รวมภาพถ่ายจาก Xiaomi Mi5s แบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใครๆหลายคนบอกว่ากล้องห่วย !!

หลังจากที่ i-Mobile ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย Xiaomi ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการก็ได้กระแสตอบรับที่ดีแบบสุดๆ โดยเฉพาะในงาน TME 2017 ที่ผ่านมา แต่ผมเชื่อว่าใครหลายๆคนยังไม่กล้าตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนจากยี่ห้อนี้เนื่องจากได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า "Xiaomi กล้องห่วย" ผมเลยได้ทำกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ตลอด 5 เดือนของผมกับกล้อง Mi5s เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อครับ

             ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนซักเล็กน้อยกับคำว่า"กล้องห่วย"ของคุณคืออะไร ถ้าคำว่ากล้องห่วยของคุณคือ ถ่ายมาแล้วสีเพี้ยนสุดๆ Dynamic Range ห่วยมาก สว่างก็สว่างโล่ มืดก็มืดตื๋อ ภาพไม่คมเอาซะเลย มันเบลอๆไปหมด กล้องโฟกัสช้า โอเค เรามาคุยกันได้ แต่ถ้าคุณจะบอกว่า เห้ย สู้ S7 S8 ไม่ได้เลย ห่างชั้นมาก P9 P10 ถ่ายสวยกว่าเยอะ ห่วยว่ะ ผมว่าแบบนี้มันไม่ใช่แล้ว ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่ากล้อง Mi5s สู้ S8 ได้แบบสบายๆ หรือชนกับ Google Pixel ได้แบบชิลๆ แต่ก่อนอื่นเลยเราต้องดูเรทราคามันด้วย

             Mi5s เป็นเรือธงที่ขายอยู่ในราคา 11,000 บาท โดยมีสเป็คภายในที่จัดเต็มแบบสุดๆอยู่แล้ว แต่ผมขอข้ามในจุดนี้ไปเพราะเรื่องสเป็คตัวเครื่องมีสำนักรีวิวทั้งไทยและเทศทำไว้เต็มไปหมด ผมขอเน้นๆที่กล้องอย่างเดียวเลยละกัน โดยสเป็คเรื่องกล้องของ Mi5s นั้น ใช้เซนเซอร์จาก Sony รุ่น IMX378 ตัวเดียวกับที่ใส่ไว้ใน Google Pixel แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกับ Pixel แล้วภาพที่ได้จะออกมาเทพเหมือน Pixel จริงอยู่ว่า Hardware ตัวเดียวกันแต่องค์ประกอบอื่นๆมันต่างกัน ทั้งเลนส์ และ Software ที่คุมกล้องอยู่ ซึ่งตรงจุดนี้แหละที่ทำให้กล้องของ Xiaomi ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่มันควรจะเป็น แต่ใน Mi5s ก็ได้พัฒนาและปรับปรุงมาเยอะมากจาก Mi5 เพราะก่อนหน้านี้หลังจากที่ Mi4 ถูกยอมรับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องดีมากๆรุ่นนึงในสมัยนั้น แต่หลังจากนั้นมาใน Mi4s ,Mi Note ,Mi5 กลับมีพัฒนาการเรื่องกล้องอย่างเชื่องช้า จนค่ายอื่นๆเค้าแซงหน้าจนทิ้งห่าง แต่เหมือน Xiaomi จะรู้ถึงปัญหาในจุดนั้น เลยแก้เกมส์ด้วยการปล่อย Mi5s ลงสู่ตลาดที่มาพร้อมกับ IMX378 ที่มีขนาดเซนเซอร์ใหญ่ถึง 1.55 ไมครอน ใหญ่เท่ากับเซนเซอร์กล้องคอมแพ็คเลย ซึ่งถือว่าใหญ่มากๆ วันนี้ผมเลยนำภาพถ่ายที่ผมถ่ายด้วยตัวผมเองตลอด 5 เดือนที่ผ่านมามาให้ได้ชมกันครับ

             ***ภาพทั้งหมดถูกถ่ายด้วย Mi5s แบบ jpeg โหมด Auto เท่านั้น ไม่มีการใช้โหมด Pro เพื่อกำหนดปัจจัยอื่นๆเอง แต่งภาพด้วย VSCO ไม่มีการโยนเข้าโปรแกรม Lightroom หรือ Photoshop เพื่อตกแต่ง แต่ใช้ในการย่อขนาดรูปให้เหลือ 700K เพื่อให้ลง Pantip ได้เท่านั้น ผมพยายามจำกัดกระบวนการให้อยู่ในสมาร์ทโฟนเพื่อรีดประสิทธิภาพให้อยู่ในขอบเขตของมันเท่านั้นครับ เริ่มกันเลยครับ

