สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป และมิตรรักทุกๆท่านนะค่ะ วันนี้น้องหน่อยจะมาอวดผัวค่ะ จะอวดขนาดไหนต้องลองอ่านกันให้จบนะคะ น้องหน่อยเชื่อเลยว่า เพศที่สามไม่ว่าจะเป็น เก้ง กวาง รวมไปถึงตุ๊ดหลายๆคนนั้นรวมไปถึงตัวของอิชั้นเอง ใฝ่ฝันที่จะมีรักเอย หรือความรักที่สมหวัง คบกันยาวนานฉันสามีภรรยากันทั้งนั้น ไม่ใช่ความรักชั่วข้ามคืนที่หาง่ายๆจาก พี่แจ๊ค พี่ฮอน พี่ทิน พี่บลู และพี่ๆอีกหลายคน
(อุ๊บแอบทำรูปคู่ตกไว้ตั้งแต่ต้นกระทู้เลยละกัน เนื้อหาต่อจากนี้ตามลงไปอ่านนะจ้ะ)
แต่เรื่องนี้จะมีเรื่องของความเชื่อมาเกี่ยวข้องนะคะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ย้อนกลับไปช่วงเกือบๆครึ่งปีครึ่งปีที่ผ่านมา ยอมรับเลยว่าชีวิตอิชั้นเหมือนในเรื่องคลื่นชีวิต และอิชั้นป็นมิสจี เลยแหละค่ะ เพราะช่วงเวลานั้นตัวเราเองเครียดมากๆ เพราะต้องออกจากงานอย่างกะทันหัน ไม่ต่างจากการโดนตบหน้ากลางสี่แยกเลยหละค่ะ จนตอนนั้นยอมรับเลยว่า
ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี 2 เดือนเต็มๆ กับการที่ส่งเรซูเม่สมัครงานไปทางอินเทอร์เน็ต เป็นจำนวนมากมายก่ายกองจนนับไม่ถ้วนว่าเราสมัครที่ไหนไปบ้าง คนที่เคยตกงานยาวๆน่าจะเข้าใจเลยว่ามันเป็นยังไง ตอนนั้นถามตัวเองว่า อิชั้นจะต้องหาทางยังไงก็ได้ที่จะทำให้ชีวิตของอิชั้นดีขึ้นกว่านี้ เลยคิดว่า เอาวะ…..ในเมื่อลองทุกวิถีทางแล้ว
อาจจะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเราได้ นั่นก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นเอง!! ยอมรับนะค่ะว่าส่วนตัวของอิชั้นเป็นคนเชื่อในเรื่องแบบนี้มากๆ แต่ยังไม่ถึงกับเต็มร้อย อาทิเช่น เวลาไปขอพรสักข้อ พรข้อนั้นจะต้องสำเร็จก่อน อิชั้นถึงจะเชื่อว่ามีอยู่จริง สองสามวันหลังจากนั้นมาอิชั้น เลยเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อิชั้นเคารพนับถือ เพื่อขอพรให้ชีวิตอิชั้นดีขึ้นกว่านี้
แต่ในขณะที่กำลังจะกลับบ้านนั้น อิชั้นก็ได้พบเจอกับ ผู้หญิงสาวหน้าออกทางจีนๆ วัยทำงานอายุประมาณ 30 กว่าๆเห็นจะได้ เข้ามาทักอิชั้นเฉยเลย
และแล้วบทสนทนาระหว่างอิชั้นกับอิเจ๊ก็เริ่มขึ้น (A = อิชั้น ,B = อิเจ๊)
B : น้องเป็นอะไรรึป่าวคะ ดูหน้าเครียดจัง
A: ห๊ะ ......พี่รู้ได้ยังไงคะ? คุณพี่เป็นหมอดูเหรอคะ?
