สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน เราขอเรียกกระทู้นี้ว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ การไปเที่ยวตางประเทศเองครั้งแรกกับเพื่อนๆแล้วกัน ซึ่งครั้งนี้เรามีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 7 คน และได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า " ไปฮ่องกง-มาเก๊า " เพราะกลัวติด ตม. (ทีแรกอยากไปเกาหลี แต่คิดว่าไม่น่ารอด) เนื่องจากทุกคนแลจะมีความเสี่ยงพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น 1.พาสปอร์ตอายุเหลือ ไม่ถึง 6 เดือน 2.เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล 3.พาสปอร์ตขาวถึง 3 คน ก็เลยตกลงปลงใจไปตามนั้น
พอนัดวัน เวลา ที่ว่างตรงกันได้ (ซึ่งแม่มเป็นอะไรที่ยากที่สุด) ก็เริ่มหาตั๋วเครื่องบินราคาดี เลยได้ใช้บริการเว็บ Cheap และได้ตั๋วเครื่องบินของฮ่องกง แอร์ไลน์มาในราคา ประมาณ 5,000 นิดๆ ได้ E-Ticket มาแล้ว
พอได้ตั๋วเครืองบินแล้ว ต่อด้วยที่พักซึ่งหากันอยู่นานมาก กว่าจะได้ราคาที่ดีพอสมควร สุดท้ายตกลงเอาที่ รร.Hou Kong ที่มาเก๊า 1 คืน ในราคา 6,460 บาท หาร7 ตกคนละ 900 กว่าบาท จาก Expedia และที่พักในฮ่องกง เราเลือกที่ Mei Mei Motel เพราะเห็นรีวิวค่อนข้างดี พัก 2 คืน ในราคา 7,600 กว่าบาท หาร7 ตกคนละ พันกว่าบาท คืนละ 5-6 ร้อยต่อคน และเมื่อรวมค่าที่พัก 3 คืน+ตั๋วเครื่องบิน คิดแล้วตกคนละประมาณ 7,000 บาท โอ้วววววว มายก้อดดดดด อะไรจะดีปานนั้น
เสื้อผ้า หน้าผม ขาตั้งกล้องอันเล็กๆ อุปกรณ์ถ่ายรูป (หลักๆ จะเป็น Huawei P9 , Fuji XA2 , Oppo) ตั๋วเครื่องบิน ที่พักพร้อม ไปกันเลย Let's go!!!
วันแรก 1/6/60
สตาร์ทรวมพลกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนตี 3 เพราะเครื่องออกตอนตี 4 โอ้วแม่เจ้า! ตื่นกันมาตั้งแต่เที่ยงคืน ไม่มีใครนอนเต็มอิ่มซักคน แต่จองแล้วง่วงก็ต้องไปนะ
เช็คอินเสร็จ ต้องรีบเข้าเกทอย่างไว เพราะเค้าเรียกขึ้นเครื่องแล้ว Final Call ซะด้วย 5555+
ขึ้นมาบนเครื่องล้าวววว
นั่งสบายอยู่นะ (เราสูง 160 หรือว่าเราเตี้ยวะ ฮ่าๆๆๆ)
ของว่างบนเครื่องอร่อยอ่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ได้ใส่มัสตาร์ดมาด้วย
กินเสร็จแอบงีบไปแป๊บเดียว ถึงซะละ
ประมาณ 8.30 ถึงสนามบินฮ่องกง พวกเราจะไปมาเก๊ากันก่อน เลยต้องไปซื้อตั๋วเรือไปมาเก๊า โดยที่ยังไม่ต้องไปเอากระเป๋าและไม่ต้องผ่าน ตม.ฮ่องกง ให้เดินไปตามป้ายที่บอกทางไป Macau Ferries
เดินตามป้ายไปเรื่อยๆก็จะเจอเคาน์เตอร์ขายตั๋ว Turbo Jet อย่ารอช้ารีบเดินเข้าไปถามไถ่ ถึงอาการของพนักงาน แฮร่ ไม่ใช่!! เดินเข้าไปซื้อตั๋วเลยจ้า
