สวัสดีครับ
วันนี้ผมมาตีแผ่ความจริงเกี่ยวกับวงการท่องเที่ยวหลังจากหลายปีที่ผ่านมามีการโดนหลอกจากบริษัททัวร์หลายข่าว โดยเฉพาะเคสใหญ่ เช่น ล่าสุด ของซินแสโชกุน ที่ว่า ทัวร์ญี่ปุ่น 10000 บาท ต่อคน ซึ่งสุดท้าย โดนลอยแพอย่างที่เป็นข่าว ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวภายในประเทศมาเกือบ 2 ปีครับ เห็นคนในวงการทำแย่ๆมาเยอะครับ วันนี้เลยอยากระบาย และเตือนคนอื่นไม่ให้โดนหลอกครับผม ผมทำเพจท่องเที่ยวอยู่มี infographic สรุปสั้นๆสำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านลิ้งค์อยู่ด้านล่างนะครับ บริษัททัวร์นั้นมีหลายรูปแบบที่จะหลอกลูกค้า เช่น โกงเงินไปหมดเลยแล้วโดนเท หรือมีค่าบริการแอบแฝงนอกเหนือจากที่ตกลงกัน
เอาละ มาเริ่มกันเลย สำหรับวิธีป้องกันการโดนทัวร์ผีหลอก
1. ของดีและถูกไม่มีจริงนาจาาา
จำไว้เลยว่า ของที่ลดราคามากๆนั้น อันตรายสุดๆ โดยเฉพาะถูกกว่าคู่แข่งเช่น ทุกบริษัทขายทัวร์ไป ญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน ขาย 4 หมื่นบาทขึ้น อยู่ๆมีบริษัทนึงตั้งขาย ไปญี่ปุ่นโดยที่โปรแกรมคล้ายๆกันแค่ 9999 เราเช็คราคาตั๋วเครื่องบินก่อนเลยว่า ราคานี้ตั๋วเครื่องบินไปกลับได้ไหม ต่อให้เป็นสายการบิน Low cost ถ้าแค่ตั๋วไม่ได้เนี่ย ก็สันนิษฐานไว้ได้เลยว่า ทัวร์ผี หรือบางครั้งก็มาแอบแฝงเช่น อาจจะได้ไปจริง แต่ ไม่รวมอาหาร ไม่รวมค่ารถ ไม่รวมค่า บลาๆๆ ทำให้ได้ถูกจริง
2. Google เป็นเพื่อนแท้ยามอยากเที่ยว
ให้กูเกิ้ล ชื่อบริษัทหรือลูกค้าเก่าๆ เช่นบริษัทนี้ เคยมีคนมารีวิว ชม ด่ารึเปล่า(ด่า ตำหนิยังดีกว่าไม่มีเพราะแสดงว่าบริษัทนี้มีตัวตนจริง) ไม่ว่าจะใน Pantip หรือ เพจของทางร้าน หรือไอจีครับ
3. ขอดูเอกสารจากบริษัททัวร์
เอกสารสำคัญที่บริษัททัวร์ทุกบริษัทควรจะต้องมีคือ ใบอนุญาตธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งจะแบ่งเป็น สองชนิด คือ ภายในประเทศหรือทั่วไป(ได้ทั้งในและนอกประเทศ) แต่จริงๆ ผมว่าใบอนุญาตธุรกิจท่องเที่ยวมันแหกตาผู้บริโภค เพราะเป็นบุคคลธรรมดาก็ไปขอได้ ขอแค่มีเงินไปวางค้ำประกันซึ่งมันก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าเป็นนิติบุคคล ค้ำประกันประเภทในและนอกประเทศ เยอะสุดก็แค่ 2 แสนบาท ซึ่งโกงที ได้เป็นหลายล้าน เพราะฉะนั้นแล้ว ผมแนะนำว่าที่ต้องมีจริงๆคือ สมุดบัญชีออมทรัพย์ชื่อนิติบุคคลนั้นๆ เพราะธนาคารจะต้องสแกนเอกสาร หนังสือรับรองจดทะเบียนนิติบุคคล พวกใบจดทะเบียนนิติบุคคลและเอกสารสำคัญอื่นๆแทนเราแล้ว ซึ่งถ้าเป็นบริษัทที่ตั้งใจจะต้มตุ๋นจริงๆ จะไม่มี จะมีแต่ บริษัทที่ตั้งใจทำงานจริงๆเท่านั้น และถ้าควรจะมีอีกใบคือ ใบเสียภาษี ภพ.20 ซึ่งแสดงว่าบริษัทนั้นๆ ใหญ่และได้มาตรฐานในระดับนึงที่จะเสียภาษีรายได้
