ได้คิว 8.30 น เช้าวันนี้ที่ 20 มิถุนายน 2560 ขอถอดความการสัมภาษณ์เป็นไทยโดยผู้สัมภาษ์เป็นผู้หญิงผิวขาวครับ -ขอเรียกว่า ท่าน
ท่าน: สวัสดี ไปเรียนอะไร
เรา: ไปเรียน PhD ที่ U of Minnesota-Twin Cities
ท่าน: โอ ขอแสดงความยินดีกับ PhD student ที่จะไปเรียนหนาวมาก ออ คุณเคยเรียนโทที่ IOWA หนาวพอกันนะ แต่ไปตอนนี้เตรียมเสื้อผ้าชุดอากาศอุ่นไปด้วยนะ
เรา: ขอบคุณ
ท่าน: ใครออกเงินค่าเรียนให้
เรา: ผมมีเงินพอส่งตัวเอง แลัวได้ทุนด้วย แต่แม่ก็ช่วยค่าใช้จ่ายจ่ายให้ด้วย
ท่าน: โอ ยินดีด้วยที่ได้ทุน ขอดูเอกสารการเงินแม่หน่อย
เรา: หยิบใบง่ายสุดเป็นใบแจ้งรายละเอียดหุ้นที่มีในพอร์ทชื่อแม่ แจงชื่อหุ้น ราคาตลาด ณ วันที่ 19 มิย Print ออกมาเมื่อวาน
ท่าน: โอ หุ้น คงต้องให้แม่สอนฉันบ้างนะ
เรา: ยิ้ม.
ท่าน: มีสมุดบัญชีแม่มั้ย
เรา: ยื่นให้ 4 เล่ม
ท่าน: หยิบเล่มหนึ่งไปดู เปิดหน้าที่มีชื่อ หน้าเงินเข้าออกใบแรก แล้วก็พลิกๆดูแบบไม่ตั้งใจ แล้วก็ไม่ดูอีก 3 เล่ม
เรา: บัญชีของผมจะดูไหม
ท่าน: ไม่ ไม่ แล้วก็ดึงพาสปอร์ทเล่มเก่าที่ยังมีวิซ่าท่องเที่ยว มีอายุเหลืออีก 9 ปี ส่งคืน แล้วเอาเล่มใหม่ ใบ I-20 ใบชำระเงิน เก็บไว้ แล้วบอกเราว่า จะส่งกลับพร้อมวิซ่า F-1 ให้คุณ
เรา: ขอบคุณ
ข้อสังเกตุ ท่านรู้ข้อมูลเรามาก่อนแล้วว่าเคยไปเรียนที่ไหน เคยได้วิซ่าอะไรมาบ้าง พ่อ แม่ ทำอะไร หากเป็นเมื่อก่อนตอนไปเรียน ป.โท ไม่ถามอะไรเลย ไปขอพร้อมแม่ ตอนไปขอ วิซ่าท่องเที่ยวเมื่อสามเดือนที่แล้ว ก็ไม่ถามอะไร ตอนนั้นมีใบลางานไปแสดงลาไปสัมภาษณ์เข้าเรียนด้วยตัวเองและทางมหาวิทยาลัยก็จัดโปรแกรมเที่ยวและร่วมกินอาหารกับอาจารย์สามคน พร้อมกับนักเรียนปริญญาเอกปัจจุบันสองคน
เราสงสัยว่าช่วงนี้อเมริกามีนโยบายเข้มงวด คราวนี้เลยกึ่งคุย กึ่งถาม เรายังคิดว่าคราวนี้ไม่น่าจะถามอะไร เอกสารเตรียมไปแยะ แต่ไม่ดูอะไรนอกจากสถานะการเงินของแม่ อาจเป็นไปได้ว่าข้อมูลเก่า พ่อเป็นคนออกเงิน แม่มีอาชีพแม่บ้าน คราวนี้เลยขอดูสักหน่อยว่าแม่บ้านมีเงินส่งลูกเรียน ปริญญาเอก จริงไหม
ขอแนะนำว่า เวลาไปสัมภาษณ์ ไม่ต้องช้อมอะไรหรอกครับ ตอบตามความจริงจากข้อมูลตามจริงของเราเอง แต่ก็ควรเลี่ยงคนรู้จักว่าไม่มี และมีเงินพอเที่ยวมีสิ่งบอกเหตุได้ว่าต้องกลับบ้านแน่ วันนี้คนแยะ เห็นโดนถามกันนาน มีคนไม่ได้ก็มีหลายตน ได้ก็หลายคนครับ
