2 มิ.ย.60 ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก อยากให้เป็นของขวัญลูกสาวที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เลยตกลงกันว่า
ปะป๊าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่ส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนชอบอาหารไทยรสจัด ไอ้ประเภท จืดๆ เค็มๆ
อย่างอาหารญี่ปุ่นที่ทานในเมืองไทย ผมมักจะผะอืดผะอมก่อนอิ่ม ถึงขนาดที่เคยไปทานราเม็งเจ้าดังแถวเอกมัย
ยังต้องแอบไปอ้วกออกมา แล้วยังเคยไปทานร้านดังในทองหล่อ ยังต้องแอบเอาพวงพริกน้ำตาลน้ำส้มน้ำปลา
เข้าไปปรุง เพื่อให้ไม่เลี่ยน
แต่ ... ไม่เป็นไร ลองดู ... เพื่อลูก
ว่าแล้วก็เริ่มหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะจากเว็บ pantip นี่แหละ อันที่จริงส่วนตัวแล้วผมก็มีความอยาก
ที่จะไปประเทศนี้มานานแล้ว เนื่องจากตอนหนุ่มๆ ได้เคยไปโดนเครื่องบินดีเลย์ที่ญี่ปุ่น เลยต้องพักค้างคืนที่ รร.
ในญี่ปุ่น 1 คืน ซึ่งได้เกิดความประทับใจในสภาพบ้านเมือง สภาพอากาศ และการบริการ มามากพอสมควร
ทีนี้พอยิ่งอ่านจากกระทู้ต่างๆ ใน pantip ยิ่งไปกระตุ้นต่อมอยากให้มันพองโตขึ้นอีกมากมายก่ายกอง เลยตัดสินใจว่า
ไปเต็มรูปแบบครั้งนี้ จะไม่เอาแบบไปทัวร์ เพราะกลัวว่าจะเจอกับ ชะโงกทัวร์ แล้วอาจไม่ประทับใจลูกสาวก็เป็นได้
ไอ้ครั้นจะไปยาวๆ ก็กลัวว่าจะเสียการเสียงานทั้งพ่อทั้งลูก เลยว่าจะไปแค่อาทิตย์เดียว
พอดูจุดที่จะไป ก็ลงความเห็นกันว่า เริ่มที่ โตเกียว น่าจะเหมาะที่สุด เพราะสามารถขยายผลไปพื้นที่ข้างเคียงได้โดยง่าย
แรกเริ่มวางแผนไว้ว่าจะไป ดังนี้
ลง นาริตะ - พักดูภูเขาไฟฟูจิแช่ออนเซ็น 2 วัน - โยโกฮ่าม่า 1 วัน - ฮาโกเน่ 1 วัน - เที่ยวโตเกียวอีก 3 วัน - กลับ
4 มิ.ย. 60 กำลังวางแผนทัวร์กับการเดินทางและที่พัก เพิ่งจะเสร็จไปแค่โตเกียว (ข้อมูลใน pantip เพียบ) ลูกสาวเดินมาถามว่า
ลูกสาว : ปะป๊าจะพาไปวันไหนเหรอคะ
ผม : ก็คงราวๆ ปลายเดือนนี่หละลูก ประมาณ 22-29 นี้หละ
ลูกสาว : หนูไม่ว่าง มหาลัยเขามีงาน หนูต้องไปเตรียมเอกสาร
… ช็อตไปชั่วครู่ …
ผม : งั้นเลื่อนไปต้นเดือนหน้าก็ได้ลูก
ลูกสาว : เดือนหน้าหนูต้องไปพาร์ทไทม์จ็อบทั้งเดือนเลย
… อึ้งไปพัก …
ผม : งั้นเดือนสิงหาก็ได้ลูก
ลูกสาว : มหาลัยเปิดปลายเดือน ช่วงต้นเดือนเขามีกิจกรรมกันค่ะ
… หงายหลังตึงเลยทีนี้ …
ผม : อืมมมมม ... เอาเป็นว่า หนูไม่มีเวลาแล้วใช่มั้ยคะ
ลูกสาว : ค่ะ
แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณพ่อที่กำลังสานฝันอยู่ในอาการ … สงัด …
ซักพัก พอได้สติกลับมาก็มาใคร่ครวญดูอีกทีว่า แล้วเราจะล้มเลิกทริปนี้เลยดีมั้ย ใจนึงก็คิดว่า ในเมื่อลูกไม่ไป
ก็ไม่เห็นต้องไปเลย ร้อนก็ร้อน อาหารการกินก็ไม่น่าจะถูกปากเท่าไหร่ ไปตอนนี้สภาพอากาศคงไม่ต่างจาก
เมืองไทย ไม่ต้องเปลืองตังค์ด้วย เคลิ้มๆ ไปว่าจะขยำแผนทัวร์ทิ้ง
(ต๊ะ..ดริ้ง..) ....
