เราเป็นคนนึงที่รักนิยายเรื่องมายามาก
เคยอ่านครั้งแรกตอนม.3 ม.4
เป็นนิยายเล่มแรกที่เรียนรู้ว่าคนทำละครเขาเอาเรื่องจากหนังสือมาทำละคร
คือตอนนั้นเพิ่งอ่านนิยายจบก็มีละครเรื่องมายาในทีวี
ตอนนั้นเวอร์ชั่นคุณนิดอรพรรณกับสถาพร นาควิลัย
ดูๆ ไปเลยรู้ว่าอ้าว...นี่มันเอามาจากนิยายที่เราเพิ่งอ่านนี่นา
หลังจากนั้นจึงหานิยายที่จะทำเป็นละครมาอ่านทุกเรื่อง
ยืมจากห้องสมุดประชาชนมาอ่าน
ใครอยากรู้ละครเรื่องอะไรต้องมาถามจากเราก่อนเลย
เรื่องมายานี้ พอโตขึ้นมาทำงานมีเงินก็ซื้อเก็บไว้
(จริงๆ เรื่องเก่าๆ ของอาจารย์เราซื้อเก็บทุกเรื่อง)
ว่างๆ ก็จะหยิบมาอ่าน หรือคิดถึงก็จะหยิบมาอ่าน
ก็ตามอ่านที่มีคนวิจารย์เรื่องนี้ในนิตรสารเก่าก็มีเยอะเหมือนกัน
ตอนที่เราชอบอ่านที่สุดคือตอนที่รชานนท์อยู่กับมิ้นต์
คือตอนนี้ดูรชานนท์เขาสบายๆ ไม่ค่อยมีมาดอะไร
ชอบตอนที่รชานนท์กับมิ้นต์ไปเมืองนอกรอบที่ 2
ตอนนั้นแม่ไม่ยอมให้มิ้นต์ไปเรียนต่อรชานนท์เลยพาไปแม่จึงยอม
ระหว่างที่อยู่เมืองนอกมินต์ให้รชานนท์ยืมใช้รถ
รชานนท์ก็ไปหาพิตะวันซึ่งมินต์โกรธมาก เพราะไม่อยากให้พี่เสือเสียใจ
พิตะวันชวนรชานนท์ไปเที่ยวผับรชานนท์เลยชวนพี่เสียไปด้วย
พิตะวันเลยให้ชวนมินต์ไปด้วยเพื่อตัวเองจะได้เต้นรำกับรชานนท์ ให้พี่เสือคู่มินต์
แต่มิ้นต์ไม่ยอมไปเพราะโกรธรชานนท์
พอถึงเที่ยงคืนรชานนท์เอารถมาคืนให้มิ้นต์ที่ห้องพัก
เพราะพรุ่งนี้รชานนท์จะกลับเมืองไทยแต่เช้าอาจจะไม่มีเวลามาส่ง
มินต์เลยแกล้งให้รชานนท์เดินตากหิมะกลับโรงแรมเองโดยไม่ไปส่ง
แต่ก็ตามไปหลังจากที่เดินไปได้สักพัก
แล้วก็ได้คุยกันหลายๆ อย่าง
รชานนท์ได้พูดอ้อมๆเรื่องรวิศ บอกให้สำรวจความรู้สึกของตัวเองให้ดี
ว่ามันเป็นความรักแบบหนุ่มสาวหรือเพื่อนกันแน่
คืนนั้นรชานนท์กับมินต์จากกันด้วยการที่รชานนท์จูบมินต์แบบหนุ่มจูบสาว
ทำให้มินต์สับสนมาก
แและอีกตอนนึงที่หลังจากที่พ่อกับแม่มินต์ตาย มินต์ก็ขายสร้อยนกฟลามิงโกให้รชานนท์อีก
รชานนท์เลยมีโอกาสได้ถามถึงเหตุการณ์กลางดึกคืนนั้นอีก
พอเป็นละครเวอร์ชั่นนี้เราดูแค่แว่บๆ ผ่านๆ
แต่ก็อ่านกระทู้ในนี้แหล่ะ
รู้สึกเหตุการณ์เมืองนอกมีแป๊บเดียวเอง
มาดูเมื่อคืนก็รู้สึกงงๆ
แสดงว่าคุณของพิตะวันก็ไม่ได้เป็นอัมพาต
เราว่าตอนนี้มันเข้มข้นมากนะ
พ่อกับแม่ของมินต์ก็ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุตาย
เจ้าหนี้ก็มาทวงเงินทำให้ต้องขายทุกอย่างใช้หนี้
ซึ่งตอนนี้เราว่ามันทำให้เราเห็นตัวตนของมิ้นต์ได้ชัดเจนขึ้น
ดูๆ เราก็เดาเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ค่อยได้
จริงๆ ก็พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ
เพราะยุคสมัยในนิยายกับสมัยนี้เทคโนโลยีต่างกันมาก
การเอานิยายเก่ามาทำเป็นละครสมัยใหม่ต้องปรับบทกันเยอะ
เพียงแต่ว่าจะไปยังไงให้โครงเรื่องและอรรถรสของเรื่องไม่เปลี่ยนไปมากเท่านั้นเองค่ะ