ค่าตั๋วเรือ ราคา 254 HK$ (ประมาณ 1,117 บาท) ยื่นพาสสปอตจ่ายเงิน ส่วนกระเป๋าเรา เขาก็จะโหลดไปกับเรือให้เลย
เสร็จแล้ว ก็รอเวลาไปขึ้นเรือ.....ติ๊กต่อกๆๆๆ ปิ๊ง.ง.ง.งงง ได้เวลาขึ้นเรือแล้ว
ขอแชะนึง ก่อนขึ้นเรือ
พอขึ้นเรือได้ ก้อพากันหลับ เพราะไม่ได้นอนกันมาทั้งคืน ตื่นมาก็ถึงมาเก๊าซะแล้ว มาถึงฝั่งมาเก๊า แก๊งค์เราโดน ตม.เรียกจ้าาา เพราะว่าไม่ได้ทำการบ้านมาว่าเข้าเมืองต้องใช้ใบ Immigration หรือเปล่า เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ ที่ยืนอยู่ เค้าเลยถามว่ามาจากไหน เราก็ตอบอย่างภาคภูมิใจ
ไทยแลนด์ จนท.ก็ขอพาสปอร์ตไป เราก็หลงดีใจนึกว่าจะลัดคิวให้เราเป็นพิเศษ รีบยื่นพาสปอร์ตให้ จนท.รับไป 3 เล่ม แล้วพอๆเอาแค่นี้ สรุป จนท.บอก This way......โดนเรียกเข้าห้องไป 3 คนจ้าาาาา เลยอยากแนะนำว่าอย่าเดินไปถามอะไรเจ้าหน้าที่สุ่มสี่สุ่มห้า เดินเข้าช่องตรวจพาสปอร์ตไปเลย เสียเวลาไป 10-15 นาที เข้าไปในห้องเย็น เจ้าหน้าที่ก็จะถามเป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า
คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรอ จะมาอยู่มาเก๊ากี่วัน พักโรงแรมไหน อะไรประมาณนี้ และจะให้เราเซ็นต์แบบฟอร์มอะไรก็ไม่รู้ เราไม่มั่นใจ ก่อนเซ็นต์เลยถามไปว่า
นี่คือฟอร์มอะไร เจ้าหน้าตอบว่า
ทั่วไป ไม่ต้องกังวล แล้วก็ปล่อยเราออกมา ตรูงงแพร๊บ
นี่ฉานผิดอารายยยยย เดินออกจากห้องมาในใจก็คิด เออ..ก็ดี เป็นประสบการณ์
เอ้าๆๆ ไปต่อๆๆ หลังจากผ่าน ตม.มาได้ ก็รีบตรงดิ่งข้ามฝั่งไปหาบัสฟรีของเวเนเชี่ยนเพื่อจะไปโรงแรม Hou Kong แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงบัสฟรีบอกว่า ถ้านั่งบัสฟรีของเวเนเชี่ยนไปจะต้องอ้อมไกล และแนะนำให้นั่งรถบัสประจำทาง ไปลง โรงแรม Macau Master แล้วเดินไปโรงแรมของเรา แต่ด้วยความที่ จนท.เหมือนจะออกแขกๆนิดนึง พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดียๆ
You can..%$&^%*&* ... bus number " ตีนเอ้ช " เรากับเพื่อนก็แบบ ....????? มันคือสายไหนวะ เลยถามกลับไป What Number? เค้าก็ย้ำคำเดิมอยู่อย่างนั้น" ตีนเอ้ช " " ตีนเอ้ช " ฟังกันอยู่หลายรอบ สุดท้ายคือ 10A
แล้วพวกเราก้อต้องแบกกระเป๋ากลับมาฝั่งที่ขึ้นรถบัสตามที่พี่ จนท.ใจดีบอกมา เราลืมถ่ายรูปรถบัสมาให้ดูง่ะ T T
ขึ้นบัสมาแล้ว เปิด Google Map ซะ (เพื่อนซี้ยามยาก) มีบอกหมดรถเมล์สายไหนป้ายไหน อ่อ..อย่าลืมจ่ายตังค่ารถเมล์ล่ะ 3.2 Mop หรือ HK$ ตลอดสาย(14บาท) ทุกสายเท่ากันหมด (แต่เที่ยวแรกพวกเราขึ้นฟรีมา เพราะยังงงกันอยู่ 555 ดีที่คนขับไม่ได้ว่าไร ขอโทษจริงๆน้า)
