หลังจากจบจากมงเทรอซ์มาสเตอร์ที่สวิตเซอร์แลนด์ของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้รายการต่อไป
ที่จะมีคิวลงแข่งขันก็คือ เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2017

ก่อนอื่นต้องขออธิบายเล็กน้อยเกี่ยวกับการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ให้กับพี่น้องหลายคนที่เพิ่งเข้ามาติดตามให้ได้
เข้าใจก่อนว่ารายการนี้เป็นการแข่งขันเดียวที่จัดขึ้น"ทุกปี" และ มีคะแนนสะสมโยงไปที่อันดับโลกอีกด้วย ซึ่งรายการนี้ก็ถือว่า
เป็นตัวแปรที่จะทำให้อันดับโลกมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แม้คะแนนสะสมจะไม่สูงมากแต่ก็ส่งผลให้ทีมที่มีแต้มขี่กันอยู่เกิดการ
ขยับขึ้นลงได้

ส่วนรูปแบบการแข่งขันถือว่าเป็นอีก 1 สิ่งที่มีการปรับอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจัดการแข่งขัน การคัดเลือกทีมเข้ามาเล่น
และ แม้กระทั่งการเพิ่มดิวิชั่นเข้ามา โดยทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน แต่ค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงปีละอย่างสองอย่าง ถ้าขยับขอบเขต
การสร้างความเข้าใจให้แฟนวอลเลย์บอลที่เพิ่งเข้ามาติดตามให้ได้เข้าใจ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ "เวิลด์กรังด์ปรีซ์" มีความขลังต่อทีม
ไทยมาก เพราะการเข้าไปแข่งขันได้นั้นต้องใช้วิธีการคัดเลือก ไม่ใช่มีตังค์ก็สมัครเล่นได้เลย

นับย้อนไปหลายปี "ไทย" ต้องไปลุยศึกชิงแชมป์เอเชียเพื่อทำอันดับให้ได้ตามที่โควต้ากำหนด และ ยังมีรายการเอวีซี คัพ ที่จัดขึ้น
เพื่อเป็นการคัดเลือกหาทีมไปเล่นเวิลด์กรังด์ปรีซ์ในปีต่อไปอีกด้วย

ความขลังมันอยู่ที่การต่อสู้เพื่อ"ตั๋ว"ที่จะนำพาทีมไทยไปเล่นรายการระดับโลกอย่างเวิลด์กรังด์ปรีซ์

โลกหมุนไป..วอลเลย์บอลหมุนตาม
ทุกสิ่งอย่างเริ่มเปลี่ยนไป...นอกจากการพัฒาของวงการวอลเลย์บอลโลกแล้ว เรื่องของการตลาด ธุรกิจ ก็ขยับชิดเข้าใกล้มาติดๆ

เวิลด์กรังด์ปรีซ์ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนทีมเพิ่มขึ้นมา และ มีการแบ่งดิวิชั่นขึ้นจากมี 12 ทีมต่อสู้ขับเคี่ยว ก็กลาย
เป็น 28 ทีม

ทีมเยอะ การแข่งขันก็เยอะขึ้น และ ความต้องการของคนดูจากประเทศต่างๆก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้จุดนี้เป็นเป้าที่จะ
ทำให้เกิดมูลค่าทางการตลาด เพราะลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดมีค่าขึ้นมาทันตาเห็น

พร้อมกันนี้สื่อต่างประเทศยังมีการนำเรื่องการเปลี่ยนแปลงจำนวนทีมในปี 2018 มาเขียนว่าจะปรับเพิ่มจำนวนทีมในดิวิชั่น 1 จาก
12 เป็น 16 ทีม

ถามว่าจริงหรือไม่ ???
โดยส่วนตัวแล้วถ้าใครได้ติดตามที่เพจผม(เอก ประวิตร)จะทราบว่าผมเคยหยิบมาพูด และ อธิบายให้ได้ทราบไปบ้างแล้วว่าโอกาส
ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนทีมนั้นมีพอสมควร

ซึ่งแหล่งข้อมูลที่ผมไปสืบมานั้นเป็นกลุ่มผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่เป็นประจำ แต่เรื่องนี้มันยังไม่มีการยืนยัน
จากเว็ปไซต์สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ( FIVB)

ถึงอย่างไรเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจของสังคมวอลเลย์บอลทั้งในไทย และ ต่างประเทศไม่น้อย ผมจึงติดต่อไปที่บอร์ดบริหารของ
สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ เพื่อขอความเห็นจากเรื่องดังกล่าว (ซึ่งผมขอเรียบเรียงให้เข้าใจง่าย และ กระชับ )

