เคยเห็นภาพรีสอร์ทรังนกที่จังหวัดภูเก็ตมั้ยครับ? นั่นแหละคือ Keemala ชื่อไทยออกเสียงว่า กีมาลา เป็นที่พักซึ่งเปิดมาแค่ 2 ปีแต่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ชาวต่างชาติไม่ต้องพูดถึง แต่คนไทยก็มาเที่ยวจำนวนไม่น้อยเลย วันนี้มีรีวิวห้องพักทั้งแบบ Bird's Nest Pool Villas และ Tree Pool Houses มาให้ดูกันครับ สำหรับคนที่สนใจแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ติดตามได้เลยครับบ

OVER ALL [9/10]
Keemala อ่านว่า กีมาลา รีสอร์ทในจังหวัดภูเก็ตที่เรารู้สึกว่าคนอยากไปมากที่สุด เพราะดีไซน์ที่โดดเด่น แปลกตาไม่เหมือนใคร ไม่ติดทะเล แต่อยู่บนเขาแถบกมลา ทำให้นักท่องเที่ยวได้หลุดพ้นจากความเชื่อที่ว่า ภูเก็ต = ทะเล เพราะคนอยากไปเที่ยวภูเก็ตแต่ไม่ชอบเล่นน้ำทะเลก็มี โดยภาพรวมถือว่าทุกอย่างสมราคามาก ให้เป็นค่าประสบการณ์และความตื่นเต้นที่ได้เข้าพัก มากกว่าความหรูคือกลิ่นอายที่ทำได้ดีตั้งแต่เดินเข้าไปจนถึงวันเช็คเอ๊าท์

DESIGN [10/10]
บ้านพักทั้งหมดแบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชนเผ่าดั้งเดิมของชาวภูเก็ต เริ่มที่ Clay Pool (บ้านดิน) / Tent Pool (บ้านเต็นท์) / Tree Pool (บ้านต้นไม้) / Bird Nest (บ้านรังนก) ราคาก็ลดหลั่นกันไปตามบรรยากาศและขนาดความกว้างของห้อง ใครอยากจัดเต็ม มาฮันนี่มูน อยากได้ความโรแมนติก ก็ต้องเลือกอยู่บ้านรังนก แต่ว่า!!! คิวจองเต็มแน่นไปหลายเดือนมากแล้วนะ เช็คคิวดีๆ

ROOM [8.5/10]
ห้องสะอาดมาก อันนี้ต้องชื่นชมจริงๆ ทุกห้องจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวเล็กๆ แต่ก็มี Main Pool ให้ว่ายอย่างเต็มที่ ครั้งนี้เราไปพักทั้งบ้านรังนกและบ้านต้นไม้ การเดินทางในรีสอร์ทใช้รถกอล์ฟ (บักกี้) เพราะต้องขึ้นที่สูง และค่อนข้างไกล เปิดเข้าไปจะเจอโซนมินิบาร์ ขนมกับซอฟท์ดริ๊งก์ที่กินได้ฟรีไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ส่วนแอลกอฮอล์ต้องจ่ายเงินเพิ่ม มีโซฟานั่งเล่น เตียงขนาดใหญ่มาก และสระว่ายน้ำวิวรีสอร์ท ห้องน้ำเป็นแบบชาวเวอร์และอ่างแช่น้ำซึ่งขนาดกว้างขวางมาก
วันต่อมาเราเปลี่ยนไปนอนที่ห้อง Tree Pool เพราะอยากลองหลายๆ แบบ บ้านต้นไม้เป็นแบบ 2 ชั้น เปิดเข้าไปจะเจอห้องน้ำก่อน มีที่อาบน้ำเอ๊าท์ดอร์ แล้วก็มีเตียงพร้อมระเบียง เดินลงมาด้านล่างจะเป็นส่วนห้องรับแขก มินิบาร์และสระว่ายน้ำ เอาตรงๆ เลยนะ เรารู้สึกว่าชอบบ้านต้นไม้มากกว่าเพราะอยู่แล้วสนุกดี สระว่ายน้ำไม่ใหญ่เกินไป ขนาดมุ้งมิ้งกำลังดี ตอนกลางคืนเปิดไปแล้วสวยมาก โซฟาห้องนั่งเล่นเทิร์นเป็นเตียงสำหรับนอนได้ แปลว่าห้องนี้นอนได้ 4 คน (2 คนที่เพิ่มมาต้องเสียตังค์นะ)
สำหรับห้องนอนที่นี่ เสียอย่างเดียวคือตอนกลางคืนมืดไปหน่อย ใช้ไฟส้มและดูไม่เพียงพอในบางจุด เราตาไม่ดี (5555) และถ้าพาผู้ใหญ่มาอาจจะต้องระเวิงเรื่องการเดินนิดนึงเนอะ

