เที่ยวโตเกียว 5 วัน 4 คืน ด้วยรถไฟใต้ดิน (Tokyo Subway)

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ขอออกตัวก่อนเลยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรก กับการเที่ยวต่างประเทศ และการตั้งกระทู้ในพันทิป ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^__^ ยิ้ม  

ด้วยความเหงาและความอยากรู้ อยากสะสมประสบการณ์ในการท่องเที่ยวในต่างประเทศว่าสักครั้งในชีวิตต้องได้ไปสักที่  ก็เริ่มจากเพื่อนชวน Backpack ไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะไปแค่โตเกียวเมืองเดียว  เนื่องจากว่าไปแค่ 5 วัน 4 คืน ซึ่งมีเวลาน้อยนิด และอยากเก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้หมด (ในความเป็นจริง ไม่หมดค่ะ  มัวแต่เดินแวะนู่นนี่นั่น เพลินไปหน่อย อมยิ้ม07 ) และ และ และ ในครั้งนี้ เราผู้เดินทางครั้งแรก ก็เป็นคนวางแผนเองทั้งหมด 555 ตอนวางแผนก็เพลินกันเลยสิคะ  แต่พอตอนจะไป ใจมันแป้วๆ เหมือนไม่อยากไป แต่ก็ต้องไปสักที เพราะอะไรไม่รู้ สงสัยคงตื่นเต้นหลบใน 555 อมยิ้ม01 ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเราบ้างมั้ยยย

ตกลงวันได้ (ช่วงต้นเดือนมิถุนายน) ก็เริ่มจองตั๋ว จองที่พักค่ะ และเตรียมแพลนต่างๆ จนกระทั่งวันเดินทางก็มาถึงงงง  (ค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ตอนท้ายนะคะ)
และทริปนี้เริ่มต้นด้วยการใช้ แอพ Google Map และแอพ Tokyo Subway ค่ะ เราใช้แค่ 2 แอพนี้ในการเดินทางค่ะ

พระอาทิตย์ วันที่ 1

- flight เราออกเดินทางเวลา 00.45 น. ของวันที่ 1 ค่ะ จะถึงสนามบินนาริตะเวลา 09.00 น. เวลาโดยประมาณของเวลาท้องถิ่นที่ประเทศญี่ปุ่น

- เมื่อมาถึงสนามบินนาริตะ เราก็เดินไปตามทาง เดินไปเรื่อยๆ เดินสักพัก (เดินไกลกว่าที่วาดฝันไว้ค่ะ ^__^ )
ก็จะถึงจุดตรวจคนเข้าเมืองค่ะ ผ่านอย่างง่ายดาย ก็เดินลงมารับกระเป๋าด้านล่างค่ะ เมื่อรับกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็หาทางไปซื้อตั๋วรถไฟค่ะ

- ที่พักเราอยู่แถว Asakusa ฉะนั้นเราจะเดินทางโดยรถไฟ Keisei Skyliner ไปกลับ + Tokyo Subway 72-hour Ticket  ต้องใช้ passport ตอนซื้อตั๋วด้วยนะคะ
(ปล.1 หากใครพักแถว Ueno ใช้ตั๋วนี้ก็สะดวกนะคะ  แต่เราพัก Asakusa เราต้องนั่งรถไฟต่อไป Asakusa อีก)
(ปล.2 หากใครพักแถว Asakusa เหมือนเรา แต่ไม่อยากเดินทางด้วยรถไฟด่วน ก็สามารถซื้อตั๋วรถไฟธรรมดาได้นะคะ ถูกกว่า และขากลับก็ไม่ต้องต่อรถไฟให้ยุ่งยาก แต่ที่เราซื้อรถไฟด่วนเพราะว่ามันเป็นแพ็คเก็จค่ะ ใจจริงเราอยากได้ Tokyo Subway 72-hour อย่างเดียว แต่ไม่รู้จะซื้อที่ไหน ก็เลยเอาความสะดวกเป็นที่ตั้งไว้ก่อน  อิอิ  แต่ตอนเที่ยวเราก็เห็นตั๋ว Tokyo Subway 72-hour ขายเดี่ยวๆนะคะ ในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่หนึ่ง แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน เศร้า ขอโทษด้วยนะคะ แต่เจอที่ไหนซื้อเลยค่ะ ไม่แนะนำให้หวังน้ำบ่อหน้าเหมือนเรา สุดท้ายก็ไม่เจอที่ไหนอีกเลย)
(ปล.3 ใน Keisei Information Center มีให้เลือกซื้อหลายแพ็คเกจ สามารถเลือกซื้อตามความประสงค์ของเราได้เลย ไปถึงก็ชี้ๆได้เลยค่ะ เราอุตส่าห์เตรียมพูดภาษาอังกฤษในใจเป็นอย่างดี 55)
นี่คือรูปภาพตั๋วที่ได้มาค่ะ
///ตั๋วบนสุด คือ Tokyo Subway 72-hour
///ตั๋วอันกลาง คือ ตั๋วรถไฟขากลับ ไปสนามบินนาริตะ
///ตั๋วล่างสุด คือ ตั๋วรถไฟขาไป จะบอกวันเวลา รอบรถไฟที่จะไป และเวลาที่จะถึงสถานี Ueno (ในภาพจะเป็นเวลา 10.42 - 11.23 น.) และบอกเลขตู้รถไฟและระบุที่นั่งเรา  (ในภาพคือ ตู้ที่ 3 ที่นั่งหมายเลข 8D)