เสียงไลน์เตือนมาว่ามีแมสเซจ เปิดไปดู
อ้า .................... เหมือนสวรรค์ชี้ทาง ไลน์ของแอร์เอเซีย ขึ้นแจ้งมาว่ามี Big Sale เลยตามเข้าไปดู
โห........ มีแพ็คเกจแบบรวมโรงแรมด้วย ที่นี้ก็เป็นเรื่องเลย
กดเข้าไปดูข้อมูลทั้งวัน จนไอ้ที่เคยเคลิ้มๆ ว่า จะยกเลิกทริป เป็นอันไม่สนใจมันละ ..... ไปคนเดียวก็ได้วะ
ทีนี้ก็ต้องมาเอาความชอบของตัวเองใส่เข้าไปเต็มๆ
: อยากเดินทางไปถึงเช้าแล้วเที่ยวเลย
: ขี้เกียจตื่นเช้าวันกลับขอไม่เอาไฟล์ทเช้าขากลับละกัน
: ไอ้ที่ว่าจะไปกับลูก 7 วัน ก็เอาแค่ 4 วันให้หายอยาก
: อยากกลับมาถึงเมืองไทยดึกๆ หน่อย รถจะได้ไม่ติด
ทั้งหมด ก็ได้ละ ..... แอร์เอเซีย ตอบโจทย์ได้
ต่อมาก็ต้องหาที่ซุกหัวนอน ... ไอ้เรื่องหาที่พักนี่เรื่องใหญ่ ต้องเปิดกูเกิ้ลแม็พ เทียบตลอด เพราะไม่เคยไป เงื่อนไขก็เยอะ
: อยากนอนเป็นส่วนตัว เพราะเป็นคนนอนกรน เกรงว่าจะไปรบกวนคนอื่นเขา
: เป็นคนสูบบุหรี่ ก็ไม่อยากจะให้ใครต้องมาทนเหม็นด้วย (มากะลูกสงสัยลงแดงตาย)
: เข้าห้องน้ำก็นาน
: ชอบนอนแข่อ่างเป็นที่สุด
เลือกไปเลือกมาชักไปกันใหญ่ แพงซะขนาด ที่ถูกใจก็อยู่ไกลไปถึงโตเกียวตะวันตก สุดท้ายเอาที่ไหนก็ได้ที่มันใกล้
เป้าหมายแรก คือ วัดเซ็นโซจิ กดดูหลากหลาย รร. หลากหลายแหล่ง ... จนกระทั่ง
5 มิ.ย.60 จองแพ็กเกจ ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ดอนเมือง-นาริตะ
ถึง นาริตะ 23 มิ.ย. 60 เวลา 08.00 น. กลับ 26 มิ.ย.60 เวลา 20.55 น.
พร้อมที่พัก 3 คืน (23/24/25) ราคา 13,646.19 บาท ที่ Hotel Livemax Higashi Ueno
ได้ตั๋วเครื่องบิน - ที่พักละ ต่อไปก็การเดินทางไปสถานที่ที่อยากไป ก็เริ่มเอาแผนทริปเดิมมาแก้ใหม่ ปรับเปลี่ยนเป็น
เที่ยวในโตเกียวเป็นหลัก แต่แอบหวังว่าถ้าฟ้าเปิดจะรีบตีตั๋วไปดูภูเขาไฟฟูจิให้จงได้ ระหว่างนี้ก็เอาแต่นั่งอ่านรีวิวทริป
โตเกียวของชาวบ้านเขาไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นเกี่ยวกับทริปย่านอโคจรเท่าไหร่ เลยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี อยากแค่ไปดู
ไปให้รู้แค่นั้น อ่านๆ ดูก็น่าจะแถวๆ คาบูกิโช อากิฮาบาระ รึเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ก็ใส่ไว้ในโปรแกรมสมองละ
ถ้ามีเวลาจะแว้บไปดูให้จงได้
ต่อมาก็เรื่องการเดินทางไปกลับสนามบินที่ญี่ปุ่น และการเดินทางใช้ชีวิตที่นั่น อ่านๆ ดูจากรีวิวหลายเจ้าเห็นว่า
การเดินทางโดยซับเวย์แบบเหมาวันน่าจะคุ่มค่าที่สุด ก็เลยมานั่งคิดดูว่าจะเอาเจ้าไหนดี ระหว่าง
เจอาร์ กับ เคย์เซย์ + โตเกียวซับเวย์ ..... สารภาพตรงๆ ว่า งง แล้วก็ไม่รู้เรื่องว่ามันจะไปที่ไหนมั่ง
เลยคิดเอาง่ายๆ ว่า เอาแบบที่มันเร็วๆ แล้วก็มีสายเยอะๆ มันน่าจะสะดวกกว่า อยู่โตเกียว 4 วัน มันไม่มี
งั้นเอา 3 วันละกัน เยอะสุด อีกวันค่อยเดินเอา ก็เลยเลือก ตั๋วโดยสาร Skyliner ไปกลับ + ตั๋ว Tokyo Subway 72 ช.ม.