4. ต้องมี booking confirmation หรือเอกสารการจอง Voucher ต่างๆ
ที่ออกให้บริษัททัวร์นั้นไม่นับนะครับ ต้องออกจากโรงแรมหรือบริษัททัวร์ที่เป็นผู้ให้บริการจริงๆ ไม่ใช่เอเจ้น เช็คโดยการ โทรไปสอบถามกับโรงแรมและผู้ให้บริการว่า ได้มีการจองทัวร์ชื่อเรา ผ่านบริษัทที่เราซื้อไปด้วยรึเปล่า
5. โปรโมชั่นต้องไม่มีแอบแฝง
อ่านรายละเอียดของโปรโมชั่นให้ละเอียด เพราะบางทีคุณอาจจะเจอกับคำโฆษณาเชิญชวนที่ระบุรายละเอียดไม่ครบ จะทำให้เราสับสน ไม่เข้าใจตรงไหนก็โทรไปถามว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
ปล. ถ้าเป็นไปได้พยายามโอนเงินชำระผ่านบัญชีบริษัท เพราะบางครั้งโอนชื่อบุคคล ตัวพนักงานอาจจะแอบโกงเอาไปเองก็ได้ และชิ่งลาออกก่อนที่เรื่องจะแดง
สรุปนะครับ เลือกบริษัทที่ไม่ถูกจนเกินไป และน่าเชื่อถือด้วยเวลาที่ตั้งบริษัทมานาน มีลูกค้าอยู่เรื่อยๆ มีทั้งชมและตำหนิในรีวิวต่างๆครับ
ขออนุญาตฝากเพจบริษัทที่ผมทำงานอยู่ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หวังว่าข้อมูลที่ผมเขียนไว้จะมีประโยชน์กับทุกท่านบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ซื้อทัวร์ยังไงไม่ให้โดนหลอก จากคนในวงการ
วันนี้ผมมาตีแผ่ความจริงเกี่ยวกับวงการท่องเที่ยวหลังจากหลายปีที่ผ่านมามีการโดนหลอกจากบริษัททัวร์หลายข่าว โดยเฉพาะเคสใหญ่ เช่น ล่าสุด ของซินแสโชกุน ที่ว่า ทัวร์ญี่ปุ่น 10000 บาท ต่อคน ซึ่งสุดท้าย โดนลอยแพอย่างที่เป็นข่าว ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวภายในประเทศมาเกือบ 2 ปีครับ เห็นคนในวงการทำแย่ๆมาเยอะครับ วันนี้เลยอยากระบาย และเตือนคนอื่นไม่ให้โดนหลอกครับผม ผมทำเพจท่องเที่ยวอยู่มี infographic สรุปสั้นๆสำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านลิ้งค์อยู่ด้านล่างนะครับ บริษัททัวร์นั้นมีหลายรูปแบบที่จะหลอกลูกค้า เช่น โกงเงินไปหมดเลยแล้วโดนเท หรือมีค่าบริการแอบแฝงนอกเหนือจากที่ตกลงกัน
เอาละ มาเริ่มกันเลย สำหรับวิธีป้องกันการโดนทัวร์ผีหลอก
1. ของดีและถูกไม่มีจริงนาจาาา
จำไว้เลยว่า ของที่ลดราคามากๆนั้น อันตรายสุดๆ โดยเฉพาะถูกกว่าคู่แข่งเช่น ทุกบริษัทขายทัวร์ไป ญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน ขาย 4 หมื่นบาทขึ้น อยู่ๆมีบริษัทนึงตั้งขาย ไปญี่ปุ่นโดยที่โปรแกรมคล้ายๆกันแค่ 9999 เราเช็คราคาตั๋วเครื่องบินก่อนเลยว่า ราคานี้ตั๋วเครื่องบินไปกลับได้ไหม ต่อให้เป็นสายการบิน Low cost ถ้าแค่ตั๋วไม่ได้เนี่ย ก็สันนิษฐานไว้ได้เลยว่า ทัวร์ผี หรือบางครั้งก็มาแอบแฝงเช่น อาจจะได้ไปจริง แต่ ไม่รวมอาหาร ไม่รวมค่ารถ ไม่รวมค่า บลาๆๆ ทำให้ได้ถูกจริง
