แม่ผัวลูกสะใภ้ นอกใจภริยา one night stand กับ สตรีโรคจิต สามคำนี้เป็นอะไรที่เด่นออกมาจากการดูละคร 6 ตอนที่ผ่านมา นอกจากความถึงพริกถึงขิงกับฉากหวือหวา (ซึ่งมันจะต้องหวือหวาขนาดนั้นไหมหือ อันนี้ก็เป็นประเด็นควรพิจารณาแต่เราจะไม่พูดถึง) คำสามคำนั้นมุ่งไปสู่ใจความหลักของเรื่องกับดักเสน่หานั่นคือ "ชีวิตคู่"
นานมาแล้วสมัยยังเรียนหนังสือไม่แน่ใจว่ามัธยมหรือมหาลัย เคยอ่านหนังสือเรื่อง " ชีวิตคู่(ไม่)รู้กัน " เป็นหนังสือสารคดีเชิงวิจัยว่าด้วยเรื่องชีวิตคู่กับความซับซ้อนลึกล้ำทั้งชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง กิ๊กชู้ ไปจนกระทั่งคู่แท้ สะท้อนจุดที่ใช้และจุดที่พลาด จุดที่ต้องเลิกร้าง จุดที่กลายเป็นรักแท้ แม้กระทั่งจุดที่ทำให้อยู่ ๆ กันไปแม้จะไม่มีความรู้สึกใดหลงเหลือให้กันอีกแล้วก็ตาม
ดนตร์กับลิตา .... ก็คงเป็นเป็นอีกหนึ่งในบรรดาหลาย ๆ คู่ที่อยู่ท่ามกลางปัญหา ถึงใคร ๆ มองจะเห็นว่าเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่สมบูรณ์พร้อม ลูกน้อยน่ารัก บ้านหลังใหญ่โอ่อ่าสมฐานะผู้จัดการมากความสามารถในบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียง ลิตาถึงจะอยู่กับบ้านเลี้ยงดูลูกแต่ก็เป็นแม่บ้านที่ไม่ได้ปล่อยตัว ไม่ได้คร่ำครึไร้การศึกษา เธอสดสวยสมวัย เอาเข้าจริงก็แลดูจะอ่อนกว่าวัยด้วยซ้ำ
หากในความเป็นจริง มีชีวิตคู่ที่ไหนจะราบรื่นเรียบเนียนไร้ตะเข็บได้ล่ะ หนึ่ง คือ คลื่นใต้น้ำภายใต้ภาพครอบครัวสุขสันต์ก็ก่อตัวมานับ 10 ปี ปัญหาเก่าปัญหาเดิมปัญหาโลกแตกนับแต่พระเจ้าสร้างโลกได้กระมัง "เรื่องของแม่ผัวลูกสะใภ้ " สำหรับลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายคนเก่งอนาคตไกล คนเป็นแม่ก็ย่อมอยากจะเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก และ บางราย ... ปากก็บอกว่าอยากให้ลูกแต่งงานแต่งการไป แต่ยิ่งคัดยิ่งเลือกเข้า ... จะหญิงสาวคนไหนก็ล้วนแต่ดีไม่พอ หากคงเป็นเพราะความรักลูก ... คุณดวงใจจึงปล่อยให้ลูกชายสุดที่รักแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาพึงใจ แม้เธอจะมองเห็นว่าลิตา หญิงสาวที่กลายมาเป็นลูกสะใภ้จะมีแต่สิ่งน่าตำหนิ
นี่คงเป็นที่มาของการปะทะ ... เรียกว่าปะทะก็คงไม่ถูก เพราะในที่สุดคนที่พูดอะไรไม่ออกเสมอมาก็คือลิตา ไม่ว่ายกไหนยกนั้นก็เป็นคุณดวงใจที่จากไปพร้อมทิ้งความน้อยเนื้อต่ำใจระคนพ่ายแพ้เอาไว้ให้ลูกสะใภ้ ความระหองระแหงนั้นมีอยู่นับแต่แต่งงานจนกระทั่งมีลูกก็ยังไม่หายไปไหน และ ก่อให้เกิดรอยร้าวเล็ก ๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ประจวบกับ "งาน" ของดนตร์ที่กำลังมีปัญหา เมื่อกลับมาบ้านก็อยากจะผ่อนคลาย อยากจะทำในสิ่งที่คู่ผัวตัวเมียจะพึงทำกัน แต่มันก็ไม่สุขสมอารมณ์หมายเมื่ออีกฝ่ายอยู่ภายใต้ความกดดัน
