---------------------------------
"Let's Go Jets! - เชียร์เกิร์ล เชียร์เธอ" (8.5/10)
---------------------------------
สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง "Let's Go Jets! - เชียร์เกิร์ล เชียร์เธอ" ทางไปเพจผมครับ -->
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
เดินออกมาจากโรงหนังด้วยภาพรอยยิ้มที่แสนตะมุตะมิของ “ฮิโรเสะ ซึสึ” นางเอกสาวจากภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของทีม "Jets" ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนฟุโคอิ โรงเรียนในจังหวัดเล็กๆ ของประเทศญี่ปุ่น ที่ฝ่าฟันอุปสรรคและมุ่งหน้าทำตามความฝันจนไปคว้าแชมป์เชียร์ลีดเดอร์โลกได้ถึงประเทศสหรัฐอเมริกา และแม้พล๊อตเรื่องจะดูซ้ำซากจำเจเพราะเป็นแค่หนังที่มีเรื่องราวของการต่อสู้ทำตามความฝันของตนเองให้เป็นจริงเรื่องหนึ่งที่มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แต่เอาเข้าจริงหนังกลับมีเสน่ห์มากอย่างคาดไม่ถึง ใครจะรู้ว่าแค่นักแสดงสาวตัวเล็กๆ 1 คนที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจริงใจ จะทำให้ผมฟินกระจายได้ขนาดนี้ และนี่คือรีวิวทั้งหมดที่ผมจะเขียนให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
"Let's Go, Jets" เรื่องราวของเหล่าสาวม.ปลายที่ไม่ได้สวยหุ่นดีแต่อยากเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของชมรมเชียร์หลีดเดอร์ของโรงเรียนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือ “ฮิคาริ โทโมนากะ” ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ได้เต้นเชียร์และอยู่ใกล้ “โคสุเกะ” เพื่อนหนุ่มสมัยเด็กที่เธอแอบชอบมานาน แต่ทว่าเมื่อเข้าไปในชมรมเธอกลับต้องเจอกับโค้ชจอมโหดเจ้าของฉายา "เจ้นรก" อย่าง “คาโอรุโกะ ซาโอโตเมะ” ที่มีเป้าหมายในการพาทีมสู่การไปแข่งชิงแชมป์เชียร์ลีดเดอร์ที่อเมริกา และภายใต้โดยมีกฏเหล็กที่ว่านักเต้นทุกคน “ห้ามมีความรัก!” หลายคนจึงเริ่มลาออกจากชมรมเหลือเพียงสาวๆ 24 คนที่ต่างคิดว่าตัวเองไม่เอาไหน แต่ความฝันมันยิ่งใหญ่กว่าความกลัว ทั้งหมดจึงลุกขึ้นสู้ ตั้งใจฝึกซ้อม ผ่านการนำของหัวหน้าทีม “อายาโนะ ทามากิ” เพื่อทำความฝันที่ไกลเกินกว่าครึ่งโลกให้สำเร็จ...
