ชีวิตเปรี้ยวคล้ายกับเด็กสาวมากมายตามชนบท. ที่เกิดมายากจน. พ่อแม่ไม่มีความรู้. ไม่มีปัญญาส่งเสียให้เรียน.
อาศัยที่หน้าตาดี. เลยใช้เรือนร่างมาหากิน. เพื่อร่ำรวยแบบวัตถุนิยม. ต้องส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ตามที่ได้รับการสั่งสอนมาในสังคมไทย. ที่ว่าลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่. โดยไม่ต้องมองกลับเลยว่าพ่อแม่เคยพยายามทำอะไรให้ลูกบ้าง. เคยให้ความรัก. ความรู้. การศึกษาแค่ไหน
แต่สิ่งที่สังคมไทยสั่งสอนคือลูกต้องตอบแทนพ่อแม่. พ่อแม่คนไทยมากมายเห็นแก่เงิน. ไม่สนใจลูกจะหาเงินจากไหน. แม้นจะขายตัว. ขายวิญญาณ. หรือค้ายาเสพติดมา. พอมีเงินมาให้ใช้. มาสร้างบ้านให้. ก็กลายเป็นลูกที่ดี. พ่อแม่ไม่เคยคิดห้ามปรามหรือสนใจถึงหนทางที่ได้มา. ขอตัวเองได้เงิน. ได้บ้าน ได้รถ มีความสุขสบายก็พอใจ
พ่อแม่หลายๆคนก็ไม่ได้แก่เถ้าอะไร. อายุ40-50. จริงก็ยังทำงาน หาเงิน ทำมาหากินช่วยตัวเองได้. แต่มักทำตัวเปรียบเสมือนคนแก่. ที่ต้องคอยเกาะลูกๆกิน
ตัวลูกก็คิดไปตามที่สั่งสอนมาว่า. เป็นหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่. ยอมดิ้รน ขายตัว ขายศักดิ์ศรี ขายวิญญาณ
ถ้าคุณได้เคยรู้จัก. และคุยกับผู้หญิงที่ต้องมาทำงานขายเรือนร่างตามอาบ อบ นวด หรือ สถานบันเทิงทั้งหลาย. คุณจะเข้าใจว่า. ชีวิตของเธอเหล่านั้นน่าสงสารเพียงใด. ชีวิตที่ต้อคอยบำบัดความใคร่คนแล้วคนเล่า . ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีความต้องการ. มันทรมานขนาดไหน. ที่สำคัญมันกระทำซ้ำทุกวันต่อเนื่องเป็นเดือนเป็นปี. เบื้องลึกทางจิตใจของเธอเหล่านั้น. มันถูกกดดันจนย่ำแย่. สภาพจิตใจไม่เหมือนคนธรรมดา. หลายๆคนต้องหันพึ่ง เหล้า ยาเสพติด.และฆ่าตัวตาย
นี่หรือคือการตอบแทนบุณคุณบิดามารดา. พ่อแม่ที่เห็นแก่ตัว. จะโดยตั้งใจ. หรือ ไม่ตั้งใจทั้งหลาย. ช่วยกรุณารักลูกตัวเองจริงๆ. อย่าทำเป็นรักลูกเพราะหวังสิ่งตอบแทนจากเขา
กรณีของเปรี้ยว. หลายคนยกย่องว่าเป็นลูกกตัญญู. มันเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ. ทำไมไม่มีคำถามกลับไปที่พ่อแม่ของเปรี้ยวว่า. ทำไมถึงปล่อยให้ลูกไปใช้ชีวิตเช่นนี้. ทำไมยินดีกับบ้าน รถ เงินทอง ที่ลูกหามาแบบนี้.
