[CR] Lost in Chiang Mai : หลงไปในเชียงใหม่ ใช้แค่หัวใจออกเดินทาง



ได้กลิ่นล้านนาโชยมายั่วใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยั๊งไม่เคยไปแอ่วเมืองหลวงแห่งภาคเหนืออย่าง “เชียงใหม่” สักที
จนกระทั่งได้กลิ่นกาแฟโชยมาแตะจมูกถึงได้ตัดสินใจว่าจะไปต๊ะต่อนยอนที่เมืองหลวงแห่งภาคเหนืออย่างเชียงใหม่สักครั้ง

ที่บอกว่า ได้กลิ่นกาแฟ เพราะเด็กติดคาเฟ่อย่างเราเห็นคนนู้นคนนี้เช็คอินที่คาเฟ่สวยๆ กันลายตา
ตามกลิ่นไปทีไรก็พบว่าโลเคชั่นอยู่ที่ “เชียงใหม่” แทบทุกร้านไป
ฉะนั้นจึงต้องขอสารภาพกันตามตรงว่า First time in Chiang Mai ครั้งนี้
แรกเริ่มก็เป็นการไปตามรอยเช็คอินที่คาเฟ่เก๋ๆ ในเชียงใหม่เท่านั้นเองค่ะ ^^

แต่หลังจากหาข้อมูล ทำการบ้านอย่างหนักก็กลับพบว่านครพิงค์เชียงใหม่แห่งนี้
มีเรื่องราวน่าสนใจและสถานที่ท่องเที่ยวชวนหลงใหลมากมาย
จนต้องเผลออุทานออกมาว่า “นี่ไปอยู่ที่ไหนม๊า ทำไมเพิ่งตัดสินใจไป!”
แล้วก็ไม่รออะไรอีกแล้ว จองตั๋วเครื่องบิน เก็บกระเป๋า แล้วใช้แค่หัวใจออกเดินทางพอ!



First time in Chiang Mai
“เชียงใหม่ เดี๋ยวนี้เสน่ห์เดิมๆ หายไปหมดแล้ว”
เคยได้ยินมาแว่วๆ จากไหนก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเสน่ห์ดั้งเดิมของเชียงใหม่เป็นแบบไหน
เพราะนี่คือการมาเชียงใหม่ครั้งแรกของเรา รู้แต่ว่าตัวเมืองเชียงใหม่มีความคล้ายคลึงกรุงเทพฯ ตรงที่รถติดเหมือนกันเป๊ะ!
บางแยกอาจติดนานกว่าด้วยซ้ำ ทั้งยังได้กลิ่นอายเมืองกรุงฯ ชัดเจนขึ้นอีกจากการเจอแต่คนกรุงฯ  
ฉะนั้นแม้จะไม่รู้ว่าเชียงใหม่ขาดเสน่ห์ดั้งเดิมไปมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยเราก็แน่ใจได้ว่า
เชียงใหม่ไม่เคยขาดหายไปจากความสนใจของผู้คนได้แม้แต่น้อย... แน่ละ ว่ารวมถึงคนอย่างเราด้วย ^^

สำหรับการเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งแรก เราเลือกบินลัดฟ้ามากับสายการบินที่ใครๆ ก็บินได้
เพราะดูทรงเพื่อนร่วมทริปแล้ว ถ้าขับรถคงต้องใช้เวลาถึง 2 วันเป็นแน่ (ขับช้าไม่พอยังหลงทางเป็นอาชีพอี๊กก)
แล้วก็ติดต่อเช่ารถยนต์ไว้สำหรับขับเที่ยวในเชียงใหม่ เพราะเล็งไว้แล้วว่าอยากออกนอกตัวเมืองไปเที่ยวอยู่หลายที่
เช่ารถขับน่าจะสะดวกดี ส่วนร้านกาแฟที่อัดแน่นอยู่ในถนนนิมมานที่ตั้งใจจะไปเก็บสแปร์ ก็เดินเอา
เราว่าถึงเชียงใหม่จะร้อนระดับน้องๆ กรุงเทพฯ ในช่วงกลางวัน แต่ถนนหนทางน่าเดินกว่ากรุงเทพฯ อยู่พอตัวเลย  



ตื่นมาบนเตียงอื่น
ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไรที่ตัวเองเริ่มเสพติดความรู้สึกที่ได้ตื่นมาบนเตียงอื่น
อาจจะพอๆ กับตอนที่เริ่มรู้ตัวว่าชอบออกเดินทาง ชอบเห็นอะไรใหม่ๆ
การได้ตื่นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย (บ้าง) เปิดประตูหรือหน้าต่างออกไปแล้วเห็นทิวทัศน์ที่แปลกตา
มันทำให้รู้สึกว่าเช้าวันใหม่มีความหมาย เชียงใหม่ 8 วัน 7 คืนของเราในทริปนี้จึงเปลี่ยนที่นอนไป 3 ที่
เพราะเสพติดความรู้สึกที่ได้ตื่นมาบนเตียงอื่นล้วนๆ เลยค่ะ : )


