ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนครับว่า ในระหว่างที่ติดตาม AKB48 นั้น ยูโกะเป็นคามิโอชิของผม เวลาเขียนกระทู้ถึงยูโกะก็จะชื่นชมเป็นส่วนใหญ่ (เพราะเธอทำอะไรที่น่าประทับใจหลายอย่างจริงๆ) อย่างไรก็ดี ผมก็ขอวิจารณ์ยูโกะในเหตุการณ์ริริป้งตามความรู้สึกจริงๆ (เพราะชอบเธอมาก จึงขอวิจารณ์ครับ) นอกจากนี้ การที่ผมวิพากย์วิจารณ์ยูโกะในคราวนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าการกระทำในงานประกาศผลเลือกตั้งของริริป้งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแต่อย่างไร
-----------
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของวิกฤติริริป้งนั้น เชื่อว่ามีแฟนๆของยูโกะ ตลอดจนไปถึงแฟนๆของ AKB48 ทั้งไทยและเทศเป็นจำนวนมาก ที่ยกนิ้วชื่นชมให้กับการกระทำที่ "คิดเร็ว ทำเร็ว"ของเธอ เพราะเธอนับเป็น "รุ่นใหญ่" คนแรกๆของตระกูล 48 ที่ออกมาตอบโต้การกระทำของริริป้งในลักษณะที่แรง สะใจ และ"สาสมแก่ความผิด" และเมื่อตัวยูโกะเองตัดสินใจโพสต์ทวิตเตอร์ขอโทษในเวลาต่อมา แฟนๆหลายคนก็ให้กำลังใจเธอว่า ยูโกะทำถูกแล้ว ไม่ต้องไปขอโทษใครหรอก
อย่างไรก็ตาม ผมกลับมองว่า การออกมาตอบโต้ของยูโกะนั้น มีจุดผิดพลาด ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายกลับไปยังตัวยูโกะเองไม่น้อยเหมือนกัน และนี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องเขียนคำขอโทษหลังจากที่เธอได้โพสต์วิดิโอบนอินสตาแกรมของเธอไปได้สองวัน
----------
1. จะว่าไปแล้ว ข้อความที่เธอพูดในอินสตาแกรมเกือบทั้งหมด ก็ไม่มีปัญหาอะไรนัก ได้อารมณ์แขวะแบบเจ็บๆคันๆ ในเสียงหัวเราะมีคมดาบ แต่เธอกลับพลาดในตอนสุดท้ายที่เธอพูดให้เห็นเจตนาของเธออย่างชัดเจนว่า ข้อความที่เขียนบนหมวกนั้น เป็นข้อความแทนใจของเธอ ก่อนที่จะให้กล้องเห็น F-word บนหมวก
ถึงแม้คนญี่ปุ่นจะไม่ได้เก่งอังกฤษอะไร แต่ก็สามารถเล็งเห็นได้ว่า F-word นี้หยาบคายอย่างแน่นอน ยิ่งสังคมญี่ปุ่นเองก็เป็นสังคมที่อนุรักษ์นิยมกว่าสังคมอเมริกัน (ซึ่งเปิดกว้างให้กับ F word มากที่สุด) หรือสังคมบ้านเราที่คนดังบนเน็ตสบถกันเป็นเรื่องปกติแล้ว (สมัยก่อน นักเขียนหรือนักแปลชั้นครูในไทย จะสุภาพกับผู้อ่านมาก อย่าง ว ณ เมืองลุง พอแปลหนังสือจบก็จะเขียนข้อความในทำนองที่ว่า ขอขอบคุณผู้อ่านที่ได้ให้ความสนับสนุนอย่างใจจริง แต่คนดังบนเน็ตสมัยนี้จะเรียกผู้อ่านด้วยสรรพนามระดับล่างทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน)
