ฝีที่ว่า คือ ฝีคัณฑสูตรค่ะ ได้ยินตอนแรกมึนตึ๊บค่ะ ว่ามันคืออะไร คุยกับใครก็มีแต่คนงง ว่ามันคืออะไร
เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ เพราะตอนหลังผ่าตัด กังวลไปหมด อาศัยแต่ประสบการณ์ของคนที่เคยเป็น

เรื่องจากราวมีนาคม 2560
      เริ่มรำคาญก้อนเล็กๆ ตรงขาหนีบ ข้างๆอวัยวะเพศ เป็นก้อนที่เต่งและแตกเอง แตกออกเป็นเลือดไม่มาก ไม่รู้สึกเจ็บ แต่เวลาที่ก้อนเต่งรู้สึกรำคาญ เป็นมาราว2ปี เลยตัดสินใจไปหาหมอที่ รพ.วชิระ ภูเก็ต

    ตอนแรกคิดว่าต้องหาหมอสูติฯ เพราะใกล้อวัยวะเพศมาก แต่พยาบาลให้ไปแผนกศัลยฯ ไปถึง โอ้แม่เจ้า คนเยอะมาก ไปตอน 9โมง พอเห็นคนก็เลยกลับดีกว่า พอตอนบ่ายคิดว่าไหนๆก็ยื่นเรื่องแล้ว ให้หมอดูดีกว่า ได้ตรวจราวบ่าย 2 ตรวจกับ Intern หมอแจ้งว่าเกิดสะสมของสิ่งสกปรกในรูขุมขน ให้แผลเต่งๆ แล้วค่อยมาผ่า
    กลับบ้าน คอยแผลเต่งกะจะไปนัดผ่า แต่ดันแตกซะก่อนอีก เฮ้อ...
ตอนนั้นจำได้ว่ามีคลินิกเฉพาะทางศัลยกรรม (หมอนิกร ประจำที่วชิระ) มาเปิดอยู่ไม่ไกลที่พัก เลยให้หมอดูให้ดีกว่า เข้าห้องตรวจ หมอขอดูแผลก้อนนั้น หมอกดและแจ้งว่ารากของก้อนนั้นไปทางก้น ขอล้วงก้น อึ๋ย จากนั้นมานั่งคุยกับหมอ หมอว่าน่าจะเป็นฝีคัณฑสูตร (คิดในใจ คืออะไรเนี่ย) ต้องผ่าตัดออก เพื่อที่ว่าจะได้ผ่ารากออมาให้หมด จะได้ไม่เป็นซ้ำ วิธีการผ่าก็คือบล็อกหลัง (น้ำตาคลอ ไม่คิดว่าก้อนนิดเดียวจะร้ายขนาดนี้ อายุก็แค่ 25 เอง) ถามหมอว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หมอว่าถ้าผ่าที่วชิระและมีประกันสังคมที่วชิระอยู่แล้วก็ไม่มีค่าใช้จ่าย กลับบ้านทำใจ รอวันนัด 19 พฤษภาคม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สาเหตุหลักของการเกิดฝีคัณฑสูตร คือ เกิดจากการเป็นฝีหนอง โดยเริ่มจากต่อมผลิตเมือกของทวารหนักเกิดการอุดตัน ทำให้มีโอกาสเกิดการติดเชื้อตามมา เมื่อติดเชื้อก็จะเกิดการอักเสบ และพัฒนากลายเป็นฝีหนองในที่สุด หนองที่มีปริมาณมากขึ้นก็จะค่อยๆเซาะไปตามชั้นของกล้ามเนื้อของทวารหนัก ชั้นของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และชั้นของผิวหนังที่อยู่บริเวณรอบๆทวารหนัก จนกระทั่งแตกทะลุออกสู่ภายนอก กลายเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างรูของทวารหนักกับผิวหนัง เรียกว่า Fistula
http://haamor.com/th/%E0%B8%9D%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3/