ทริปนี้ขอให้เครดิตเพื่อนคนนี้เลย ทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์และหัวหน้าทัวร์ คอยบอกทาง เมิง...ลง เมิง....ซ้าย เมิง....ขวา แต่อยากจะถามว่า เมิงจะเดินเร็วปายหนายยยยย แค่หันไปดูของแป๊บเดียว แม่มหายไปละ 55555 ต้องคอยจ้องมันไว้ให้ดีๆ แต่ก็ดีนะ ไม่งั้นคงเที่ยวได้ไม่ครบ เพราะทั้งแก๊ง อืดอาดกันทุกคน
ถึงโรงแรมได้แบบไม่หลง อาจจะงงๆหน่อย แต่ลงถูกป้าย เดินมาหน่อยก็ถึงโรงแรม Hou Kong อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม Macau Master เลย
เรายื่นใบจอง ที่จองผ่านเว็บให้เค้า เค้าก็จะเก็บมัดจำ 400 Mop (ได้คืนตอนเช็คเอาท์) แล้วขึ้นห้องได้เลย
ภายในห้องสะอาดี
เก็บกระเป๋าเสร็จ ก็ออกลุยกันเลย เปิด Map เดินไปซากโบสถ์เซนต์ปอล เดินผ่านทางหลังโรงแรมที่พักไปไม่ไกลมาก ก็จะถึงที่หมาย
แต่ก่อนถึงเจอมุมสวย ขอแวะซักหน่อย
อีกซักรูป ... วันนี้จะถึงโบสถ์มั้ย?
ถ่ายรูปจนพอใจ พอเท๊อะ.. เดินมาจนถึงซากโบสถ์เซนต์ปอล แวะกินทาร์ตไข่ เหมือนผสมมะม่วงสุกนิดๆ อันละ 8 MOP (35บาท) กับวาฟเฟิล 16 MOP (70 บาท) อร่อยดีนะ
คนเยอะมว๊ากกก
เราเอง
งานคู่ก็มา
เดินลงมาตามทางของหน้าโบสถ์จะเจอ โบสถ์เซนต์ดอมินิค อีกที่ที่น่าถ่ายรูป (โบสถ์เหลืองๆข้างหลังนั่นแหละ)
เดินอีกนิด ถึงแล้ว Senado Square ลานกว้าง ฉากสวย รอช้าอยู่ใย ควักขาตั้งกล้องออกมา ถ่ายรูปปปป
ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้ว เดินออกมาทางด้านหน้าเพื่อหาบัสไป City of Dream โดยพวกเราเลือกนั่งบัสสาย 10A ไปที่ท่าเรือที่มาตอนแรกก่อนแล้วไปต่อบัสฟรีของ City of Dream ซึ่งจุดที่จอดบัสฟรี จะมีทั้งไปเวเนเชี่ยน , City of Dream และอีกหลายที่ ที่มีคาสิโน
บัสกำลังพาเราข้ามฝั่งไปเกาะไทปา
ถึง City Of Dream แล้วแพลนไว้ว่ามาที่นี่จะไปดูโชว์ ที่ The Bubble แต่หิวข้าว เลยเดินหาฟู๊ดคอร์ทแต่ก็หาไม่เจอ เดินป้ำๆเป๋อๆอยู่ในCity Of Dreamพักนึง เห็นว่ามีเกมส์ให้เล่นฟรี เลยแวะเล่นเกมส์ซะหน่อย และสุดท้ายตัดสินใจเดินข้ามถนนไปหาของกินที่เวเนเชี่ยน
อาม่าเดินตัดหน้าเฉยๆเลย 555
เดินข้ามถนนไปเวเนเชี่ยน
หิวจนตาลาย แต่2สาวก็ยังไม่วาย จะแวะถ่ายรูป
เข้ามาถึงข้างในปุ๊บ ก็ต้องโอ้โหในใจเบาๆ ความสวยให้สิบ สิบ สิบ ไปเลยจ้าาาา
เดินตามหา ฟู๊ดคอร์ทกันไปกว่าจะเจอ ต้องไปกดหาจากแผนที่ข้างใน ฟู๊ดคอร์ทที่นี่ต้องเดินตรงเข้ามาในคาสิโน แล้วขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 3 เลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้ ก็จะเจอเลย
แต่อาหารที่นี่ราคาโหดมาก 80 HK$ ขึ้นไปต่อจาน แต่ชม.นั้นต้องกินล่ะ หิวไส้จะขาด
หน้าตาอาหาร ของเรากับเพื่อนอีกคน อร่อยมั้ยน่ะหรอ ไม่ต้องพูดถึง