คราวนี้ก็เรื่องการเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนตัว หาข้อมูลดูว่าควรจะมีไปขั้นต่ำซักเท่าไหร่ให้เพียงพอกับ
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ ซึ่งก็คือ
- กินเนื้อย่างให้เต็มคราบ
- กินซูชิ+ปลาดิบ ที่ตลาดปลาซึกิจิ
- กินซูชิที่ร้านมิโดริ
- กินขนมแถววัดเซ็นโซจิให้เหี้ยน
- ไปแช่ออนเซ็นที่โอไดบะ
- ซื้อรองเท้าโอนิตซูกะให้เมีย และลูกสาว
- ซื้อของเล่นให้ลูกชายคนกลาง และเจ้าตัวเล็ก
- ซื้อขนมฝากญาติโยมทั้งหลาย
- (ถ้ามีโอกาส) ไปดูฟูจิ
คำนวนคร่าวๆ แล้วก็เลยน่าจะแลกเงินไปประมาณ 1 แสนเยน
แถมด้วยเอาบัตรเครดิตไปอีก 2 ใบ ...... น่าจะพอนะ
7 มิ.ย.60 ซื้อ ตั๋วโดยสาร Skyliner ไปกลับ + ตั๋ว Tokyo Subway 72 ช.ม. โดยไปซื้อที่ HIS สาขา MRT จตุจักร
โดนไปอีก 1,720 บาท (แอบบ่น .. พนักงานที่ร้านนี้ทำเหมือนกับว่าเราไปรบกวนเวลาพักผ่อนเขา ทั้งๆ ที่ไปถึง
เวลา 11.20 น. ประเภทถามคำตอบคำ ไม่มีคำแนะนำ ถามอะไรก็บอกแล้วแต่ลูกค้าตัดสินใจค่ะ ............. เซ็ง)
จากนั้นก็ขึ้นไปแลกเงินเยนที่ ซุปเปอร์ริช BTS จตุจักร โดนไปอีก 30,150 บาท ได้มา 1 แสนเยน
ทีนี้ก็มาเรื่องการติดต่อสื่อสาร แรกเริ่มเดิมที ว่าจะเช่าพ็อกเก็ตไวไฟไปใช้ด้วยกันกับลูกสาว แต่พอมาต้องไปคนเดียว
เลยต้องเล็งมองหาแนวทางอื่นแทน มาถูกใจกับการใช้ซิมอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการของญี่ปุ่นเอง เพราะว่าถ้าจะเปิด
โรมมิ่งของบ้านเราไป ดูในส่วนของผู้ให้บริการที่เราใช้อยู่ มันเสียค่าบริการเกือบสองพัน ก็แพงเอาเรื่องเหมือนกัน
คือ ใช้ได้ทั้งโทรทั้งเน็ต แต่ในเมื่อเราสามารถโทรผ่านเน็ตได้ ก็เลยคิดเอาว่า เปิดเป็นซิมเน็ต โดยผู้ให้บริการ
ของญี่ปุ่นเอง น่าจะประหยัดกว่า
ก็ .. ดูๆ อยู่หลายเจ้า จนมาปิ๊งเอากับ Sugoi Sim ที่เคลมว่า ใช้ได้แบบอันลิมิต
ครอบคลุมตั้ง 7 วัน แล้ววิ่งบนเครือข่าย 4 จีด้วย น่าจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการติดต่อสื่อสาร และสะดวก
ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ จัดไปซิครับ SUGOI SIM 7 days Nano SIM 659 บาท (ซื้อบนเน็ตอย่างเดียว รอส่งมาที่บ้าน)
แต่ก็ไม่รู้ว่าใช้งานจริงจะเป็นเช่นไร เอาไว้ถ้าไม่ลืมจะลองทดสอบมาให้ดูครับ
เพิ่มเติมอีกนิด คือ เมื่อตอนนั่งคิดว่าจะซื้ออะไรกลับมาฝากสุดที่รักที่บ้านบ้าง ก็เลยลองคำนวนน้ำหนักว่าจะต้องหิ้วกลับมา
ซักเท่าไหร่
เวนละ ..... งานเข้า น้ำหนักมันน่าจะเกินกว่า 7 กก.ที่สายการบินเขากำหนดให้เอาขึ้นเครื่องได้นี่หว่า เลยต้องเข้าไปจอง
น้ำหนักขากลับเพิ่มอีก 25 กก. จากนั้นก็แว่บเข้าไปดูที่นั่งที่ระบบมันเลือกอัตโนมัติไว้ให้ ปรากฏว่า มันเลือกให้ซะกลางลำเลย
อยู่ติดทางเดินด้วย เสร็จหละตูงานนี้ ไม่เป็นอันได้นอนแน่ เดี๋ยวคนนู้นก็เดินผ่าน เดี๋ยวคนนี้ก็เดินผ่าน ไม่ต้องเป็นอันได้หลับ
