ปัจจุบันผมยังอาศัยอยู่คอนโดแห่งหนึ่งกับภรรยาและเจ้าตัวน้อย 2 คน โดยก่อนหน้าที่คลอดเจ้าตัวน้อยคนที่ 2 เราก็พยายามหาที่อยู่ใหม่ เนื่องจากภรรยาอยากให้เจ้าตัวน้อยทั้ง 2 คน ไม่ต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม ภรรยาผมบอกว่าอยากหาที่ให้ลูกได้เตะบอลบ้าง ภารกิจอันนี้จึงเริ่มต้นขึ้น
ตระเวนดูบ้าน
เราเริ่มตะเวนดูบ้านตั้งแต่ต้นปี 2559 โดยไปเกือบทุกเสาร์ อาทิตย์ ที่เราสะดวก เราทั้ง 3 คนเลยได้เข้าไปเยี่ยมชมทั้งโครงการที่เป็นทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว เยอะมาก ทั้งโครงการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ได้ลองดูว่าน้ำที่ไหนขวดสวยบ้าง ขนมที่ไหนอร่อย โบรชัวร์บ้านแบรนด์ไหนออกแบบสวยงาม บางครั้งได้เข้าไปช่วงที่เค้าจัดงาน อาหาร ขนม ก็จะมีเยอะหน่อยบางครั้งก็มีไอศกรีม ฟินเลยก็ว่าได้สำหรับเจ้าตัวน้อยของผม 55555
ราคาบ้าน
ผมกับภรรยาตั้งงบไว้ก้อนนึงสำหรับการหาบ้านครั้งนี้ โดยที่ตั้งงบไว้ไม่เกิน 5 ล้านบวกลบนิดหน่อย คิดว่าเราสองคนน่าจะสู้ไหวสำหรับภารกิจครั้งนี้ โดยบ้านที่เราเข้าไปดู เราจะดูชื่อโครงการและราคาตามป้ายข้างทางที่เราผ่านประจำบ้าง หรือเข้าไปดูเว็บไซต์ที่นำนำบ้านบ้าง หรือไม่ก็เพื่อนแนะนำบ้าง
โดยทาวน์โฮมที่ผมเคยไปดู ถ้าเป็น 2 ชั้นจะอยู่ประมาณ 2 ล้านกลาง – 3 ล้านนิด ขึ้นอยู่กับทำเลและพื้นที่ ส่วน 3 ชั้นจะอยู่ประมาณ 3 ปลายๆ – 4 ล้านกว่าๆ ขึ้นอยู่กับทำเลและพื้นที่เช่นกัน บ้านแฝดที่เคยไปดู 4 ล้าน – 5 ล้าน แต่ลบภาพเก่าๆของผมไปเลยที่ว่าบ้านแฝดต้องมีผนังติดกัน เดี๋ยวนี้บ้านแฝดก็คือบ้านเดี่ยวขนาดเล็กลง พื้นที่บ้านน้อยลงเท่านั้น ส่วนบ้านเดี่ยว 5 ล้านขึ้นไป
แต่ว่าทำไมราคาบ้านสมัยนี้แพงจังเลย
เอาละซิแบบนี้เราจะเลือกบ้านอะไรดีที่จะให้ลูกเราได้มีพื้นที่เตะบอล
ทาวน์โฮม + พื้นที่ด้านข้าง หรือ บ้านแฝด หรือ บ้านเดี่ยว
ดังนั้นเราต้องเข้าไปดู แล้วเอาที่ถูกใจที่สุด และที่สำคัญต้องไม่เกินงบที่เราตั้งไว้ด้วย
ป้ายโฆษณาบ้าน
จากการที่ได้ไปตระเวนหาบ้านของเราพบว่าราคาที่โฆษณาตามป้าย มักจะไม่ค่อยมี ราคาบ้านจริงจะเพิ่มขึ้นจากป้ายที่ประกาศเสมอ ผมได้เคยลองถามเจ้าหน้าที่การขายว่าราคาบ้านตามป้ายที่ประกาศไม่มีหรอ ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าโปรนี้หมดแล้ว เป็นราคาตอนเปิดโครงการ ผมก็เลยคิดว่าทำไมบางครั้งโครงการก็เปิดมาตั้งนานแล้ว ไม่เปลี่ยนป้ายบางล่ะ จะได้รู้ว่าราคาที่เสนอขาย เราสู้ไหวหรือป่าว ถ้าสู้ไม่ไหวเราจะได้ไม่ต้องเข้าไป แต่ก็มีโครงการนึงผมบอกเค้าว่าที่เข้ามาดูเพราะเห็นว่าราคาที่ป้ายเป้นราคาที่ผมสู้ไหว ผมเลยเข้ามาดู หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ผมผ่านไปทางโครงการนั้นอีกครั้ง เค้าเปลี่ยนป้ายใหม่เป็นราคาที่เค้าบอกผม ผมยอมรับเลยว่าโครงการนี้เราแจ้งเค้าไป เค้าก็ปรับปรุงแก้ไขเลย ดังนั้นผมกับภรรยาจึงสรุปว่าราคาบ้านที่ขึ้นตามป้ายต้องบวกเพิ่มไปอีก 5 แสน – 1 ล้านบาท ในแบบบ้านปกติของเค้า ไม่นับส่วนพื้นที่เพิ่มเติม