ภาพโปรโมท Mi5s ตอนเปิดตัว Xiaomi นำภาพที่ถ่ายย้อนแสงพระอาทิตย์ตกดินแบบโหดๆมาใช้ ผมเองก็สงสัยว่าโฆษณาเกินจริงหรือเปล่า ก็เลยถ่ายย้อนแสงแบบโหดๆดูบ้าง ผลปรากฏว่าภาพที่ได้ออกมาก็น่าประทับใจมากๆ ไม่เลวเลยทีเดียว การเบลอฉากหลังพอมีให้เห็นพอสมควรไม่มากมายอะไร เพราะค่ารูรับแสงของ Mi5s คือ f2.0

ภาพที่ 2 นี่ผมครอปมาจากภาพต้นฉบับประมาณ 30 - 40 % ยังคงเป็นภาพย้อนแสงอยู่แต่ไม่รับแสงตรงๆแบบภาพแรก ได้ดีเทลรายละเอียดของใบไม้สวยกำลังดี

ภาพที่ 3 ยังถ่ายอยู่ที่เดิม แต่ถอยออกมาหน่อยนึง

ภาพที่ 4 เป็นภาพพระอาทิตย์กำลังขึ้น ให้ดูที่มุมตึกด้านซ้าย ในส่วนเงามืด Noise จะเริ่มมีให้เห็นพอสมควร ถือเป็นจุดอ่อนของกล้อง Xiaomi ก็ว่าได้ ผมไม่อยากให้โฟกัสตรงจุดที่ไฟล์พัง เพราะต้นฉบับมันไม่เป็นแบบนั้น พอลดขนาดแล้วยับมาเลย T_T

ภาพที่ 5 จะเห็นได้ชัดว่า Mi5s ไม่น่าห่วงเรื่อง DR เลย แต่น่าห่วงเรื่อง Noise และแสงแฟร์ ซึ่งน่าจะเกิดจากคุณภาพเลนส์และการโค้ตติ้งเลนส์ที่ยังทัดเทียมค่ายอื่นๆไม่ได้ ไม่ใช่ว่าค่ายอื่นไม่มีนะคับ เพียงแต่ผมเคยเห็นว่ามันจัดการได้ดีกว่านี้ ถ้าจะถ่ายแบบนี้หาอะไรมาบังแสงซักหน่อยก็น่าจะไม่มีปัญหา ^ ^

ภาพที่ 6 มาที่ภาพ Close up กันบ้างดีกว่า ระยะถ่ายใกล้สุดของ Mi5s อยู่ที่ประมาณ 2 นิ้วกว่าๆครับ ซึ่งก็ไม่ใกล้มากจนเรียกว่า Macro ได้ แต่ก็ไม่ไกลขนาดที่ว่าถ่ายอะไรแบบเจาะๆไม่ได้เลย ความคมไม่มีปัญหาครับ ดีเทลไม่มีปัญหา การเบลอหลังสวยกำลังดี เพราะถ้ารูรับแสงกว้างจะเบลอหลังได้มากก็จริง แต่ก็มีผลต่อความคมของภาพ ซึ่งก็ต้องใช้ software เข้าช่วย ซึ่ง S8 ทำตรงจุดนี้ได้ดีครับ ผมชอบนะ ชมเค้าเลย

ภาพที่ 7 ก็ไม่มีอะไรมากคับ ถ่ายเจาะแบบใกล้ๆ ฉากหลังละลายหายไปเลย ก็แหงล่ะ เจาะซะขนาดนี้ ฮ่าๆ

ภาพที่ 8 ถ่ายลำโพงสุดรักสุดหวง ได้มาตอนลดราคา ใครสอยมาทันบ้าง ยกมือขึ้น !!!

