ปุ้ย จินตะ รายงาน
ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), บาห์เรน, อียิปต์ มัลดีฟส์ เยเมน และลิเบีย ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับ “กาตาร์” โดยกล่าวหาว่า กาตาร์ให้การสนับสนุนทั้งกำลังและเงินทุนต่อกลุ่มก่อการร้าย จึงต้องตัดสัมพันธ์การทูต+ทางน้ำ+ทางอากาศ. .. เรียกว่าทุกทาง เพื่อความปลอดภัยของประเทศ
ทำให้กาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศน้อย ๆ ที่รายล้อมด้วยซาอุฯ(ยักษ์ใหญ่), บาห์เรน และ UAE ล้อมรอบ ต้องโดดเดี่ยว เพราะต้องพึ่งพิงทั้งทางน้ำ-อากาศในการขนส่งสินค้าเข้า-ออก
ความระอุรอบนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นทันที! แต่ก็ไม่น่าจะระยะยาวนะ เพราะบ้านเราน้ำมันลดนะ 555
UAE ได้สั่งให้ชาวกาตาร์ออกจากประเทศภายใน 14 วัน และกาตาร์เองก็บอกให้ประชาชนกลับออกมาภายใน 14 วัน
บาห์เรน ก็สั่งให้ทูตกาตาร์ออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง! ส่วนอียิปต์ ประกาศปิดการสัญจรทางอากาศ-น้ำ โดยอ้างความมั่นคง
สายการบินหลายสายหยุดบินเข้ากาตาร์ทันที ประชาชนในกาตาร์เริ่มตุนอาหาร เพราะกลัวจะขาดแคลน..
กาตาร์บอกว่า เรื่องนี้ไม่ยุติธรรม! และข้อกล่าวอ้างว่าสนับสนุก่อการร้ายไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย!
ย้อนกลับไปนิดนุง
สัปดาห์ก่อน สื่อทางการของกาตาร์ถูกแฮค มีการปลอมแปลงคำแถลงของผู้ปกครองกาตาร์ ที่สงสัยเรื่องสหรัฐฯประกาศตัวเป็นศัตรูกับอิหร่าน / มีรายงานความตึงเครียดระหว่างกาตาร์-สหรัฐฯ / เรื่องขบวนการฮามาส (ที่ปกครองปาเลสไตน์และมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง) และยังพูดถึงเรื่องที่ปธน.ทรัมป์ อาจจะอยู่ในตำแหน่งไม่นาน
สิ่งเหล่านี้ถูกออกอากาศทันทีหลังจากที่ทรัมป์เดินทางเยือนซาอุฯ แต่กาตาร์อ้างว่า ทั้งหมดเกิดจากการถูกเจาะระบบ และเป็นข่าวที่ไม่จริง
ประเด็น 1 คือ ซาอุฯ-สหรัฐฯ เค้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และพอทรัมป์ไปเยือน ก็ยิ่งมีการค้าอาวุธให้กัน มีลงนามข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ และซาอุฯค่อนข้างพอใจที่ทรัมป์มีจุดยืนแข็งกร้าวต่ออิหร่าน (ซึ่งเป็นคู่ปรับบนอ่าวกันมาตลอด!)
ประเด็น 2 คือ จริงๆ กาตาร์กับอิหร่านค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีในแง่การค้า และกาตาร์เป็นประเทศสุดท้ายที่ตัดสัมพันธ์กับอิหร่าน (เมื่อต้นปี 2559) ตามความต้องการของซาอุฯ
“ซาอุฯ” เลยมองว่า “กาตาร์” แตกแถวในเรื่อง “อิหร่าน” นำมาซึ่งการ “คว่ำบาตรทางการทูต” ฉะนี้แล
อ่ะๆๆ ดูวงจรความสัมพันธ์ของประเทศในตะวันออกกลางคร่าวๆ หน่อยนะ
กาตาร์ เป็นมิตรกับ อิหร่าน
อิหร่าน เป็นศัตรูกับ สหรัฐฯ
สหรัฐฯ เป็นมิตรกับ ซาอุฯ
ซาอุฯ ไม่พอใจที่กาตาร์เป็นมิตรกับ อิหร่าน
ส่วน UAE-บาห์เรน อยู่ข้างเดียวกับซาอุฯ มานาน และเคยคว่ำบาตรทางการทูตกาตาร์มาแล้ว
อียิปต์ ไม่พอใจกาตาร์ ที่สนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม - อดีตปธน.โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ที่ถูกโค่นอำนาจ
ทั้ง 4 ประเทศที่คว่ำบาตรทางการทูตกาตาร์
อ้างว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ทั้งด้านกำลัง และเงินทุน
ซึ่ง "อิหร่าน" คือประเด็นหลักสุดนะ เพราะถ้าดูภูมิศาสตร น่านน้ำกาตาร์-อิหร่าน เป็นที่ที่มีก๊าซธรรมชาติสำรองมากที่สุดในโลก (ประมาณ 43 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร)
ถามว่าจะกระทบหนักขนาดไหน?