ความน่าสนใจของหนัง จากความรู้สึกส่วนตัวคือการที่หนังปรับจุดโฟกัสในตอนท้ายเรื่องจากการพยายามนำเสนอความพยายามของนักเต้นที่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการกระทบกระทั่งกันระหว่างทีม มาสู่โหมดของผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ผู้หญิงที่ไม่แสดงท่าทีอ่อนแอหรือยกย่องลูกทีมให้ดูเลิศเลอจน ลืมตัว หรือแสดงอาการกังวัลใดๆให้ใครเห็น คนนั่นคือ "ครูผู้ฝึกสอน" ที่แทบจะทั้งเรื่องผมไม่เห็นเขาแสดงออกเอาหน้าใดๆเลย ระหว่างการแข่งขันเขาเป็นเพียงผู้ชมบนอัฒจันทร์คนนึงที่คอยลุ้น คอยดูความสำเร็จของลูกทีม แต่ในขณะเดียวกัน ในเรื่องปัญหาของลูกศิษย์ เธอก็ไม่ลืมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แม้ถูกมองว่าเป็นคนนอกก็ตาม จุดนี้แหละผมถือว่าหนังทำได้กินใจและน่าจดจำมาก การแสดงบทครูผู้ฝึกสอนของ "ยูกิ อายามิ" ทำให้เราเชื่อในความเข้มแข็งที่แสดงออกมาภายใต้ความกังวลอยู่ตลอด ถ้าไม่นับรอยยิ้มหวานๆและความน่ารักของนางเอก ผมกล้าพูดได้เลยว่าเธอมีส่วนสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับหนังมาก
ด้านตัวละครอื่นๆ หนังก็ไม่ลืมที่จะใส่มิติของอารมณ์ให้มีความหลากหลาย หนำซ้ำยังใส่ภูมิหลังของตัวละครเพื่อทำให้เห็นเราถึงความสุขที่เกิดขึ้นขณะที่พวกเธอกำลังเต้น เราแทบไม่รู้อะไรเลยว่าหลังเวทีหลายคนต่างแบกปัญหาอะไรไว้ หรือมีความรู้สึกอย่างไร แต่เมื่อทุกคนอยู่ตรงหน้าผู้ชม มันคือรอยยิ้มที่กลบเกลื่อนความทุกข์และแสดงออกถึงความจริงใจ จนทำให้ผมรู้สึกได้ว่าการเต้นคือความสุขของพวกเธอจริงๆ แอบเสียดายที่เราได้เห็นฉากเต้นของพวกเธอเต็มๆแค่ตอนจบ แม้จะไม่หวือหวาอะไรมากแต่อารมณ์ของหนังก็พาผมประทับใจไปเยอะแล้ว อย่างไรก็ตาม หนังนำเสนอการเอาชนะใจตัวเองของตัวละครเป็นหลัก ความเข้มข้นของการแข่งขันชิงแชมป์เชียร์ลีดเดอร์จึงมีไม่มาก จุดนี้อาจทำให้อารมณ์หนังดูเนือยๆไม่ตื่นเต้นมากนัก แต่ในภาพรวมถือว่าทำได้โอเคและคุ้มค่าแก่การเสียเวลาไปดูไม่มากก็น้อยครับ
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
[CR] รีวิว "Let's Go Jets!" - รอยยิ้มนางเอกชวนหลงรักมาก ชอบการปรับโหมดในช่วงท้ายที่ผมนี่ถึงกับน้ำตาปริ่มๆเลย
"Let's Go Jets! - เชียร์เกิร์ล เชียร์เธอ" (8.5/10)
---------------------------------
สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง "Let's Go Jets! - เชียร์เกิร์ล เชียร์เธอ" ทางไปเพจผมครับ --> https://www.facebook.com/FeedbackMovies
เดินออกมาจากโรงหนังด้วยภาพรอยยิ้มที่แสนตะมุตะมิของ “ฮิโรเสะ ซึสึ” นางเอกสาวจากภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของทีม "Jets" ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนฟุโคอิ โรงเรียนในจังหวัดเล็กๆ ของประเทศญี่ปุ่น ที่ฝ่าฟันอุปสรรคและมุ่งหน้าทำตามความฝันจนไปคว้าแชมป์เชียร์ลีดเดอร์โลกได้ถึงประเทศสหรัฐอเมริกา และแม้พล๊อตเรื่องจะดูซ้ำซากจำเจเพราะเป็นแค่หนังที่มีเรื่องราวของการต่อสู้ทำตามความฝันของตนเองให้เป็นจริงเรื่องหนึ่งที่มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แต่เอาเข้าจริงหนังกลับมีเสน่ห์มากอย่างคาดไม่ถึง ใครจะรู้ว่าแค่นักแสดงสาวตัวเล็กๆ 1 คนที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจริงใจ จะทำให้ผมฟินกระจายได้ขนาดนี้ และนี่คือรีวิวทั้งหมดที่ผมจะเขียนให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
"Let's Go, Jets" เรื่องราวของเหล่าสาวม.ปลายที่ไม่ได้สวยหุ่นดีแต่อยากเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของชมรมเชียร์หลีดเดอร์ของโรงเรียนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือ “ฮิคาริ โทโมนากะ” ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ได้เต้นเชียร์และอยู่ใกล้ “โคสุเกะ” เพื่อนหนุ่มสมัยเด็กที่เธอแอบชอบมานาน แต่ทว่าเมื่อเข้าไปในชมรมเธอกลับต้องเจอกับโค้ชจอมโหดเจ้าของฉายา "เจ้นรก" อย่าง “คาโอรุโกะ ซาโอโตเมะ” ที่มีเป้าหมายในการพาทีมสู่การไปแข่งชิงแชมป์เชียร์ลีดเดอร์ที่อเมริกา และภายใต้โดยมีกฏเหล็กที่ว่านักเต้นทุกคน “ห้ามมีความรัก!” หลายคนจึงเริ่มลาออกจากชมรมเหลือเพียงสาวๆ 24 คนที่ต่างคิดว่าตัวเองไม่เอาไหน แต่ความฝันมันยิ่งใหญ่กว่าความกลัว ทั้งหมดจึงลุกขึ้นสู้ ตั้งใจฝึกซ้อม ผ่านการนำของหัวหน้าทีม “อายาโนะ ทามากิ” เพื่อทำความฝันที่ไกลเกินกว่าครึ่งโลกให้สำเร็จ...