จะเรียกว่าสิ่งนี้เป็นชีวิตคู่รู้ไม่ทันก็ได้ สำหรับลิตา ผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน ถึงแม้จะร่ำเรียนมาสูง ถ้าจะออกไปทำงานก็คงทำได้ แต่ภาระหน้าที่ในการดูแลลูกก็ควรจะเป็นของแม่ ในความเป็นเมียเป็นแม่กับภาระการงานในบ้านอาจดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ที่จริงแล้วมี เวลาทั้งหมดก็ทุ่มเทไปกับลูก กับบ้าน การดูแลครอบครัว จนบ้างครั้งโลกภายนอกก็เริ่มแคบลง เพื่อนฝูงแต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะว่างมาพบปะพูดคุยตลอดเวลา เป็นไปได้ว่าด้วยเหตุนี้สายตาของลิตาจึงแคบหลงเหลือแต่สิ่งรอบตัวที่พบเจอ และ กลายเป็นสาระในชีวิต แล้วลงท้ายก็กลายเป็นความจุกจิกจู้จี้ในที่สุด
ในสายตาสามีความจุกจิกอารมณ์เสียนั้นถึงแม้จะพอเข้าใจว่ามาจากสาเหตุอะไร แต่เมื่อพบเจอบ่อย ๆ บวกกับแรงกดดันเรื่องงานมันก็กลายเป็นความน่ารำคาญ ที่ในตอนแรกอาจไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เอาใจออกห่าง แต่เมื่ออะไร ๆ มันไม่ได้ระบายออกวันร้ายคืนร้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกกระตุ้นและอารมณ์ดิบก็พัดพาไปจนกู่ไม่กลับ ทุกอย่างต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ มายด์เข้ามาในเวลาที่ประจวบเหมาะ และ ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คนทำผิดไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองทำผิดแม้จะรู้สึกผิด หากอย่างไรเสียก็อยากแก้ปัญหาด้วยตนเองก่อน ใครจะไปนึกว่า one night stand ในวันนั้น ความวูบไหวเพียงหนึ่งพริบตาจะทำห้ปัญหาบานปลาย ดนตร์คิดว่าตัวเองคงแก้ปัญหาได้ แต่กลายเป็นว่าจากเรื่องแรกเรื่องเดิมที่นอกกายจะวุ่นวายไปถึงขนาดปล่อยให้อันตรายคืบคลานเข้ามาในบ้าน ดนตร์อยู่ในสภาวะน้ำท่วมปาก เมื่อปล่อยปัญหาและเวลาให้ทอดยาว ไม่ใช่แค่เรื่องนอกกายแต่กลายเป็นการชักศึกเข้าบ้านไปเสียอีก เรียกว่าผิดในผิด ผิดซ้อนผิด
เมื่อคิดสารตะแล้ว ... สิ่งที่คนอย่างดนตร์พอจะทำได้คือการพูดคุยกับลิตาอ้อมไปอ้อมมา ซึ่งเหตุผลก็ไม่ได้แข็งแรงมากมัก ทำให้ลิตาเห็นว่าผู้เป็นสามีระแวงเกินไปเสียแบบนั้น ซึ่งก็พอเข้าใจได้ ... มายด์ก็เหมือนกับสิ่งที่ทำให้ลิตาเชื่อมต่อกับโลกภายนอก โทรมาพูดคุยกับลิตาบ่อยกว่าเพื่อนรักอย่างฝน ทำให้วันเหงา หรือ โลกที่มีแต่บ้านกับครอบครัวมีสีสัน มีสิ่งผ่อนคลายเข้ามาบ้าง เมื่อบวกกับนิสัยมองโลกในแง่ดีของลิตาแล้ว มายด์ก็เข้ามาได้อย่างถูกที่ ถูกเวลาและสะดวกโยธิน และที่สำคัญ ....