กินคาวเสร็จ กินหวานต่อ ตามหาร้านทาร์ตไข่ ที่เขาว่ากันว่าอร่อย มามาเก๊าต้องมาลองเจ้านี้ Lord Stow's Bekery&Cafe
ทาร์ตไข่หอม อร่อย สมคำร่ำลือ ชิ้นละ 10 HK$ (44บาท)
ร้านอยู่ติดกับบริเวณที่มีการล่องเรือกอนโดล่า เสมือนอยู่ที่เวนิสเลย สวยงามมาก
กินอิ่มแล้ว กะว่าจะมาเล่นคาสิโนกันซักหน่อย ยืนๆดูกันแล้วเข้าใจแบบมั่วๆประมาณว่าตามโต๊ะจะให้แลกชิพขั้นต่ำ 300 HK$ มั้ง (1,320 บาท) เลยไม่ดีกว่า น่าจะเสียมากกว่าได้ 555 แต่มันก็น่าลองเล่นดูนะ
ในคาสิโนเค้าห้ามถ่ายรูป แต่เพื่อนถ่ายได้มารูปนึง จะโดนหิ้วมั้ยเนี่ยยย
ตกเย็นก็กลับห้องพักโดยนั่งบัสฟรี ไปฝั่งมาเก๊าและลงท่าเรือมาเก๊าเช่นเดิม และต่อรถเมล์สาย10A กลับที่พัก พักผ่อนนอนเอาแรง หลังจากนอนน้อยกันมาเมื่อคืน
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2......>>>ข้ามฝั่งกลับไปฮ่องกง
[CR] เที่ยวฮ่องกง-มาเก๊าเอง 4 วัน 3 คืน ไม่ง้อทัวร์ We Plan Can Go
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน เราขอเรียกกระทู้นี้ว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ การไปเที่ยวตางประเทศเองครั้งแรกกับเพื่อนๆแล้วกัน ซึ่งครั้งนี้เรามีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 7 คน และได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า " ไปฮ่องกง-มาเก๊า " เพราะกลัวติด ตม. (ทีแรกอยากไปเกาหลี แต่คิดว่าไม่น่ารอด) เนื่องจากทุกคนแลจะมีความเสี่ยงพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น 1.พาสปอร์ตอายุเหลือ ไม่ถึง 6 เดือน 2.เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล 3.พาสปอร์ตขาวถึง 3 คน ก็เลยตกลงปลงใจไปตามนั้น
พอนัดวัน เวลา ที่ว่างตรงกันได้ (ซึ่งแม่มเป็นอะไรที่ยากที่สุด) ก็เริ่มหาตั๋วเครื่องบินราคาดี เลยได้ใช้บริการเว็บ Cheap และได้ตั๋วเครื่องบินของฮ่องกง แอร์ไลน์มาในราคา ประมาณ 5,000 นิดๆ ได้ E-Ticket มาแล้ว
พอได้ตั๋วเครืองบินแล้ว ต่อด้วยที่พักซึ่งหากันอยู่นานมาก กว่าจะได้ราคาที่ดีพอสมควร สุดท้ายตกลงเอาที่ รร.Hou Kong ที่มาเก๊า 1 คืน ในราคา 6,460 บาท หาร7 ตกคนละ 900 กว่าบาท จาก Expedia และที่พักในฮ่องกง เราเลือกที่ Mei Mei Motel เพราะเห็นรีวิวค่อนข้างดี พัก 2 คืน ในราคา 7,600 กว่าบาท หาร7 ตกคนละ พันกว่าบาท คืนละ 5-6 ร้อยต่อคน และเมื่อรวมค่าที่พัก 3 คืน+ตั๋วเครื่องบิน คิดแล้วตกคนละประมาณ 7,000 บาท โอ้วววววว มายก้อดดดดด อะไรจะดีปานนั้น
เสื้อผ้า หน้าผม ขาตั้งกล้องอันเล็กๆ อุปกรณ์ถ่ายรูป (หลักๆ จะเป็น Huawei P9 , Fuji XA2 , Oppo) ตั๋วเครื่องบิน ที่พักพร้อม ไปกันเลย Let's go!!!
