ฟ้าฝนช่างกระหน่ำอย่างไม่เกรงใจจริงๆในเดือนนี้ แต่ต่อมอยากเที่ยวก็ยังไม่เคยหยุดทำงานค่ะ 55 เราจึงเสาะหาสถานที่พักผ่อนใกล้ๆกรุงเทพฯ จนไปสะดุดเข้ากับ Dasada the Flower Essense Resort จึงได้ชักชวนคุณสามีไปชิวกันสัก 1 คืน และขอนำภาพสวยๆพร้อมรีวิวความประทับใจละเอียดยิบๆมาฝากเพื่อนๆค่ะ
ก่อนอื่น ขอนำเสนอวิธีการจองห้องพักเพื่อให้ได้ราคาไม่แพง เพราะห้องที่นี่คืนละ 3-4 พันกว่ารวมอาหารเช้า นับว่าราคาจี๊ดมากสำหรับจังหวัดอย่างปราจีนบุรี ซึ่งโซนๆนี้พูดตรงๆก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่ค่ะ แม้รีสอร์ทจะเคลมว่าอยู่เขาใหญ่ โดยอยู่อีกฝั่งของเขาใหญ่จริงนั่นแหล่ะ แต่ถ้าจะข้ามเขาไปเที่ยวฝั่งสระบุรีโคราชก็ไกลโข แต่ทั้งนี้ รีสอร์ทก็พยายามสร้างกิจกรรมน่าสนใจในตัวเองเยอะพอสมควรค่ะ สนนราคาที่เราได้มาแบบฟลุ๊คๆคือจองผ่าน Traveloka Mobile App ในช่วงที่มี Discount code 25%!! ซึ่งมีปล่อยมาเป็นช่วงๆ ทำให้ได้ห้องพัก+อาหารเช้าคืนวันอาทิตย์ในราคา 2,3xx เท่านั้นค่ะ

เริ่มออกเดินทางกันเลย บางคนอาจยังไม่รู้ว่าแมนดริลล่า (ชื่อ จขกท.) คือตัวอะไร หน้าตายังงัย จึงขอเผยโฉมหน้าสักเล็กน้อย
ระยะทางประมาณ 150 กม. ใช้เส้นถนน 305 เป็นหลัก ไม่ถึง 2 ชม.ก็เดินทางมาถึง ขอเตือนว่าขามาไม่มีปั้มน้ำมันเลยมาจนถึงนครนายก ซึ่งมีปั้มเล็กๆและไม่ค่อยสะอาด 555 แนะนำว่าอย่ากินน้ำเยอะ ถ้าจะแวะทานอาหารกลางวันหรือกินกาแฟก็ใช้ห้องน้ำของร้านจะดีกว่า เข้ามาถึงด้านหน้ารีสอร์ทก็จะได้สัมผัสความเขียวขจีที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นพันไร่ค่ะ แต่ละอาคารไกลกันเหลือเกิน แต่ด้วยอายุรีสอร์ทประมาณ 6 ปี สภาพก็เริ่มเก่าและโทรมลงบ้าง
รปภ.จะชี้ไปที่จุดจอดรถและมีรถกอล์ฟมารับไปที่อาคารเช็คอิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอธิบายผังโครงการและจุดเที่ยวชมที่แขกของรีสอร์ทเข้าพักได้ฟรี รวมถึง Gallery ดอกไม้ สวนสัตว์เล็กๆ และสวนอื่นๆรอบ

มาดูห้องพักกันเลย กว้างและตกแต่งสวยงามมากค่ะ

Mini bar ฟรี! และมีคุ๊กกี้ให้คนละห่อด้วย
  
กล่องอะไรเอ่ยน่ารักๆวางบนเตียง แกะมาเป็นช็อคโกแลตค่ะ
ในตู้เสื้อผ้ามีร่ม ผ้าคลุมอาบน้ำ ตู้เซฟให้เรียบร้อยค่ะ

