ) และหากสะท้อนสิ่งที่พุ่งไปด้านหลัง สิ่งนั้นก็จะพุ่งมาด้านหน้าแทน (เช่น การโจมตีของคิฮาระ อามาตะ) หรือในกรณีใช้สมาธิทั้งหมดไปกับอย่างอื่น เกราะเวกเตอร์ก็จะไม่ทำงาน (เช่น ตอนช่วย Last Order)" ในกรณีของเวทมนตร์นั้นจะไม่สามารถสะท้อนหรือควบคุมได้ ทำได้อย่างมากคือทำให้มันกระจายตัว (แต่ปัจจุบันทำได้แล้ว)
และไม่ใช่แค่สะท้อนการโจมตีทุกรูปแบบอย่างเดียว แต่เขายังสามารถประยุกต์พลังมาใช้ในรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย เช่น
- ควบคุมทิศทางเวกเตอร์ของลมมารวมไว้เป็นปีกพายุหมุนตรงกลางหลังทำให้บินได้ หรือใช้สร้างเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่
- สร้างคลื่นกระแทกบนพื้นดินโดยการกระทืบพื้นเบาๆ เพื่อทำให้เกิดแรงระเบิดรอบๆ พื้นที่กระทืบเท้าลงไป
- ปรับเปลี่ยนกระแสคลื่นไฟฟ้าในร่างกายมนุษย์ ทำให้สามารถเขียนความทรงจำและบุคลิกภาพของผู้คนได้ใหม่
- ย้อนทิศทางการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ถูกสัมผัสระเบิดเป็นชิ้นๆ
- ควบคุมกระแสไฟฟ้าภายในระบบประสาทเพื่อทำลายเส้นประสาททั้งหมด
- ขยายและแปลงเวกเตอร์ที่อยู่รอบตัว เช่น "น้ำหนัก" เพื่อสร้างการโจมตีที่มองไม่เห็น หรือสร้างแรงดูดซับทุกสิ่งในพื้นที่ไปยังจุดที่กำหนด (เลียนแบบแรงโน้มถ่วงของหลุมดำ)
- ควบคุมเวกเตอร์แบบลูกโซ่ได้ ด้วยการสัมผัสที่จุดๆ หนึ่ง และจะส่งผลโดยตรงไปยังอีกจุดหนึ่ง
- บีบอัดอากาศ ลม และชั้นบรรยากาศ ให้มารวมอยู่ในจุดๆ เดียว เพื่อสร้างเป็นพลังงานพลาสม่าขนาดใหญ่ที่มีความร้อนถึง 10,000°
- ชิงพลังการหมุนของดาวเคราะห์มาเพิ่มพลังจนทำให้มีพลังโจมตีที่รุนแรงมาก เช่น ยกตึกแล้วคว้างใส่คู่ต่อสู้ (ความสามารถนี้ต้องใช้พลังอย่างมาก และจะทำให้โลกหมุนช้าลง 5 นาที)
- รับรู้และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งหมดรอบตัวผ่านเวกเตอร์ เช่น ความถี่ ความเร็ว ขนาด โครงสร้าง อุณหภูมิ ฯลฯ
Awakening Black Wings (สภาวะการตื่นปีกสีดำ)
พลังที่โชว์ครั้งแรกตอนสู้กับ "คิฮาระ อามาตะ" (แต่ภายหลังเผยว่าใช้ครั้งแรกตอนรับคลื่นพลังจากโกเลมของ "อิสอัค โรเซนธาล") โดยมันเกิดจากการที่คลื่นสนามพลัง AIM ควบแน่นจนก่อตัวเป็นรูปร่าง ทำให้ใช้พลังได้เกิน 100% ของพลังเดิม แต่เขาจะสูญเสียการควบคุมและจะพูดภาษา "ทูตสวรรค์" แต่จะได้รับความสามารถบางอย่างมาทดแทน นั่นคือการควบคุมเวกเตอร์ได้ละเอียดขึ้นในระดับไมโคร โดยร่างนี้มีพลังมหาศาลถึงกับ "สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องต้องขยับตัวเลยสักนิด" (เพราะควบคุมเวกเตอร์ได้ละเอียดขึ้น) ตัวเขาในร่างนี้จึงเปรียบเป็น "ผู้ที่เเสดงให้เห็นถึงเศษเสี้ยวของพลังที่เท่าเทียมกับพระเจ้า"
อีกทั้งยังมี "ปีกสีดำ" โผล่ออกมา ปีกที่ดำสนิทยิ่งกว่าถ่าน ดูดกลืนแม้แต่แสง และตัวปีกก็สามารถยืดออกไปได้ยาวกว่า 100 เมตร จนผ่าตึกได้ง่ายๆ โดยปีกดำนี้จะช่วยควบคุมและคำนวณเวกเตอร์ให้เขาแบบอัตโนมัติ ซึ่งเร็วกว่าตอนที่สมองของเขายังสมบูรณ์เสียอีก และไม่ต้องใช้ Misaka Network ในการช่วยคำนวณ ทำให้ปีกสีดำนี้สามารถสะท้อนทุกสิ่งได้แทบจะสมบูรณ์แบบ ถือเป็น "สัญลักษณ์แห่งการทำลายที่แท้จริง" โดยมันมี "แรงและพลังงานมากกว่าของทั้งโลกรวมกัน" ซึ่งเป็นไปได้ว่าในร่างปีกดำนี้ "แอคเซลาเรเตอร์อาจสามารถทำลายโลกได้" โดยที่เงื่อนไขในการเกิดปีกสีดำคือ ความรู้สึกด้านลบ เช่น การสูญเสียสิ่งสำคัญหรือความรู้สึกอยากทำลายเป้าหมายอย่างแรงกล้า