วันแรก 1/6/60
สตาร์ทรวมพลกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนตี 3 เพราะเครื่องออกตอนตี 4 โอ้วแม่เจ้า! ตื่นกันมาตั้งแต่เที่ยงคืน ไม่มีใครนอนเต็มอิ่มซักคน แต่จองแล้วง่วงก็ต้องไปนะ
เช็คอินเสร็จ ต้องรีบเข้าเกทอย่างไว เพราะเค้าเรียกขึ้นเครื่องแล้ว Final Call ซะด้วย 5555+
ขึ้นมาบนเครื่องล้าวววว
นั่งสบายอยู่นะ (เราสูง 160 หรือว่าเราเตี้ยวะ ฮ่าๆๆๆ)
ของว่างบนเครื่องอร่อยอ่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ได้ใส่มัสตาร์ดมาด้วย
กินเสร็จแอบงีบไปแป๊บเดียว ถึงซะละ
ประมาณ 8.30 ถึงสนามบินฮ่องกง พวกเราจะไปมาเก๊ากันก่อน เลยต้องไปซื้อตั๋วเรือไปมาเก๊า โดยที่ยังไม่ต้องไปเอากระเป๋าและไม่ต้องผ่าน ตม.ฮ่องกง ให้เดินไปตามป้ายที่บอกทางไป Macau Ferries
เดินตามป้ายไปเรื่อยๆก็จะเจอเคาน์เตอร์ขายตั๋ว Turbo Jet อย่ารอช้ารีบเดินเข้าไปถามไถ่ ถึงอาการของพนักงาน แฮร่ ไม่ใช่!! เดินเข้าไปซื้อตั๋วเลยจ้า
ค่าตั๋วเรือ ราคา 254 HK$ (ประมาณ 1,117 บาท) ยื่นพาสสปอตจ่ายเงิน ส่วนกระเป๋าเรา เขาก็จะโหลดไปกับเรือให้เลย
เสร็จแล้ว ก็รอเวลาไปขึ้นเรือ.....ติ๊กต่อกๆๆๆ ปิ๊ง.ง.ง.งงง ได้เวลาขึ้นเรือแล้ว
ขอแชะนึง ก่อนขึ้นเรือ
พอขึ้นเรือได้ ก้อพากันหลับ เพราะไม่ได้นอนกันมาทั้งคืน ตื่นมาก็ถึงมาเก๊าซะแล้ว มาถึงฝั่งมาเก๊า แก๊งค์เราโดน ตม.เรียกจ้าาา เพราะว่าไม่ได้ทำการบ้านมาว่าเข้าเมืองต้องใช้ใบ Immigration หรือเปล่า เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ ที่ยืนอยู่ เค้าเลยถามว่ามาจากไหน เราก็ตอบอย่างภาคภูมิใจ ไทยแลนด์ จนท.ก็ขอพาสปอร์ตไป เราก็หลงดีใจนึกว่าจะลัดคิวให้เราเป็นพิเศษ รีบยื่นพาสปอร์ตให้ จนท.รับไป 3 เล่ม แล้วพอๆเอาแค่นี้ สรุป จนท.บอก This way......โดนเรียกเข้าห้องไป 3 คนจ้าาาาา เลยอยากแนะนำว่าอย่าเดินไปถามอะไรเจ้าหน้าที่สุ่มสี่สุ่มห้า เดินเข้าช่องตรวจพาสปอร์ตไปเลย เสียเวลาไป 10-15 นาที เข้าไปในห้องเย็น เจ้าหน้าที่ก็จะถามเป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรอ จะมาอยู่มาเก๊ากี่วัน พักโรงแรมไหน อะไรประมาณนี้ และจะให้เราเซ็นต์แบบฟอร์มอะไรก็ไม่รู้ เราไม่มั่นใจ ก่อนเซ็นต์เลยถามไปว่านี่คือฟอร์มอะไร เจ้าหน้าตอบว่า ทั่วไป ไม่ต้องกังวล แล้วก็ปล่อยเราออกมา ตรูงงแพร๊บ นี่ฉานผิดอารายยยยย เดินออกจากห้องมาในใจก็คิด เออ..ก็ดี เป็นประสบการณ์