ยากันยุงยังมีให้
  

มาดูระเบียงกันบ้างนะคะ ตึกที่เราพักคือตึก 3 ได้วิวสระว่ายน้ำเต็มๆ เก้าอี้นั่งสบายมาก แถมกลางคืนพื้นสระว่ายน้ำจะเปิดไฟเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ดูเพลินอย่าบอกใคร แต่ไม่ให้ดูรูปหรอก ถ้าอยากดูต้องไปเอง 55
ส่วนห้องน้ำก็กว้างใหญ่ อาบได้ทีละ 2 คนสบายๆเลยค่ะ
อุปกรณ์ครบ ทั้งแปรงสีฟัน สบู่ แชมพู หมวกคลุมอาบน้ำค่ะ


เมนู Room Service น้อยไปหน่อย

ท้องเริ่มร้องจึงขอไปลองร้านอาหารของรีสอร์ทกันหน่อย ชื่อว่า Bloom โดยมีแค่ร้านเดียวที่เปิดบริการมื้อกลางวันและเย็นตอนนี้
ร้านตกแต่งได้สวยงามด้วยดอกกล้วยไม้สีสด แต่การจัดวางมุมนั่ง ส่วนตัวเราคิดว่ายังไม่ค่อยให้ความรู้สึกโรแมนติกหรือนำวิวสวยๆของโครงการมาเป็นจุดขายได้ดีนัก

เมนูที่ลิ้มลองมื้อกลางวันขอเป็นอาหารไทยจานเดียวง่ายๆ คือข้าวผัดมันปูและข้าวผัดหมูอะไรอีกสักอย่าง รสชาติอร่อยเลยค่ะ

เมื่อท้องอิ่มแล้วก็ถึงเวลาออกตะลุยชมส่วนต่างๆของรีสอร์ทกัน ช่วงนี้เป็นตีมการถวายความอาลัยแด่พ่อหลวง ร.9

มาชมสวนสัตว์เล็กๆกันก่อน มีนกยูงและกระต่ายน้อยเป็นพระเอก แต่สภาพโดยรวมโดยเฉพาะที่อยู่น้องกระต่ายน่าจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ค่ะ

มาต่อกันที่ Gallery เนื่องจากไม่ใช่ช่วงมีเทศกาลและไม่ใช่หน้าหนาว ดอกไม้ต้นไม้ก็ไม่ Full เท่าไหร่ค่ะ แต่ก็มีมุมน่ารักๆให้ถ่ายภาพเยอะ

มาแล้วก็ต้องมาลองไอศครีมทำเอง จากหลายๆรีวิวบอกว่าอร่อย แต่เราว่ารสชาติยังไม่ค่อยลงตัวนะ

บ่ายแล้วก็ถึงเวลาเล่นน้ำ สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่และออกแบบสวยมาก ร่มตื่นไปด้วยต้นไม้ ถ้ามี Pool Bar เสริฟเครื่องดื่มคงดีไม่น้อย
สระเด็กก็มี
ตกเย็นก็ไปจุดชมวิวบนเนิน มีอาคารทรงไทยตั้งตระหง่านสวยงามมากๆ วิวก็พาโน น่าเสียดายที่อาคารนี้เหมือนถูกทิ้งร้าง ทั้งๆที่ถ้าทำเป็นร้านอาหาร ก็น่าจะเป็นร้านที่วิวสวยที่สุดในประเทศไทยร้านนึงเลยทีเดียว ตัวอาคารออกแบบมาอย่างปราณีตมากแต่ขาดการทะนุบำรุง ก็คงเพราะจำนวนแขกที่มาเยือนไม่เพียงพอ แค่ค่าดูแลต้นไม้ทั้งโครงการก็ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

ภาพประทับใจยามเย็น

ในรีสอร์ทจะมีอาคารสัมมนาจัดเลี้ยงด้วยค่ะ สวยงามมากๆ ถ้าจัดงานแต่งงานที่นี่คง Perfect มากๆ ฝันไปว่าอีกสัก 20 ปีจะชวนสามีจัดอีกรอบ 555