ได้นอนกัน เลยต้องเสียเงินค่าเลือกที่นั่งไปอีก โดนไปอีก 2,280 บาท (นน. 25 กก. 1,380 + เลือกที่นั่ง 500 + 400 บาท)
อ้า ........... สบายจายยยยย (แอบคิดไปว่า นี่ตูคิดถูกคิดผิดฟระที่มาบินโลว์คอสต์ บานปลายไปใหญ่เลย)
9 มิ.ย.60 นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทาง ผมยังปวดหัวกับการเตรียมความพร้อมขนาดนี้ เพิ่งไปวัดขนาดกระเป๋าเดินทางที่จะนำไปด้วย
ปรากฏว่า เกินไซส์ที่สายการบินกำหนดให้เอาขึ้นเครื่องได้ งานเข้าอีกละ ... ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อ นน.สัมภาระเพิ่มขาไปอีกรึเปล่า
กำลังชั่งใจว่า จะต้องซื้อน้ำหนักขาไปเพิ่มด้วยมั้ย เพราะกระเป๋ามันโอเวอร์ไซส์ที่จะเอาขึ้นเครื่องได้ น่าจะต้องฝากลงใต้เครื่อง
อย่างเดียว และควรจะต้องไปแลกเงินเตรียมไปเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกมั้ย กลัวว่าจะไม่พอซื้อของฝากให้ลูก ปวดกบาล......
ก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดมันขาดเหลืออะไรอีกมั่งรึเปล่า ผมเอาเท่าที่นึกออกแค่นี้ ขาดอะไร รบกวนช่วยสะกิดเตือน
ผมทีนะครับ กลัวพลาดแล้วจะเสียเงินเสียเวลาไปกันใหญ่ ทริปนี้วางแผนว่าจะไปลองชิมอาหารญี่ปุ่นจริงๆ ดูซักทีว่าเป็นยังไง
แล้วจะมาบรรยายให้ทราบอีกที ในฐานะผู้ที่รักอาหารไทย ชื่นชอบเนื้อวัวเป็นชีวิตจิตใจ และเลิฟขนมหวานมากครับ
เอาไว้จบทริปแล้ว จะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ หวังว่าจะเก็บข้อมูลมาฝากได้ครบถ้วนครับ
(ช่วงนี้ก็รอเวลา แล้วก็เปิดดูพยากรณ์อากาศที่ญี่ปุ่นทุกวัน (อยากไปดูฟูจิ))
ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้ว
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมที่พัก 3 คืน 13,646.19 บาท
- ตั๋วโดยสาร Skyliner ไปกลับ + Tokyo Subway 72 ช.ม. 1,720.00 บาท
- SUGOI SIM 7 days Nano SIM 659.00 บาท
- ซื้อ นน. กลับ 25 กก. + เลือกที่นั่งไปกลับ 2,280.00 บาท
รวม 18,305.19 บาท (จะบานปลายอีกมั้ยนี่)
วางแผนทริปญี่ปุ่น (โตเกียว+) แบบ งง งง (ยังไม่ได้ไปนะครับ)
ปะป๊าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่ส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนชอบอาหารไทยรสจัด ไอ้ประเภท จืดๆ เค็มๆ
อย่างอาหารญี่ปุ่นที่ทานในเมืองไทย ผมมักจะผะอืดผะอมก่อนอิ่ม ถึงขนาดที่เคยไปทานราเม็งเจ้าดังแถวเอกมัย
ยังต้องแอบไปอ้วกออกมา แล้วยังเคยไปทานร้านดังในทองหล่อ ยังต้องแอบเอาพวงพริกน้ำตาลน้ำส้มน้ำปลา
เข้าไปปรุง เพื่อให้ไม่เลี่ยน
แต่ ... ไม่เป็นไร ลองดู ... เพื่อลูก
ว่าแล้วก็เริ่มหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะจากเว็บ pantip นี่แหละ อันที่จริงส่วนตัวแล้วผมก็มีความอยาก
ที่จะไปประเทศนี้มานานแล้ว เนื่องจากตอนหนุ่มๆ ได้เคยไปโดนเครื่องบินดีเลย์ที่ญี่ปุ่น เลยต้องพักค้างคืนที่ รร.