- ในช่วงหลายปีก่อน วัยรุ่นของญี่ปุ่นนิยมที่จะเดินทางไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศของฝรั่งกันมากขึ้น และทางกระทรวงศึกษาญี่ปุ่นเองก็สนับสนุนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่สังคมญี่ปุ่นอิดหนาระอาใจกับเด็กนักเรียนนอกที่กลับมา (จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด) ก็คือ เด็กเหล่านี้จะพยายามทำตัวเป็นฝรั่ง เพราะรู้สึกสนุกและได้รับการปลดล่อยโดยฝรั่ง แต่บางทีเด็กก็เอาพฤติกรรมแย่ๆของฝรั่งมาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ การติดนิสัยสบถด้วย F word นั่นเอง (จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมก็เจอสาวญี่ปุ่นหลายคนที่กลับมาจากนอก พวกเธอก็ติดนิสัยไม่พอใจอะไรก็สบถด้วย F word เห็นแล้วชวนปวดหัว)
- ในวงการหนังผู้ใหญ่ คำ F-word นี้จะถูกเอามาใช้กับหนังประเภทที่กิจกรรมระหว่างดารานั้นเป็นไปอย่างดิบเถื่อน เน้นอารมณ์ดิบ สะใจกว่าหนังผู้ใหญ่ปกติ ถ้าเป็นคำที่ความหมายเบาๆ เขาคงไม่เอามาใช้แน่นอน
เพื่อนคนญี่ปุ่นของผมหลายคนที่เป็นแฟนเอเคบีแบบกลางๆสไตล์คนทั่วไป ก็ให้กับความเห็นกับผมว่าการใช้ F-word นี่ไม่เหมาะสมเลย (ซึ่งผมว่าแฟนตระกูล 48 "แบบกลางๆ" นี่ล่ะที่ก่อกำเนิดฐานคะแนนไร้พ่ายของซัซซี่ และพลังชาวนา ที่นำพาวงน้องใหม่ในบ้านนอกอย่าง NGT48 เหินทะยานในงานเลือกตั้ง)
-------------
2. แม้ยูโกะจะเป็นระดับใหญ่ในวงการไอดอล และมีฝีมือในการแสดง แต่เธอก็ยังถือว่าเป็นเด็กอยู่ในวงการนักแสดงกระแสหลัก ซึ่งแม้วงการนี้จะให้อิสระเธอมากขึ้นในหลายด้าน แต่ก็จัดเป็นวงการที่มีกฎระเบียบเข้มงวด และค่อนข้างถือสากับพฤติกรรมส่วนตัวของคนในวงการอยู่ดี (ยกตัวอย่างเช่น เวลาดาราวัยรุ่นบางคนทำความผิด ดารารุ่นใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ก็ต้องมาขอโทษออกสื่อที่ตัวเองดูแลลูกไม่ดี ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ดาราสาวมากฝีมือที่สร้างชื่อจากละครน้ำตาหนึ่งลิตร อย่างเอริกะ ซาวาจิริ ก็ต้องล้มลุกลุกคลานในวงการนักแสดงไปหลายปี เพราะมีพฤติกรรมแรงๆหลายเรื่อง)
ในเหตุการณ์ยูโกะแจกฟักนี้ ดารารุ่นพี่ที่โอตะโปรอย่าง Hiroiki Ariyoshi ที่เคยร่วมงานกับยูโกะนั้น ก็ออกมาวิพากย์วิจารณ์อย่างรวดเร็วว่า "คนที่ใช้ F-word น่ะหยาบคายมาก"
http://akb48daily.blog.fc2.com/blog-entry-1748.html
-----------
3. ในช่วงแรก ยูโกะอาจจะเห็นว่าเธอได้แรงสนับสนุนจากแฟนๆของเธอและแฟนๆของวงอย่างมากมาย เธอจึงไม่ได้สนใจที่จะเปลี่ยนแปลงท่าทีอะไร
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอรู้สึกว่า การกระทำของเธอนั้นเริ่มส่งผลเสียกับเธอแล้ว ก็คือการออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับวิกฤติริริป้งของ "รุ่นใหญ่" คนอื่นๆของวงนั่นเอง