ภาพที่ 9 มากันที่ภาพอาหารบ้าง ข้าวไข่ข้นแฮมชีส เม็ดพริกไทย หรือดีเทลที่ใบไม้ก็ทำได้ไม่เลว มีโบเก้พอหอมปากหอมคอ

ภาพที่ 10 ยังคงอยุ่ที่ข้าวไข่ข้น

ภาพที่ 11 มากันที่ทาร์ตผลไม้บ้าง น่ากินสุดๆเลย อันนี้เด็กข้างบ้านทำมาให้ครับ ของฟรี อร่อยเสมอแหละ ฮ่าๆ กลับมาวิเคราะห์ต่อ ในส่วนสว่างของภาพมั่นใจหายห่วง แต่ถ้าสังเกตดีๆตรงกลางจานจะเป็นส่วนมืดที่สุดของภาพ จะเริ่มมี Noise เข้ามารบกวนประปราย แต่ถ้าไม่ได้ซีขนาดนั้นก็ข้ามๆไป ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญอะไร

ภาพที่ 12 นุ้งแมวแสนสวย ภาพนี้ดีเทลดี รายละเอียดขนมาเต็ม ตรงปลายจมูกน้องนี่ น่ารักกุ๊กกิ๊ก ยิ่งมองเข้าไปนัยตาแล้วนี่ อื้อหือ ชอบจริงจัง

ภาพที่ 13 มาดูกันที่ภาพวิว outdoor บ้างครับ  Mi5s มาพร้อมเลนส์มุมกว้าง 80 องศา ผมบอกเลยว่ากว้างมากๆ กว้างกว่ากล้องสมาร์ทโฟนทุกตัวที่ผมเคยจับมา ถ้าไม่นับ G5 G6 ของ LG ที่อีกเลนส์นึงเป็น Wide Angle อ่ะนะคับ อันนั้นยอมจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปยืนเล่นที่ Open Shop ลองดูได้เลยคับ  

ภาพที่ 14 การที่เป็นเลนส์มุมกว้าง ข้อเสียของมันก็คืออาการบิดเบี้ยวของเลนส์ ซึ่งจะมีให้เห็นตามขอบภาพ โดยเฉพาะเวลาถ่ายอะไรที่เป็นสถาปัตยกรรม อย่างภาพนี้

ภาพที่ 15 ภาพนี้ยิ่งเห็นชัด เนื่องจากวัตถุอยู่ใกล้แล้วถ่ายมุมเสยอีกต่างหาก และการเกลี่ยสีบนท้องฟ้ายังไม่ดีเท่าที่ควร ไฟล์เริ่มเป็นปื้นๆให้เห็น หรือเพราะการแต่งภาพหว่า อันนี้ผมไม่ชัวร์เพราะผมไม่มีไฟล์ต้นฉบับให้ดูแล้วด้วยสิ T_T และตามเคย ในส่วนมืดของภาพ Noise เริ่มมาก่อกวน

ภาพที่ 16 เห็นไหมคับ พอวัตถุอยู่ใกล้มากๆแล้วเราถ่ายมุมเสย เสาไฟนี่เป๋เลย จริงๆก็เป็นกันทุกรุ่น แต่รุ่นนี้จะเป็นมากหน่อย(มั้ง) เพราะเป็นเลนส์มุมกว้าง

ภาพที่ 17 มาใน indoor กันบ้างครับ ในภาพนี้ DR โหดมาก ซึ่งก็หลุด Highlight ไปตามระเบียบ สู้ไม่ไหวจริงๆ ในส่วนจุดที่เราโฟกัสภาพก็ไม่มีปัญหาอะไร นักดนตรีสวยเปียโนสวย ฮ่าๆ แต่จะยังเห็น Noise ที่ด้านในฝาเปียโน และผู้ชายตรงด้านซ้ายของภาพที่โดนแสงจากด้านนอกทำร้าย ดีเทลหายเกลี้ยงหมดเลย แต่ถ้ามองภาพรวมก็พอไปได้อยู่ ยาวๆไป 3 ภาพเลยคับ

ภาพที่ 18

ภาพที่ 19

ภาพที่ 20 ภาพนี้ก็ DR โหดมากคับ จุดที่ผมยืนอยู่คือมืดมาก มันมืดมากจริงๆ ข้างนอกนี่แดดตอนบ่ายโมง สรุปคือสู้ไม่ไหว แต่ก็ทำให้ภาพได้อารมณ์ดี ฮ่าๆ แสงเงาตรงล็อคเกอร์นี่ผมชอบมากคับ