ในญี่ปุ่น 1 คืน ซึ่งได้เกิดความประทับใจในสภาพบ้านเมือง สภาพอากาศ และการบริการ มามากพอสมควร
ทีนี้พอยิ่งอ่านจากกระทู้ต่างๆ ใน pantip ยิ่งไปกระตุ้นต่อมอยากให้มันพองโตขึ้นอีกมากมายก่ายกอง เลยตัดสินใจว่า
ไปเต็มรูปแบบครั้งนี้ จะไม่เอาแบบไปทัวร์ เพราะกลัวว่าจะเจอกับ ชะโงกทัวร์ แล้วอาจไม่ประทับใจลูกสาวก็เป็นได้
ไอ้ครั้นจะไปยาวๆ ก็กลัวว่าจะเสียการเสียงานทั้งพ่อทั้งลูก เลยว่าจะไปแค่อาทิตย์เดียว
พอดูจุดที่จะไป ก็ลงความเห็นกันว่า เริ่มที่ โตเกียว น่าจะเหมาะที่สุด เพราะสามารถขยายผลไปพื้นที่ข้างเคียงได้โดยง่าย
แรกเริ่มวางแผนไว้ว่าจะไป ดังนี้
ลง นาริตะ - พักดูภูเขาไฟฟูจิแช่ออนเซ็น 2 วัน - โยโกฮ่าม่า 1 วัน - ฮาโกเน่ 1 วัน - เที่ยวโตเกียวอีก 3 วัน - กลับ
4 มิ.ย. 60 กำลังวางแผนทัวร์กับการเดินทางและที่พัก เพิ่งจะเสร็จไปแค่โตเกียว (ข้อมูลใน pantip เพียบ) ลูกสาวเดินมาถามว่า
ลูกสาว : ปะป๊าจะพาไปวันไหนเหรอคะ
ผม : ก็คงราวๆ ปลายเดือนนี่หละลูก ประมาณ 22-29 นี้หละ
ลูกสาว : หนูไม่ว่าง มหาลัยเขามีงาน หนูต้องไปเตรียมเอกสาร
… ช็อตไปชั่วครู่ …
ผม : งั้นเลื่อนไปต้นเดือนหน้าก็ได้ลูก
ลูกสาว : เดือนหน้าหนูต้องไปพาร์ทไทม์จ็อบทั้งเดือนเลย
… อึ้งไปพัก …
ผม : งั้นเดือนสิงหาก็ได้ลูก
ลูกสาว : มหาลัยเปิดปลายเดือน ช่วงต้นเดือนเขามีกิจกรรมกันค่ะ
… หงายหลังตึงเลยทีนี้ …
ผม : อืมมมมม ... เอาเป็นว่า หนูไม่มีเวลาแล้วใช่มั้ยคะ
ลูกสาว : ค่ะ
แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณพ่อที่กำลังสานฝันอยู่ในอาการ … สงัด …
ซักพัก พอได้สติกลับมาก็มาใคร่ครวญดูอีกทีว่า แล้วเราจะล้มเลิกทริปนี้เลยดีมั้ย ใจนึงก็คิดว่า ในเมื่อลูกไม่ไป
ก็ไม่เห็นต้องไปเลย ร้อนก็ร้อน อาหารการกินก็ไม่น่าจะถูกปากเท่าไหร่ ไปตอนนี้สภาพอากาศคงไม่ต่างจาก
เมืองไทย ไม่ต้องเปลืองตังค์ด้วย เคลิ้มๆ ไปว่าจะขยำแผนทัวร์ทิ้ง
(ต๊ะ..ดริ้ง..) ....