- หนึ่งในสามเสาหลักเก่าตระกูล 48 อย่างทาคามินะ เสาหลักของ NMB ที่ได้รับความเสียหายจากวิกฤติริริป้งอย่างซายาเน่ หรือตำนานบทใหม่แห่ง AKB อย่างซัซซี่นั้น มีลักษณะนิสัยบางอย่างที่คล้ายๆยูโกะ กล่าวคือ เป็นสาวเก่ง ทำงานหนัก มีความเข้มงวดในการทำงานจนทำให้ดูดุในบางครั้ง มีความเป็นผู้นำ และ "ไม่เน้นหวาน" อย่างไรก็ตาม แต่แทนที่ทั้งสามจะออกมากวดขัน ดุด่าริริป้งที่ทำสิ่งผิดพลาดอย่างถึงพริกถึงขิงอย่างที่สถานการณ์น่าจะเป็น พวกเธอกลับดำเนินท่าทีที่สุขุมเยือกเย็น ให้ความเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าข้าง (ถึงทาคามินะจะคอมเมนต์ในเชิงเห็นด้วยกับยูโกะ แต่ก็ไม่ได้เขียนความเห็นแรงๆโดยตรง)
ซึ่งพอเทียบกับภาพของยูโกะที่ส่งเสียงดัง และแสดงอาการมึนเมา (ผมเดาว่าเธอคงเครียดจากเหตุการณ์เลือกตั้ง จึงชวนโคจิฮารุไปก๊งด้วยหลังงานเลือกตั้งเสร็จ พอกำลังเมาๆ อารมณ์ขึ้นก็จัดการอัดเทปออกอากาศเลย) ก็ทำให้ภาพของยูโกะดูด้อยลงไปเลย ยิ่งสามสาวเหล่านั้นมีวัยวุฒิ (อายุ) ที่น้อยกว่ายูโกะด้วย
- หนึ่งในสามเสาหลักเก่าตระกูล 48 อีกคนอย่างอัตจัง อากิพี หรือโซกังใหม่อย่างยุยฮัง ก็เลือกที่จะ "นิ่งเสียตำลึงทอง"
ยูโกะเองเป็นคนฉลาด พอทราบเหตุการณ์ก็รู้ได้ว่าตัวเอง "พลาด" ไปเสียแล้ว (แม้แรกเริ่มเดิมที เจ้าตัวมีเจตนาดีที่จะออกมาทำอะไรสักอย่างให้กับตระกูล 48 ที่เธอรักและหวงแหนก็ตาม) จึงตัดสินใจโพสต์ทวิตเตอร์เพื่อขอโทษในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่สุด
----------
เหตุการณ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบให้กับยูโกะมากน้อยเพียงใด และการออกมาขอโทษของเธอนั้นจะช่วยลดความเสียหายแค่ไหน เวลาเท่านั้นคงเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ผมเชื่อว่า ความผิดพลาดครั้งนี้ก็คงให้ข้อคิดแก่ยูโกะได้หลายอย่างเช่นเดียวกันครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็น และคำติชมครับ
เมื่อตำนานเก่าตระกูล 48 อย่าง "โอชิมา ยูโกะ" เดินหมากพลาดใน "วิกฤติริริป้ง"
-----------
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของวิกฤติริริป้งนั้น เชื่อว่ามีแฟนๆของยูโกะ ตลอดจนไปถึงแฟนๆของ AKB48 ทั้งไทยและเทศเป็นจำนวนมาก ที่ยกนิ้วชื่นชมให้กับการกระทำที่ "คิดเร็ว ทำเร็ว"ของเธอ เพราะเธอนับเป็น "รุ่นใหญ่" คนแรกๆของตระกูล 48 ที่ออกมาตอบโต้การกระทำของริริป้งในลักษณะที่แรง สะใจ และ"สาสมแก่ความผิด" และเมื่อตัวยูโกะเองตัดสินใจโพสต์ทวิตเตอร์ขอโทษในเวลาต่อมา แฟนๆหลายคนก็ให้กำลังใจเธอว่า ยูโกะทำถูกแล้ว ไม่ต้องไปขอโทษใครหรอก
อย่างไรก็ตาม ผมกลับมองว่า การออกมาตอบโต้ของยูโกะนั้น มีจุดผิดพลาด ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายกลับไปยังตัวยูโกะเองไม่น้อยเหมือนกัน และนี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องเขียนคำขอโทษหลังจากที่เธอได้โพสต์วิดิโอบนอินสตาแกรมของเธอไปได้สองวัน
----------