Awakening White Wings (สภาวะการตื่นปีกสีขาว)
พลังที่ได้รับมาในช่วง "สงครามโลกครั้งที่ 3" เป็นพลังที่ตรงกันข้ามกับปีกดำและทรงพลังกว่ามาก โดยเป็นสภาวะที่ทำให้เขาอยู่ในสถานะเดียวกับ "ทูตสววรค์" ซึ่งพลังนี้เกิดจากการนำ "Telesma" (พลังแห่งเทวดา) เข้าสู่ร่างกายจากการทำความเข้าใจเวทมนตร์จากเพลงในกระดาษหนังแกะ และจะมี "ปีกสีขาว" และ "วงแหวนเทวดา" ปรากฏขึ้น โดยในร่างนี้เขาจะถูกเปรียบเป็น "The one who wield the power of God" (ผู้ใช้พลังแห่งพระผู้เป็นเจ้า)
ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าพลังของมันคืออะไรกันแน่ แต่ที่เห็นคือมันสามารถสลายลำแสงพลัง Telesma ของ "เฟียมม่า" ที่ปล่อยออกมาจาก "Star of Bethlehem" ที่สามารถกวาดล้างทวีปยูเรเชียได้อย่างง่ายดายแบบไร้รอยแผล (ปกติแล้วแอคเซลาเรเตอร์สะท้อนหรือควบคุม Telesma ไม่ได้ เพราะมันเป็นพลังงานบริสุทธิ์จากสวรรค์) และตัวเขาในร่างนี้ยังมีสัมผัสที่ 6 ที่สามารถรับรู้ได้มากกว่ามนุษย์ทั่วไป โดยเงื่อนไขในการเกิดปีกสีขาวคือ ความรู้สึกด้านบวก เช่น ความรู้สึกอยากปกป้อง
Awakening Platinum Wings (สภาวะการตื่นปีกสีแพลทินัม)
พลังที่เกิดจาก "เจตจำนงของ Misaka Network" ร่วมมือกับ "ปีศาจ Qliphah Puzzle 545" เพื่อสร้างระบบต้นไม้ใหม่ "โครนอธ" ขึ้นมา (ระบบเดิมคือ "เซฟิรอธ" กับ "คลิฟฟอธ") ซึ่งปีกแพลทินัมนี้สามารถทำให้โครงสร้างจักรวาลพังพินาศได้หากเกิดความผิดพลาดจากการพยายามสร้างระบบต้นไม้ใหม่ขึ้นมา ซึ่งพลังของมันก็ยังไม่แน่ชัด แต่ที่เห็นคือมันสามารถเขย่าวิญญาณศัตรูออกจากกายเนื้อได้ (เพราะระบบต้นไม้เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของมนุษย์)
Magic (เวทมนตร์)
เขาสามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยใช้เวกเตอร์เข้าช่วย เช่น ทำความเข้าใจเพลงที่ "อินเดกซ์" ร้องจนสามารถร่ายเวทเพื่อช่วย Last Order ได้ (แถมยังทำให้ได้รับปีกขาวมาด้วย) หลังจากได้ฟังหลักการของเวทมนตร์จาก "เลวิเนีย เบิร์ดเวย์" เขาก็เริ่มใช้มันได้ในระดับนึง เช่น "ใช้ความรู้ด้านเวทมนตร์กับหลักฮวงจุ้ย" ในการใช้เวทค้นหา โดยเขาจะใช้เวกเตอร์ควบคุมการไหลเวียนของเลือดทำให้เส้นเลือดไม่แตกออกมาขณะใช้เวท ทำให้เขาเป็น 1 ในคนที่ใช้เวทมนตร์ได้ทั้งที่เป็นผู้ใช้พลังจิต (ปัจจุบันจากการทำสัญญากับปีศาจ Qliphah Puzzle 545 ทำให้เขาอาจสามารถใช้เวทมนตร์ได้อีกเยอะจากการช่วยเหลือของปีศาจในการดึงความรู้ด้านเวทมาจากต้นไม้โครนอธ)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากที่นี่ได้
- https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414/3099266853468819/
- https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414/3099284306800407/
- https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414/3099312686797569/
- https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid035x5HjWqaMTijojXMaE2uSod31cAfQ9jvr4A6vwTbo3xz4GJDGbVr9d3Vea9ZcczMl&id=1109409519121239