เมื่อคนที่รู้เรื่องนี้มีแต่เพียงดนตร์ และ เพื่อนพ้อง ที่หาสารพัดวิธี สารพัดคำแนะนำเพื่อปัดเป่าปัญหาให้พ้นไป เว้นแต่อย่างเดียวที่ไม่มีคิดจะทำ นั่นคือการเผชิญหน้ากับ "ความจริง" ใครคนหนึ่งเคยบอกว่า "ปัญหา" มันไม่วันที่จะหายไปเองได้หรอก หลับตาแล้วตื่นมาอีกทีหากไม่ทำอะไรกับปัญหา ปัญหามันก็ยังคงอยู่ที่เดิมนั่นเอง และ ปัญหามันจะแก้ได้ก็ต้องไปที่ต้นเหตุ และ ต้นเหตุก็คือความจริงที่เก็บซ่อนไว้ ปัญหาที่แท้จริงระหว่างลิตากับคุณดวงใจ ความเครียดในที่ทำงานของตนตร์ และ ความเผลอกายของดนตร์ที่ทำให้ผู้หญิงของมายด์เข้ามาก่อความวุ่นวายในชีวิต
ก็คงต้องต่อดูต่อไปว่าเมื่อไหร่ ชีวิตคู่ ... จะรู้ทัน "ความจริง"
กับดักเสน่หา (กึ่งวิเคราะห์) : ชีวิตคู่รู้(ไม่)ทัน (1)
นานมาแล้วสมัยยังเรียนหนังสือไม่แน่ใจว่ามัธยมหรือมหาลัย เคยอ่านหนังสือเรื่อง " ชีวิตคู่(ไม่)รู้กัน " เป็นหนังสือสารคดีเชิงวิจัยว่าด้วยเรื่องชีวิตคู่กับความซับซ้อนลึกล้ำทั้งชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง กิ๊กชู้ ไปจนกระทั่งคู่แท้ สะท้อนจุดที่ใช้และจุดที่พลาด จุดที่ต้องเลิกร้าง จุดที่กลายเป็นรักแท้ แม้กระทั่งจุดที่ทำให้อยู่ ๆ กันไปแม้จะไม่มีความรู้สึกใดหลงเหลือให้กันอีกแล้วก็ตาม
ดนตร์กับลิตา .... ก็คงเป็นเป็นอีกหนึ่งในบรรดาหลาย ๆ คู่ที่อยู่ท่ามกลางปัญหา ถึงใคร ๆ มองจะเห็นว่าเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่สมบูรณ์พร้อม ลูกน้อยน่ารัก บ้านหลังใหญ่โอ่อ่าสมฐานะผู้จัดการมากความสามารถในบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียง ลิตาถึงจะอยู่กับบ้านเลี้ยงดูลูกแต่ก็เป็นแม่บ้านที่ไม่ได้ปล่อยตัว ไม่ได้คร่ำครึไร้การศึกษา เธอสดสวยสมวัย เอาเข้าจริงก็แลดูจะอ่อนกว่าวัยด้วยซ้ำ
หากในความเป็นจริง มีชีวิตคู่ที่ไหนจะราบรื่นเรียบเนียนไร้ตะเข็บได้ล่ะ หนึ่ง คือ คลื่นใต้น้ำภายใต้ภาพครอบครัวสุขสันต์ก็ก่อตัวมานับ 10 ปี ปัญหาเก่าปัญหาเดิมปัญหาโลกแตกนับแต่พระเจ้าสร้างโลกได้กระมัง "เรื่องของแม่ผัวลูกสะใภ้ " สำหรับลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายคนเก่งอนาคตไกล คนเป็นแม่ก็ย่อมอยากจะเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก และ บางราย ... ปากก็บอกว่าอยากให้ลูกแต่งงานแต่งการไป แต่ยิ่งคัดยิ่งเลือกเข้า ... จะหญิงสาวคนไหนก็ล้วนแต่ดีไม่พอ หากคงเป็นเพราะความรักลูก ... คุณดวงใจจึงปล่อยให้ลูกชายสุดที่รักแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาพึงใจ แม้เธอจะมองเห็นว่าลิตา หญิงสาวที่กลายมาเป็นลูกสะใภ้จะมีแต่สิ่งน่าตำหนิ
นี่คงเป็นที่มาของการปะทะ ... เรียกว่าปะทะก็คงไม่ถูก เพราะในที่สุดคนที่พูดอะไรไม่ออกเสมอมาก็คือลิตา ไม่ว่ายกไหนยกนั้นก็เป็นคุณดวงใจที่จากไปพร้อมทิ้งความน้อยเนื้อต่ำใจระคนพ่ายแพ้เอาไว้ให้ลูกสะใภ้ ความระหองระแหงนั้นมีอยู่นับแต่แต่งงานจนกระทั่งมีลูกก็ยังไม่หายไปไหน และ ก่อให้เกิดรอยร้าวเล็ก ๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ประจวบกับ "งาน" ของดนตร์ที่กำลังมีปัญหา เมื่อกลับมาบ้านก็อยากจะผ่อนคลาย อยากจะทำในสิ่งที่คู่ผัวตัวเมียจะพึงทำกัน แต่มันก็ไม่สุขสมอารมณ์หมายเมื่ออีกฝ่ายอยู่ภายใต้ความกดดัน
