เมื่อวาน ผมได้ใช้คำนี้กับสมาชิกท่านหนึ่ง ที่เป็นสุภาพสตรี
อาจจะแรงไป ในสายตาของบางคน แต่ผมว่ามันเป็นคำทั่วๆ ไป ที่ส่อความหมายไปในทาง "เอาคืน"
แต่ผลตอบกลับมา ฉอดๆๆๆๆๆ น้ำไหลไฟดับ
ทำไม ผมจึงได้ใช้คำว่า แค้นฝังหุ่น
เรื่องมันนานมาแล้ว และสมาชิกท่านนั้น ก็เปรยออกมาเอง
ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของผม ที่ไม่ถูกจริต หรือถูกใจสมาชิกท่านนี้
เธอก็จะหาว่า ผมไปเข้าข้างฝ่ายที่ผิด ผมไม่มีความเป็นกลาง ผมไม่มีเหตุผล และสารพัดจะกล่าวหา
จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร เพราะพอจะรู้นิสัยคนประเภทนี้พอสมควร จึงไม่โต้ตอบ
แต่เรื่องเริ่มจะปะทุขึ้นอีก จากกระทู้ของสมาชิกอีกท่านหนึ่ง เมื่อวานนี้
ผมคุยกับเจ้าของกระทู้ ทำนองปรับความเข้าใจ หรือในทำนองขอประนีประนอม
แล้วเธอก็เข้ามา บอกให้ไปบอกอีกฝ่าย ด้วยถ้อยคำส่อเสียด
ซึ่งในข้อย่อยนั้น เป็นหัวข้อความคิดเห็นของผม ที่กำลังคุยกับเจ้าของกระทู้
ผมรู้แน่ว่า วิวาทะย่อยๆ จะต้องเกิดขึ้นอีก
ไหนๆ ก็ไหนๆ จึงได้ตอบไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรงพอสมควร ถึงการไม่รู้กาละเทศะ
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า "แค้นฝังหุ่น"
อ่านไปขำไปนะครับ อย่าซีเรียส
แค้นฝังหุ่น ?
อาจจะแรงไป ในสายตาของบางคน แต่ผมว่ามันเป็นคำทั่วๆ ไป ที่ส่อความหมายไปในทาง "เอาคืน"
แต่ผลตอบกลับมา ฉอดๆๆๆๆๆ น้ำไหลไฟดับ
ทำไม ผมจึงได้ใช้คำว่า แค้นฝังหุ่น
เรื่องมันนานมาแล้ว และสมาชิกท่านนั้น ก็เปรยออกมาเอง
ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของผม ที่ไม่ถูกจริต หรือถูกใจสมาชิกท่านนี้
เธอก็จะหาว่า ผมไปเข้าข้างฝ่ายที่ผิด ผมไม่มีความเป็นกลาง ผมไม่มีเหตุผล และสารพัดจะกล่าวหา
จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร เพราะพอจะรู้นิสัยคนประเภทนี้พอสมควร จึงไม่โต้ตอบ
แต่เรื่องเริ่มจะปะทุขึ้นอีก จากกระทู้ของสมาชิกอีกท่านหนึ่ง เมื่อวานนี้
ผมคุยกับเจ้าของกระทู้ ทำนองปรับความเข้าใจ หรือในทำนองขอประนีประนอม
แล้วเธอก็เข้ามา บอกให้ไปบอกอีกฝ่าย ด้วยถ้อยคำส่อเสียด
ซึ่งในข้อย่อยนั้น เป็นหัวข้อความคิดเห็นของผม ที่กำลังคุยกับเจ้าของกระทู้
ผมรู้แน่ว่า วิวาทะย่อยๆ จะต้องเกิดขึ้นอีก
ไหนๆ ก็ไหนๆ จึงได้ตอบไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรงพอสมควร ถึงการไม่รู้กาละเทศะ
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า "แค้นฝังหุ่น"
อ่านไปขำไปนะครับ อย่าซีเรียส