เรื่องการเพิ่มจำนวนทีมดิวิชั่น 1 ในปี 2018 จาก 12 ทีม เป็น 16 ทีม คือเรื่องจริง
รูปแบบการแข่งขันจากเล่น 4 สัปดาห์ จะเพิ่มเป็น 5 สัปดาห์
การตกชั้นดิวิชั่น 1 ปี 2018 จะมี 2 ทีมที่ร่วงลงไป และ ขึ้นจากดิวิชั่น 2 จำนวน 2 ทีม

นี่คือข้อมูลชั้นแรกที่ได้รับมาจาก ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ผู้ที่นั่งตำแหน่งกรรมการสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ
ซึ่งทั้งหมดจะไปสรุป และ รับรองกันอีกครั้งในที่ประชุมใหญ่ของสภาเวิลด์กรังด์ปรีซ์ หลังจากที่การแข่งขันรอบสุดท้ายในปีนี้
เสร็จสิ้นลงนั้นแปลว่าทุกอย่างยังไม่ 100 % แต่ด้วยข้อมูลที่รับมาแบบนี้ความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 99.00 % ไปแล้ว

ส่วนอีก 1 เรื่องก็คือ "กรณีที่มีแหล่งข่าวต่างประเทศแจ้งว่าจะมีการเซ็นสัญญาสนับสนุนจากประเทศต่างๆกับสหพันธ์ฯเพื่อไม่ให้
ทีมตกชั้น และ รวมไปถึงทีมไทย" ประเด็นนี้ไม่เป็นความจริง!!!!!

ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ขยายความเพิ่มเติมว่า ทีมตกชั้นยังมีเหมือนเดิม แต่การขึ้นมาเล่นดิวิชั่น 1 ของทีมต่างๆนั้นไม่ใช่ว่ามีฝีมือ
อย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังมีข้อกำหนดที่มีระบุไว้ในการจัดการแข่งขันที่ประเทศนั้นๆต้องทำให้ได้อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นส่วนของการ
จัดการแข่งขันที่สมาคมวอลเลย์บอลฯ แต่ละประเทศต้องทำให้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ต้องมีสนามที่ได้มาตรฐาน,มีจอ LEDใหญ่,มีอุปกรณ์
วีดีโอชาเล้นจ์,มีกล้องที่ได้รับการองรับในการถ่ายทอดสด,มีจำนวนกล้องตามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันระบุเอาไว้ เป็นต้น

แท้จริงแล้วการจัดการแข่งขันยังมีอีกหลายรายละเอียด หรือ ข้อกำหนดอีกมากมายที่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการฝ่าย
จัดการแข่งขันของFIVB ซึ่งถ้าทีมขึ้นมาเล่นได้ และ พร้อมเป็นเจ้าภาพในสัปดาห์ต่างๆก็สามารถเข้าร่วมทำการแข่งขันดิวิชั่น 1
ได้เต็มรูปแบบ

แต่หากไม่ผ่าน หรือ ไม่พร้อมการเป็นเจ้าภาพ(รอบคัดเลือกสัปดาห์) ก็อาจจะต้องพิจารณาทีมที่มีอันดับถัดไปให้ขึ้นมา แต่หากไม่มี
ทีมไหนที่มาจากดิวิชั่น 2 พร้อมที่จะจัดการแข่งขัน ก็อาจจะมีการดึงทีมที่ร่วงลงไปจากดิวิชั่น 1 ให้กลับมาเล่นอีกครั้ง

ส่วนนี้ผมขอเน้นไฮไลท์ประเด็นนี้ไว้ชัดๆว่า "กรณีนี้เป็นเรื่องลึกลงไปอีกชั้นที่จะต้องนำไปสรุปกันอีกทีในที่ประชุมใหญ่หลังการแข่งขัน
ปีนี้เสร็จสิ้นเท่านั้นถึงจะได้คำตอบที่ 100 เปอร์เซ็น ว่าทีมไหนจะพร้อมที่ขึ้นมาเล่นดิวิชั่น 1 อย่างเต็มรูปแบบ"
นี่คือเรื่องราวที่ผมไปหาคำตอบมาให้กับพี่น้องแฟนวอลเลย์บอลได้ติดตามกัน สุดท้ายก็ต้องรอการรับรองในการประชุมสภาใหญ่ฯ
ซึ่งแท้จริงแล้วอยากจะเขียนความเคลื่อนไหวของทีมไทย เรื่องการจัดการแข่งขันภายในไทยว่าจะขายบัตรวันไหน และ ขายยังไง
ให้ได้ทราบมากกว่า แต่เอาเป็นว่าเจอกันอีกทีวันจันทร์ครับ

เอก ประวิตร

ที่มา.. http://www.smmsport.com/reader.php?article=8689