เอ้าๆๆ ไปต่อๆๆ หลังจากผ่าน ตม.มาได้ ก็รีบตรงดิ่งข้ามฝั่งไปหาบัสฟรีของเวเนเชี่ยนเพื่อจะไปโรงแรม Hou Kong แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงบัสฟรีบอกว่า ถ้านั่งบัสฟรีของเวเนเชี่ยนไปจะต้องอ้อมไกล และแนะนำให้นั่งรถบัสประจำทาง ไปลง โรงแรม Macau Master แล้วเดินไปโรงแรมของเรา แต่ด้วยความที่ จนท.เหมือนจะออกแขกๆนิดนึง พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดียๆ You can..%$&^%*&* ... bus number " ตีนเอ้ช " เรากับเพื่อนก็แบบ ....????? มันคือสายไหนวะ เลยถามกลับไป What Number? เค้าก็ย้ำคำเดิมอยู่อย่างนั้น" ตีนเอ้ช " " ตีนเอ้ช " ฟังกันอยู่หลายรอบ สุดท้ายคือ 10A แล้วพวกเราก้อต้องแบกกระเป๋ากลับมาฝั่งที่ขึ้นรถบัสตามที่พี่ จนท.ใจดีบอกมา เราลืมถ่ายรูปรถบัสมาให้ดูง่ะ T T
ขึ้นบัสมาแล้ว เปิด Google Map ซะ (เพื่อนซี้ยามยาก) มีบอกหมดรถเมล์สายไหนป้ายไหน อ่อ..อย่าลืมจ่ายตังค่ารถเมล์ล่ะ 3.2 Mop หรือ HK$ ตลอดสาย(14บาท) ทุกสายเท่ากันหมด (แต่เที่ยวแรกพวกเราขึ้นฟรีมา เพราะยังงงกันอยู่ 555 ดีที่คนขับไม่ได้ว่าไร ขอโทษจริงๆน้า)
ทริปนี้ขอให้เครดิตเพื่อนคนนี้เลย ทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์และหัวหน้าทัวร์ คอยบอกทาง เมิง...ลง เมิง....ซ้าย เมิง....ขวา แต่อยากจะถามว่า เมิงจะเดินเร็วปายหนายยยยย แค่หันไปดูของแป๊บเดียว แม่มหายไปละ 55555 ต้องคอยจ้องมันไว้ให้ดีๆ แต่ก็ดีนะ ไม่งั้นคงเที่ยวได้ไม่ครบ เพราะทั้งแก๊ง อืดอาดกันทุกคน
ถึงโรงแรมได้แบบไม่หลง อาจจะงงๆหน่อย แต่ลงถูกป้าย เดินมาหน่อยก็ถึงโรงแรม Hou Kong อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม Macau Master เลย
เรายื่นใบจอง ที่จองผ่านเว็บให้เค้า เค้าก็จะเก็บมัดจำ 400 Mop (ได้คืนตอนเช็คเอาท์) แล้วขึ้นห้องได้เลย
ภายในห้องสะอาดี
เก็บกระเป๋าเสร็จ ก็ออกลุยกันเลย เปิด Map เดินไปซากโบสถ์เซนต์ปอล เดินผ่านทางหลังโรงแรมที่พักไปไม่ไกลมาก ก็จะถึงที่หมาย
แต่ก่อนถึงเจอมุมสวย ขอแวะซักหน่อย
อีกซักรูป ... วันนี้จะถึงโบสถ์มั้ย?
