สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากแชร์ประสบการณ์ของเราเกี่ยวการเลือกเรียน เลือกอาชีพที่ขัดกับสถานะทางเพศของเรา
เราเป็นสาวประเภทสอง เรียนคณะครุศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เพราะตอนเด็กๆเราชอบมองครูที่สวยๆบุคลิกดีและคิดว่าโตมาก็อยากจะเป็นครูแบบนั้นบ้าง เราจึงตัดสินใจมาเรียนคณะครุศาสตร์
ตอนเรียนปี 1 เราแต่งชายตามปกติเพราะผมยังสั้นอยู่ พอผมเราเริ่มยาวเราก็อยากแต่งหญิงบ้าง เลยลองแต่งหญิงมาเรียน และวันนั้นรุ่นพี่นัดพบใต้ตึกคณะพอดีโดยให้รุ่นน้องนั่งเข้าแถวแยกชายหญิง ตอนนั้นเราก็กลัวมาก กลัวรุ่นพี่เห็นและเรียกเราออกไปดุ แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเห็นเราก็เลยเดินมากระซิบว่า "คณะเราแต่งหญิงไม่ได้นะ" เราก็เลยตอบไปว่า "ค่ะพี่" และก้มหน้าแบบรู้สึกผิด
ด้วยความที่เราอยากแต่งหญิงมาก เราจึงไปขอพบอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อขออนุญาตแต่งหญิงมาเรียน ตอนนั้นอาจารย์ก็บอกเราว่า "ถ้าจะแต่งหญิงต้องแต่งให้ถูกระเบียบและดูกลมกลืนกับเพื่อนผู้หญิง" เราก็รีบตอบตกลง เราดีใจมากและรีบไปบอกรุ่นพี่คนนั้นว่าเราขออนุญาตอาจารย์แล้วนะ จากนั้นเราก็แต่งหญิงมาเรียนทุกวัน
จนวันหนึ่งอาจารย์หัวหน้าหลักสูตรเห็นเราเข้า ท่านก็ดุเราทันทีว่า "แต่งหญิงได้อย่างไร แปลงเพศแล้วหรอ? เป็นผู้ชายก็ใส่กางเกงสิ" เราก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นเราก็กลับมาแต่งชายเหมือนเดิม แต่พอแต่งชายมาเรียนเพื่อนผู้ชายก็บอกเราว่า "แต่งหญิงมาเลย แต่งชายมันดูแปลกๆ" เราก็เชื่อเพื่อนบวกกับความที่อยากแต่งอยู่แล้วเลยแอบแต่งหญิงมาเรียน แต่ต้องคอยหลบอาจารย์ในคณะ
วันหนึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาของเราเรียกเราเข้าไปพบแล้วบอกว่า "เราแต่งหญิงไม่ได้แล้วนะ เพราะว่าเรื่องของเราเข้าที่ประชุม เขาไม่อนุญาตให้เราแต่งหญิง" วันนั้นเราเสียใจมาก พอเดินออกมาจากห้องอาจารย์น้ำตาก็ไหลทันที เราทำอะไรไม่ถูกก็ยืนร้องไห้ไปสักพักจนมีเพื่อนมาเห็นและปลอบเรา พอตั้งสติได้เราก็กลับหอด้วยความเศร้า พร้อมกับคิดในใจว่าทำไมเราไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงนะ
หลังจากวันนั้นเราแต่งชาย แต่ถ้าวิชาไหนที่เรียนห่างจากตึกคณะเราก็จะแอบแต่งหญิงมาเรียน จนกระทั่งเราบังเอิญมาเจอกับอาจารย์หัวหน้าหลักสูตรอีกเข้าจนได้ คราวนี้อาจารย์โกรธมากและชี้หน้าพร้อมบอกว่า "ถ้าจะแต่งแบบนี้ก็ย้ายไปเรียนคณะอื่น อาจารย์จะเซ็นให้" เราอึ้งจนพูดไม่ออก แต่ก็ก้มหน้ารับผิดเช่นเดิม เพราะเราทำผิดกฎของคณะเอง จากนั้นเราก็ไม่กล้าแต่งหญิงมาเรียนอีกเลย