เสียงไลน์เตือนมาว่ามีแมสเซจ เปิดไปดู
อ้า .................... เหมือนสวรรค์ชี้ทาง ไลน์ของแอร์เอเซีย ขึ้นแจ้งมาว่ามี Big Sale เลยตามเข้าไปดู
โห........ มีแพ็คเกจแบบรวมโรงแรมด้วย ที่นี้ก็เป็นเรื่องเลย
กดเข้าไปดูข้อมูลทั้งวัน จนไอ้ที่เคยเคลิ้มๆ ว่า จะยกเลิกทริป เป็นอันไม่สนใจมันละ ..... ไปคนเดียวก็ได้วะ
ทีนี้ก็ต้องมาเอาความชอบของตัวเองใส่เข้าไปเต็มๆ
: อยากเดินทางไปถึงเช้าแล้วเที่ยวเลย
: ขี้เกียจตื่นเช้าวันกลับขอไม่เอาไฟล์ทเช้าขากลับละกัน
: ไอ้ที่ว่าจะไปกับลูก 7 วัน ก็เอาแค่ 4 วันให้หายอยาก
: อยากกลับมาถึงเมืองไทยดึกๆ หน่อย รถจะได้ไม่ติด
ทั้งหมด ก็ได้ละ ..... แอร์เอเซีย ตอบโจทย์ได้
ต่อมาก็ต้องหาที่ซุกหัวนอน ... ไอ้เรื่องหาที่พักนี่เรื่องใหญ่ ต้องเปิดกูเกิ้ลแม็พ เทียบตลอด เพราะไม่เคยไป เงื่อนไขก็เยอะ
: อยากนอนเป็นส่วนตัว เพราะเป็นคนนอนกรน เกรงว่าจะไปรบกวนคนอื่นเขา
: เป็นคนสูบบุหรี่ ก็ไม่อยากจะให้ใครต้องมาทนเหม็นด้วย (มากะลูกสงสัยลงแดงตาย)
: เข้าห้องน้ำก็นาน
: ชอบนอนแข่อ่างเป็นที่สุด
เลือกไปเลือกมาชักไปกันใหญ่ แพงซะขนาด ที่ถูกใจก็อยู่ไกลไปถึงโตเกียวตะวันตก สุดท้ายเอาที่ไหนก็ได้ที่มันใกล้
เป้าหมายแรก คือ วัดเซ็นโซจิ กดดูหลากหลาย รร. หลากหลายแหล่ง ... จนกระทั่ง
5 มิ.ย.60 จองแพ็กเกจ ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ดอนเมือง-นาริตะ
ถึง นาริตะ 23 มิ.ย. 60 เวลา 08.00 น. กลับ 26 มิ.ย.60 เวลา 20.55 น.
พร้อมที่พัก 3 คืน (23/24/25) ราคา 13,646.19 บาท ที่ Hotel Livemax Higashi Ueno
ได้ตั๋วเครื่องบิน - ที่พักละ ต่อไปก็การเดินทางไปสถานที่ที่อยากไป ก็เริ่มเอาแผนทริปเดิมมาแก้ใหม่ ปรับเปลี่ยนเป็น
เที่ยวในโตเกียวเป็นหลัก แต่แอบหวังว่าถ้าฟ้าเปิดจะรีบตีตั๋วไปดูภูเขาไฟฟูจิให้จงได้ ระหว่างนี้ก็เอาแต่นั่งอ่านรีวิวทริป
โตเกียวของชาวบ้านเขาไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นเกี่ยวกับทริปย่านอโคจรเท่าไหร่ เลยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี อยากแค่ไปดู
ไปให้รู้แค่นั้น อ่านๆ ดูก็น่าจะแถวๆ คาบูกิโช อากิฮาบาระ รึเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ก็ใส่ไว้ในโปรแกรมสมองละ
ถ้ามีเวลาจะแว้บไปดูให้จงได้
ต่อมาก็เรื่องการเดินทางไปกลับสนามบินที่ญี่ปุ่น และการเดินทางใช้ชีวิตที่นั่น อ่านๆ ดูจากรีวิวหลายเจ้าเห็นว่า
การเดินทางโดยซับเวย์แบบเหมาวันน่าจะคุ่มค่าที่สุด ก็เลยมานั่งคิดดูว่าจะเอาเจ้าไหนดี ระหว่าง
เจอาร์ กับ เคย์เซย์ + โตเกียวซับเวย์ ..... สารภาพตรงๆ ว่า งง แล้วก็ไม่รู้เรื่องว่ามันจะไปที่ไหนมั่ง
เลยคิดเอาง่ายๆ ว่า เอาแบบที่มันเร็วๆ แล้วก็มีสายเยอะๆ มันน่าจะสะดวกกว่า อยู่โตเกียว 4 วัน มันไม่มี
งั้นเอา 3 วันละกัน เยอะสุด อีกวันค่อยเดินเอา ก็เลยเลือก ตั๋วโดยสาร Skyliner ไปกลับ + ตั๋ว Tokyo Subway 72 ช.ม.