B : ป่าวจ๊ะคุณน้องแต่หน้าคุณน้องมันดูแบบ ไม่มีความสุขอะ
A: รู้เก่งนะคะคุณพี่ (ด้วยความที่อิชั้นเป็นตุ๊ดช่างคุย ก็เลยเล่าถึงปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นนางฟัง)
B: ดวงคนเรามีขึ้นๆลงๆเป็นช่วงๆ ก็เหมือนกับบางราศีที่บางปีนี้อาจจะเป็นปีชง ก็เลยเจอแต่เรื่องไม่ค่อยดี น้องมีเครื่องราง ของมงคลติดตัวไว้บ้างรึยัง? บางทีเรื่องพวกนี้ก็ช่วยเราได้นะ!!
A: มันดียังไงค่ะคุณพี่ หือ….(เสียงสูง)
B: ก่อนหน้านี้พี่หนะเจอปัญหามาหนักหน่วงทั้งการเงินขายของแทบไม่ได้เลยมาเกือบสามเดือน ไม่มีตังค์จ่ายค่าเช้าร้าน ลูกพี่อีกไม่รู้เด็กมันเป็นอะไร ซนมาก ไม่ฟังแม่เลยสักคำ พี่นี่เครียดมากน้องช่วงนั้น แต่หลังจากที่ลองบูชาแหวนนี้มาใส่ได้ไม่นานชีวิตพี่เปลี่ยนไปจริงๆเหมือนหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย
A: จริงหรอคะพี่ (ในใจคิดว่า เรื่องจริงรึปล่าวนี่?)
A: แล้วหนูจะหาแหวน แบบที่พี่ใส่ได้จากไหน?
B: แปบนะ
A: ขายหรอคะคุณพี่? (เริ่มรู้สึกลำไยเบาๆ)
B: ป่าวจ๊ะ ไม่ได้ขาย เพื่อนพี่เช่ามาให้ เขาเห็นพี่เครียดๆ น้องลองไปหาข้อมูลดูละกัน (สักพักนางก็ค้นในกระเป๋าสะพายของนาง ยื่นกระดาษแผ่นพับมาให้)
A: ขอบคุณนะคะคุณพี่ แล้วพี่เขาก็เดินจากไป ทิ้งเราไว้กับความสงสัย....
หลังจากที่กลับมาจากศาลเจ้าแล้ว ก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับแหวนตามอินเทอร์เน็ตต่างๆดู ว่ามันช่วยเรื่องอะไรบ้าง ก็ได้มาเจอเพจอะไรสักเพจเนี่ยแหละค่ะที่เกี่ยวกับเยาวราช ในนั้นมีรีวิวเกี่ยวกับแหวนวงนี้เพียบเลย เป็นคลิปเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้ที่ใส่แหวนแล้วชีวิตเริ่มดีขึ้น เนี้ยแหล่ะ……ก็เริ่มอยากลองบ้างว่ามันจะดีจริงสมคำร่ำหรือหรือไม่ จนหาข้อมูลมากพอก็รู้ว่า แหวนวงนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะผ่านการปลุกเสกมาแล้ว สุดท้ายอิชั้นก็ลองบูชามาสักวงเพื่อพิสูจน์หน่อย
.......................
.......................