1. จะว่าไปแล้ว ข้อความที่เธอพูดในอินสตาแกรมเกือบทั้งหมด ก็ไม่มีปัญหาอะไรนัก ได้อารมณ์แขวะแบบเจ็บๆคันๆ ในเสียงหัวเราะมีคมดาบ แต่เธอกลับพลาดในตอนสุดท้ายที่เธอพูดให้เห็นเจตนาของเธออย่างชัดเจนว่า ข้อความที่เขียนบนหมวกนั้น เป็นข้อความแทนใจของเธอ ก่อนที่จะให้กล้องเห็น F-word บนหมวก
ถึงแม้คนญี่ปุ่นจะไม่ได้เก่งอังกฤษอะไร แต่ก็สามารถเล็งเห็นได้ว่า F-word นี้หยาบคายอย่างแน่นอน ยิ่งสังคมญี่ปุ่นเองก็เป็นสังคมที่อนุรักษ์นิยมกว่าสังคมอเมริกัน (ซึ่งเปิดกว้างให้กับ F word มากที่สุด) หรือสังคมบ้านเราที่คนดังบนเน็ตสบถกันเป็นเรื่องปกติแล้ว (สมัยก่อน นักเขียนหรือนักแปลชั้นครูในไทย จะสุภาพกับผู้อ่านมาก อย่าง ว ณ เมืองลุง พอแปลหนังสือจบก็จะเขียนข้อความในทำนองที่ว่า ขอขอบคุณผู้อ่านที่ได้ให้ความสนับสนุนอย่างใจจริง แต่คนดังบนเน็ตสมัยนี้จะเรียกผู้อ่านด้วยสรรพนามระดับล่างทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน)
- ในช่วงหลายปีก่อน วัยรุ่นของญี่ปุ่นนิยมที่จะเดินทางไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศของฝรั่งกันมากขึ้น และทางกระทรวงศึกษาญี่ปุ่นเองก็สนับสนุนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่สังคมญี่ปุ่นอิดหนาระอาใจกับเด็กนักเรียนนอกที่กลับมา (จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด) ก็คือ เด็กเหล่านี้จะพยายามทำตัวเป็นฝรั่ง เพราะรู้สึกสนุกและได้รับการปลดล่อยโดยฝรั่ง แต่บางทีเด็กก็เอาพฤติกรรมแย่ๆของฝรั่งมาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ การติดนิสัยสบถด้วย F word นั่นเอง (จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมก็เจอสาวญี่ปุ่นหลายคนที่กลับมาจากนอก พวกเธอก็ติดนิสัยไม่พอใจอะไรก็สบถด้วย F word เห็นแล้วชวนปวดหัว)
- ในวงการหนังผู้ใหญ่ คำ F-word นี้จะถูกเอามาใช้กับหนังประเภทที่กิจกรรมระหว่างดารานั้นเป็นไปอย่างดิบเถื่อน เน้นอารมณ์ดิบ สะใจกว่าหนังผู้ใหญ่ปกติ ถ้าเป็นคำที่ความหมายเบาๆ เขาคงไม่เอามาใช้แน่นอน
เพื่อนคนญี่ปุ่นของผมหลายคนที่เป็นแฟนเอเคบีแบบกลางๆสไตล์คนทั่วไป ก็ให้กับความเห็นกับผมว่าการใช้ F-word นี่ไม่เหมาะสมเลย (ซึ่งผมว่าแฟนตระกูล 48 "แบบกลางๆ" นี่ล่ะที่ก่อกำเนิดฐานคะแนนไร้พ่ายของซัซซี่ และพลังชาวนา ที่นำพาวงน้องใหม่ในบ้านนอกอย่าง NGT48 เหินทะยานในงานเลือกตั้ง)
-------------
2. แม้ยูโกะจะเป็นระดับใหญ่ในวงการไอดอล และมีฝีมือในการแสดง แต่เธอก็ยังถือว่าเป็นเด็กอยู่ในวงการนักแสดงกระแสหลัก ซึ่งแม้วงการนี้จะให้อิสระเธอมากขึ้นในหลายด้าน แต่ก็จัดเป็นวงการที่มีกฎระเบียบเข้มงวด และค่อนข้างถือสากับพฤติกรรมส่วนตัวของคนในวงการอยู่ดี (ยกตัวอย่างเช่น เวลาดาราวัยรุ่นบางคนทำความผิด ดารารุ่นใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ก็ต้องมาขอโทษออกสื่อที่ตัวเองดูแลลูกไม่ดี ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ดาราสาวมากฝีมือที่สร้างชื่อจากละครน้ำตาหนึ่งลิตร อย่างเอริกะ ซาวาจิริ ก็ต้องล้มลุกลุกคลานในวงการนักแสดงไปหลายปี เพราะมีพฤติกรรมแรงๆหลายเรื่อง)