มาถึง Highlight ยามเย็น ทางรีสอร์ทจัดโชว์น้ำพุรอบพิเศษสำหรับแขกที่เข้าพักเท่านั้น ขอบอกว่าสุดยอดมาก เราเคยไปดูน้ำพุที่สิงคโปร์ทั้งตรง Marina bay และที่ห้างอะไรดังๆ เราว่าที่นี่เลิศกว่าอีก

เจ้าดอกไม้ที่พื้นนี้อย่าสงสัยว่าคืออะไร มันคือที่ยิงน้ำพุขึ้นมาจากพื้น
ลานโชว์น้ำพุ

การแสดงมี 3 เพลงประมาณ 20 นาทีและสุดท้ายมีให้เราถ่ายภาพกับน้ำพุใกล้ๆได้เลย ซึ่งให้สำหรับลูกค้าที่พักในรีสอร์ทเท่านั้น เอาภาพมาฝากแค่นี้เป็นน้ำจิ้ม

ลานน้ำพุอยู่ใกล้กับร้านอาหาร Bloom ก็เลยมาดินเนอร์ต่อ ตรงนี้ลูกค้าทั่วไปก็เข้ามาทานได้นะคะ
อาหารไม่ได้แพงเลยค่ะ

ลองอาหารฝรั่งบ้างมื้อนี้ ต้องบอกว่าเชฟยังไม่ถนัดอาหารฝรั่งค่ะ น่าเสียดายเพราะบรรยากาศรีสอร์ทมันน่าจิบไวน์ชิวๆ แต่ก็เข้าใจนะว่ากลุ่มลูกค้าคงเน้นทานอาหารไทยมากกว่า ทั้งนี้ ต้องขอบอกว่ารสชาติขึ้นกับความชอบแต่ละคนนะคะ บางคนอาจจะว่าอร่อยก็ได้ คือรสชาติมันเป็นอาหารฝรั่งแบบไทยๆอ่ะค่ะ เราชอบอาหารฝรั่งที่รสชาติ Original กว่านี้

พาสต้าซอสครีมไข่กุ้ง แอบหวานมากมาย แต่ทางร้านก็น่ารักมากเปลี่ยนให้ทันที
จึงได้คาโบนาร่ามาแทน จานใหญ่มากกกกก
แซลม่อนสเต็กราดซอสเทอริยากิ  

วันนี้เป็นอันจบลง นอนหลับสบาย ตื่นขึ้นมาก็มีบุฟเฟ่ต์จัดเต็มรออยู่ ซึ่งเราสามารถเรียกรถกอล์ฟมารับเราไปที่ตึกอาหารเช้าและสปาก็อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ
หน้าตึกมีบ่อบัวสวยเชียว อาหารมีหลากหลายมากค่ะ ทั้งอเมริกัน ไทย ติ่มซำ ข้าวต้ม มีน้ำนมข้าวกล้องด้วย เก๋เชียว

             จากที่พนักงานเล่าให้ฟัง โครงการนี้ทางเจ้าของซึ่งอยู่ในธุรกิจน้ำมัน ท่านมีความตั้งใจที่ดีมากๆที่จะคืนกำไรสู่สังคมด้วยการเนรมิตธรรมชาติและดอกไม้เมืองหนาวให้คนไทยได้ดูโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงเมืองนอก และในทุกดีเทลของการออกแบบ Landscape และรีสอร์ทนั้นบ่งบอกถึงความใส่ใจ พนักงานได้รับการเทรนด์มาดีมากๆ แต่หลายๆอย่างเริ่มเก่าและขาดการดูแล พื้นที่อาคารที่ถูกทิ้งไว้เปล่าๆหากปรับปรุงกลับมาจะเลิศมาก เราก็อยากเชิญชวนให้เพื่อนๆพิจารณาที่นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯค่ะ