ป๊าดดดด หลังจากใส่แหวนวงนี้ยังไม่ถึงอาทิตย์ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามนะคะ มีบริษัทที่ติดต่อให้ตัวอิชั้นไปสัมภาษณ์งานมากมาย (มากกว่า 7 บริษัท ) ในอาทิตย์เดียว ซึ่งที่ฟินไปกว่านั้นก็คืออิชั้นสามารถเรียกเงินเดือนได้อีก รู้สึกเลอค่ามาก ก็วันนี้เนี่ยแหละค่ะ (อ้ะอ้ะลืมบอกไปเวลาใส่แหวนแล้วอย่าลืมอธิษฐานขอพรด้วยนะจ้ะ เพื่อความมั่นใจ)
งานมาแล้วเพี้ยงงงง หลัวก็กำลังจะมาแล้ว มาอ่านกันต่อเลยค่ะ
เหตุการณ์ที่หนึ่ง มีผู้เก้ง ในเฟซบุ้คคนหนึ่งที่เราแอบชอบนางมากๆ ตาโต ดัดฟัน หน้าสาวนิดๆ สเป็คมาก ชอบถึงขั้นคลั่งไคล้ จนต้องเซฟรูปนางไปนอนฝันอยู่บ่อยๆ ก็ว่าได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นางไม่เคยสนใจ อิชั้นเลย ไม่ว่าอิชั้นจะไปรัวไลค์ จะไปเม้นสเตตัส ใดๆ รวมถึงที่อิชั้นกดสะกิดไปก็แล้ว ไม่มีสัญญาณตอบกลับมาเลยค่ะ แต่อยู่มาวันหนึ่งนางก็ทักเรามาแบบไม่มีสาเหตุ และบอกชอบเราเฉย แต่ที่ฟินไปกว่านั้นคือ
นางร้องเพลงพร้อมบอกชอบมาเป็นเสียงเลยจ้า โอ้ยฟินมะ !ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆคนที่ไม่คิดว่าเค้าจะมาชอบเราได้ กลับมาบอกชอบเราเฉย เราก็ถามเค้านะว่า ถ้าชอบเราก่อนหน้านี้ทำไม เชิ่ดใส่กันแบบนี้ นางบอกแค่
“ไม่รู้สิ คงยังไม่ถึงเวลา” “ เวลาอัลไล” !! ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย หลังจากนั้นเราก็ได้นัดเดทไปดูหนังกินข้าวกัน
เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในระยะเวลาเดียวกันคือ มีเพื่อนของเพื่อนสนิทอิชั้นคนหนึ่งนามสมมุติว่า สกาเล็ต เพื่อนเก้งของสกาเล็ตคนนี้ อิชั้นเคยเจอกันประมาณสองรอบตามสถานบันเทิงต่างๆ หน้าตาเค้าก็พอใช้ได้ พอกินได้ แต่เวลาที่เราเจอกันนางก็ไม่ได้มีปฎิกิริยา หรือท่าทีอะไรที่จะชอบอิชั้นเลย อาจจะมีฟิลลิ่งแบบเวลาอิชั้นดื่มอยู่ก็จะมาแซว
“เมาแล้วอ่อ เมาแล้วอ่อ กลับบ้านไหวปะเนี่ย” อิชั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคนเป็นเพื่อนๆกันก็ถามไถ่กัน เป็นห่วงกันก็คงจะไม่แปลก จริงมะคะ? แต่อยู่ดีๆนางก็แอดไลน์อิชั้นมาเฉยเลย ชวนคุยสารพัดสารเพ อยู่ประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ นางก็บอกชอบอิชั้นจ่ะ สวยๆ เชื่อเลยว่าใครอ่านก็คงด่าอิชั้นแบบออกเสียงแน่ๆ ว่าขอดูหนังหน้าอิชั้นหน่อยทำไมสวยเบอร์ไหน อิชั้นยังหมันไส้ตัวเองเลย แต่มันยังไม่หมดนะคะ
(เพื่อนนี,สกาเล็ต,อิชั้น)
เหตุการณ์ที่สาม ขอท้าวความกลับไปในช่วงที่พึ่งได้เข้าทำงาน (ที่ทำงานปัจจุบัน) ในบริษัทเกี่ยวกับการเงินแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานแต่ละบริษัทก็ต้องมีพี่ที่ดูแลเรา หรือเทรนงานเราชิมิคะ ? ซึ่งอิชั้นขอใช้นามสมมุติของพี่ผู้ชายคนนี้ว่า B นะคะ พี่ B อายุมากกว่าอิชั้นไม่มากมาย หน้าตาเฉยๆ ไม่ได้ดีอะไรมากมาย ในช่วงแรกๆพี่ B ก็สอนงานอิชั้นปกติจนอิชั้นค่อนข้างจะเริ่มเป็นงาน เข้าสู่อาทิตย์ที่สอง เมื่ออิชั้นเดินทางมาถึงบริษัท ทุกเช้าบนโต๊ะทำงานของอิชั้นจะมีของกินมาวางไว้บนโต๊ะ แต่ ละวันจะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเปล่าหมูหยอง (ฟิลลิ่งแบบเด็กๆกินอะคะ),ขนมปัง นม ,สลัด อะไรแบบนี้ซึ่งก็จะมี
