เรายังจำภาพตอนที่พี่น้องทั้งสองคนเล่นในฐานะมือสมัครเล่นที่ AJGA แล้วคว้าแชมป์ รองแชมป์มามากมาย เบียดกับ ลีเดีย โค มาโดยตลอด
รางวัลใหญ่สุดในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่น น่าจะเป็น 2011 U.S. Girls' Junior
จากนั้นก็นับวันรอว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เทิร์นโปรสักที เพราะอยากเห็นทั้งคู่โลดแล่นในทัวร์ในฐานะมืออาชีพแล้ว
ฝันของโปรโมเป็นจริงก่อน เพราะอายุ 18 ก่อน และได้สิทธิ์เข้า Q-School ในปี 2012 จบอันดับหนึ่งร่วมใน Final Stage ได้รับสิทธิ์เล่น LPGA Tour ปี 2013 และได้ตำแหน่ง Rookie of The year 2013
ส่วนโปรเมขอเข้า Q-School ในปีเดียวกัน แต่ต้องผิดหวังกับข้อจำกัดเรื่องอายุ (เป็นที่ถกเถียงกันมากเมื่อเทียบกับเคสของ Lexi Thompson)
ในปี 2013 โปรเมเทิร์นโปรและได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Ladies European Tour (LET)
เส้นทางของครอบครัวจุฑานุกาลลำบากมากขึ้น เพราะสองพี่น้องต้องแยกกันเล่นคนละทัวร์
เป็นสิ่งที่เจ็บปวดสำหรับสองคนที่ไม่เคยห่างจากกัน (ลองหาคลิปมาดูกันนะ การให้สัมภาษณ์ของทั้งสอง มีน้ำตาเล็ดขัวร์)
โปรเมคว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพที่ Morocco และได้รับเชิญเข้าเล่นในรายการของ LPGA บางรายการ รวมทั้งได้ Monday Qualifying ด้วย
โปรเมตั้งใจที่จะเข้า Q-School ในปี 2013 เมื่ออายุครบ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้ง โปรเมเกิดอุบัติเหตุระหว่างซ้อมรายการ Wegmans LPGA
ทำให้โปรเมต้องพักรักษายาว ไม่สมารถเข้า Q-School final stage ได้ (ตอนนั้นเราก็เหมือนอกหักนิดๆ)
โปรเมกลับมาในปี 2014 และเดินหน้าเข้า Q-School ในปีเดียวกันนี้และแน่นอน เธอคว้าทัวร์การ์ด 2015 ไว้ได้ จากการจบที่สาม
แต่เส้นทางมันไม่สวยงามขนาดนั้น ปีแรกไม่ใช่ปีของเธอ การไม่ผ่านการตัดตัวสิบรายการติดมันเป็นอะไรที่บั่นทอนความมั่นใจในตัวเธอ
แต่มันก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้เธอลุกขึ้นสู้อีกครั้ง จนเธอจรัสแสงเปล่งปลั่งในปี 2016 จากการเป็นแชมป์ห้ารายการ รวมถึงแชมป์เมเจอร์
ส่งให้เธอได้รับตำแหน่ง Rolex Player of The Year 2016 และชนะรางวัล Race to CME Globe เงินรางวัลหนึ่งล้านเหรียญเบาๆ
อยากบอกว่าไม่ง่ายเลยสำหรับโปรเมที่จะมาถึงจุดๆ นี้ได้ ขอบคุณโปรเม โปรโม และโปรสาวไทยทุกคนที่ทำให้การดูกอล์ฟหญิงสนุกขึ้นมาก
การขึ้นมือหนึ่งในวันนี้ ยอมรับว่ามันเร็วมาก เร็วกว่าที่คาดไว้หลังจากจบปี 2016 แต่เมื่อมันมาถึงแล้ว ก็แสดงความยินดีกับโปรเมด้วยครับ
เส้นทางทุลักทุเล ของโปรเม เอรียา จุฑานุกาล
รางวัลใหญ่สุดในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่น น่าจะเป็น 2011 U.S. Girls' Junior
จากนั้นก็นับวันรอว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะได้เทิร์นโปรสักที เพราะอยากเห็นทั้งคู่โลดแล่นในทัวร์ในฐานะมืออาชีพแล้ว
ฝันของโปรโมเป็นจริงก่อน เพราะอายุ 18 ก่อน และได้สิทธิ์เข้า Q-School ในปี 2012 จบอันดับหนึ่งร่วมใน Final Stage ได้รับสิทธิ์เล่น LPGA Tour ปี 2013 และได้ตำแหน่ง Rookie of The year 2013
ส่วนโปรเมขอเข้า Q-School ในปีเดียวกัน แต่ต้องผิดหวังกับข้อจำกัดเรื่องอายุ (เป็นที่ถกเถียงกันมากเมื่อเทียบกับเคสของ Lexi Thompson)
ในปี 2013 โปรเมเทิร์นโปรและได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Ladies European Tour (LET)
เส้นทางของครอบครัวจุฑานุกาลลำบากมากขึ้น เพราะสองพี่น้องต้องแยกกันเล่นคนละทัวร์
เป็นสิ่งที่เจ็บปวดสำหรับสองคนที่ไม่เคยห่างจากกัน (ลองหาคลิปมาดูกันนะ การให้สัมภาษณ์ของทั้งสอง มีน้ำตาเล็ดขัวร์)
โปรเมคว้าแชมป์แรกในการเล่นอาชีพที่ Morocco และได้รับเชิญเข้าเล่นในรายการของ LPGA บางรายการ รวมทั้งได้ Monday Qualifying ด้วย
โปรเมตั้งใจที่จะเข้า Q-School ในปี 2013 เมื่ออายุครบ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้ง โปรเมเกิดอุบัติเหตุระหว่างซ้อมรายการ Wegmans LPGA
ทำให้โปรเมต้องพักรักษายาว ไม่สมารถเข้า Q-School final stage ได้ (ตอนนั้นเราก็เหมือนอกหักนิดๆ)
โปรเมกลับมาในปี 2014 และเดินหน้าเข้า Q-School ในปีเดียวกันนี้และแน่นอน เธอคว้าทัวร์การ์ด 2015 ไว้ได้ จากการจบที่สาม
แต่เส้นทางมันไม่สวยงามขนาดนั้น ปีแรกไม่ใช่ปีของเธอ การไม่ผ่านการตัดตัวสิบรายการติดมันเป็นอะไรที่บั่นทอนความมั่นใจในตัวเธอ
แต่มันก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้เธอลุกขึ้นสู้อีกครั้ง จนเธอจรัสแสงเปล่งปลั่งในปี 2016 จากการเป็นแชมป์ห้ารายการ รวมถึงแชมป์เมเจอร์
ส่งให้เธอได้รับตำแหน่ง Rolex Player of The Year 2016 และชนะรางวัล Race to CME Globe เงินรางวัลหนึ่งล้านเหรียญเบาๆ
อยากบอกว่าไม่ง่ายเลยสำหรับโปรเมที่จะมาถึงจุดๆ นี้ได้ ขอบคุณโปรเม โปรโม และโปรสาวไทยทุกคนที่ทำให้การดูกอล์ฟหญิงสนุกขึ้นมาก
การขึ้นมือหนึ่งในวันนี้ ยอมรับว่ามันเร็วมาก เร็วกว่าที่คาดไว้หลังจากจบปี 2016 แต่เมื่อมันมาถึงแล้ว ก็แสดงความยินดีกับโปรเมด้วยครับ