พอเราแต่งชายแต่ไว้ผมยาว ก็ทำให้อาจารย์ในหลักสูตรไม่พอใจอีก เพราะอาจารย์ในคณะบอกว่า "ถ้าฝึกสอนเราต้องตัดผมสั้นเหมือนผู้ชาย ไม่งั้นเธอจะไม่ได้ออกไปฝึกสอนเด็ดขาด" มีอยู่วันหนึ่งเราเดินผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา ท่านก็ชี้หน้าแล้วบอกว่า "เดี๋ยววันหลังขอพบหน่อยนะ" เราก็คิดในใจว่าเรื่องผมแน่ๆเลย เราพยายามมองโลกในแง่ดีบวกกับความที่อยากเป็นครูอยู่เต็มเปี่ยม เลยคิดซะว่าเราเป็นผู้หญิงผมสั้นได้นี่นา เราหารูปดารา นางแบบที่ตัดผมสั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ และตัดสินใจตัดผมสั้นทันที เพราะไม่อยากมีปัญหากับอาจารย์ในคณะ รวมถึงอยากให้อาจารย์มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่ามาคอยจับผิดพฤติกรรมของเรา
ลืมบอกไปว่า เราเรียนไปด้วยและรับสอนพิเศษไปด้วยตั้งแต่ ปี 1 เวลาไปสอนเราก็จะแต่งหญิงไปสอน ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะเรามีจิตวิญญาณของความเป็นครูสูง เราสอนเด็กได้ตามปกติ พูดค่ะกับนักเรียนเหมือนผู้หญิงทั่วไป ผู้ปกครองเด็กหลายท่านก็เพิ่มค่าสอนให้ และเมื่อไม่นานมานี้เราก็ได้สอนเด็กโดยที่ผมยังยาวอยู่ พอเราตัดผมสั้น เด็กก็ถามว่า "ครูตัดผมสั้นทำไม ทำไมผมครูไม่ยาว อยากให้ครูผมยาวเหมือนเดิม" เราก็ได้แต่ตอบเด็กไปว่า "ครูร้อน ครูเลยตัด เดี๋ยวผมครูก็ยาวแล้วค่ะ"
บางครั้งเราก็น้อยในโชคชะตา จนอยากลาออกจากการเรียนครูให้รู้แล้วรู้รอด จะได้เป็นอิสระ และได้เป็นตัวของตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งเราก็ยังอยากเป็นครู อยากเป็นครูที่ดี อยากเป็นครูที่สอนให้นักเรียนเป็นคนดีได้ เราเห็นข่าวครูชายจริงหญิงแท้ ทำร้ายนักเรียนบ้าง ข่มขืนนักเรียนบ้าง ก็ได้แต่คิดว่าเพศชายจริงหญิงแท้ที่คนทั่วไปเขายอมรับก็ยังทำเรื่องเลวร้ายได้ แต่เพศที่ 3 ที่ยังไม่เคยทำผิดอะไร กลับโดนดูถูกว่าไม่สมควรจะมาเป็นครู เพราะกลัวเด็กจะเลียนแบบ
ตอนนี้เราก็ใกล้จะไปฝึกสอนแล้ว เราไม่อยากตัดผมสั้นเหมือนผู้ชาย เพราะเราคงไม่มีความมั่นใจที่จะทำในสิ่งที่เรารัก คือการสอนนักรียน
เราอยากจะถามว่าเราไม่สามารถเป็นครูที่ดี โดยที่เราเป็นตัวเราได้เลยหรอ เราอยากเป็นผู้หญิง อยากเป็นครูที่ใส่ชุดผู้หญิงเรียบร้อยๆ เราสัญญาว่าเราจะเป็นครูที่ดี และทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ มีจรรยาบรรณ
หลายคนอาจคิดว่าเราไม่น่ามาเรียนครู แต่เราคิดว่าเราก็เป็นครูที่ดีได้ไม่น้อยกว่าชายจริงหญิงแท้
ถึงเราจะเป็นสาวประเภทสองแต่เราก็วางตัวดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุก และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นครู
เราขอโทษตัวเราเอง ที่เกิดมาเป็นแบบนี้ เราก็คงต้องยอมจำนนต่อชะตากรรมและกฎระเบียบเดิมๆต่อไป
วันนี้เราก็ขอระบายแค่นี้ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเราจนจบ
เมื่อสาวประเภทสองอยากเป็นครู !!!