“แผ่นโพสต์อิท” แปะมาให้ด้วยเสมอ บางวันก็เขียนมาซะน่ารักเลย “
อย่าลืมกินข้าวเช้านะครับ….เป็นห่วง” บางวันก็มาแบบ
เลยแบบ “
แหลกดูกให้หมดนะคะ บอกตรงๆในชีวิตตุ๊ดคนหนึ่งไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ แต่ก็น่ารักดีนะ ยิ่งนับวันผ่านไปเรากับพี่ B ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นอาจจะมีนัดทานข้าวกันนอกเวลางานบ้าง ยอมรับว่ามีแอบหวั่นไหวนะ เพราะเจอกันทุกวันขนาดนี้ ตอนนั้นก็ถามตัวเองนะว่าคนที่เอาของกินมาให้เราทุกเช้าจะเป็นพี่ B หรือเปล่านะ เพราะเคยได้ยินคนในออฟฟิศเมาท์พี่ B ให้เราฟังอยู่ว่านางเป็นเก้ง แต่สุดท้ายก็เหมือนทำข้อสอบกาข้อที่ถูกต้องนั่นแหละค่ะ พี่ B ก็ยอมสารภาพกับเราตรงๆว่าเค้าเนี่ยแหละเป็นคนเอามาให้เราและรู้สึกดีกับเราจริงๆ
ชอบคนอารมณ์นี้มากๆ ดิบๆแต่ยังแฝงความน่ารัก
และตอนนี้ก็ถึงเวลาตัดสินใจจะเลือกใครสักคนมาเป็นหลัวแล้วค่ะ จะเก็บไว้สามคนแบบนี้ไม่ได้นะ ลำบากใจจริงๆ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยมีผู้เข้ามาในช่วงเวลาเดียวกันสามคนขนาดนี้เลย แต่สุดท้ายเราก็แพ้ทางพี่ B ค่ะ คงเป็นเพราะความใกล้ชิดละมั้งค่ะ เจอกันทุกวัน คุยกันทุกวัน ถึงพี่ B อาจจะไม่ใช่สเป็คอิชั้นเท่าคนอื่น แต่ตุ๊ดอย่างอิชั้นก็คงต้องบอกว่าแพ้ใกล้ชิดจริงๆ
จากวันนั้นจนวันนี้อิชั้นกับพี่ B ก็คบกันมาได้หลายเดือนแล้ว จากก่อนหน้านี้เคยทำงานด้วยกันแค่บนโต๊ะตอนนี้เลื่อนขั้นไปทำงานกันบนเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งก็อาจจะมีทะเลาะกันบ้างดีกันบ้างก็คงเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ จริงมั้ยค่ะ ? จนถึงวันนี้ก็ผ่านปัญหามาหลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน และเรื่องความรัก
ที่มันดีขึ้นได้เพราะแหวนที่อิชั้นใส่หรือเปล่า? ที่ทำให้อิชั้น ทั้งลัคกี้อินเกมส์และลัคกี้อินเลิฟอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะคะใครที่สนใจก็ลองศึกษาหาข้อมูลกันดูนะคะ
ถามว่าทำไมถึงเชื่อว่าแหวนช่วยเราได้ เพราะก่อนหน้านี้เราโสดมายาวมากๆแห้งมาเกือบจะห้าปีแล้ว
เหมือนเดินอยู่กลางป่ารกทั้งโดนกิ่งไม้เกี่ยว เดินสะดุดหินล้มบ้าง ไม่เคยสมหวัง มีแต่นกกับนกมาตลอด จนตอนนี้อิชั้นเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนชะนีของอิชั้นคนหนึ่งฟัง ด้วยความที่นางยังโสดนางก็เลยสนใจแหวนเหมือนกัน หลังจากนี้มาช่วยลุ้นกันดีกว่าว่านางจะหาผัวได้หรือไม่ เป็นกำลังใจให้นางด้วยค่ะ ถ้านางสมหวังอิชั้นจะมารีวิวให้ทุกคนได้ฟังอีกทีนะค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่ผ่านมาดูการอวดผัวของอิชั้นจนจบ กราบ !!!
