ภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนหญิงสะใภ้ใหม่
อันเขาเพิ่งนำมาชั่วคืนชั่ววัน ตลอดเวลาเท่านั้น ก็ยังมีความ
ละอายและความกลัวที่ดำรงไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ในแม่ผัวบ้าง
ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง แม้ที่สุดแต่ในทาสกรรมกรคนใช้.
ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน
หญิงสะใภ้นั้น ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง พ่อผัวบ้าง แม้แต่กะสามี
ว่า “หลีกไปๆ พวกแกจะรู้อะไร” นี้ฉันใด;
ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : ภิกษุบางรูปใน
ธรรมวินัยนี้ ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือนได้ชั่วคืน
ชั่ววัน ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น หิริและโอตตัปปะของเธอนั้น
ยังดำรงอยู่อย่างเข้มแข็ง ในภิกษุ ในภิกษุณี ในอุบาสก
ในอุบาสิกา แม้ที่สุดแต่ในคนวัดและสามเณร.
ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน
เธอก็กล่าว ตวาดอาจารย์บ้าง อุปัชฌาย์บ้างว่า “หลีกไปๆ
พวกท่านจะรู้อะไร” ดังนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้
เธอทั้งหลายพึงทำการฝึกหัดศึกษาอย่างนี้ว่า
“เราจักอยู่อย่างมีจิตเสมอกันกับหญิงสะใภ้ใหม่
ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้.
จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๐๐/๗๓.
วาจาของสะใภ้ใหม่(พระสูตร)
อันเขาเพิ่งนำมาชั่วคืนชั่ววัน ตลอดเวลาเท่านั้น ก็ยังมีความ
ละอายและความกลัวที่ดำรงไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ในแม่ผัวบ้าง
ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง แม้ที่สุดแต่ในทาสกรรมกรคนใช้.
ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน
หญิงสะใภ้นั้น ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง พ่อผัวบ้าง แม้แต่กะสามี
ว่า “หลีกไปๆ พวกแกจะรู้อะไร” นี้ฉันใด;
ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : ภิกษุบางรูปใน
ธรรมวินัยนี้ ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือนได้ชั่วคืน
ชั่ววัน ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น หิริและโอตตัปปะของเธอนั้น
ยังดำรงอยู่อย่างเข้มแข็ง ในภิกษุ ในภิกษุณี ในอุบาสก
ในอุบาสิกา แม้ที่สุดแต่ในคนวัดและสามเณร.
ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน
เธอก็กล่าว ตวาดอาจารย์บ้าง อุปัชฌาย์บ้างว่า “หลีกไปๆ
พวกท่านจะรู้อะไร” ดังนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้
เธอทั้งหลายพึงทำการฝึกหัดศึกษาอย่างนี้ว่า
“เราจักอยู่อย่างมีจิตเสมอกันกับหญิงสะใภ้ใหม่
ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้.
จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๐๐/๗๓.