- พอมาถึงสถานี Uneo ก็เดินตามทางเชื่อมเพื่อไปต่อสถานี Asakusa ได้เลยค่ะ ให้มองป้ายดีๆ จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ ไม่หลงแน่นอน หรือถ้าเผลอออกจากสถานีมาแล้ว ก็เดินมาทางซ้ายค่ะ แล้วข้ามถนน สถานีรถไฟใต้ดิน จะอยู่ในอาคารซึ่งเหมือนแหล่ง shopping (เราเองก็ไม่คิดว่าจะอยู่ตรงนั้น หรือเราโง่เอง 55) หลังจากนี้จะเริ่มใช้บัตร Tokyo Subway 72-hour แล้วนะคะ เวลาจะเริ่มนับตั้งแต่ที่เราใช้ค่ะ

- เนื่องด้วยว่าเรามาถึงเวลาก่อนที่พักจะให้เช็คอิน (เวลา 15.00 น.) เราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่ที่พักค่ะ เค้าให้ฝากได้ค่ะ ใจดี ของไม่หายแน่นอน ก่อนหน้านี้เราไปถามที่ฝากกระเป๋า HIS ทาง HIS คิดค่าบริการ 1,000 เยน ต่อใบ ซึ่งเราคิดว่าได้ข้าวหลายจานเลย เลยมาลุ้น ขอฝากที่ที่พักดีกว่า
(ปล.กระเป๋าเดินทางเราใบใหญ่  ส่วนมากตู้ที่รับฝากกระเป๋าจะเต็มและมีแต่ใบเล็กๆ ค่ะ)

- เมื่อถึงที่พักแล้ว เอ๊ะโอ!!!! เดินขึ้นมาก็เจอเลย (ทางออกของสาย Ginza line ทางออก 4)
นี่คือที่พักของเราเอง

เมื่อฝากกระเป๋าเสร็จแล้ว เราก็เดินทางต่อเลยค่ะ เที่ยวๆๆ ให้หนำใจกับการที่อยากมา

1. วัดเซ็นโซจิ เราเดินจากที่พักค่ะ ไม่ไกล 5-10 นาที ก็ถึงแบบงงๆ ย่านนี้มีนักท่องเที่ยวละลานตา สินค้าที่ขายละลายใจมาก ยิ่งเดินยิ่งทะลุไปนู่นนี่นั่น เพลินสุดๆ

จุดเด่นของวัดนี้ที่จำได้ คือ กระถางธูป เราต้องไปกวักควันเข้าตัว แล้วอธิษฐานให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามา / ด้านบนวัดมีให้โยนเหรียญ ลงในช่อง เหรียญจะไปกระทบกับเหล็ก เสียงจะกังวาล / มีของมงคลให้เช่าด้วยนะคะ จะมีเขียนบอกเลยว่าอันไหนช่วยในเรื่องอะไร / เสี่ยงเซียมซี  ใบเซียมมีภาษาอังกฤษบรรยายค่ะ ถ้าความหมายไม่ดี ก็มีที่ให้ผูกใบเซียมซีไว้ค่ะ ไม่ต้องพกกลับไป / จำได้แค่นี้ค่ะ ถ้าใครมีอะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยนะคะ / วัดนี้ปิดวันอาทิตย์นะคะ แต่ร้านขายของตามถนน ยังเปิดปกติค่ะ

2. Ameyoko Market นั่งรถไฟใต้ดิน สถานี Asakusa ไปลง สถานี Ueno
ของกิน แหล่งช็อปปิ้ง เดินเพลินๆ ดูของให้ม่วนตาชื่นใจค่ะ

3. Disney Sea นั่งรถไฟใต้ดิน สถานี Ueno ไปลงสถานี Nihombashi เปลียนสถานี เพื่อไปลงสถานี Kasai (ดูรายละเอียดการเปลี่ยนสถานีได้ในแอพ *Tokyo Subway) หลังจากนั้นขึ้นรถเมล์ สีชมพูบานเย็น อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ เดินข้ามถนนถึงเลย 310 เยน  ส่วนขากลับเราก็กลับทางเดิมค่ะ ขึ้นรถเมล์ ป้ายเดิมที่เคยลงนะคะ โชเฟอร์จะถามว่าเราจะไปไหน ให้ตอบว่า Kasai (เราอ่านว่า เคไซ โชเฟอร์ไม่ให้ขึ้นค่ะ เอามือปิดที่หยอดเหรียญ แล้วให้เราลงค่ะ) พอคันที่ 2 มา เราเลยเปลี่ยนวิธีอ่าน เป็นอ่านว่า คาไซ ผ่าม ผ้าม ผ่านนค่ะ 555

พอข้ามทางม้าลาย เดินมาทางซ้ายนะคะ พอพ้นตึกจะเจอป้ายรถเมล์ค่ะ

ฟลุคค่ะ เดินมั่ว ได้เล่นเครื่องเล่นเฉยเลย ใจจริงแค่หวังไปเดินเล่นก็พอใจแล้วค่ะ ^__^
ภาพของคนนั่งรอดูการแสดงรอบ 20.00 น. ค่ะ อากาศหนาวได้ใจ

และแล้ว การเดินทางวันแรกก็สิ้นสุดเพียงแค่นี้ค่ะ  รีบกลับที่พักไปเช็คอิน ถึงในเวลา 22.30 น. เพลียกันตั้งแต่วันแรกกันเลยทีเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่