ปล.ขอบคุณอิเจ๊ที่ศาลเจ้าด้วย เพราะหากไม่เจออิเจ๊ เรื่องดีๆแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ค่ะ
[CR] ไดอารี่ตุ๊ดซี่(ส่วนตัว) เก็บตกการหาสามี เงิน งาน และความรัก (แบบฉบับ ตุ๊ดเล่นของ) 555+
(อุ๊บแอบทำรูปคู่ตกไว้ตั้งแต่ต้นกระทู้เลยละกัน เนื้อหาต่อจากนี้ตามลงไปอ่านนะจ้ะ)
แต่เรื่องนี้จะมีเรื่องของความเชื่อมาเกี่ยวข้องนะคะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ย้อนกลับไปช่วงเกือบๆครึ่งปีครึ่งปีที่ผ่านมา ยอมรับเลยว่าชีวิตอิชั้นเหมือนในเรื่องคลื่นชีวิต และอิชั้นป็นมิสจี เลยแหละค่ะ เพราะช่วงเวลานั้นตัวเราเองเครียดมากๆ เพราะต้องออกจากงานอย่างกะทันหัน ไม่ต่างจากการโดนตบหน้ากลางสี่แยกเลยหละค่ะ จนตอนนั้นยอมรับเลยว่า ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดี 2 เดือนเต็มๆ กับการที่ส่งเรซูเม่สมัครงานไปทางอินเทอร์เน็ต เป็นจำนวนมากมายก่ายกองจนนับไม่ถ้วนว่าเราสมัครที่ไหนไปบ้าง คนที่เคยตกงานยาวๆน่าจะเข้าใจเลยว่ามันเป็นยังไง ตอนนั้นถามตัวเองว่า อิชั้นจะต้องหาทางยังไงก็ได้ที่จะทำให้ชีวิตของอิชั้นดีขึ้นกว่านี้ เลยคิดว่า เอาวะ…..ในเมื่อลองทุกวิถีทางแล้ว อาจจะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเราได้ นั่นก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นเอง!! ยอมรับนะค่ะว่าส่วนตัวของอิชั้นเป็นคนเชื่อในเรื่องแบบนี้มากๆ แต่ยังไม่ถึงกับเต็มร้อย อาทิเช่น เวลาไปขอพรสักข้อ พรข้อนั้นจะต้องสำเร็จก่อน อิชั้นถึงจะเชื่อว่ามีอยู่จริง สองสามวันหลังจากนั้นมาอิชั้น เลยเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อิชั้นเคารพนับถือ เพื่อขอพรให้ชีวิตอิชั้นดีขึ้นกว่านี้
แต่ในขณะที่กำลังจะกลับบ้านนั้น อิชั้นก็ได้พบเจอกับ ผู้หญิงสาวหน้าออกทางจีนๆ วัยทำงานอายุประมาณ 30 กว่าๆเห็นจะได้ เข้ามาทักอิชั้นเฉยเลย
A: ห๊ะ ......พี่รู้ได้ยังไงคะ? คุณพี่เป็นหมอดูเหรอคะ?
B : ป่าวจ๊ะคุณน้องแต่หน้าคุณน้องมันดูแบบ ไม่มีความสุขอะ
A: รู้เก่งนะคะคุณพี่ (ด้วยความที่อิชั้นเป็นตุ๊ดช่างคุย ก็เลยเล่าถึงปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นนางฟัง)
B: ดวงคนเรามีขึ้นๆลงๆเป็นช่วงๆ ก็เหมือนกับบางราศีที่บางปีนี้อาจจะเป็นปีชง ก็เลยเจอแต่เรื่องไม่ค่อยดี น้องมีเครื่องราง ของมงคลติดตัวไว้บ้างรึยัง? บางทีเรื่องพวกนี้ก็ช่วยเราได้นะ!!