อ่านนิยายเรื่องมายาบ่อยมาก แต่ละครเวอร์ชั่นนี้เดาเหตุการณ์ไม่ได้เลย
เคยอ่านครั้งแรกตอนม.3 ม.4
เป็นนิยายเล่มแรกที่เรียนรู้ว่าคนทำละครเขาเอาเรื่องจากหนังสือมาทำละคร
คือตอนนั้นเพิ่งอ่านนิยายจบก็มีละครเรื่องมายาในทีวี
ตอนนั้นเวอร์ชั่นคุณนิดอรพรรณกับสถาพร นาควิลัย
ดูๆ ไปเลยรู้ว่าอ้าว...นี่มันเอามาจากนิยายที่เราเพิ่งอ่านนี่นา
หลังจากนั้นจึงหานิยายที่จะทำเป็นละครมาอ่านทุกเรื่อง
ยืมจากห้องสมุดประชาชนมาอ่าน
ใครอยากรู้ละครเรื่องอะไรต้องมาถามจากเราก่อนเลย
เรื่องมายานี้ พอโตขึ้นมาทำงานมีเงินก็ซื้อเก็บไว้
(จริงๆ เรื่องเก่าๆ ของอาจารย์เราซื้อเก็บทุกเรื่อง)
ว่างๆ ก็จะหยิบมาอ่าน หรือคิดถึงก็จะหยิบมาอ่าน
ก็ตามอ่านที่มีคนวิจารย์เรื่องนี้ในนิตรสารเก่าก็มีเยอะเหมือนกัน
ตอนที่เราชอบอ่านที่สุดคือตอนที่รชานนท์อยู่กับมิ้นต์
คือตอนนี้ดูรชานนท์เขาสบายๆ ไม่ค่อยมีมาดอะไร
ชอบตอนที่รชานนท์กับมิ้นต์ไปเมืองนอกรอบที่ 2
ตอนนั้นแม่ไม่ยอมให้มิ้นต์ไปเรียนต่อรชานนท์เลยพาไปแม่จึงยอม
ระหว่างที่อยู่เมืองนอกมินต์ให้รชานนท์ยืมใช้รถ
รชานนท์ก็ไปหาพิตะวันซึ่งมินต์โกรธมาก เพราะไม่อยากให้พี่เสือเสียใจ
พิตะวันชวนรชานนท์ไปเที่ยวผับรชานนท์เลยชวนพี่เสียไปด้วย
พิตะวันเลยให้ชวนมินต์ไปด้วยเพื่อตัวเองจะได้เต้นรำกับรชานนท์ ให้พี่เสือคู่มินต์
แต่มิ้นต์ไม่ยอมไปเพราะโกรธรชานนท์
พอถึงเที่ยงคืนรชานนท์เอารถมาคืนให้มิ้นต์ที่ห้องพัก
เพราะพรุ่งนี้รชานนท์จะกลับเมืองไทยแต่เช้าอาจจะไม่มีเวลามาส่ง
มินต์เลยแกล้งให้รชานนท์เดินตากหิมะกลับโรงแรมเองโดยไม่ไปส่ง
แต่ก็ตามไปหลังจากที่เดินไปได้สักพัก
แล้วก็ได้คุยกันหลายๆ อย่าง
รชานนท์ได้พูดอ้อมๆเรื่องรวิศ บอกให้สำรวจความรู้สึกของตัวเองให้ดี
ว่ามันเป็นความรักแบบหนุ่มสาวหรือเพื่อนกันแน่
คืนนั้นรชานนท์กับมินต์จากกันด้วยการที่รชานนท์จูบมินต์แบบหนุ่มจูบสาว
ทำให้มินต์สับสนมาก
แและอีกตอนนึงที่หลังจากที่พ่อกับแม่มินต์ตาย มินต์ก็ขายสร้อยนกฟลามิงโกให้รชานนท์อีก
รชานนท์เลยมีโอกาสได้ถามถึงเหตุการณ์กลางดึกคืนนั้นอีก
พอเป็นละครเวอร์ชั่นนี้เราดูแค่แว่บๆ ผ่านๆ
แต่ก็อ่านกระทู้ในนี้แหล่ะ
รู้สึกเหตุการณ์เมืองนอกมีแป๊บเดียวเอง
มาดูเมื่อคืนก็รู้สึกงงๆ
แสดงว่าคุณของพิตะวันก็ไม่ได้เป็นอัมพาต
เราว่าตอนนี้มันเข้มข้นมากนะ
พ่อกับแม่ของมินต์ก็ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุตาย
เจ้าหนี้ก็มาทวงเงินทำให้ต้องขายทุกอย่างใช้หนี้
ซึ่งตอนนี้เราว่ามันทำให้เราเห็นตัวตนของมิ้นต์ได้ชัดเจนขึ้น
ดูๆ เราก็เดาเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ค่อยได้
จริงๆ ก็พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ
เพราะยุคสมัยในนิยายกับสมัยนี้เทคโนโลยีต่างกันมาก
การเอานิยายเก่ามาทำเป็นละครสมัยใหม่ต้องปรับบทกันเยอะ
เพียงแต่ว่าจะไปยังไงให้โครงเรื่องและอรรถรสของเรื่องไม่เปลี่ยนไปมากเท่านั้นเองค่ะ