ในความเห็นผม. พ่อแม่แบบนี้ควรโดนประณาม. มันต่างอะไรกับการขายลูกกิน. โดยลึกๆแล้ว. พ่อแม่พวกนี้ไม่เคยรักใคร. รักแต่ความสุขสบายของตัวเอง. ลูกจะไปทำอะไรลำบากยากเย็นยังไงช่างมัน. ตัวเองได้เงิน. ได้สบายก็พอ
ชีวิต "เปรี้ยว"สะท้อนสังคมไทยที่บูชาพ่อแม่และเงินตรา
อาศัยที่หน้าตาดี. เลยใช้เรือนร่างมาหากิน. เพื่อร่ำรวยแบบวัตถุนิยม. ต้องส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ตามที่ได้รับการสั่งสอนมาในสังคมไทย. ที่ว่าลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่. โดยไม่ต้องมองกลับเลยว่าพ่อแม่เคยพยายามทำอะไรให้ลูกบ้าง. เคยให้ความรัก. ความรู้. การศึกษาแค่ไหน
แต่สิ่งที่สังคมไทยสั่งสอนคือลูกต้องตอบแทนพ่อแม่. พ่อแม่คนไทยมากมายเห็นแก่เงิน. ไม่สนใจลูกจะหาเงินจากไหน. แม้นจะขายตัว. ขายวิญญาณ. หรือค้ายาเสพติดมา. พอมีเงินมาให้ใช้. มาสร้างบ้านให้. ก็กลายเป็นลูกที่ดี. พ่อแม่ไม่เคยคิดห้ามปรามหรือสนใจถึงหนทางที่ได้มา. ขอตัวเองได้เงิน. ได้บ้าน ได้รถ มีความสุขสบายก็พอใจ
พ่อแม่หลายๆคนก็ไม่ได้แก่เถ้าอะไร. อายุ40-50. จริงก็ยังทำงาน หาเงิน ทำมาหากินช่วยตัวเองได้. แต่มักทำตัวเปรียบเสมือนคนแก่. ที่ต้องคอยเกาะลูกๆกิน
ตัวลูกก็คิดไปตามที่สั่งสอนมาว่า. เป็นหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่. ยอมดิ้รน ขายตัว ขายศักดิ์ศรี ขายวิญญาณ
ถ้าคุณได้เคยรู้จัก. และคุยกับผู้หญิงที่ต้องมาทำงานขายเรือนร่างตามอาบ อบ นวด หรือ สถานบันเทิงทั้งหลาย. คุณจะเข้าใจว่า. ชีวิตของเธอเหล่านั้นน่าสงสารเพียงใด. ชีวิตที่ต้อคอยบำบัดความใคร่คนแล้วคนเล่า . ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีความต้องการ. มันทรมานขนาดไหน. ที่สำคัญมันกระทำซ้ำทุกวันต่อเนื่องเป็นเดือนเป็นปี. เบื้องลึกทางจิตใจของเธอเหล่านั้น. มันถูกกดดันจนย่ำแย่. สภาพจิตใจไม่เหมือนคนธรรมดา. หลายๆคนต้องหันพึ่ง เหล้า ยาเสพติด.และฆ่าตัวตาย
นี่หรือคือการตอบแทนบุณคุณบิดามารดา. พ่อแม่ที่เห็นแก่ตัว. จะโดยตั้งใจ. หรือ ไม่ตั้งใจทั้งหลาย. ช่วยกรุณารักลูกตัวเองจริงๆ. อย่าทำเป็นรักลูกเพราะหวังสิ่งตอบแทนจากเขา
กรณีของเปรี้ยว. หลายคนยกย่องว่าเป็นลูกกตัญญู. มันเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ. ทำไมไม่มีคำถามกลับไปที่พ่อแม่ของเปรี้ยวว่า. ทำไมถึงปล่อยให้ลูกไปใช้ชีวิตเช่นนี้. ทำไมยินดีกับบ้าน รถ เงินทอง ที่ลูกหามาแบบนี้.
ในความเห็นผม. พ่อแม่แบบนี้ควรโดนประณาม. มันต่างอะไรกับการขายลูกกิน. โดยลึกๆแล้ว. พ่อแม่พวกนี้ไม่เคยรักใคร. รักแต่ความสุขสบายของตัวเอง. ลูกจะไปทำอะไรลำบากยากเย็นยังไงช่างมัน. ตัวเองได้เงิน. ได้สบายก็พอ