2. Google เป็นเพื่อนแท้ยามอยากเที่ยว
ให้กูเกิ้ล ชื่อบริษัทหรือลูกค้าเก่าๆ เช่นบริษัทนี้ เคยมีคนมารีวิว ชม ด่ารึเปล่า(ด่า ตำหนิยังดีกว่าไม่มีเพราะแสดงว่าบริษัทนี้มีตัวตนจริง) ไม่ว่าจะใน Pantip หรือ เพจของทางร้าน หรือไอจีครับ
3. ขอดูเอกสารจากบริษัททัวร์
เอกสารสำคัญที่บริษัททัวร์ทุกบริษัทควรจะต้องมีคือ ใบอนุญาตธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งจะแบ่งเป็น สองชนิด คือ ภายในประเทศหรือทั่วไป(ได้ทั้งในและนอกประเทศ) แต่จริงๆ ผมว่าใบอนุญาตธุรกิจท่องเที่ยวมันแหกตาผู้บริโภค เพราะเป็นบุคคลธรรมดาก็ไปขอได้ ขอแค่มีเงินไปวางค้ำประกันซึ่งมันก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าเป็นนิติบุคคล ค้ำประกันประเภทในและนอกประเทศ เยอะสุดก็แค่ 2 แสนบาท ซึ่งโกงที ได้เป็นหลายล้าน เพราะฉะนั้นแล้ว ผมแนะนำว่าที่ต้องมีจริงๆคือ สมุดบัญชีออมทรัพย์ชื่อนิติบุคคลนั้นๆ เพราะธนาคารจะต้องสแกนเอกสาร หนังสือรับรองจดทะเบียนนิติบุคคล พวกใบจดทะเบียนนิติบุคคลและเอกสารสำคัญอื่นๆแทนเราแล้ว ซึ่งถ้าเป็นบริษัทที่ตั้งใจจะต้มตุ๋นจริงๆ จะไม่มี จะมีแต่ บริษัทที่ตั้งใจทำงานจริงๆเท่านั้น และถ้าควรจะมีอีกใบคือ ใบเสียภาษี ภพ.20 ซึ่งแสดงว่าบริษัทนั้นๆ ใหญ่และได้มาตรฐานในระดับนึงที่จะเสียภาษีรายได้
4. ต้องมี booking confirmation หรือเอกสารการจอง Voucher ต่างๆ
ที่ออกให้บริษัททัวร์นั้นไม่นับนะครับ ต้องออกจากโรงแรมหรือบริษัททัวร์ที่เป็นผู้ให้บริการจริงๆ ไม่ใช่เอเจ้น เช็คโดยการ โทรไปสอบถามกับโรงแรมและผู้ให้บริการว่า ได้มีการจองทัวร์ชื่อเรา ผ่านบริษัทที่เราซื้อไปด้วยรึเปล่า
5. โปรโมชั่นต้องไม่มีแอบแฝง
อ่านรายละเอียดของโปรโมชั่นให้ละเอียด เพราะบางทีคุณอาจจะเจอกับคำโฆษณาเชิญชวนที่ระบุรายละเอียดไม่ครบ จะทำให้เราสับสน ไม่เข้าใจตรงไหนก็โทรไปถามว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
ปล. ถ้าเป็นไปได้พยายามโอนเงินชำระผ่านบัญชีบริษัท เพราะบางครั้งโอนชื่อบุคคล ตัวพนักงานอาจจะแอบโกงเอาไปเองก็ได้ และชิ่งลาออกก่อนที่เรื่องจะแดง
สรุปนะครับ เลือกบริษัทที่ไม่ถูกจนเกินไป และน่าเชื่อถือด้วยเวลาที่ตั้งบริษัทมานาน มีลูกค้าอยู่เรื่อยๆ มีทั้งชมและตำหนิในรีวิวต่างๆครับ
ขออนุญาตฝากเพจบริษัทที่ผมทำงานอยู่ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หวังว่าข้อมูลที่ผมเขียนไว้จะมีประโยชน์กับทุกท่านบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