นัดผ่า 19 พฤษภาคม 2560
    เริ่มนอนโรงพยาบาลตั้งแต่ 18 พฤษภาคม เพื่อเตรียมตัวผ่าตัดวันรุ่งขึ้น ได้ห้องพิเศษประกันสังคมเตียงคู่ โชคดีมากๆ เพราะเหลือแค่เตียงเดียว ก่อนนอนกินยาถ่าย และงดน้ำ อาหาร หลังเที่ยงคืน
   เช้า วันที่ 19 พยาบาลมาปลุกให้อาบน้ำเพราะอีกแปปจะเสียบสายน้ำเกลือ นอนรอไปเรื่อยๆจนถึงเที่ยงเศษเจ้าหน้าที่จากห้องผ่าตัดมารับ  ก็นั่งรถเข็นไปและเปลี่ยนนอนเตียงนอนหน้าห้องผ่าตัด จนถึงราวๆบ่ายโมง ก็เข็นเข้าห้องผ่า เข้ามาตกใจเพราะ เจ้าหน้าที่ในห้องผ่าเยอะมาก เตรียมตัวบล็อกหลัง ท่าแรกนอนเอาเข่าชิดอก ไม่แน่ใจเพราะอะไร หรือว่าเกร็งไป เลยไม่ชา เจ้าหน้าที่เลยให้เปลี่ยนเป็นนั่งแล้วก้มลงบล็อกใหม่ ทีนี้ชาแล้ว เหมือนตั้งแต่หน้าท้องลงไปไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย พอชาเจ้าหน้าที่ช่วยกันจัดท่าผ่า โดยให้นอนคว่ำสบายๆ รู้สึกแค่ว่าเหมือนมีคนมาทำอะไรที่ก้นแต่ไม่รู้สึกเจ็บ ผ่าซักพักเจอริดสีดวง - -“ หมอถามจะเก็บไว้ไหม บอกหมอ เอาออกไปเลยค่ะ รู้สึกว่าผ่าไม่นานก็เสร็จ  จากนั้นเจ้าหน้าที่เข็นมาห้องพักฟื้น เอาคล้ายๆเบาะลมร้อนมาห่มให้ ซักพักเข็นกลับห้องผู้ป่วย

หลังผ่า
ตอนนั้นรู้สึกว่าหิวมาก กลับมาก็กินเลย พอลองเอามือไปจับที่ก้นรู้สึกว่าแปะผ้าก็อซไว้หนามาก นอนไปเรื่อยๆจนราว 2-3 ทุ่มเริ่มแล้ว อาจการเจ็บมันมาแล้ว เลยให้คนเฝ้าไปบอกพยาบาล จากนั้นพยาบาลเข้ามาฉีดยาแก้ปวดให้ โดยเข้าทางสายน้ำเกลือ ฉีดปุ๊บออกฤทธิ์ทันทีเบลอไปหมดเลย เลยว่าถามว่าถ้าปวดปัสสาวะ ทำอย่างไร นางว่าปล่อยออกมาได้เลย ตอนนั้นงง ทำไมไม่แจ้งอะไร เพราะถ้าปล่อยออกมา ปัสสาวะก็อยู่ในผ้าก้อซซิ เลยไปถามอีกรอบ นางว่าแกะผ้าก็อซออกได้เลยและใส่ผ้าอนามัยแบบห่วงไว้ ก่อนนอนมียาช่วยระบาย ตอนแรกไม่อยากกิน ไม่อยากอึก่อน แต่พยาบาลแจ้งว่าจะช่วยให้อึนิ่มไม่ปวดแผลผ่าตัด
เที่ยงคืนไปเข้าห้องน้ำ แกะผ้าก็อซออก หนามาก จากนั้นจึงใส่ผ้าอนามัย ตอนนี้ รู้สึกว่าเกือบเป็นลม เปิดประตูห้องน้ำตะโกนเรียกแฟนมาช่วยใส่ห่วงผ้าอนามัยเพราะตาลาย เหงื่อออกเต็มหน้า มานอนที่เตียง เจ็บแผล ขออีกเข็ม