เล่าเรื่องสัมภาษณ์วิซ่า F1 เมื่อเช้าครับ
ท่าน: สวัสดี ไปเรียนอะไร
เรา: ไปเรียน PhD ที่ U of Minnesota-Twin Cities
ท่าน: โอ ขอแสดงความยินดีกับ PhD student ที่จะไปเรียนหนาวมาก ออ คุณเคยเรียนโทที่ IOWA หนาวพอกันนะ แต่ไปตอนนี้เตรียมเสื้อผ้าชุดอากาศอุ่นไปด้วยนะ
เรา: ขอบคุณ
ท่าน: ใครออกเงินค่าเรียนให้
เรา: ผมมีเงินพอส่งตัวเอง แลัวได้ทุนด้วย แต่แม่ก็ช่วยค่าใช้จ่ายจ่ายให้ด้วย
ท่าน: โอ ยินดีด้วยที่ได้ทุน ขอดูเอกสารการเงินแม่หน่อย
เรา: หยิบใบง่ายสุดเป็นใบแจ้งรายละเอียดหุ้นที่มีในพอร์ทชื่อแม่ แจงชื่อหุ้น ราคาตลาด ณ วันที่ 19 มิย Print ออกมาเมื่อวาน
ท่าน: โอ หุ้น คงต้องให้แม่สอนฉันบ้างนะ
เรา: ยิ้ม.
ท่าน: มีสมุดบัญชีแม่มั้ย
เรา: ยื่นให้ 4 เล่ม
ท่าน: หยิบเล่มหนึ่งไปดู เปิดหน้าที่มีชื่อ หน้าเงินเข้าออกใบแรก แล้วก็พลิกๆดูแบบไม่ตั้งใจ แล้วก็ไม่ดูอีก 3 เล่ม
เรา: บัญชีของผมจะดูไหม
ท่าน: ไม่ ไม่ แล้วก็ดึงพาสปอร์ทเล่มเก่าที่ยังมีวิซ่าท่องเที่ยว มีอายุเหลืออีก 9 ปี ส่งคืน แล้วเอาเล่มใหม่ ใบ I-20 ใบชำระเงิน เก็บไว้ แล้วบอกเราว่า จะส่งกลับพร้อมวิซ่า F-1 ให้คุณ
เรา: ขอบคุณ
ข้อสังเกตุ ท่านรู้ข้อมูลเรามาก่อนแล้วว่าเคยไปเรียนที่ไหน เคยได้วิซ่าอะไรมาบ้าง พ่อ แม่ ทำอะไร หากเป็นเมื่อก่อนตอนไปเรียน ป.โท ไม่ถามอะไรเลย ไปขอพร้อมแม่ ตอนไปขอ วิซ่าท่องเที่ยวเมื่อสามเดือนที่แล้ว ก็ไม่ถามอะไร ตอนนั้นมีใบลางานไปแสดงลาไปสัมภาษณ์เข้าเรียนด้วยตัวเองและทางมหาวิทยาลัยก็จัดโปรแกรมเที่ยวและร่วมกินอาหารกับอาจารย์สามคน พร้อมกับนักเรียนปริญญาเอกปัจจุบันสองคน
เราสงสัยว่าช่วงนี้อเมริกามีนโยบายเข้มงวด คราวนี้เลยกึ่งคุย กึ่งถาม เรายังคิดว่าคราวนี้ไม่น่าจะถามอะไร เอกสารเตรียมไปแยะ แต่ไม่ดูอะไรนอกจากสถานะการเงินของแม่ อาจเป็นไปได้ว่าข้อมูลเก่า พ่อเป็นคนออกเงิน แม่มีอาชีพแม่บ้าน คราวนี้เลยขอดูสักหน่อยว่าแม่บ้านมีเงินส่งลูกเรียน ปริญญาเอก จริงไหม
ขอแนะนำว่า เวลาไปสัมภาษณ์ ไม่ต้องช้อมอะไรหรอกครับ ตอบตามความจริงจากข้อมูลตามจริงของเราเอง แต่ก็ควรเลี่ยงคนรู้จักว่าไม่มี และมีเงินพอเที่ยวมีสิ่งบอกเหตุได้ว่าต้องกลับบ้านแน่ วันนี้คนแยะ เห็นโดนถามกันนาน มีคนไม่ได้ก็มีหลายตน ได้ก็หลายคนครับ