จะเรียกว่าสิ่งนี้เป็นชีวิตคู่รู้ไม่ทันก็ได้ สำหรับลิตา ผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน ถึงแม้จะร่ำเรียนมาสูง ถ้าจะออกไปทำงานก็คงทำได้ แต่ภาระหน้าที่ในการดูแลลูกก็ควรจะเป็นของแม่ ในความเป็นเมียเป็นแม่กับภาระการงานในบ้านอาจดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ที่จริงแล้วมี เวลาทั้งหมดก็ทุ่มเทไปกับลูก กับบ้าน การดูแลครอบครัว จนบ้างครั้งโลกภายนอกก็เริ่มแคบลง เพื่อนฝูงแต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะว่างมาพบปะพูดคุยตลอดเวลา เป็นไปได้ว่าด้วยเหตุนี้สายตาของลิตาจึงแคบหลงเหลือแต่สิ่งรอบตัวที่พบเจอ และ กลายเป็นสาระในชีวิต แล้วลงท้ายก็กลายเป็นความจุกจิกจู้จี้ในที่สุด
ในสายตาสามีความจุกจิกอารมณ์เสียนั้นถึงแม้จะพอเข้าใจว่ามาจากสาเหตุอะไร แต่เมื่อพบเจอบ่อย ๆ บวกกับแรงกดดันเรื่องงานมันก็กลายเป็นความน่ารำคาญ ที่ในตอนแรกอาจไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เอาใจออกห่าง แต่เมื่ออะไร ๆ มันไม่ได้ระบายออกวันร้ายคืนร้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกกระตุ้นและอารมณ์ดิบก็พัดพาไปจนกู่ไม่กลับ ทุกอย่างต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ มายด์เข้ามาในเวลาที่ประจวบเหมาะ และ ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คนทำผิดไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองทำผิดแม้จะรู้สึกผิด หากอย่างไรเสียก็อยากแก้ปัญหาด้วยตนเองก่อน ใครจะไปนึกว่า one night stand ในวันนั้น ความวูบไหวเพียงหนึ่งพริบตาจะทำห้ปัญหาบานปลาย ดนตร์คิดว่าตัวเองคงแก้ปัญหาได้ แต่กลายเป็นว่าจากเรื่องแรกเรื่องเดิมที่นอกกายจะวุ่นวายไปถึงขนาดปล่อยให้อันตรายคืบคลานเข้ามาในบ้าน ดนตร์อยู่ในสภาวะน้ำท่วมปาก เมื่อปล่อยปัญหาและเวลาให้ทอดยาว ไม่ใช่แค่เรื่องนอกกายแต่กลายเป็นการชักศึกเข้าบ้านไปเสียอีก เรียกว่าผิดในผิด ผิดซ้อนผิด
เมื่อคิดสารตะแล้ว ... สิ่งที่คนอย่างดนตร์พอจะทำได้คือการพูดคุยกับลิตาอ้อมไปอ้อมมา ซึ่งเหตุผลก็ไม่ได้แข็งแรงมากมัก ทำให้ลิตาเห็นว่าผู้เป็นสามีระแวงเกินไปเสียแบบนั้น ซึ่งก็พอเข้าใจได้ ... มายด์ก็เหมือนกับสิ่งที่ทำให้ลิตาเชื่อมต่อกับโลกภายนอก โทรมาพูดคุยกับลิตาบ่อยกว่าเพื่อนรักอย่างฝน ทำให้วันเหงา หรือ โลกที่มีแต่บ้านกับครอบครัวมีสีสัน มีสิ่งผ่อนคลายเข้ามาบ้าง เมื่อบวกกับนิสัยมองโลกในแง่ดีของลิตาแล้ว มายด์ก็เข้ามาได้อย่างถูกที่ ถูกเวลาและสะดวกโยธิน และที่สำคัญ ....
เมื่อคนที่รู้เรื่องนี้มีแต่เพียงดนตร์ และ เพื่อนพ้อง ที่หาสารพัดวิธี สารพัดคำแนะนำเพื่อปัดเป่าปัญหาให้พ้นไป เว้นแต่อย่างเดียวที่ไม่มีคิดจะทำ นั่นคือการเผชิญหน้ากับ "ความจริง" ใครคนหนึ่งเคยบอกว่า "ปัญหา" มันไม่วันที่จะหายไปเองได้หรอก หลับตาแล้วตื่นมาอีกทีหากไม่ทำอะไรกับปัญหา ปัญหามันก็ยังคงอยู่ที่เดิมนั่นเอง และ ปัญหามันจะแก้ได้ก็ต้องไปที่ต้นเหตุ และ ต้นเหตุก็คือความจริงที่เก็บซ่อนไว้ ปัญหาที่แท้จริงระหว่างลิตากับคุณดวงใจ ความเครียดในที่ทำงานของตนตร์ และ ความเผลอกายของดนตร์ที่ทำให้ผู้หญิงของมายด์เข้ามาก่อความวุ่นวายในชีวิต