รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรา ผิดพลาดประการใด ขออภัย และก็…ด่าได้แต่อย่าเยอะ เรากลัว ฮ่าๆๆ
นี่คือ! ทริป ตปท คนเดียว ครั้งแรก ในชีวิตของเราเลยน๊ะ ก่อนหน้าไม่เคยไป ตปท กับเขาชักทีหรอก….ไกลสุดก็ดอยปุย เชียงใหม่อ๊ะ ณ ตอนนี้ก็ยัง มึนๆ งงๆ ว่า “ตัวเองกลับมาได้ยังไง เนี๊ยะ” ฮ่าๆๆ จุดเริ่มต้นของทริปไม่คาดฝันครั้งนี้ มันเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน เมษา ที่ผ่านมานี่เอง และมันจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปประเทศอื่นๆของเราอีกด้วย เพราะ ณ ตอนนี้ เราจองตั๋วล่วงหน้าไป 4 ประเทศ ประกอบไปด้วย เอ๊ะ!! ไม่บอกดีกว่า เผื่อ Something else crops up ฮ่าๆๆ เดี๋ยวหน้าแตก ถ้ามีโอกาสได้ไปตามแพลนที่วางไว้ จะเก็บภาพสวยๆ กลับมาเล่าให้ฟังนะคัฟ
ถ่ายที่ : Yeouido Park
ก่อนที่ทริปที่เรากำลังพูดถึง จะเริ่มต้นขึ้นเนี๊ยะ!! วันนึงเราหาหนังดู แก้เซ็ง!! วันหยุด ส อ ดันไปเจอ "กวนมึนโฮ" ดูแล้วของขึ้นเลย เหมือนดู “วัยรุ่นพันล้าน แล้ววันถัดมาไปเปิดร้านลาบอ๊ะ” จบม้วนปุ๊ป!! อยากไปเที่ยวต่างประเทศปั๊ปเลย แต่เราออกตัวก่อนเลยว่า เราไม่ใช่ติ่งเกา ติ่งเต๋อ หนูนา เราแค่ชอบสถานที่ที่เห็นในหนังเรื่องนี้ ไม่น่าเชื่อ!! หลังจบทริป เราโหลดเพลงเกาหลีมาฟัง ติดตาม Girl groups เกาหลีแทบจะแบบ…เปิด Social ขึ้นมาเห็นหน้าพวกเทอร์เป็นอันดับแรกเลย ไม่ใช่แค่พวกเทอร์น่ารักน๊ะ ตั้งแต่นั้นมา เราชอบทุกอย่างที่เป็นเกา ประทับใจทริปนี้ม๊ากๆ คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากๆคัฟ น้ำจิ้มของความประทับใจ ดูบอลครั้งแรกใน World cup stadium ยืนแอ๊บเนียนๆ (ฟังไม่ออก) กับคอนเสิร์ตของ Melodyday พร้อมสถานที่เที่ยวกว่า 30 สถานที่ที่ไปใน เกาหลี!! ไม่สมแก่ใจ…มี (แบกครุยไปถ่าย Pre-con ด้วย ฮ่าๆๆๆ ตัดมาแพงไง ต้องใช้งานให้คุ้ม) เริ่มที่ค่าใช้จ่ายก่อนละกันเน๊าะ!!
