กลุ่ม CHO คว้างานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket)มูลค่าโครงการ 1,665 ลบ. ทยอยรับรู้ถึงปี”

กระทู้ข่าว
          บมจ. ช ทวี หรือ CHO  พร้อมพันธมิตรทั้ง 4 รายได้แก่ บริษัท จัมป์ อัพ จำกัด , บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด,  บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด และ Tmoney จากประเทศเกาหลี ในนามกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ได้รับประกาศจากทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่าเป็นผู้ชนะการประมูลงานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket)  จํานวน 2,600 คัน มูลค่าโครงการประมาณ 1,665 ล้านบาท  ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2561 – 2565
          นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด  (มหาชน) (CHO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในนามกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงานโดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket)  จํานวน 2,600 คัน จากทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มูลค่าโครงการ 1,665,000,000 บาท  ระยะสัมปทาน 5 ปี โดยบริษัทฯ จะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2561 – 2565
          ในการประมูลงานในครั้งนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรอีก 4 ราย ได้แก่ บริษัท จัมป์ อัพ จำกัด , บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด,  บริษัท เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด และ Tmoney จากประเทศเกาหลี ซึ่งแต่ละองค์กรมีความเชี่ยวชาญ  ความสามารถเฉพาะทาง  และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการร่วมกันทำงานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket)  ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทุกประการ
        “โครงการนี้จะมีการติดตั้งระบบ e-Ticket และเครื่องเก็บค่าโดยสาร  หรือ Cash box ในรถโดยสารประจําทางของ ขสมก. จํานวน 2,600 คัน ตามมาตรฐานบัตรร่วมของกระทรวงคมนาคม  ระยะเวลาสัมปทานเช่า 5 ปี ซึ่งทางกลุ่มฯ ได้คิดค้นเทคโนโลยีต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคนกรุงเทพฯ  เพื่อทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่ายด้วย  โดยภายในระยะเวลา 120 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ต้องมีการติดตั้งระบบ e-ticket สําหรับรถโดยสารประจําทาง จํานวนไม่น้อยกว่า  100 คัน และ ภายใน 180 วัน ต้องติดตั้งรวม 800 คัน รวมถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ระบบ e-ticket สามารถใช้งานได้ตั้งแต่อุปกรณ์บนรถโดยสารประจําทาง ระบบสารสนเทศที่เขตการเดินรถ ที่ส่วนกลางของขสมก. และกระทรวงคมนาคม”นายสุรเดช  กล่าวในที่สุด



By Share2Trade

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่