PRICE [8.5/10]
คิดว่าที่พักเบอร์นี้ต้องจ่ายเท่าไหร่? ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,800 บาท/คืน ที่ต้องบอกว่าเป็นราคาเริ่มต้นเพราะอาจต้องจองล่วงหน้าหน่อย ถ้ารีบจองรีบไปราคาก็จะสูงนิดนึง ราคานี้เป็นราคาที่ลดแล้ว 30% สิทธิพิเศษสำหรับผู้เข้าพักสัญชาติไทย ซึ่งเรารู้สึกว่ามันลดเยอะแล้วนะ เทียบกับบรรยากาศและประสบการณ์

SERVICE & FACILITIES [8/10]
พนักงานส่วนใหญ่เป็นมิตรและบริการเราดีมาก เนื่องจากพื้นที่อันใหญ่โต เราเลยไม่ค่อยเห็นพนักงานเดินไปมา มีความเป็นส่วนตัวสูง อยากได้อะไรโทรไปบอกที่ล็อบบี้ ซึ่งถ้าช่วงไหนวุ่นๆ ก็อาจจะช้าหน่อย แขกของเขาเยอะดีไม่มีตก ชื่อต้องไปนี้คือพนักงานดีเด่นในสายตาเรา ได้แก่คุณโอ๊ตห้องอาหาร Mala ที่เป็นบาร์เทนเดอร์ด้วย มี Service Mind สูงมาก และพยายามตอบทุกเรื่องที่เราสงสัย

FOODS & DRINKS [8/10]
ทางเข้า - ออกโรงแรมค่อนข้างลำบากนิดนึงและไม่ใกล้ความเจริญหากไม่เอารถยนต์ของตัวเองไป ที่นี่มีห้องอาหารห้องเดียวคือ Mala เอาไว้กิน Breakfast และมื้ออื่นๆ อาหารเช้าเป็น American Breakfast ตามมาตรฐาน เป็นบุฟเฟ่ต์ตลอด 4 ชั่วโมง รวมกับค่าเข้าพักแล้วไม่ต้องจ่ายเพิ่ม มีเมนูให้เลือกสั่งทำจานต่อจาน เช่น ไข่ ข้าวผัด ข้าวต้ม ขนมจีนแกงปู และเมนูอื่นๆ อีกหลายตัว
มื้ออื่นๆ เราก็กินที่นี่เพราะไม้ได้ออกไปไหน วันแรกกินอาหารอินเดียเพราะเขาแนะนำว่าดี มีเชฟชาวอินเดียประจำอยู่ตลอดเวลา ส่วนอีกวันหนึ่งกินอาหารไทยกับ Spa Cuisine ซึ่งเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ รสชาติอาหารมีความกลาง ถ้าอยากได้ความจัดจ้านต้องแจ้งพนักงานไปนิดนึงว่าขอรสชาติคนไทย

NOTE:
1. รีสอร์ทตั้งอยู่ใกล้ชุมชนมุสลิม เลยจะได้ยินเสียงละหมาดแบบเอคโค่หน่อยๆ แว่วมาแบบไม่ดังมาก ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องตกใจ เราว่ามันเก๋ดีออกเพราะดูเรียลดี
2. บ้านรังนกฮอตมาก นี่เต็มไปถึงกันยายนแล้วมั้ง ลูกค้าบางคนโทรมาจอง ไม่มีบ้านรังนกก็ไม่มาเลย เพราะอยากได้บรรยากาศนั้นจริงๆ แต่สำหรับเราแล้ว บ้าน 4 ประเภทให้ความรู้สึก 4 แบบ คุณอาจจะไม่ได้ชอบบ้านรังนกที่สุดเหมือนเราก็ได้
3. ช่วงที่เราไปตรงกับวันหยุดยาวของคนจีนพอดี เลยมีเด็กเยอะและเสียงดัง จริงๆ โรงแรมนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับเด็กและพ่อแม่ทุกคนต้องเซ็นยอมรับเงื่อนไขนี้ ลองโทรไปถามก่อนก็ได้ว่าช่วงนี้เราอยากไปมีเด็กเยอะมั้ย เดี๋ยวจะเสียอารมณ์เปล่าๆ
4. ส่วนลด 30% เฉพาะสำหรับ Green Season คือถึงประมาณเดือนตุลาคม หลังจากนั้นก็จะเป็น High Season แล้ว แต่เราค่อนข้างชอบช่วงที่มีฝนนะ เพราะต้นไม้เขียวขจีไม่ดูแห้งแล้ง อากาศไม่ร้อนเกินไป และฝนก็ไม่ได้ตกทั้งวันด้วย ราคาถูกกว่ากันเยอะะะะ