ปรากฏภาพของ “เอ็ตตา อู๋” ลูกสาวนอกสมรสของ “เฉินหลง” ที่มีแผลที่แขนมากถึง 20 แผล หลังมีข่าวปัญหาระหว่างแม่ และลูกสาวเมื่อหลายเดือน ก่อนจนเป็นเรื่องใหญ่ในหน้าสื่อฮ่องกง
ชีวิตครอบครัวของ อู๋ลี่ฉี อดีตกิ๊กของ เฉินหลง กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน หลังเธอถูกตำรวจดำเนินคดีฐานกระทำทารุณต่อลูกสาว เอ็ตตา อู๋ จากปัญหาเรื่องความเห็นไม่ลงรอยกัน ต่อมาผู้เป็นลูกก็หนีมาพักผ่อนที่เมืองไทย แต่หลังจากนั้นผู้เป็นลูกกลับถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยมีข่าวว่าเธออาจจะพยายามฆ่าตัวตาย
ซึ่งล่าสุดสื่อฮ่องกงระบุว่า เอ็ตตา อู๋ เพิ่งจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง และยังได้กลับไปอยู่กับแม่อีกครั้งด้วย แต่จากภาพสาวน้อยวัย 17 ปี มีแผลที่แขนและข้อมูลหลายจุด เหมือนถูกของมีคมกรีด จนคนแสดงความเห็นว่าเธออาจจะเคยมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
โดย อู๋ลี่ฉี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่าเธอยินดีมากที่ลูกกลับมาหาแล้ว และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านสังคมสงเคราะห์ได้แนะนำว่า หากมีปัญหาอะไรกันอีก ให้พยายามห่างๆ กันเอาไว้ก่อน และค่อยๆ พูดเพื่อปรับความเข้าใจ “เราสื่อสารกันได้ดีขึ้น และเข้ากันได้ดีแล้ว”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000059785
แผลเต็มแขน? ลูกสาว “เฉินหลง” กรีดแขนทำร้ายตัวเอง?
ปรากฏภาพของ “เอ็ตตา อู๋” ลูกสาวนอกสมรสของ “เฉินหลง” ที่มีแผลที่แขนมากถึง 20 แผล หลังมีข่าวปัญหาระหว่างแม่ และลูกสาวเมื่อหลายเดือน ก่อนจนเป็นเรื่องใหญ่ในหน้าสื่อฮ่องกง
ชีวิตครอบครัวของ อู๋ลี่ฉี อดีตกิ๊กของ เฉินหลง กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน หลังเธอถูกตำรวจดำเนินคดีฐานกระทำทารุณต่อลูกสาว เอ็ตตา อู๋ จากปัญหาเรื่องความเห็นไม่ลงรอยกัน ต่อมาผู้เป็นลูกก็หนีมาพักผ่อนที่เมืองไทย แต่หลังจากนั้นผู้เป็นลูกกลับถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยมีข่าวว่าเธออาจจะพยายามฆ่าตัวตาย
ซึ่งล่าสุดสื่อฮ่องกงระบุว่า เอ็ตตา อู๋ เพิ่งจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง และยังได้กลับไปอยู่กับแม่อีกครั้งด้วย แต่จากภาพสาวน้อยวัย 17 ปี มีแผลที่แขนและข้อมูลหลายจุด เหมือนถูกของมีคมกรีด จนคนแสดงความเห็นว่าเธออาจจะเคยมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
โดย อู๋ลี่ฉี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่าเธอยินดีมากที่ลูกกลับมาหาแล้ว และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านสังคมสงเคราะห์ได้แนะนำว่า หากมีปัญหาอะไรกันอีก ให้พยายามห่างๆ กันเอาไว้ก่อน และค่อยๆ พูดเพื่อปรับความเข้าใจ “เราสื่อสารกันได้ดีขึ้น และเข้ากันได้ดีแล้ว”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000059785