- หลักๆ คือเรื่องการบิน ที่ต้องยุติการบินเข้า-ออกกาตาร์ชั่วคราว
- เรื่องที่กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2022 เรื่องการสร้างสนามต่างๆ ที่ถ้าถูกปิดเส้นทางขนส่ง อาจสร้างสนามยาก
- เรื่องน้ำมัน นักวิเคราะห์บอกว่า ไม่น่าจะกระทบอะไรมากแหล่ะ อันนี้ก็ต้องดูกันยาวๆ ไปก่อน
ตะวันออกกลางร้อนระอุ! ตัดสัมพันธ์การทูต+ทางน้ำ+ทางอากาศ
ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), บาห์เรน, อียิปต์ มัลดีฟส์ เยเมน และลิเบีย ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับ “กาตาร์” โดยกล่าวหาว่า กาตาร์ให้การสนับสนุนทั้งกำลังและเงินทุนต่อกลุ่มก่อการร้าย จึงต้องตัดสัมพันธ์การทูต+ทางน้ำ+ทางอากาศ. .. เรียกว่าทุกทาง เพื่อความปลอดภัยของประเทศ
ทำให้กาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศน้อย ๆ ที่รายล้อมด้วยซาอุฯ(ยักษ์ใหญ่), บาห์เรน และ UAE ล้อมรอบ ต้องโดดเดี่ยว เพราะต้องพึ่งพิงทั้งทางน้ำ-อากาศในการขนส่งสินค้าเข้า-ออก
ความระอุรอบนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นทันที! แต่ก็ไม่น่าจะระยะยาวนะ เพราะบ้านเราน้ำมันลดนะ 555
UAE ได้สั่งให้ชาวกาตาร์ออกจากประเทศภายใน 14 วัน และกาตาร์เองก็บอกให้ประชาชนกลับออกมาภายใน 14 วัน
บาห์เรน ก็สั่งให้ทูตกาตาร์ออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง! ส่วนอียิปต์ ประกาศปิดการสัญจรทางอากาศ-น้ำ โดยอ้างความมั่นคง
สายการบินหลายสายหยุดบินเข้ากาตาร์ทันที ประชาชนในกาตาร์เริ่มตุนอาหาร เพราะกลัวจะขาดแคลน..
กาตาร์บอกว่า เรื่องนี้ไม่ยุติธรรม! และข้อกล่าวอ้างว่าสนับสนุก่อการร้ายไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย!
ย้อนกลับไปนิดนุง
สัปดาห์ก่อน สื่อทางการของกาตาร์ถูกแฮค มีการปลอมแปลงคำแถลงของผู้ปกครองกาตาร์ ที่สงสัยเรื่องสหรัฐฯประกาศตัวเป็นศัตรูกับอิหร่าน / มีรายงานความตึงเครียดระหว่างกาตาร์-สหรัฐฯ / เรื่องขบวนการฮามาส (ที่ปกครองปาเลสไตน์และมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง) และยังพูดถึงเรื่องที่ปธน.ทรัมป์ อาจจะอยู่ในตำแหน่งไม่นาน
สิ่งเหล่านี้ถูกออกอากาศทันทีหลังจากที่ทรัมป์เดินทางเยือนซาอุฯ แต่กาตาร์อ้างว่า ทั้งหมดเกิดจากการถูกเจาะระบบ และเป็นข่าวที่ไม่จริง
ประเด็น 1 คือ ซาอุฯ-สหรัฐฯ เค้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และพอทรัมป์ไปเยือน ก็ยิ่งมีการค้าอาวุธให้กัน มีลงนามข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ และซาอุฯค่อนข้างพอใจที่ทรัมป์มีจุดยืนแข็งกร้าวต่ออิหร่าน (ซึ่งเป็นคู่ปรับบนอ่าวกันมาตลอด!)
ประเด็น 2 คือ จริงๆ กาตาร์กับอิหร่านค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีในแง่การค้า และกาตาร์เป็นประเทศสุดท้ายที่ตัดสัมพันธ์กับอิหร่าน (เมื่อต้นปี 2559) ตามความต้องการของซาอุฯ
“ซาอุฯ” เลยมองว่า “กาตาร์” แตกแถวในเรื่อง “อิหร่าน” นำมาซึ่งการ “คว่ำบาตรทางการทูต” ฉะนี้แล
อ่ะๆๆ ดูวงจรความสัมพันธ์ของประเทศในตะวันออกกลางคร่าวๆ หน่อยนะ
กาตาร์ เป็นมิตรกับ อิหร่าน
อิหร่าน เป็นศัตรูกับ สหรัฐฯ
สหรัฐฯ เป็นมิตรกับ ซาอุฯ
ซาอุฯ ไม่พอใจที่กาตาร์เป็นมิตรกับ อิหร่าน
ส่วน UAE-บาห์เรน อยู่ข้างเดียวกับซาอุฯ มานาน และเคยคว่ำบาตรทางการทูตกาตาร์มาแล้ว
อียิปต์ ไม่พอใจกาตาร์ ที่สนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม - อดีตปธน.โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ที่ถูกโค่นอำนาจ
ทั้ง 4 ประเทศที่คว่ำบาตรทางการทูตกาตาร์ อ้างว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ทั้งด้านกำลัง และเงินทุน
ซึ่ง "อิหร่าน" คือประเด็นหลักสุดนะ เพราะถ้าดูภูมิศาสตร น่านน้ำกาตาร์-อิหร่าน เป็นที่ที่มีก๊าซธรรมชาติสำรองมากที่สุดในโลก (ประมาณ 43 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร)
ถามว่าจะกระทบหนักขนาดไหน?
- หลักๆ คือเรื่องการบิน ที่ต้องยุติการบินเข้า-ออกกาตาร์ชั่วคราว
- เรื่องที่กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2022 เรื่องการสร้างสนามต่างๆ ที่ถ้าถูกปิดเส้นทางขนส่ง อาจสร้างสนามยาก
- เรื่องน้ำมัน นักวิเคราะห์บอกว่า ไม่น่าจะกระทบอะไรมากแหล่ะ อันนี้ก็ต้องดูกันยาวๆ ไปก่อน