Veranda Chiangmai The High Resort


ตัดสินใจจองที่นี่เพราะ “สระว่ายน้ำ” .. วีรันดา เชียงใหม่ มี Infinity Pool ที่สวยมากกก
เห็นภาพแล้วจิตนาการว่าคงรู้สึกเหมือนได้ว่ายน้ำท่ามกลางขุนเขา
มองไปทางไหนคงสุดลูกหูลูกตาไปหมด ตอนเห็นภาพจากในอินเทอร์เน็ตก็ว่าสวยแล้ว
แต่พอได้ไปลอยคออยู่ในนั้นด้วยตัวเองกลับสวยเกินกว่าที่คิดมากๆ เลยค่ะ
อย่างนี้ละมั้งเขาถึงว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น”

ว่ายตอนเย็นมันก็จะเย็นๆ หน่อย แต่วิวพระอาทิตย์ตกดินสวยจนต้องยอมใจมากๆ


วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮ รีสอร์ท จัดอยู่ในกลุ่มของโรงแรม ‘MGallery by Sofitel’
คอลเล็กชั่นรวมโรงแรมบูติกที่ออกแบบด้วยความพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นรีสอร์ทหรูหราระดับห้าดาวของเชียงใหม่ที่ถูกอกถูกใจทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ

บรรยากาศโดยรวมโอบล้อมด้วยขุนเขาเคล้าสไตล์การออกแบบตกแต่งแบบล้านนา
ให้ความรู้สึกเชียงใหม๊เชียงใหม่ โดยเฉพาะไร่ชาขนาดย่อมที่ตั้งอยู่กลางรีสอร์ท
สามารถเพิ่มบรรยากาศโดยรวมให้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายธรรมชาติจนรู้สึกผ่อนคลาย
และสามารถซึมซับกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่จริงๆ ค่ะ



การเดินทางไปวีรันดา เชียงใหม่ ถ้าเช่ารถขับหรือมีรถยนต์ส่วนตัว
ก็แค่ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่แล้ววิ่งตรงไปทางอำเภอหางดงจนถึงสี่แยกสะเมิง
แล้วมุ่งหน้าต่อไปทางกฤษดาดอยรีสอร์ท ตรงต่อไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 6 กิโลเมตร
วีรันดา เชียงใหม่ จะอยู่ทางด้านขวา ระหว่างทางเส้นทางคดเคี้ยวเล็กน้อย
แต่สวยงามจนทำให้เผลอลืมความวุ่นวายในตัวเมืองเชียงใหม่ไปได้สักพักค่า


ส่วนการจอง เราจองผ่านเว็บไซต์ https://www.traveloka.com/th-th ค่ะ
เพราะเล็งแล้วราคาถูกกว่าเว็บอื่น เวลาจะจองที่พัก เราจะเปรียบเทียบจากหลายๆ ที่
ซึ่งบางครั้งจองตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรมก็ถูกกว่านะคะ แต่เดี๋ยวนี้จะจองผ่าน Traveloka บ่อย
เพราะราคาค่อนข้างถูกกว่าเว็บไซต์อื่นและจองตรงกับโรงแรมอยู่พอสมควร
ตัดสินใจอยู่นานเหมือนกันเพราะราคาของวีรันดาค่อนข้างสั่นไหวกระเป๋าสตางค์ (T^T)
แต่สุดท้ายก็กลั้นใจกดจอง ตัดบัตรฉับ ไวซะยิ่งกว่าเหยียบเปลือกกล้วยแล้วล้ม
(ทำไมตอนทำงานหาเงินไม่ง่ายแบบนี้บ้างงง)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


Chic 39 Bed Bar and Bakery


พักน่ารักในอำเภอแม่ริม มีห้องพักทั้งหมดแค่ 4 ห้องเท่านั้น พิเศษตรงที่แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกันเลย
สารภาพว่าตอนจองไม่ได้หาข้อมูลมากมาย จำได้แค่ว่าเคยเห็นที่นี่ในนิตยสารสักเล่มแล้วรู้สึกปิ๊งปั๊ง
ลองโทรไปเช็คห้องว่างดูก็แจ็กพอต! เหลือว่างห้องสุดท้าย แถมยังเป็นห้องชั้น 4 ชั้นบนสุดที่น่าจะกว้างที่สุดอีกด้วย
ก็ตัดสินใจจองเลยเพราะพี่ที่รับโทรศัพท์พูดจาดีน่ารัก แถมบอกว่าจะให้เวลคัมเค้กสองชิ้นเลย (เห็นแก่กินล้วนๆ 555)


เวลคัมเค้ก เสิร์ฟตรงถึงห้อง อร่อยดีค่ะ ปกติที่อื่นจะให้แต่เวลคัมดริงก์

แต่ที่นี่ได้ทั้งเวลคัมเค้กและเวลคัมดริงก์เลยย


ที่ชอบอีกอย่างคือในห้องนอนมีเก้าอี้นวดไฟฟ้าด้วย เด็กติดนวดอย่างเรา นวดวนไปให้คุ้มที่สุดด 5555