ความน่าสนใจของหนัง จากความรู้สึกส่วนตัวคือการที่หนังปรับจุดโฟกัสในตอนท้ายเรื่องจากการพยายามนำเสนอความพยายามของนักเต้นที่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการกระทบกระทั่งกันระหว่างทีม มาสู่โหมดของผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ผู้หญิงที่ไม่แสดงท่าทีอ่อนแอหรือยกย่องลูกทีมให้ดูเลิศเลอจน ลืมตัว หรือแสดงอาการกังวัลใดๆให้ใครเห็น คนนั่นคือ "ครูผู้ฝึกสอน" ที่แทบจะทั้งเรื่องผมไม่เห็นเขาแสดงออกเอาหน้าใดๆเลย ระหว่างการแข่งขันเขาเป็นเพียงผู้ชมบนอัฒจันทร์คนนึงที่คอยลุ้น คอยดูความสำเร็จของลูกทีม แต่ในขณะเดียวกัน ในเรื่องปัญหาของลูกศิษย์ เธอก็ไม่ลืมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แม้ถูกมองว่าเป็นคนนอกก็ตาม จุดนี้แหละผมถือว่าหนังทำได้กินใจและน่าจดจำมาก การแสดงบทครูผู้ฝึกสอนของ "ยูกิ อายามิ" ทำให้เราเชื่อในความเข้มแข็งที่แสดงออกมาภายใต้ความกังวลอยู่ตลอด ถ้าไม่นับรอยยิ้มหวานๆและความน่ารักของนางเอก ผมกล้าพูดได้เลยว่าเธอมีส่วนสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับหนังมาก
ด้านตัวละครอื่นๆ หนังก็ไม่ลืมที่จะใส่มิติของอารมณ์ให้มีความหลากหลาย หนำซ้ำยังใส่ภูมิหลังของตัวละครเพื่อทำให้เห็นเราถึงความสุขที่เกิดขึ้นขณะที่พวกเธอกำลังเต้น เราแทบไม่รู้อะไรเลยว่าหลังเวทีหลายคนต่างแบกปัญหาอะไรไว้ หรือมีความรู้สึกอย่างไร แต่เมื่อทุกคนอยู่ตรงหน้าผู้ชม มันคือรอยยิ้มที่กลบเกลื่อนความทุกข์และแสดงออกถึงความจริงใจ จนทำให้ผมรู้สึกได้ว่าการเต้นคือความสุขของพวกเธอจริงๆ แอบเสียดายที่เราได้เห็นฉากเต้นของพวกเธอเต็มๆแค่ตอนจบ แม้จะไม่หวือหวาอะไรมากแต่อารมณ์ของหนังก็พาผมประทับใจไปเยอะแล้ว อย่างไรก็ตาม หนังนำเสนอการเอาชนะใจตัวเองของตัวละครเป็นหลัก ความเข้มข้นของการแข่งขันชิงแชมป์เชียร์ลีดเดอร์จึงมีไม่มาก จุดนี้อาจทำให้อารมณ์หนังดูเนือยๆไม่ตื่นเต้นมากนัก แต่ในภาพรวมถือว่าทำได้โอเคและคุ้มค่าแก่การเสียเวลาไปดูไม่มากก็น้อยครับ
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่ https://www.facebook.com/FeedbackMovies