ในเหตุการณ์ยูโกะแจกฟักนี้ ดารารุ่นพี่ที่โอตะโปรอย่าง Hiroiki Ariyoshi ที่เคยร่วมงานกับยูโกะนั้น ก็ออกมาวิพากย์วิจารณ์อย่างรวดเร็วว่า "คนที่ใช้ F-word น่ะหยาบคายมาก"
http://akb48daily.blog.fc2.com/blog-entry-1748.html
-----------
3. ในช่วงแรก ยูโกะอาจจะเห็นว่าเธอได้แรงสนับสนุนจากแฟนๆของเธอและแฟนๆของวงอย่างมากมาย เธอจึงไม่ได้สนใจที่จะเปลี่ยนแปลงท่าทีอะไร
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอรู้สึกว่า การกระทำของเธอนั้นเริ่มส่งผลเสียกับเธอแล้ว ก็คือการออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับวิกฤติริริป้งของ "รุ่นใหญ่" คนอื่นๆของวงนั่นเอง
- หนึ่งในสามเสาหลักเก่าตระกูล 48 อย่างทาคามินะ เสาหลักของ NMB ที่ได้รับความเสียหายจากวิกฤติริริป้งอย่างซายาเน่ หรือตำนานบทใหม่แห่ง AKB อย่างซัซซี่นั้น มีลักษณะนิสัยบางอย่างที่คล้ายๆยูโกะ กล่าวคือ เป็นสาวเก่ง ทำงานหนัก มีความเข้มงวดในการทำงานจนทำให้ดูดุในบางครั้ง มีความเป็นผู้นำ และ "ไม่เน้นหวาน" อย่างไรก็ตาม แต่แทนที่ทั้งสามจะออกมากวดขัน ดุด่าริริป้งที่ทำสิ่งผิดพลาดอย่างถึงพริกถึงขิงอย่างที่สถานการณ์น่าจะเป็น พวกเธอกลับดำเนินท่าทีที่สุขุมเยือกเย็น ให้ความเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าข้าง (ถึงทาคามินะจะคอมเมนต์ในเชิงเห็นด้วยกับยูโกะ แต่ก็ไม่ได้เขียนความเห็นแรงๆโดยตรง)
ซึ่งพอเทียบกับภาพของยูโกะที่ส่งเสียงดัง และแสดงอาการมึนเมา (ผมเดาว่าเธอคงเครียดจากเหตุการณ์เลือกตั้ง จึงชวนโคจิฮารุไปก๊งด้วยหลังงานเลือกตั้งเสร็จ พอกำลังเมาๆ อารมณ์ขึ้นก็จัดการอัดเทปออกอากาศเลย) ก็ทำให้ภาพของยูโกะดูด้อยลงไปเลย ยิ่งสามสาวเหล่านั้นมีวัยวุฒิ (อายุ) ที่น้อยกว่ายูโกะด้วย
- หนึ่งในสามเสาหลักเก่าตระกูล 48 อีกคนอย่างอัตจัง อากิพี หรือโซกังใหม่อย่างยุยฮัง ก็เลือกที่จะ "นิ่งเสียตำลึงทอง"
ยูโกะเองเป็นคนฉลาด พอทราบเหตุการณ์ก็รู้ได้ว่าตัวเอง "พลาด" ไปเสียแล้ว (แม้แรกเริ่มเดิมที เจ้าตัวมีเจตนาดีที่จะออกมาทำอะไรสักอย่างให้กับตระกูล 48 ที่เธอรักและหวงแหนก็ตาม) จึงตัดสินใจโพสต์ทวิตเตอร์เพื่อขอโทษในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่สุด
----------
เหตุการณ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบให้กับยูโกะมากน้อยเพียงใด และการออกมาขอโทษของเธอนั้นจะช่วยลดความเสียหายแค่ไหน เวลาเท่านั้นคงเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ผมเชื่อว่า ความผิดพลาดครั้งนี้ก็คงให้ข้อคิดแก่ยูโกะได้หลายอย่างเช่นเดียวกันครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็น และคำติชมครับ