ค่าใช้จ่าย
- ตั๋ว ไป-กลับ 8700 บาท สายการบินแอร์เอเซีย
- ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ ค่ากิน เดินทาง ในประเทศ ค่าหอ รวมตลอดทริป 8000 บาท (เน้นเที่ยว ไม่เน้นกิน)
- เสื้อแขนยาว Fc Seoul 140,000 วอน เงินไทยประมาณ 4 พันต้นๆ แพงกว่าค่ากินอี๊กกกก ไม่ซื้อก็ไม่ได้ เข้าไปดูบอล สนามอลังการงานสร้าง ของขึ้นไง มันต้องซื้อให้ได้ๆ ใส่เข้าไปเชียร์บอล ( We are Fc Seoul ) เฮ้ๆๆ ฮ่าๆๆ
ถ่ายที่ย่าน : Ewha womans university
Day 1 (The Trip begins)
เวลา 16:15 น. เวลาท้องถิ่นในไทย เป็นเวลาไฟท์เรา Take off จากดอนเมืองบินลัดฟ้าไปอินชอนราวๆ 5 ชม. เวลาที่เกาหลี 2 hours ahead of Thai หลังจากที่เครื่องลงจอดเวลา 23:30 น. เดินตาม Arrival ไป Immigration มีเหตุการณ์เล็กน้อยคัฟ เราติด ตม. ฮ่าๆๆๆ หน้าคล้ายโจรไง ตม. จับพาสมา มองหน้า เรียกเลย พาสขาวด้วยมั้ง (เฮ้ยยย ท่าจะไปไหนยาก) ติด อยู่ 2 ชม.ครึ่ง กว่าจะผ่านออกมาได้
ถ่ายที่ : Nami-Island
ติด ตม. ออกมาได้ไง?
ตอนเรายื่น Passport ให้ ตม. ประมาณ 2 นาที ตม. ก็ถามเรา ไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร เสียงเบาและฟังไม่ออกเลย เราก็เลยโต้กลับไป Again please! ถามคำถามเดิมเราอีก เอ่ๆๆๆๆ ภาษาไรว๊ะ? เราพูดในใจ ไม่ทันไรเลย บอก ตม. อีกคน พาเราไปที่ห้องเย็นชะงั้น (งง ม๊ากๆๆ) แต่เราไม่กลัวนะ เราคิดว่ามันคือ อีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราได้ในระหว่างเดินทาง (การเดินทางบางครั้งระหว่างทาง อาจจะพิเศษกว่าปลายทางน๊ะ นี่แน่!! ยิงมุข ปิ๊วๆๆ) ที่จริง ตม. เกาหลีไม่โหดนะ เราเข้าใจที่เขาเคร่ง เราเตรียมเอกสารมาค่อนข้างครบ (ศึกษามาหลายสำนักม๊ากกก เรื่อง ตม. เนี๊ยะ!! กลัวเสียค่าไฟท์ฟรีไง) เราผ่านมาได้เพราะเอกสารที่เราเตรียมไปนั่นแหละ ที่ควรเตรียมไปมีไรบ้าง มาเราจะไกด์ให้
1. หนังสือรับรองการทำงาน / บัตรพนักงงาน(ถ้ามีน๊ะ) ตอนนั้นเราพกไป 2 อย่าง ผ่านฉลุย (อ่อ! เราทำงานแล้วน๊ะ ที่แบกครุยไป พึ่งรับเดือน ธันวา นี่เองและตอนนั้นไม่ได้ถ่าย Pre-con เลย เลยยกยอดมาทริปนี้)
2. บัตรเครดิต (ต้องมี ไม่มีก็ต้องมี อ้าว!! เราไม่มีหรอก ตอนเขาถาม เราโกหก ฮ่าๆๆ)
3. แผนการเดินทาง (แนะนำให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ)
4. เอกสารการจองห้องพัก (จำเป็นมากน๊ะ เพราะถ้าไม่มีเขาจะสงสัย ไปนอนไหน ไม่เตรียมตัว ส่งกลับ!! ยุ่งอีกแหล๊ะ)
5. ตั๋วไปกลับ (จำเป็นเช่นกัน เพราะถ้ามีตั๋วขาไปอย่างเดียว ก็สงสัยอีกแหล๊ะว่า…มาทำงานที่นี่รึปล่าว เพราะพาสของเรา อยู่เกาได้ 90 วันนะคัฟ)
6. กรณีเรียนหนังสืออยู่ (ใช้บัตรนักศึกษาน๊ะ)
7. แต่งตัวดีนิดนึง อย่าอินดี้นะ เพราะ ตม. ไม่อินดี้กับเรา สงสัยคือจับเข้าห้องเย็นเลย แล้วคนส่วนใหญ่ที่เข้าไป โอกาสน้อยมากที่จะได้ออกมา เตรียมตัวดีดีะคัฟ เสียดายเวลา เสียดายตังค์ ไม่คุ้ม!!
Day 2
- Nami-island
- The National Museum of Korea
- Deoksugung Stone-wall Road
- Deoksugung Palace
- Myeong-dong Market
- Myeong-dong Catholic Cathedral
เนื่องจากหอที่เราเช่า อ่อ! ลืมบอกไป เราเช่าที่ Banana Backpacker 3 คืน คืนละ 1000 เหตุผลที่พักที่นี่หรอ? เดินทางง่าย ใกล้กับสถานี Sookmyung Women’s University หอสะอาดดี มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวทำอาหาร พนักงานสื่อสารอังกฤษได้ดีมากๆ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา) มีรูปหนูนาและเต๋อ ในฉากหนัง “ กวนมึนโฮ” ติดที่หน้าหอด้วย ฮ่าๆๆ (กวนมึนโฮ ก็ดังใช่เล่นนะ) หอเราเช็คอิน บ่ายโมงคัฟ เลยไม่อยากเสียเวลา อยากทำเวลาและเที่ยวให้จุใจ เต็มอิ่มไปเลย เพราะโอกาสมาแบบนี้ ไม่ง่ายนะคัฟ เงินหายากมากๆ ฮ่าๆๆ ทำงานหัวปักหัวปำ เลยมุ่งหน้าเที่ยวก่อนเลยบวกกับบรรยากาศดี 10 องศา สายมานิดๆมีแดด แต่แดดที่นั่นไม่เหมือนที่ไทยเราน๊ะ สวมเสื้อแขนยาวเดินอุ่นๆ ฟินม๊าก พูดแล้วก็อยากกลับไปอีก 1 เหตุผลที่เราชอบเกาหลีคือ สภาพอากาศนี่แหล๊ะ ใส่เสื้อโค๊ท สวมหมวกไหมพรม กอดอกเดินบนฟุตบาท ฟังเพลง ก็ฟินมากแล้วคัฟ ชีวิตนี้ หามิได้!!
ถ่ายในระหว่างเดินทางไปเกาะนามิ
การเดินทางจาก สนามบิน สู่ เกาะนามิ
(การเดินทางของเรา เราใช้ แอพ Seoul Subway จะบอกข้อมูลการเดินทางและค่าใช้จ่าย ประมาณนี้ สะดวกดีครับ) 1/3 Start at Incheon International Airport Take the Airport Railroad (AREX) towards Gongdeok 2/3 Change at Gongdeok Take the Gyeongui-Jungang Line towards Sangbong 3/3 Change at Sangbong Take the Gyeongchun Line towards Gapyeong
พอถึงสถานี Gapyeong จะนั่งรถเมย์หรือแท็กซี่ก็ได้น๊ะ เรานั่งแท็กซี่อ๊ะ 2500 วอน ถึงนามิเลย สะดวกดี (รูปเราเอง ทนๆดูไปหน่อยน๊ะ เราว่าจะเบลอๆไว้หรือแป๊ะสติกเกอร์ แต่กลัวแบบ..บดบังหน้าเพื่อ? อะไรทำนองนี้ ฮ่าๆๆ)
เรามีอะไรจะบอก คนเกาหลีจะแบบ รีบๆ เร่งๆ มาก ออกจากรถไฟฟ้าปุ๊ป คุณ…ผู้ที่ไม่ใช่คนเกาหลี ต้องหลบด่วนเลยนะ เพราะเขาจะวิ่งไปเปลี่ยนสายแบบ โหยยย ชนมามีโอกาสโคม่าอ๊ะ วิ่งเร็วเกิน!!
รถไฟที่บ้านเขาหลายสายม๊ากๆ แต่ไม่ต้องกลัว เรามีตัวช่วย (แอพ Seoul Subway) ที่เราแนะนำไปก่อนหน้า เป็นแอพที่เราใช้ตลอด 5 วันที่อยู่ที่นั่น ใครเตรียมตัวไปต้องไม่พลาดน๊ะ จะได้ไม่เสียเวลา เอาเวลาไปเสียกับการเที่ยวดีกว่าเสียให้กับการหลงทางน๊ะ ฮ่าๆๆ
รถไฟ บู๊นๆๆ ใช่รึปล่าวว๊ะ ไม่รู้!! มันไม่วิ่ง ฮ่าๆๆๆ
ทางเข้าเกาะนามิ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ เผื่อใครอยากจะตุนไปกินในเกาะ เพราะถ้าในเกาะมีขาย ต้องแพงกว่าปกติแน่ๆ
Nami-island
Operation Time : 7:30 AM – 9:30 PM
Tickets : 8000 Won
Leave a bag : 1000 Won
ข้อมูลคร่าวๆที่ควรรู้ บัตรเข้าบวกเรือข้ามฟาก 8000 วอน แบกกระเป๋ามาหนักๆเหมือนเรา มีล๊อคเก๊ทฝากกระเป๋า 1000 วอน จะได้เที่ยว เดินเกาะ สบายๆ แบกแค่กล้องและขาตั้งกล้อง ชิวไปอีกเย๊อะ!!
ระหว่างนั่งเรือข้ามเกาะ วิวสวย!!
บอกก่อนเลยว่า “เกาะ...ฮานามิ ไรเนี๊ยะ” ใหญ่มากๆ แน่นอนทุกคนที่มาที่นี่! คงไม่พลาดที่จะแช๊ะภาพกับ "รูปปั้นเบยองจุน" นี่คือภารกิจแรกของเรา ใครแพลนมาแบบฟิกเวลาก็ต้องเร่งฝีเท้าเข้าน๊ะ เดี๋ยวไม่ทัน เผื่อเวลาหลงป่า หลงเกาะอีกด้วย ฮ่าๆๆ
รูปปั้นเบยองจุน อยู่หน๊าย (แอบอิจนิดๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ) ไม่แน่น๊ะ!! บางทีคนมีคู่อาจจะอิจฉา คนไร้คู่อย่างเราก็ได้ ใครจะไปรู้? (เราพูดปลอบใจตัวเองไปเรื่อย อย่าถือสาเลย ฮ่าๆๆ)
ภายในเกาะก็จะมีร้านอาหาร ใครที่ลืมซื้อเข้ามาก็ไม่ต้องกังวลน๊ะ ว่า…ท้องจะร้อง ยอมจ่ายแพงหน่อยก็ไม่เป็นไรเน๊าะ มาเที่ยวชะอย่าง กินไปโลดดด
ห้องน้ำน่ารักดี (จนไม่กล้าเข้า) ฮ่าๆๆ
บรรยากาศดีมาก อย่างกะในซีรีย์ (มโนแป๊ปปป)
ลืมบอก!! การมาเที่ยวคนเดียว เรื่องถ่ายรูปนี่ก็ต้องเตรียมตัวเล็กน้อยน๊ะ เห็นอะไรในมือเราปล่าว? รีโมทชัตเตอร์ ฮ่าๆๆ เราเตรียมขากล้อง และรีโมทมา จะได้ไม่รบกวนคนอื่น อยากถ่ายอะไร ตอนไหน ก็ถ่ายโลด แม้จะอายคนหน่อยๆ ก็ช่างเถอะ (อยู่เมืองนอก เราอยากทำไร ก็ทำไปเลย ไม่มีใครรู้จักเราหรอก) ฮ่าๆๆ
ซากุระ ครั้งแรกของเรา ฮ่าๆๆ ก่อนหน้าเคยเห็นแต่พญาเสือโค้งที่เชียงใหม่ เจ้านั่นก็สวยไม่แพ้กันน๊ะ แต่นี่ Original ไง!! ดูดี มีสตอรี่ เลยพิเศษๆ หน่อย แค่นั้นแหล๊ะ!!
พญาเสือโค้งที่เชียงใหม่ เมื่อเดือน มกรา ที่ผ่านมา
เดินเกือบ 3 ชม. ในที่สุดเราก็เจอ "เบยองจุน" กรี๊ดด!! ว่าแต่ ยัยคนข้างๆคือใคร ไม่รู้! จำมาแต่เบยองจุน ออกไปอย่ามาใกล้เบยองจุนฉ๊านน (ออกตัวก่อนนะ เราไม่ใช่แบบที่คุณคิดนะ เรา ผช. แต่ขี้เล่นไปงั้นแหล๊ะ)
แบกกล้อง ตะลุยเดี่ยว (เกาหลี) เจอดีทั้ง ตม และ ตะมุตะมิ
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรา ผิดพลาดประการใด ขออภัย และก็…ด่าได้แต่อย่าเยอะ เรากลัว ฮ่าๆๆ
นี่คือ! ทริป ตปท คนเดียว ครั้งแรก ในชีวิตของเราเลยน๊ะ ก่อนหน้าไม่เคยไป ตปท กับเขาชักทีหรอก….ไกลสุดก็ดอยปุย เชียงใหม่อ๊ะ ณ ตอนนี้ก็ยัง มึนๆ งงๆ ว่า “ตัวเองกลับมาได้ยังไง เนี๊ยะ” ฮ่าๆๆ จุดเริ่มต้นของทริปไม่คาดฝันครั้งนี้ มันเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน เมษา ที่ผ่านมานี่เอง และมันจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปประเทศอื่นๆของเราอีกด้วย เพราะ ณ ตอนนี้ เราจองตั๋วล่วงหน้าไป 4 ประเทศ ประกอบไปด้วย เอ๊ะ!! ไม่บอกดีกว่า เผื่อ Something else crops up ฮ่าๆๆ เดี๋ยวหน้าแตก ถ้ามีโอกาสได้ไปตามแพลนที่วางไว้ จะเก็บภาพสวยๆ กลับมาเล่าให้ฟังนะคัฟ
ก่อนที่ทริปที่เรากำลังพูดถึง จะเริ่มต้นขึ้นเนี๊ยะ!! วันนึงเราหาหนังดู แก้เซ็ง!! วันหยุด ส อ ดันไปเจอ "กวนมึนโฮ" ดูแล้วของขึ้นเลย เหมือนดู “วัยรุ่นพันล้าน แล้ววันถัดมาไปเปิดร้านลาบอ๊ะ” จบม้วนปุ๊ป!! อยากไปเที่ยวต่างประเทศปั๊ปเลย แต่เราออกตัวก่อนเลยว่า เราไม่ใช่ติ่งเกา ติ่งเต๋อ หนูนา เราแค่ชอบสถานที่ที่เห็นในหนังเรื่องนี้ ไม่น่าเชื่อ!! หลังจบทริป เราโหลดเพลงเกาหลีมาฟัง ติดตาม Girl groups เกาหลีแทบจะแบบ…เปิด Social ขึ้นมาเห็นหน้าพวกเทอร์เป็นอันดับแรกเลย ไม่ใช่แค่พวกเทอร์น่ารักน๊ะ ตั้งแต่นั้นมา เราชอบทุกอย่างที่เป็นเกา ประทับใจทริปนี้ม๊ากๆ คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากๆคัฟ น้ำจิ้มของความประทับใจ ดูบอลครั้งแรกใน World cup stadium ยืนแอ๊บเนียนๆ (ฟังไม่ออก) กับคอนเสิร์ตของ Melodyday พร้อมสถานที่เที่ยวกว่า 30 สถานที่ที่ไปใน เกาหลี!! ไม่สมแก่ใจ…มี (แบกครุยไปถ่าย Pre-con ด้วย ฮ่าๆๆๆ ตัดมาแพงไง ต้องใช้งานให้คุ้ม) เริ่มที่ค่าใช้จ่ายก่อนละกันเน๊าะ!!
ค่าใช้จ่าย
- ตั๋ว ไป-กลับ 8700 บาท สายการบินแอร์เอเซีย
- ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ ค่ากิน เดินทาง ในประเทศ ค่าหอ รวมตลอดทริป 8000 บาท (เน้นเที่ยว ไม่เน้นกิน)
- เสื้อแขนยาว Fc Seoul 140,000 วอน เงินไทยประมาณ 4 พันต้นๆ แพงกว่าค่ากินอี๊กกกก ไม่ซื้อก็ไม่ได้ เข้าไปดูบอล สนามอลังการงานสร้าง ของขึ้นไง มันต้องซื้อให้ได้ๆ ใส่เข้าไปเชียร์บอล ( We are Fc Seoul ) เฮ้ๆๆ ฮ่าๆๆ
Day 1 (The Trip begins)
เวลา 16:15 น. เวลาท้องถิ่นในไทย เป็นเวลาไฟท์เรา Take off จากดอนเมืองบินลัดฟ้าไปอินชอนราวๆ 5 ชม. เวลาที่เกาหลี 2 hours ahead of Thai หลังจากที่เครื่องลงจอดเวลา 23:30 น. เดินตาม Arrival ไป Immigration มีเหตุการณ์เล็กน้อยคัฟ เราติด ตม. ฮ่าๆๆๆ หน้าคล้ายโจรไง ตม. จับพาสมา มองหน้า เรียกเลย พาสขาวด้วยมั้ง (เฮ้ยยย ท่าจะไปไหนยาก) ติด อยู่ 2 ชม.ครึ่ง กว่าจะผ่านออกมาได้
ติด ตม. ออกมาได้ไง?
ตอนเรายื่น Passport ให้ ตม. ประมาณ 2 นาที ตม. ก็ถามเรา ไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร เสียงเบาและฟังไม่ออกเลย เราก็เลยโต้กลับไป Again please! ถามคำถามเดิมเราอีก เอ่ๆๆๆๆ ภาษาไรว๊ะ? เราพูดในใจ ไม่ทันไรเลย บอก ตม. อีกคน พาเราไปที่ห้องเย็นชะงั้น (งง ม๊ากๆๆ) แต่เราไม่กลัวนะ เราคิดว่ามันคือ อีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราได้ในระหว่างเดินทาง (การเดินทางบางครั้งระหว่างทาง อาจจะพิเศษกว่าปลายทางน๊ะ นี่แน่!! ยิงมุข ปิ๊วๆๆ) ที่จริง ตม. เกาหลีไม่โหดนะ เราเข้าใจที่เขาเคร่ง เราเตรียมเอกสารมาค่อนข้างครบ (ศึกษามาหลายสำนักม๊ากกก เรื่อง ตม. เนี๊ยะ!! กลัวเสียค่าไฟท์ฟรีไง) เราผ่านมาได้เพราะเอกสารที่เราเตรียมไปนั่นแหละ ที่ควรเตรียมไปมีไรบ้าง มาเราจะไกด์ให้
1. หนังสือรับรองการทำงาน / บัตรพนักงงาน(ถ้ามีน๊ะ) ตอนนั้นเราพกไป 2 อย่าง ผ่านฉลุย (อ่อ! เราทำงานแล้วน๊ะ ที่แบกครุยไป พึ่งรับเดือน ธันวา นี่เองและตอนนั้นไม่ได้ถ่าย Pre-con เลย เลยยกยอดมาทริปนี้)
2. บัตรเครดิต (ต้องมี ไม่มีก็ต้องมี อ้าว!! เราไม่มีหรอก ตอนเขาถาม เราโกหก ฮ่าๆๆ)
3. แผนการเดินทาง (แนะนำให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ)
4. เอกสารการจองห้องพัก (จำเป็นมากน๊ะ เพราะถ้าไม่มีเขาจะสงสัย ไปนอนไหน ไม่เตรียมตัว ส่งกลับ!! ยุ่งอีกแหล๊ะ)
5. ตั๋วไปกลับ (จำเป็นเช่นกัน เพราะถ้ามีตั๋วขาไปอย่างเดียว ก็สงสัยอีกแหล๊ะว่า…มาทำงานที่นี่รึปล่าว เพราะพาสของเรา อยู่เกาได้ 90 วันนะคัฟ)
6. กรณีเรียนหนังสืออยู่ (ใช้บัตรนักศึกษาน๊ะ)
7. แต่งตัวดีนิดนึง อย่าอินดี้นะ เพราะ ตม. ไม่อินดี้กับเรา สงสัยคือจับเข้าห้องเย็นเลย แล้วคนส่วนใหญ่ที่เข้าไป โอกาสน้อยมากที่จะได้ออกมา เตรียมตัวดีดีะคัฟ เสียดายเวลา เสียดายตังค์ ไม่คุ้ม!!
Day 2
- Nami-island
- The National Museum of Korea
- Deoksugung Stone-wall Road
- Deoksugung Palace
- Myeong-dong Market
- Myeong-dong Catholic Cathedral
เนื่องจากหอที่เราเช่า อ่อ! ลืมบอกไป เราเช่าที่ Banana Backpacker 3 คืน คืนละ 1000 เหตุผลที่พักที่นี่หรอ? เดินทางง่าย ใกล้กับสถานี Sookmyung Women’s University หอสะอาดดี มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวทำอาหาร พนักงานสื่อสารอังกฤษได้ดีมากๆ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา) มีรูปหนูนาและเต๋อ ในฉากหนัง “ กวนมึนโฮ” ติดที่หน้าหอด้วย ฮ่าๆๆ (กวนมึนโฮ ก็ดังใช่เล่นนะ) หอเราเช็คอิน บ่ายโมงคัฟ เลยไม่อยากเสียเวลา อยากทำเวลาและเที่ยวให้จุใจ เต็มอิ่มไปเลย เพราะโอกาสมาแบบนี้ ไม่ง่ายนะคัฟ เงินหายากมากๆ ฮ่าๆๆ ทำงานหัวปักหัวปำ เลยมุ่งหน้าเที่ยวก่อนเลยบวกกับบรรยากาศดี 10 องศา สายมานิดๆมีแดด แต่แดดที่นั่นไม่เหมือนที่ไทยเราน๊ะ สวมเสื้อแขนยาวเดินอุ่นๆ ฟินม๊าก พูดแล้วก็อยากกลับไปอีก 1 เหตุผลที่เราชอบเกาหลีคือ สภาพอากาศนี่แหล๊ะ ใส่เสื้อโค๊ท สวมหมวกไหมพรม กอดอกเดินบนฟุตบาท ฟังเพลง ก็ฟินมากแล้วคัฟ ชีวิตนี้ หามิได้!!
การเดินทางจาก สนามบิน สู่ เกาะนามิ
(การเดินทางของเรา เราใช้ แอพ Seoul Subway จะบอกข้อมูลการเดินทางและค่าใช้จ่าย ประมาณนี้ สะดวกดีครับ) 1/3 Start at Incheon International Airport Take the Airport Railroad (AREX) towards Gongdeok 2/3 Change at Gongdeok Take the Gyeongui-Jungang Line towards Sangbong 3/3 Change at Sangbong Take the Gyeongchun Line towards Gapyeong
พอถึงสถานี Gapyeong จะนั่งรถเมย์หรือแท็กซี่ก็ได้น๊ะ เรานั่งแท็กซี่อ๊ะ 2500 วอน ถึงนามิเลย สะดวกดี (รูปเราเอง ทนๆดูไปหน่อยน๊ะ เราว่าจะเบลอๆไว้หรือแป๊ะสติกเกอร์ แต่กลัวแบบ..บดบังหน้าเพื่อ? อะไรทำนองนี้ ฮ่าๆๆ)
เรามีอะไรจะบอก คนเกาหลีจะแบบ รีบๆ เร่งๆ มาก ออกจากรถไฟฟ้าปุ๊ป คุณ…ผู้ที่ไม่ใช่คนเกาหลี ต้องหลบด่วนเลยนะ เพราะเขาจะวิ่งไปเปลี่ยนสายแบบ โหยยย ชนมามีโอกาสโคม่าอ๊ะ วิ่งเร็วเกิน!!
รถไฟที่บ้านเขาหลายสายม๊ากๆ แต่ไม่ต้องกลัว เรามีตัวช่วย (แอพ Seoul Subway) ที่เราแนะนำไปก่อนหน้า เป็นแอพที่เราใช้ตลอด 5 วันที่อยู่ที่นั่น ใครเตรียมตัวไปต้องไม่พลาดน๊ะ จะได้ไม่เสียเวลา เอาเวลาไปเสียกับการเที่ยวดีกว่าเสียให้กับการหลงทางน๊ะ ฮ่าๆๆ
รถไฟ บู๊นๆๆ ใช่รึปล่าวว๊ะ ไม่รู้!! มันไม่วิ่ง ฮ่าๆๆๆ
ทางเข้าเกาะนามิ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ เผื่อใครอยากจะตุนไปกินในเกาะ เพราะถ้าในเกาะมีขาย ต้องแพงกว่าปกติแน่ๆ
Operation Time : 7:30 AM – 9:30 PM
Tickets : 8000 Won
Leave a bag : 1000 Won
ข้อมูลคร่าวๆที่ควรรู้ บัตรเข้าบวกเรือข้ามฟาก 8000 วอน แบกกระเป๋ามาหนักๆเหมือนเรา มีล๊อคเก๊ทฝากกระเป๋า 1000 วอน จะได้เที่ยว เดินเกาะ สบายๆ แบกแค่กล้องและขาตั้งกล้อง ชิวไปอีกเย๊อะ!!
ระหว่างนั่งเรือข้ามเกาะ วิวสวย!!
บอกก่อนเลยว่า “เกาะ...ฮานามิ ไรเนี๊ยะ” ใหญ่มากๆ แน่นอนทุกคนที่มาที่นี่! คงไม่พลาดที่จะแช๊ะภาพกับ "รูปปั้นเบยองจุน" นี่คือภารกิจแรกของเรา ใครแพลนมาแบบฟิกเวลาก็ต้องเร่งฝีเท้าเข้าน๊ะ เดี๋ยวไม่ทัน เผื่อเวลาหลงป่า หลงเกาะอีกด้วย ฮ่าๆๆ
รูปปั้นเบยองจุน อยู่หน๊าย (แอบอิจนิดๆ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ) ไม่แน่น๊ะ!! บางทีคนมีคู่อาจจะอิจฉา คนไร้คู่อย่างเราก็ได้ ใครจะไปรู้? (เราพูดปลอบใจตัวเองไปเรื่อย อย่าถือสาเลย ฮ่าๆๆ)
ภายในเกาะก็จะมีร้านอาหาร ใครที่ลืมซื้อเข้ามาก็ไม่ต้องกังวลน๊ะ ว่า…ท้องจะร้อง ยอมจ่ายแพงหน่อยก็ไม่เป็นไรเน๊าะ มาเที่ยวชะอย่าง กินไปโลดดด
ห้องน้ำน่ารักดี (จนไม่กล้าเข้า) ฮ่าๆๆ
บรรยากาศดีมาก อย่างกะในซีรีย์ (มโนแป๊ปปป)
ลืมบอก!! การมาเที่ยวคนเดียว เรื่องถ่ายรูปนี่ก็ต้องเตรียมตัวเล็กน้อยน๊ะ เห็นอะไรในมือเราปล่าว? รีโมทชัตเตอร์ ฮ่าๆๆ เราเตรียมขากล้อง และรีโมทมา จะได้ไม่รบกวนคนอื่น อยากถ่ายอะไร ตอนไหน ก็ถ่ายโลด แม้จะอายคนหน่อยๆ ก็ช่างเถอะ (อยู่เมืองนอก เราอยากทำไร ก็ทำไปเลย ไม่มีใครรู้จักเราหรอก) ฮ่าๆๆ
ซากุระ ครั้งแรกของเรา ฮ่าๆๆ ก่อนหน้าเคยเห็นแต่พญาเสือโค้งที่เชียงใหม่ เจ้านั่นก็สวยไม่แพ้กันน๊ะ แต่นี่ Original ไง!! ดูดี มีสตอรี่ เลยพิเศษๆ หน่อย แค่นั้นแหล๊ะ!!
เดินเกือบ 3 ชม. ในที่สุดเราก็เจอ "เบยองจุน" กรี๊ดด!! ว่าแต่ ยัยคนข้างๆคือใคร ไม่รู้! จำมาแต่เบยองจุน ออกไปอย่ามาใกล้เบยองจุนฉ๊านน (ออกตัวก่อนนะ เราไม่ใช่แบบที่คุณคิดนะ เรา ผช. แต่ขี้เล่นไปงั้นแหล๊ะ)