ป. กับ ม. ความเหมือนอันแตกต่าง

กระทู้คำถาม
ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 199    ทำลาย  ฝัง  ซ่อนเร้นศพ  เพื่อปกปิดความผิด   โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี  ปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 288    ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต  จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

มาตรา 289    ผู้ใด
                    (4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
                    (5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
                    ต้องระวางโทษประหารชีวิต

มาตรา 290    ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้น ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี



คดีหนึ่ง   อาจไม่ใช่การเตรียมการฆ่า  เพราะเมื่อเกิดการฆ่าแล้ว  จึงได้มีการซื้อสิ่งของ หาสถานที่
เพื่อทำลาย ซ่อนเร้นศพเพื่อปกปิดการฆ่า

ถ้าทนายเก่ง ๆ   อาจแค่โดนมาตรา 290   199



คดีหนึ่ง   ทั้งก่อนหน้าวันที่ 10 เม.ย.  มีการออกทีวีแสดงท่าที
และวันสุดท้าย 19 พ.ค.  ที่เย็นวันที่ 18 พ.ค.  มีการรับปากรับคำเรื่องการเจรจาชัดเจนแล้ว

แต่ก็มีการฆ่าเกิดขึ้น
นี่ มาตรา 288   289   เต็ม ๆ




คดีหนึ่ง   จับคนร้ายได้เรียบร้อย  ไม่มีข้อสงสัย  หลักฐานพร้อม  
เหลือเพียงการดำเนินการตามขั้นตอนให้ผู้ต้องหาได้รับการลงโทษตามกฎหมาย

คดีหนึ่ง   หลักฐานพร้อม  แต่กฎหมายไม่สามารถเอื้อมถึงคนทำผิดได้
ศาลอาญาไม่รับฟ้อง     ป.ป.ช. ยกคำร้อง




การฆ่าแล้วหั่นศพ   เป็นความโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง  
การฆ่าแม้ในบริเวณวัด  แล้วกล่าวหาใส่ร้าย  ขัดขวางการช่วยเหลือเยียวยา   โหดเหี้ยมยิ่งกว่า

หนึ่งศพ กับ เกือบร้อนศพ บาดเจ็บสองพัน
ความเหมือนอันแตกต่าง    กฎหมายไม่สามารถลงโทษผู้ทำผิดได้อย่างทั่วถึง




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คห.2    เคยบอกไปแล้ว  อย่าแค่คิดว่าใช้ infographic แล้วจะเท่
เพราะข้อมูลที่นำมาใช้  ต้องแม่นยำ  ถูกต้อง

ไม่ใช่แค่ใช้โปรแกรมโฟโต้ช้อปเป็น  แล้วก็ทำมาแปะ ๆ   อวดว่าใช้ข้อมูลในการถกแย้ง

เรื่องอย่างนี้  มีคนทำมาหลายคนแล้ว  และเลิกทำไปสามปีแล้ว
เพราะบางคนก็แปะผิด แปะมั่วบ่อย   โดนเพื่อนสมาชิกด่าว่าเลอะรกทู้ รำคาญตา

บางคนก็แปะชี้นำจนน่าเกลียด    โดนด่าจนเลิกใช้ infographic  กันไปแล้ว

คงไม่รู้   เลยโชว์ใหญ่ว่าใช้ข้อมูลภาพ  



ภาพใน คห.2   ก็บอกชัด  ว่าเป็นการนิรโทษแก่ผู้ชุมนุมและแสดงความเห็นทางการเมือง
ซึ่งต่อมาได้มีการแปรญัตติให้ครอบคลุมถึงเหตุการณ์ปี 53  ด้วย   ถึงคดีความของทักษิณด้วย

ในส่วนของประชาชน  ก็เรื่องเผาศาลากลาง  ที่หลายคนต้องรับโทษทั้งที่ไม่ได้ทำผิด
และเป็นการทำผิดด้วยเหตุแรงจูงใจทางการเมือง ไม่ใช่โดยสันดาน  จึงควรได้รับการนิรโทษ

การเมืองไทย  เผาทุกครั้ง  ตั้งแต่ปี 16  โน่น   มีการตายทุกครั้ง  และนิรโทษกรรมสุดซอยทุกครั้ง
ไม่มีใครต้องรับผิดสักครั้ง


ส่วนที่อภิสิทธิ์ ได้รับผลพวงด้วย  ก็ชัดแล้วว่า  ถึงอย่างไรกฎหมายก็เอื้อมไม่ถึง
จึงสุดซอยไปเลยดีกว่า  ดีกว่าที่จะเป็นอย่างทุกวันนี้  ที่ติดคุกฝ่ายเดียว  

กรณีทักษิณ  ก็ชัดว่าเขาโดนเล่นงานเพราะเหตุทางการเมือง
อย่างคดีแรก คดีที่ดินรัชดา  ถึงวันนี้ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าผิดจริงตามที่โดนลงโทษ
จนถึงคดีล่าสุด เรื่องภาษีหุ้นชินคอร์ป  ที่แม้โดนยึดเงินไปแล้วสี่หมื่นหกพันล้าน  
ยังจะใช้อภินิหารทางกฎหมาย หาทางยึดเงินอีกสองหมื่นกว่าล้าน



ใช้ข้อมูล  ใช้ให้เป็น   ไม่ใช่สักแต่ใช้โปรแกรมคอมพ์เป็น  แล้วมาแปะเอาเท่เท่านั้น
ถีบขาคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่