ภาพที่ 21 ไม่ต่างกัน ผมแนะนำนะคับ ถ้าต้องถ่ายที่ที่มีส่วนมืดเยอะขนาดนี้ Noise ถามหาแน่ๆคับ ให้เปลี่ยนภาพสีเป็นขาวดำ จาก Noise จะกลายเป็น Grain ซึ่งจะให้อารมณ์ภาพแบบกล้องฟิล์ม มันเป็นทางโจรทางหนึ่งครับ ฮ่าๆ

ภาพที่ 22 ภาพนี้ภ่ายในร้านอาหาร MK ครับ ถือว่าเป็นที่แสงน้อยระดับนึง จริงๆแล้ว Mi5s เป็นกล้องที่ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีในระดับนึงเลยนะคับ ในส่วนมืดก็ซ่อน Noise ไว้ตามระเบียบ แต่ในส่วนสว่างก็ทำงานได้ดี เก็บรายละเอียดแสงเงาได้น่าพอใจ ไม่เละทั้งภาพ ภาพนี้ไฟล์แท้ๆจากกล้องเลยครับ ไม่ได้ปรับแต่ง

ภาพที่ 23 ภาพนี้จะเรียกว่า indoor ได้มั๊ยหว่า เพราะผมถ่ายตอนอยู่ในรถแล้วรถกำลังวิ่ง เห็นตึกสวยดี เลย snap เก็บไว้ อาจจะเบลอไปบ้าง

ภาพที่ 24 วันนั้นฝนตกหนักมาก แทบมองไม่เห็นทางเลย ผมรีบหยิบ Mi5s ขึ้นมา Snap เก็บไว้แบบรีบๆ แต่กลับเป็นภาพที่ผมชอบมากที่สุดภาพนึงเลย

ภาพที่ 25 Low Light ภาพนี้ถ่ายในสถานที่ที่มืดเกือบสนิท มีเพียงแสงไฟจากบ่อปลาที่ทำการแสดงเท่านั้น ดีเทลหายไปเยอะพอสมควร noise เริ่มมีให้เห็นในส่วนสว่างของภาพ ส่วนแสงเงา DR นี่สอบผ่านแบบสบายๆ

ภาพที่ 26 ภาพนี้ถ่ายผ่านตู้กระจกครับ แสงน้อยโครตๆ ยังดีที่ในตู้ยังพอสาดแสงออกมาบ้าง แมงกระพรุนน้อยเคลื่อนไหว iso เริ่มสูง สปีดชัตเตอร์เริ่มต่ำ ก็เบลอๆไปบ้าง ภาพนี้ไฟล์ต้นฉบับ ไม่มีการปรับแต่งครับ

ภาพที่ 27 ภาพนี้ถ่ายในโรงละครครับ เรื่องแสงไม่ต้องพูดถึง จุดที่ผมยืนนี่ต้องงมหาเก้าอี้นั่งกันเลยแหละ มีเพียงแสงไฟจากเวทีเท่านั้น ลองพิจารณาดูกันครับ ว่าชอบไม่ชอบยังไง ภาพนี้ไฟล์แท้ๆจากกล้องเลยครับ ไม่มีการปรับแต่ง

ภาพที่ 28 เข้ามา Close up ใกล้ๆหน้าเวทีบ้าง ภาพนี้ iso จัดมาก ดันขึ้นไปถึง 1000 สำหรับกล้องมือถือ iso มากขนาดนี้ Noise กระจาย ดีเทลเริ่มหายไปเยอะ แต่ภาพรวมยังออกมาดีอยู่ แต่ก็ยังไม่จี๊ดเท่าไหร่

ภาพที่ 29 ภาพนี้ถ่ายที่ร้านนมตอนกลางคืนครับ มีแสงไฟจากดวงไฟข้างๆช่วยชีวิตเอาไว้ ภาพสวยเนียนตาใช้ได้เลย ดีเทลยังคงอยู่ดีพอสมควร ไม่เละเทะจนเกินไป

ภาพที่ 30 ขยับเข้ามาถ่ายให้ใกล้ขึ้น โดยรวมแล้วสำหรับภาพในตอนกลางคืนผมให้มันสอบผ่านไปแบบสบายๆเลยนะคับ อาจจะสู้ S8 หรือ htc U11 เจ้าพ่อภาพกลางคืนไม่ได้ แต่มือถือในราคา 11,000 บาท ทำได้ขนาดนี้ผมพอใจมากแล้วคับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่