การต่อสู้ในสถานการณ์จริงมีองค์ประกอบมากมาย เเละองค์ประกอบเหล่านั้นพร้อมที่จะเกิดการเเปรเปลี่ยนได้ทุกขณะจิต จึงทำให้คาดเดาผลที่จะปรากฏขึ้นได้ยากมาก จุดในการพลิกผันสถานการณ์ อยู่พ้นวิสัยของสมองซีกซ้ายในการับมือหากเเต่ต้องใช้สมองซีกขวาซึ่งทำการโดยจิตใต้สำนึก เช่นนี้จึงจะรับมือสถานการณ์นั้นได้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้ ผู้ฝึกฝนจึงเข้าถึงการทำงานของสมองซีกขวาอันเกี่ยวเนื่องกับจิตใต้สำนึกได้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันเเม้จะมีอาวุธหลากหลาย เเต่ในโลกที่เจริญเเล้วเหล่าทหารก็ยังคงต้องฝึกฝนศิลปะเหล่านี้อยู่ มิใช้เพื่อให้ท่านใช้มือเปล่าไปต่อสู้กับ ปืน ระเบิด ขีปนาวุธ หากเเต่ฝึกฝนให้เพื่อสามารถควบคุมจิตใจเเละสถานการณ์ต่างๆในยามฉุกเฉินได้ ฝึกจึงได้เปรียบกว่าไม่ฝึก การฝึกสมองซีกขวาเเต่วัยเยาว์จึงสามารถไปเสริมสร้างสมองซีกซ้ายอันเป็นส่วนสำคัญในการศึกษาเล่าเรียนได้ดีอย่างยิ่ง
ศิลปะการต่อสู้ ฝึกไม่ฝึก ต่างกันอย่างไร?