คราวนี้ก็เรื่องการเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนตัว หาข้อมูลดูว่าควรจะมีไปขั้นต่ำซักเท่าไหร่ให้เพียงพอกับ
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ ซึ่งก็คือ
- กินเนื้อย่างให้เต็มคราบ
- กินซูชิ+ปลาดิบ ที่ตลาดปลาซึกิจิ
- กินซูชิที่ร้านมิโดริ
- กินขนมแถววัดเซ็นโซจิให้เหี้ยน
- ไปแช่ออนเซ็นที่โอไดบะ
- ซื้อรองเท้าโอนิตซูกะให้เมีย และลูกสาว
- ซื้อของเล่นให้ลูกชายคนกลาง และเจ้าตัวเล็ก
- ซื้อขนมฝากญาติโยมทั้งหลาย
- (ถ้ามีโอกาส) ไปดูฟูจิ
คำนวนคร่าวๆ แล้วก็เลยน่าจะแลกเงินไปประมาณ 1 แสนเยน
แถมด้วยเอาบัตรเครดิตไปอีก 2 ใบ ...... น่าจะพอนะ
7 มิ.ย.60 ซื้อ ตั๋วโดยสาร Skyliner ไปกลับ + ตั๋ว Tokyo Subway 72 ช.ม. โดยไปซื้อที่ HIS สาขา MRT จตุจักร
โดนไปอีก 1,720 บาท (แอบบ่น .. พนักงานที่ร้านนี้ทำเหมือนกับว่าเราไปรบกวนเวลาพักผ่อนเขา ทั้งๆ ที่ไปถึง
เวลา 11.20 น. ประเภทถามคำตอบคำ ไม่มีคำแนะนำ ถามอะไรก็บอกแล้วแต่ลูกค้าตัดสินใจค่ะ ............. เซ็ง)
จากนั้นก็ขึ้นไปแลกเงินเยนที่ ซุปเปอร์ริช BTS จตุจักร โดนไปอีก 30,150 บาท ได้มา 1 แสนเยน
ทีนี้ก็มาเรื่องการติดต่อสื่อสาร แรกเริ่มเดิมที ว่าจะเช่าพ็อกเก็ตไวไฟไปใช้ด้วยกันกับลูกสาว แต่พอมาต้องไปคนเดียว
เลยต้องเล็งมองหาแนวทางอื่นแทน มาถูกใจกับการใช้ซิมอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการของญี่ปุ่นเอง เพราะว่าถ้าจะเปิด
โรมมิ่งของบ้านเราไป ดูในส่วนของผู้ให้บริการที่เราใช้อยู่ มันเสียค่าบริการเกือบสองพัน ก็แพงเอาเรื่องเหมือนกัน
คือ ใช้ได้ทั้งโทรทั้งเน็ต แต่ในเมื่อเราสามารถโทรผ่านเน็ตได้ ก็เลยคิดเอาว่า เปิดเป็นซิมเน็ต โดยผู้ให้บริการ
ของญี่ปุ่นเอง น่าจะประหยัดกว่า
ก็ .. ดูๆ อยู่หลายเจ้า จนมาปิ๊งเอากับ Sugoi Sim ที่เคลมว่า ใช้ได้แบบอันลิมิต
ครอบคลุมตั้ง 7 วัน แล้ววิ่งบนเครือข่าย 4 จีด้วย น่าจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการติดต่อสื่อสาร และสะดวก
ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ จัดไปซิครับ SUGOI SIM 7 days Nano SIM 659 บาท (ซื้อบนเน็ตอย่างเดียว รอส่งมาที่บ้าน)
แต่ก็ไม่รู้ว่าใช้งานจริงจะเป็นเช่นไร เอาไว้ถ้าไม่ลืมจะลองทดสอบมาให้ดูครับ
เพิ่มเติมอีกนิด คือ เมื่อตอนนั่งคิดว่าจะซื้ออะไรกลับมาฝากสุดที่รักที่บ้านบ้าง ก็เลยลองคำนวนน้ำหนักว่าจะต้องหิ้วกลับมา