หลังผ่าวันถัดมา 20 พฤษภาคม
ตื่นเช้ามากินอาหารก่อน พร้อมยาแก้ปวด+อักเสบ ยังไม่ปวดท้องหนัก เลยแค่ปล่อยเบาก่อน พอเข้าห้องน้ำลูบตรงแผล อ้าว! ยังมีผ้าก็อซอุดแผลอีก ดึงออกมาเจ็บมาก แผ่นใหญ่ด้วย ลูบแผลอีกที แผลเปิดใหญ่มาก เหมือนหมอคว้านเนื้อตรงนั้นไปค่อนข้างเยอะ ตกใจมากกกก เดินออกมาขาสั่น กังวลไปหมด ไม่นึกว่าแผลเล็กตอนแรก จะกลายเป็นแบบนี้ ตอนนั้นยังไม่ได้หาข้อมูลโรคนี้อะไรเลย ทั้งเลือดทั้งน้ำเหลืองไหลเต็มไปหมด
    ตอนเที่ยงหมอมาเยี่ยม ถอดสายน้ำเกลือได้ ให้แช่ก้นร่วมด้วย จะได้ปวดน้อยลง โทรให้แฟนซื้อกะละมังเข้ามา เพราะตอนนั้นไม่ได้ยาฉีดแก้ปวดแล้ว พาราก็เอาไม่อยู่ ช่วงระหว่างแฟนผสมน้ำใกล้เสร็จ อยู่ๆก็รู้สึกปวดหนัก บอกแฟนให้ออกมา พอถ่ายเสร็จนี่แหละเจ็บปวดของจริง ปวดมากๆ ลงไปแช่ก้นทันที ทุเลาลงเยอะ

21 พฤษภาคม
    หมอมาเยี่ยมช่วงเที่ยงขอหมอกลับบ้าน เพราะรู้สึกว่าทำอะไรได้สะดวกกว่า เพราะในห้องก็มีคนไข้อีกคน พอจะใช้ห้องน้ำนานๆก็เกรงใจอีก

สรุปช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัด
-เวลาขมิบก้นหรือเกร็งกล้ามเนื้อ จะปวดมาก รวมทั้งหลังถ่ายปวดแบบทรมาน ปวดจนเหงื่อแตก อั้นอุจจาระไม่ค่อยได้ เลอะกางเกงราว3วัน จากนั้นจึงค่อยๆดีขึ้น แช่ก้นช่วยได้เยอะมาก เราแช่วันละ2 ครั้ง ตอนเช้าหลังถ่าย กับตอนค่ำ ตอนลงไปแช่จะได้กลิ่นเหม็นของน้ำเหลืองทันที (น้ำเหลืองยังไหลอยู่เรื่อยๆ ต้องใส่ผ้าอนามัยตลอดเวลา )    
-4-5วันหลังผ่า แสบแผลมาก ยิ่งเวลาโดนน้ำนิคือสะดุ้ง แต่ต้องกลั้นใจ ล้างให้สะอาด เพราะแผลอยู่ใกล้กับก้นมาก กลัวว่าจะยิ่งสกปรก ใช้แค่น้ำเปล่าล้างแผล ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับแผลมาก
-นั่งธรรมดาจะปวด เราใช้นอนหัวสูง ช่วงอาทิตย์แรก
-หมอนัด หลังผ่า1สัปดาห์ เพื่อดูแผล แผลปกติดี เลยขอหมอไม่แช่ก้น เพราะเริ่มไม่ปวดแล้ว แต่แสบแผลมากกว่า หมออนุญาต กลับบ้านได้ยาแก้ปวด+อักเสบเพิ่ม นัดอีกที 30 มิถุนายน

สรุปค่าใช้จ่าย ประกันสังคมเสียให้หมดค่ะ  รวมทั้งค่าห้องพิเศษด้วย (อยู่wardประกันสังคม)

ณ ตอนนี้ 8 มิถุนายน สามารถนั่งได้ปกติ แต่แผลยังไม่ปิด ยังคงมีน้ำเหลืองไหลออก รู้สึกปวดแบบตึงๆแผล พยายามถ่ายทุกวัน ไม่ให้ท้องผูก

พอดีเพิ่งเขียนประสบการณ์ครั้งแรกค่ะ ถ้างงๆหรือผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