สำหรับการจองที่นี่เราจองตรงกับที่พักคือโทรไปสอบถามแล้วก็โอนเงินเต็มจำนวน
ห้องพักชั้น 4 ที่เราพักเรียกว่า The Penthouse ราคาที่ได้ตอนนั้นคือ 3,500 บาทต่อคืน
เราว่าน่ารักคุ้มราคา เพราะห้องกว้าง มีระเบียงให้นั่งมองสวนดอกไม้ กินลมชมวิวเพลินๆ
มีการแบ่งส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ทำให้รู้สึกเหมือนมานอนค้างบ้านญาติหรือบ้านเพื่อน
ไม่รู้สึกเหมือนมานอนรีสอร์ทเท่าไร แถมพี่เจ้าของยังน่ารักมาก ชวนคุยแบบเป็นกันเอง บริการแบบบ้านๆ
อาหารเช้าก็จัดเต็มสุดๆ ทั้งไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ข้าวซอยไก่ ข้าวต้ม ปาท่องโก๋ ขนมครก ผลไม้
คนกรุงฯ อย่างเฮาถึงกับงงเจ้า ไปพักที่ไหนไม่เคยเจออาหารเช้าจัดเต็มแบบนี้มาก่อน
แถมยังเป็นอาหารพื้นบ้านของเชียงใหม่ เราเลยให้ใจไปเต็มๆ เลยค่าา


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


Rumpai Loft Habitat


เวลาไปต่างจังหวัดหลายวัน เราจะพยายามหาที่พักราคาย่อมเยาว์สักนิดเอาไว้พักยาวๆ
ก่อนจะให้รางวัลตัวเองด้วยการตื่นมาบนเตียงที่มีบรรยากาศดีๆ ราคาสั่นไหวตังค์ในกระเป๋าบ้างสักคืนสองคืน
สำหรับทริปเชียงใหม่ครั้งนี้ “Rumpai Loft Habitat” หรือชื่อไทยๆ ว่า “อยู่ร่ำไป” หรือฉายาว่า “รังหมาป่า”
เป็นที่พักราคาย่อมเยาว์ที่คุ้มค่าในราคาไม่ถึง 1,000 บาท แต่ได้นอนในห้องที่มีดีไซน์ชิค เท่ และมีสไตล์มากค่ะ



อยู่ร่ำไป ตั้งอยู่ในซอยวัดร่ำเปิง ไกลจากจุดศูนย์กลางของเชียงใหม่สักเล็กน้อย
แต่เรากลับชอบเพราะสิ่งที่มักจะได้แถมมาคือความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
ที่นี่ไม่มีลิฟต์ค่ะ แต่มีทั้งหมด 5 ชั้น ฉะนั้นต้องใช้กำลังขาตัวเองในการเดินขึ้นไปบนห้องพัก
เราได้ห้อง 403 อยู่ชั้น 4 ก็โอเค๊ คิดซะว่าได้ออกกำลังกายกำจัดไขมัน
จะได้ไปตะลุยกินของอร่อยในเชียงใหม่ได้แบบไม่รู้สึกผิดมาก 5555

ที่นี่นอกจากจะมีดีไซน์ที่เก๋ไก๋สไตล์ Loft แล้ว สิ่งที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่าคือ ระเบียงเล็กๆ ที่อยู่ข้างห้องนอนค่ะ
ซึ่งเป็นระเบียงส่วนตัวของแต่ละห้องที่ตั้งอยู่ในห้องเลย เพียงแต่แยกส่วนออกมาจากห้องนอนอีกที
เป็นส่วนที่เราเลิฟมากเพราะเอาไว้นั่งชิล อ่านหนังสือ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ รับลมเย็นๆ ก่อนนอนได้ชิลสุดๆ



อีกหนึ่งข้อดีของอยู่ร่ำไปคือตั้งอยู่ใกล้ “บ้านใกล้วัด” สถานที่ท่องเที่ยวฮิปๆ ของเชียงใหม่
ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาเช็คอิน ถ่ายรูป โดยสามารถเดินจากที่พักไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้นค่ะ
เราเลยมีโอกาสได้เดินไปฝากท้องที่ “ครัวหลานย่า” และร้านกาแฟ “มาหาสมุด”
ที่มีทุกอย่างครบสูตรของคนรักคาเฟ่ “หนังสือ + กาแฟ” เท่านี้ก็นั่งแช่นั่งชิลได้ทั้งวัน



ครัวหลานย่าค่ะ อาหารอร่อย ราคาไม่แพงมาก ตั้งอยู่ในโครงการบ้านข้างวัดเลย


ร้านกาแฟมาหาสมุด เวลาเจอร้านกาแฟที่มีหนังสือให้อ่านเยอะๆ แล้วใจสั่นทู๊กที ❤


จบในส่วนของรีวิวที่พักแล้ว ขอต่อรีวิวคาเฟ่ใน คห. ต่อไปน้า ^^
ชื่อสินค้า:   Chiang Mai
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่