เราเป็นสาวประเภทสอง เรียนคณะครุศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เพราะตอนเด็กๆเราชอบมองครูที่สวยๆบุคลิกดีและคิดว่าโตมาก็อยากจะเป็นครูแบบนั้นบ้าง เราจึงตัดสินใจมาเรียนคณะครุศาสตร์
ตอนเรียนปี 1 เราแต่งชายตามปกติเพราะผมยังสั้นอยู่ พอผมเราเริ่มยาวเราก็อยากแต่งหญิงบ้าง เลยลองแต่งหญิงมาเรียน และวันนั้นรุ่นพี่นัดพบใต้ตึกคณะพอดีโดยให้รุ่นน้องนั่งเข้าแถวแยกชายหญิง ตอนนั้นเราก็กลัวมาก กลัวรุ่นพี่เห็นและเรียกเราออกไปดุ แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเห็นเราก็เลยเดินมากระซิบว่า "คณะเราแต่งหญิงไม่ได้นะ" เราก็เลยตอบไปว่า "ค่ะพี่" และก้มหน้าแบบรู้สึกผิด
ด้วยความที่เราอยากแต่งหญิงมาก เราจึงไปขอพบอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อขออนุญาตแต่งหญิงมาเรียน ตอนนั้นอาจารย์ก็บอกเราว่า "ถ้าจะแต่งหญิงต้องแต่งให้ถูกระเบียบและดูกลมกลืนกับเพื่อนผู้หญิง" เราก็รีบตอบตกลง เราดีใจมากและรีบไปบอกรุ่นพี่คนนั้นว่าเราขออนุญาตอาจารย์แล้วนะ จากนั้นเราก็แต่งหญิงมาเรียนทุกวัน
จนวันหนึ่งอาจารย์หัวหน้าหลักสูตรเห็นเราเข้า ท่านก็ดุเราทันทีว่า "แต่งหญิงได้อย่างไร แปลงเพศแล้วหรอ? เป็นผู้ชายก็ใส่กางเกงสิ" เราก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นเราก็กลับมาแต่งชายเหมือนเดิม แต่พอแต่งชายมาเรียนเพื่อนผู้ชายก็บอกเราว่า "แต่งหญิงมาเลย แต่งชายมันดูแปลกๆ" เราก็เชื่อเพื่อนบวกกับความที่อยากแต่งอยู่แล้วเลยแอบแต่งหญิงมาเรียน แต่ต้องคอยหลบอาจารย์ในคณะ
วันหนึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาของเราเรียกเราเข้าไปพบแล้วบอกว่า "เราแต่งหญิงไม่ได้แล้วนะ เพราะว่าเรื่องของเราเข้าที่ประชุม เขาไม่อนุญาตให้เราแต่งหญิง" วันนั้นเราเสียใจมาก พอเดินออกมาจากห้องอาจารย์น้ำตาก็ไหลทันที เราทำอะไรไม่ถูกก็ยืนร้องไห้ไปสักพักจนมีเพื่อนมาเห็นและปลอบเรา พอตั้งสติได้เราก็กลับหอด้วยความเศร้า พร้อมกับคิดในใจว่าทำไมเราไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงนะ
หลังจากวันนั้นเราแต่งชาย แต่ถ้าวิชาไหนที่เรียนห่างจากตึกคณะเราก็จะแอบแต่งหญิงมาเรียน จนกระทั่งเราบังเอิญมาเจอกับอาจารย์หัวหน้าหลักสูตรอีกเข้าจนได้ คราวนี้อาจารย์โกรธมากและชี้หน้าพร้อมบอกว่า "ถ้าจะแต่งแบบนี้ก็ย้ายไปเรียนคณะอื่น อาจารย์จะเซ็นให้" เราอึ้งจนพูดไม่ออก แต่ก็ก้มหน้ารับผิดเช่นเดิม เพราะเราทำผิดกฎของคณะเอง จากนั้นเราก็ไม่กล้าแต่งหญิงมาเรียนอีกเลย