ถ่ายรูปจนพอใจ พอเท๊อะ.. เดินมาจนถึงซากโบสถ์เซนต์ปอล แวะกินทาร์ตไข่ เหมือนผสมมะม่วงสุกนิดๆ อันละ 8 MOP (35บาท) กับวาฟเฟิล 16 MOP (70 บาท) อร่อยดีนะ
คนเยอะมว๊ากกก
เราเอง
งานคู่ก็มา
เดินลงมาตามทางของหน้าโบสถ์จะเจอ โบสถ์เซนต์ดอมินิค อีกที่ที่น่าถ่ายรูป (โบสถ์เหลืองๆข้างหลังนั่นแหละ)
เดินอีกนิด ถึงแล้ว Senado Square ลานกว้าง ฉากสวย รอช้าอยู่ใย ควักขาตั้งกล้องออกมา ถ่ายรูปปปป
ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้ว เดินออกมาทางด้านหน้าเพื่อหาบัสไป City of Dream โดยพวกเราเลือกนั่งบัสสาย 10A ไปที่ท่าเรือที่มาตอนแรกก่อนแล้วไปต่อบัสฟรีของ City of Dream ซึ่งจุดที่จอดบัสฟรี จะมีทั้งไปเวเนเชี่ยน , City of Dream และอีกหลายที่ ที่มีคาสิโน
บัสกำลังพาเราข้ามฝั่งไปเกาะไทปา
ถึง City Of Dream แล้วแพลนไว้ว่ามาที่นี่จะไปดูโชว์ ที่ The Bubble แต่หิวข้าว เลยเดินหาฟู๊ดคอร์ทแต่ก็หาไม่เจอ เดินป้ำๆเป๋อๆอยู่ในCity Of Dreamพักนึง เห็นว่ามีเกมส์ให้เล่นฟรี เลยแวะเล่นเกมส์ซะหน่อย และสุดท้ายตัดสินใจเดินข้ามถนนไปหาของกินที่เวเนเชี่ยน
อาม่าเดินตัดหน้าเฉยๆเลย 555
เดินข้ามถนนไปเวเนเชี่ยน
หิวจนตาลาย แต่2สาวก็ยังไม่วาย จะแวะถ่ายรูป
เข้ามาถึงข้างในปุ๊บ ก็ต้องโอ้โหในใจเบาๆ ความสวยให้สิบ สิบ สิบ ไปเลยจ้าาาา
เดินตามหา ฟู๊ดคอร์ทกันไปกว่าจะเจอ ต้องไปกดหาจากแผนที่ข้างใน ฟู๊ดคอร์ทที่นี่ต้องเดินตรงเข้ามาในคาสิโน แล้วขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 3 เลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้ ก็จะเจอเลย
แต่อาหารที่นี่ราคาโหดมาก 80 HK$ ขึ้นไปต่อจาน แต่ชม.นั้นต้องกินล่ะ หิวไส้จะขาด
หน้าตาอาหาร ของเรากับเพื่อนอีกคน อร่อยมั้ยน่ะหรอ ไม่ต้องพูดถึง
กินคาวเสร็จ กินหวานต่อ ตามหาร้านทาร์ตไข่ ที่เขาว่ากันว่าอร่อย มามาเก๊าต้องมาลองเจ้านี้ Lord Stow's Bekery&Cafe
ทาร์ตไข่หอม อร่อย สมคำร่ำลือ ชิ้นละ 10 HK$ (44บาท)
ร้านอยู่ติดกับบริเวณที่มีการล่องเรือกอนโดล่า เสมือนอยู่ที่เวนิสเลย สวยงามมาก
กินอิ่มแล้ว กะว่าจะมาเล่นคาสิโนกันซักหน่อย ยืนๆดูกันแล้วเข้าใจแบบมั่วๆประมาณว่าตามโต๊ะจะให้แลกชิพขั้นต่ำ 300 HK$ มั้ง (1,320 บาท) เลยไม่ดีกว่า น่าจะเสียมากกว่าได้ 555 แต่มันก็น่าลองเล่นดูนะ
ในคาสิโนเค้าห้ามถ่ายรูป แต่เพื่อนถ่ายได้มารูปนึง จะโดนหิ้วมั้ยเนี่ยยย
ตกเย็นก็กลับห้องพักโดยนั่งบัสฟรี ไปฝั่งมาเก๊าและลงท่าเรือมาเก๊าเช่นเดิม และต่อรถเมล์สาย10A กลับที่พัก พักผ่อนนอนเอาแรง หลังจากนอนน้อยกันมาเมื่อคืน
เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2......>>>ข้ามฝั่งกลับไปฮ่องกง