ซักเท่าไหร่
เวนละ ..... งานเข้า น้ำหนักมันน่าจะเกินกว่า 7 กก.ที่สายการบินเขากำหนดให้เอาขึ้นเครื่องได้นี่หว่า เลยต้องเข้าไปจอง
น้ำหนักขากลับเพิ่มอีก 25 กก. จากนั้นก็แว่บเข้าไปดูที่นั่งที่ระบบมันเลือกอัตโนมัติไว้ให้ ปรากฏว่า มันเลือกให้ซะกลางลำเลย
อยู่ติดทางเดินด้วย เสร็จหละตูงานนี้ ไม่เป็นอันได้นอนแน่ เดี๋ยวคนนู้นก็เดินผ่าน เดี๋ยวคนนี้ก็เดินผ่าน ไม่ต้องเป็นอันได้หลับ
ได้นอนกัน เลยต้องเสียเงินค่าเลือกที่นั่งไปอีก โดนไปอีก 2,280 บาท (นน. 25 กก. 1,380 + เลือกที่นั่ง 500 + 400 บาท)
อ้า ........... สบายจายยยยย (แอบคิดไปว่า นี่ตูคิดถูกคิดผิดฟระที่มาบินโลว์คอสต์ บานปลายไปใหญ่เลย)
9 มิ.ย.60 นี่ขนาดยังไม่ได้เดินทาง ผมยังปวดหัวกับการเตรียมความพร้อมขนาดนี้ เพิ่งไปวัดขนาดกระเป๋าเดินทางที่จะนำไปด้วย
ปรากฏว่า เกินไซส์ที่สายการบินกำหนดให้เอาขึ้นเครื่องได้ งานเข้าอีกละ ... ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อ นน.สัมภาระเพิ่มขาไปอีกรึเปล่า
กำลังชั่งใจว่า จะต้องซื้อน้ำหนักขาไปเพิ่มด้วยมั้ย เพราะกระเป๋ามันโอเวอร์ไซส์ที่จะเอาขึ้นเครื่องได้ น่าจะต้องฝากลงใต้เครื่อง
อย่างเดียว และควรจะต้องไปแลกเงินเตรียมไปเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกมั้ย กลัวว่าจะไม่พอซื้อของฝากให้ลูก ปวดกบาล......
ก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดมันขาดเหลืออะไรอีกมั่งรึเปล่า ผมเอาเท่าที่นึกออกแค่นี้ ขาดอะไร รบกวนช่วยสะกิดเตือน
ผมทีนะครับ กลัวพลาดแล้วจะเสียเงินเสียเวลาไปกันใหญ่ ทริปนี้วางแผนว่าจะไปลองชิมอาหารญี่ปุ่นจริงๆ ดูซักทีว่าเป็นยังไง
แล้วจะมาบรรยายให้ทราบอีกที ในฐานะผู้ที่รักอาหารไทย ชื่นชอบเนื้อวัวเป็นชีวิตจิตใจ และเลิฟขนมหวานมากครับ
เอาไว้จบทริปแล้ว จะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ หวังว่าจะเก็บข้อมูลมาฝากได้ครบถ้วนครับ
(ช่วงนี้ก็รอเวลา แล้วก็เปิดดูพยากรณ์อากาศที่ญี่ปุ่นทุกวัน (อยากไปดูฟูจิ))
ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้ว
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมที่พัก 3 คืน 13,646.19 บาท
- ตั๋วโดยสาร Skyliner ไปกลับ + Tokyo Subway 72 ช.ม. 1,720.00 บาท
- SUGOI SIM 7 days Nano SIM 659.00 บาท
- ซื้อ นน. กลับ 25 กก. + เลือกที่นั่งไปกลับ 2,280.00 บาท
รวม 18,305.19 บาท (จะบานปลายอีกมั้ยนี่)