พอเราแต่งชายแต่ไว้ผมยาว ก็ทำให้อาจารย์ในหลักสูตรไม่พอใจอีก เพราะอาจารย์ในคณะบอกว่า "ถ้าฝึกสอนเราต้องตัดผมสั้นเหมือนผู้ชาย ไม่งั้นเธอจะไม่ได้ออกไปฝึกสอนเด็ดขาด" มีอยู่วันหนึ่งเราเดินผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา ท่านก็ชี้หน้าแล้วบอกว่า "เดี๋ยววันหลังขอพบหน่อยนะ" เราก็คิดในใจว่าเรื่องผมแน่ๆเลย เราพยายามมองโลกในแง่ดีบวกกับความที่อยากเป็นครูอยู่เต็มเปี่ยม เลยคิดซะว่าเราเป็นผู้หญิงผมสั้นได้นี่นา เราหารูปดารา นางแบบที่ตัดผมสั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ และตัดสินใจตัดผมสั้นทันที เพราะไม่อยากมีปัญหากับอาจารย์ในคณะ รวมถึงอยากให้อาจารย์มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่ามาคอยจับผิดพฤติกรรมของเรา
ลืมบอกไปว่า เราเรียนไปด้วยและรับสอนพิเศษไปด้วยตั้งแต่ ปี 1 เวลาไปสอนเราก็จะแต่งหญิงไปสอน ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะเรามีจิตวิญญาณของความเป็นครูสูง เราสอนเด็กได้ตามปกติ พูดค่ะกับนักเรียนเหมือนผู้หญิงทั่วไป ผู้ปกครองเด็กหลายท่านก็เพิ่มค่าสอนให้ และเมื่อไม่นานมานี้เราก็ได้สอนเด็กโดยที่ผมยังยาวอยู่ พอเราตัดผมสั้น เด็กก็ถามว่า "ครูตัดผมสั้นทำไม ทำไมผมครูไม่ยาว อยากให้ครูผมยาวเหมือนเดิม" เราก็ได้แต่ตอบเด็กไปว่า "ครูร้อน ครูเลยตัด เดี๋ยวผมครูก็ยาวแล้วค่ะ"
บางครั้งเราก็น้อยในโชคชะตา จนอยากลาออกจากการเรียนครูให้รู้แล้วรู้รอด จะได้เป็นอิสระ และได้เป็นตัวของตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งเราก็ยังอยากเป็นครู อยากเป็นครูที่ดี อยากเป็นครูที่สอนให้นักเรียนเป็นคนดีได้ เราเห็นข่าวครูชายจริงหญิงแท้ ทำร้ายนักเรียนบ้าง ข่มขืนนักเรียนบ้าง ก็ได้แต่คิดว่าเพศชายจริงหญิงแท้ที่คนทั่วไปเขายอมรับก็ยังทำเรื่องเลวร้ายได้ แต่เพศที่ 3 ที่ยังไม่เคยทำผิดอะไร กลับโดนดูถูกว่าไม่สมควรจะมาเป็นครู เพราะกลัวเด็กจะเลียนแบบ
ตอนนี้เราก็ใกล้จะไปฝึกสอนแล้ว เราไม่อยากตัดผมสั้นเหมือนผู้ชาย เพราะเราคงไม่มีความมั่นใจที่จะทำในสิ่งที่เรารัก คือการสอนนักรียน
เราอยากจะถามว่าเราไม่สามารถเป็นครูที่ดี โดยที่เราเป็นตัวเราได้เลยหรอ เราอยากเป็นผู้หญิง อยากเป็นครูที่ใส่ชุดผู้หญิงเรียบร้อยๆ เราสัญญาว่าเราจะเป็นครูที่ดี และทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ มีจรรยาบรรณ
หลายคนอาจคิดว่าเราไม่น่ามาเรียนครู แต่เราคิดว่าเราก็เป็นครูที่ดีได้ไม่น้อยกว่าชายจริงหญิงแท้
ถึงเราจะเป็นสาวประเภทสองแต่เราก็วางตัวดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุก และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นครู
เราขอโทษตัวเราเอง ที่เกิดมาเป็นแบบนี้ เราก็คงต้องยอมจำนนต่อชะตากรรมและกฎระเบียบเดิมๆต่อไป
วันนี้เราก็ขอระบายแค่นี้ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเราจนจบ