คุณพ่ออายุ 65 ปี มีสิทธิบัตรทองอยู่ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ตรงแจ้งวัฒนะ แต่ไม่เคยไปใช้บริการเลยค่ะ
มกราคม 2559 ได้ตรวจพบว่าเป็นความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายด้านซ้ายไม่สามารถใช้การได้ โดยตรวจพบและทำการรักษาที่โรงพยาบาลอื่น และเมื่อมกราคม 2560 ได้ย้ายมารักษาที่จุฬา โดยจ่ายค่ารักษาเอง
โดยแนวทางการรักษาตอนนี้คือคุณหมอสั่งให้ทำ MRI เนื่องจากตอนที่ทราบว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบนั้น เกิดจากการวินิจฉัยของคุณหมอ ไม่ได้มีผล MRI ยืนยัน โดยนัดทำเดือนสิงหาคม 60 ค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ไปตรวจเลือด และปัสสาวะ เนื่องจากมีอาการปัสสาวะบ่อย เบา และกระปริบกระปอย ตอนแรกคิดว่าเป็นต่อมลูกหมากโต แต่ผลเลือดออกมาว่ามีค่า psa สูงถึง 280 (เกณฑ์มาตรฐานคือ 0-4) ซึ่งคุณหมอแจ้งว่ามีโอกาสถึง 3 ใน 4 ที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก คุณหมอได้จ่ายยามาให้กิน 1 ตัว และนัดปลายเดือนกรกฎาคม 2560 ให้ไปตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งว่าใช้มะเร็งหรือไม่
จึงอยากจะขอสอบถามท่านที่มีประสบการณ์ค่ะ ว่าหากผลออกมาว่าคุณพ่อเป็นมะเร็งจริงๆ และต้องการรับการรักษาที่จุฬา จะสามารถขอโอนย้ายสิทธิบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ มาที่จุฬาได้ไหมคะ หรือต้องย้ายจากจุฬามารักษาที่มงกุฎวัฒนะ ซึ่งขอแค่สิทธิในการรักษาโรคมะเร็งเพียงอย่างเดียวก็ได้ค่ะ ส่วนโรคอื่นๆ ยังพอจ่ายไหว หรือจะสามารถใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ทุกโรคเลยคะ เนื่องจากทราบมาว่าโรคมะเร็งเป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเงินเก็บของเราได้ใช้ไปกับการรักษาคุณพ่อที่เรื้อรังมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 จนเกือบหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมาก
และขอสอบถามว่าค่า psa 280 มีโอกาสไหมคะที่จะไม่ใช่มะเร็ง ตอนนี้คุณพ่อยังไม่ทราบนะคะว่ามีความเสี่ยง ซึ่งเราตั้งใจจะบอกคุณพ่อหลังจากที่ได้ผลตรวจยืนยันเรียบร้อยแล้ว หรือว่าเราควรจะบอกตอนนี้เลยดีคะ
ขอย้ายสิทธิบัตรทองไปรักษาที่ร.พ.จุฬา
มกราคม 2559 ได้ตรวจพบว่าเป็นความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายด้านซ้ายไม่สามารถใช้การได้ โดยตรวจพบและทำการรักษาที่โรงพยาบาลอื่น และเมื่อมกราคม 2560 ได้ย้ายมารักษาที่จุฬา โดยจ่ายค่ารักษาเอง
โดยแนวทางการรักษาตอนนี้คือคุณหมอสั่งให้ทำ MRI เนื่องจากตอนที่ทราบว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบนั้น เกิดจากการวินิจฉัยของคุณหมอ ไม่ได้มีผล MRI ยืนยัน โดยนัดทำเดือนสิงหาคม 60 ค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ไปตรวจเลือด และปัสสาวะ เนื่องจากมีอาการปัสสาวะบ่อย เบา และกระปริบกระปอย ตอนแรกคิดว่าเป็นต่อมลูกหมากโต แต่ผลเลือดออกมาว่ามีค่า psa สูงถึง 280 (เกณฑ์มาตรฐานคือ 0-4) ซึ่งคุณหมอแจ้งว่ามีโอกาสถึง 3 ใน 4 ที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก คุณหมอได้จ่ายยามาให้กิน 1 ตัว และนัดปลายเดือนกรกฎาคม 2560 ให้ไปตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งว่าใช้มะเร็งหรือไม่
จึงอยากจะขอสอบถามท่านที่มีประสบการณ์ค่ะ ว่าหากผลออกมาว่าคุณพ่อเป็นมะเร็งจริงๆ และต้องการรับการรักษาที่จุฬา จะสามารถขอโอนย้ายสิทธิบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ มาที่จุฬาได้ไหมคะ หรือต้องย้ายจากจุฬามารักษาที่มงกุฎวัฒนะ ซึ่งขอแค่สิทธิในการรักษาโรคมะเร็งเพียงอย่างเดียวก็ได้ค่ะ ส่วนโรคอื่นๆ ยังพอจ่ายไหว หรือจะสามารถใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ทุกโรคเลยคะ เนื่องจากทราบมาว่าโรคมะเร็งเป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเงินเก็บของเราได้ใช้ไปกับการรักษาคุณพ่อที่เรื้อรังมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 จนเกือบหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมาก
และขอสอบถามว่าค่า psa 280 มีโอกาสไหมคะที่จะไม่ใช่มะเร็ง ตอนนี้คุณพ่อยังไม่ทราบนะคะว่ามีความเสี่ยง ซึ่งเราตั้งใจจะบอกคุณพ่อหลังจากที่ได้ผลตรวจยืนยันเรียบร้อยแล้ว หรือว่าเราควรจะบอกตอนนี้เลยดีคะ