รีวิว กว่าจะมีบ้านให้เจ้าตัวน้อยได้มีพื้นที่วิ่งเล่นตามความต้องการของภรรยา
ตระเวนดูบ้าน
เราเริ่มตะเวนดูบ้านตั้งแต่ต้นปี 2559 โดยไปเกือบทุกเสาร์ อาทิตย์ ที่เราสะดวก เราทั้ง 3 คนเลยได้เข้าไปเยี่ยมชมทั้งโครงการที่เป็นทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว เยอะมาก ทั้งโครงการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ได้ลองดูว่าน้ำที่ไหนขวดสวยบ้าง ขนมที่ไหนอร่อย โบรชัวร์บ้านแบรนด์ไหนออกแบบสวยงาม บางครั้งได้เข้าไปช่วงที่เค้าจัดงาน อาหาร ขนม ก็จะมีเยอะหน่อยบางครั้งก็มีไอศกรีม ฟินเลยก็ว่าได้สำหรับเจ้าตัวน้อยของผม 55555
ราคาบ้าน
ผมกับภรรยาตั้งงบไว้ก้อนนึงสำหรับการหาบ้านครั้งนี้ โดยที่ตั้งงบไว้ไม่เกิน 5 ล้านบวกลบนิดหน่อย คิดว่าเราสองคนน่าจะสู้ไหวสำหรับภารกิจครั้งนี้ โดยบ้านที่เราเข้าไปดู เราจะดูชื่อโครงการและราคาตามป้ายข้างทางที่เราผ่านประจำบ้าง หรือเข้าไปดูเว็บไซต์ที่นำนำบ้านบ้าง หรือไม่ก็เพื่อนแนะนำบ้าง
โดยทาวน์โฮมที่ผมเคยไปดู ถ้าเป็น 2 ชั้นจะอยู่ประมาณ 2 ล้านกลาง – 3 ล้านนิด ขึ้นอยู่กับทำเลและพื้นที่ ส่วน 3 ชั้นจะอยู่ประมาณ 3 ปลายๆ – 4 ล้านกว่าๆ ขึ้นอยู่กับทำเลและพื้นที่เช่นกัน บ้านแฝดที่เคยไปดู 4 ล้าน – 5 ล้าน แต่ลบภาพเก่าๆของผมไปเลยที่ว่าบ้านแฝดต้องมีผนังติดกัน เดี๋ยวนี้บ้านแฝดก็คือบ้านเดี่ยวขนาดเล็กลง พื้นที่บ้านน้อยลงเท่านั้น ส่วนบ้านเดี่ยว 5 ล้านขึ้นไป
แต่ว่าทำไมราคาบ้านสมัยนี้แพงจังเลย
เอาละซิแบบนี้เราจะเลือกบ้านอะไรดีที่จะให้ลูกเราได้มีพื้นที่เตะบอล
ทาวน์โฮม + พื้นที่ด้านข้าง หรือ บ้านแฝด หรือ บ้านเดี่ยว
ดังนั้นเราต้องเข้าไปดู แล้วเอาที่ถูกใจที่สุด และที่สำคัญต้องไม่เกินงบที่เราตั้งไว้ด้วย
ป้ายโฆษณาบ้าน
จากการที่ได้ไปตระเวนหาบ้านของเราพบว่าราคาที่โฆษณาตามป้าย มักจะไม่ค่อยมี ราคาบ้านจริงจะเพิ่มขึ้นจากป้ายที่ประกาศเสมอ ผมได้เคยลองถามเจ้าหน้าที่การขายว่าราคาบ้านตามป้ายที่ประกาศไม่มีหรอ ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าโปรนี้หมดแล้ว เป็นราคาตอนเปิดโครงการ ผมก็เลยคิดว่าทำไมบางครั้งโครงการก็เปิดมาตั้งนานแล้ว ไม่เปลี่ยนป้ายบางล่ะ จะได้รู้ว่าราคาที่เสนอขาย เราสู้ไหวหรือป่าว ถ้าสู้ไม่ไหวเราจะได้ไม่ต้องเข้าไป แต่ก็มีโครงการนึงผมบอกเค้าว่าที่เข้ามาดูเพราะเห็นว่าราคาที่ป้ายเป้นราคาที่ผมสู้ไหว ผมเลยเข้ามาดู หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ผมผ่านไปทางโครงการนั้นอีกครั้ง เค้าเปลี่ยนป้ายใหม่เป็นราคาที่เค้าบอกผม ผมยอมรับเลยว่าโครงการนี้เราแจ้งเค้าไป เค้าก็ปรับปรุงแก้ไขเลย ดังนั้นผมกับภรรยาจึงสรุปว่าราคาบ้านที่ขึ้นตามป้ายต้องบวกเพิ่มไปอีก 5 แสน – 1 ล้านบาท ในแบบบ้านปกติของเค้า ไม่นับส่วนพื้นที่เพิ่มเติม