A: มันดียังไงค่ะคุณพี่ หือ….(เสียงสูง)
B: ก่อนหน้านี้พี่หนะเจอปัญหามาหนักหน่วงทั้งการเงินขายของแทบไม่ได้เลยมาเกือบสามเดือน ไม่มีตังค์จ่ายค่าเช้าร้าน ลูกพี่อีกไม่รู้เด็กมันเป็นอะไร ซนมาก ไม่ฟังแม่เลยสักคำ พี่นี่เครียดมากน้องช่วงนั้น แต่หลังจากที่ลองบูชาแหวนนี้มาใส่ได้ไม่นานชีวิตพี่เปลี่ยนไปจริงๆเหมือนหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย
A: จริงหรอคะพี่ (ในใจคิดว่า เรื่องจริงรึปล่าวนี่?)
A: แล้วหนูจะหาแหวน แบบที่พี่ใส่ได้จากไหน?
B: แปบนะ
A: ขายหรอคะคุณพี่? (เริ่มรู้สึกลำไยเบาๆ)
B: ป่าวจ๊ะ ไม่ได้ขาย เพื่อนพี่เช่ามาให้ เขาเห็นพี่เครียดๆ น้องลองไปหาข้อมูลดูละกัน (สักพักนางก็ค้นในกระเป๋าสะพายของนาง ยื่นกระดาษแผ่นพับมาให้)
A: ขอบคุณนะคะคุณพี่ แล้วพี่เขาก็เดินจากไป ทิ้งเราไว้กับความสงสัย....
หลังจากที่กลับมาจากศาลเจ้าแล้ว ก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับแหวนตามอินเทอร์เน็ตต่างๆดู ว่ามันช่วยเรื่องอะไรบ้าง ก็ได้มาเจอเพจอะไรสักเพจเนี่ยแหละค่ะที่เกี่ยวกับเยาวราช ในนั้นมีรีวิวเกี่ยวกับแหวนวงนี้เพียบเลย เป็นคลิปเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้ที่ใส่แหวนแล้วชีวิตเริ่มดีขึ้น เนี้ยแหล่ะ……ก็เริ่มอยากลองบ้างว่ามันจะดีจริงสมคำร่ำหรือหรือไม่ จนหาข้อมูลมากพอก็รู้ว่า แหวนวงนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะผ่านการปลุกเสกมาแล้ว สุดท้ายอิชั้นก็ลองบูชามาสักวงเพื่อพิสูจน์หน่อย
.......................
.......................
ป๊าดดดด หลังจากใส่แหวนวงนี้ยังไม่ถึงอาทิตย์ จะเชื่อหรือไม่ก็ตามนะคะ มีบริษัทที่ติดต่อให้ตัวอิชั้นไปสัมภาษณ์งานมากมาย (มากกว่า 7 บริษัท ) ในอาทิตย์เดียว ซึ่งที่ฟินไปกว่านั้นก็คืออิชั้นสามารถเรียกเงินเดือนได้อีก รู้สึกเลอค่ามาก ก็วันนี้เนี่ยแหละค่ะ (อ้ะอ้ะลืมบอกไปเวลาใส่แหวนแล้วอย่าลืมอธิษฐานขอพรด้วยนะจ้ะ เพื่อความมั่นใจ)
งานมาแล้วเพี้ยงงงง หลัวก็กำลังจะมาแล้ว มาอ่านกันต่อเลยค่ะ
เหตุการณ์ที่หนึ่ง มีผู้เก้ง ในเฟซบุ้คคนหนึ่งที่เราแอบชอบนางมากๆ ตาโต ดัดฟัน หน้าสาวนิดๆ สเป็คมาก ชอบถึงขั้นคลั่งไคล้ จนต้องเซฟรูปนางไปนอนฝันอยู่บ่อยๆ ก็ว่าได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นางไม่เคยสนใจ อิชั้นเลย ไม่ว่าอิชั้นจะไปรัวไลค์ จะไปเม้นสเตตัส ใดๆ รวมถึงที่อิชั้นกดสะกิดไปก็แล้ว ไม่มีสัญญาณตอบกลับมาเลยค่ะ แต่อยู่มาวันหนึ่งนางก็ทักเรามาแบบไม่มีสาเหตุ และบอกชอบเราเฉย แต่ที่ฟินไปกว่านั้นคือ นางร้องเพลงพร้อมบอกชอบมาเป็นเสียงเลยจ้า โอ้ยฟินมะ !ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆคนที่ไม่คิดว่าเค้าจะมาชอบเราได้ กลับมาบอกชอบเราเฉย เราก็ถามเค้านะว่า ถ้าชอบเราก่อนหน้านี้ทำไม เชิ่ดใส่กันแบบนี้ นางบอกแค่ “ไม่รู้สิ คงยังไม่ถึงเวลา” “ เวลาอัลไล” !! ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย หลังจากนั้นเราก็ได้นัดเดทไปดูหนังกินข้าวกัน
เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในระยะเวลาเดียวกันคือ มีเพื่อนของเพื่อนสนิทอิชั้นคนหนึ่งนามสมมุติว่า สกาเล็ต เพื่อนเก้งของสกาเล็ตคนนี้ อิชั้นเคยเจอกันประมาณสองรอบตามสถานบันเทิงต่างๆ หน้าตาเค้าก็พอใช้ได้ พอกินได้ แต่เวลาที่เราเจอกันนางก็ไม่ได้มีปฎิกิริยา หรือท่าทีอะไรที่จะชอบอิชั้นเลย อาจจะมีฟิลลิ่งแบบเวลาอิชั้นดื่มอยู่ก็จะมาแซว “เมาแล้วอ่อ เมาแล้วอ่อ กลับบ้านไหวปะเนี่ย” อิชั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคนเป็นเพื่อนๆกันก็ถามไถ่กัน เป็นห่วงกันก็คงจะไม่แปลก จริงมะคะ? แต่อยู่ดีๆนางก็แอดไลน์อิชั้นมาเฉยเลย ชวนคุยสารพัดสารเพ อยู่ประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ นางก็บอกชอบอิชั้นจ่ะ สวยๆ เชื่อเลยว่าใครอ่านก็คงด่าอิชั้นแบบออกเสียงแน่ๆ ว่าขอดูหนังหน้าอิชั้นหน่อยทำไมสวยเบอร์ไหน อิชั้นยังหมันไส้ตัวเองเลย แต่มันยังไม่หมดนะคะ
(เพื่อนนี,สกาเล็ต,อิชั้น)
เหตุการณ์ที่สาม ขอท้าวความกลับไปในช่วงที่พึ่งได้เข้าทำงาน (ที่ทำงานปัจจุบัน) ในบริษัทเกี่ยวกับการเงินแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานแต่ละบริษัทก็ต้องมีพี่ที่ดูแลเรา หรือเทรนงานเราชิมิคะ ? ซึ่งอิชั้นขอใช้นามสมมุติของพี่ผู้ชายคนนี้ว่า B นะคะ พี่ B อายุมากกว่าอิชั้นไม่มากมาย หน้าตาเฉยๆ ไม่ได้ดีอะไรมากมาย ในช่วงแรกๆพี่ B ก็สอนงานอิชั้นปกติจนอิชั้นค่อนข้างจะเริ่มเป็นงาน เข้าสู่อาทิตย์ที่สอง เมื่ออิชั้นเดินทางมาถึงบริษัท ทุกเช้าบนโต๊ะทำงานของอิชั้นจะมีของกินมาวางไว้บนโต๊ะ แต่ ละวันจะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเปล่าหมูหยอง (ฟิลลิ่งแบบเด็กๆกินอะคะ),ขนมปัง นม ,สลัด อะไรแบบนี้ซึ่งก็จะมี “แผ่นโพสต์อิท” แปะมาให้ด้วยเสมอ บางวันก็เขียนมาซะน่ารักเลย “อย่าลืมกินข้าวเช้านะครับ….เป็นห่วง” บางวันก็มาแบบเลยแบบ “แหลกดูกให้หมดนะคะ บอกตรงๆในชีวิตตุ๊ดคนหนึ่งไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ แต่ก็น่ารักดีนะ ยิ่งนับวันผ่านไปเรากับพี่ B ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นอาจจะมีนัดทานข้าวกันนอกเวลางานบ้าง ยอมรับว่ามีแอบหวั่นไหวนะ เพราะเจอกันทุกวันขนาดนี้ ตอนนั้นก็ถามตัวเองนะว่าคนที่เอาของกินมาให้เราทุกเช้าจะเป็นพี่ B หรือเปล่านะ เพราะเคยได้ยินคนในออฟฟิศเมาท์พี่ B ให้เราฟังอยู่ว่านางเป็นเก้ง แต่สุดท้ายก็เหมือนทำข้อสอบกาข้อที่ถูกต้องนั่นแหละค่ะ พี่ B ก็ยอมสารภาพกับเราตรงๆว่าเค้าเนี่ยแหละเป็นคนเอามาให้เราและรู้สึกดีกับเราจริงๆ
ชอบคนอารมณ์นี้มากๆ ดิบๆแต่ยังแฝงความน่ารัก
และตอนนี้ก็ถึงเวลาตัดสินใจจะเลือกใครสักคนมาเป็นหลัวแล้วค่ะ จะเก็บไว้สามคนแบบนี้ไม่ได้นะ ลำบากใจจริงๆ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยมีผู้เข้ามาในช่วงเวลาเดียวกันสามคนขนาดนี้เลย แต่สุดท้ายเราก็แพ้ทางพี่ B ค่ะ คงเป็นเพราะความใกล้ชิดละมั้งค่ะ เจอกันทุกวัน คุยกันทุกวัน ถึงพี่ B อาจจะไม่ใช่สเป็คอิชั้นเท่าคนอื่น แต่ตุ๊ดอย่างอิชั้นก็คงต้องบอกว่าแพ้ใกล้ชิดจริงๆ
จากวันนั้นจนวันนี้อิชั้นกับพี่ B ก็คบกันมาได้หลายเดือนแล้ว จากก่อนหน้านี้เคยทำงานด้วยกันแค่บนโต๊ะตอนนี้เลื่อนขั้นไปทำงานกันบนเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งก็อาจจะมีทะเลาะกันบ้างดีกันบ้างก็คงเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ จริงมั้ยค่ะ ? จนถึงวันนี้ก็ผ่านปัญหามาหลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน และเรื่องความรัก ที่มันดีขึ้นได้เพราะแหวนที่อิชั้นใส่หรือเปล่า? ที่ทำให้อิชั้น ทั้งลัคกี้อินเกมส์และลัคกี้อินเลิฟอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะคะใครที่สนใจก็ลองศึกษาหาข้อมูลกันดูนะคะ ถามว่าทำไมถึงเชื่อว่าแหวนช่วยเราได้ เพราะก่อนหน้านี้เราโสดมายาวมากๆแห้งมาเกือบจะห้าปีแล้ว เหมือนเดินอยู่กลางป่ารกทั้งโดนกิ่งไม้เกี่ยว เดินสะดุดหินล้มบ้าง ไม่เคยสมหวัง มีแต่นกกับนกมาตลอด จนตอนนี้อิชั้นเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนชะนีของอิชั้นคนหนึ่งฟัง ด้วยความที่นางยังโสดนางก็เลยสนใจแหวนเหมือนกัน หลังจากนี้มาช่วยลุ้นกันดีกว่าว่านางจะหาผัวได้หรือไม่ เป็นกำลังใจให้นางด้วยค่ะ ถ้านางสมหวังอิชั้นจะมารีวิวให้ทุกคนได้ฟังอีกทีนะค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่ผ่านมาดูการอวดผัวของอิชั้นจนจบ กราบ !!!
ปล.ขอบคุณอิเจ๊ที่ศาลเจ้าด้วย เพราะหากไม่เจออิเจ๊ เรื่องดีๆแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ค่ะ