คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมบรรจุได้ 6 เดือน ตลอดเวลาหกเดือน ผมโดนผอ ด่า 4 ครั้ง ในที่ประชุม แต่ผมไม่สนใจ หน้าที่ผม คือ มาสอนเด็ก งานเอกสารเยอะมาก ทำงานอึดอัด กับ ผอ มาก แต่ผมกลับมีความสุขที่ได้สอน ได้อยู่ในห้องเรียน ถึง เด็กสมัยนี้จะเรียนบางไม่เรียนบางไม่สนใจ แต่ผมก็โฟกัสที่เด็ก เป็นสำคัญ การเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ถ้าคุณลาออก ไม่ใช่แค่คุณจะนั่งร้องไห้ ผมว่า คุณผูกคอตายแน่ๆ เชื่อไหม โฟกัสเรีองสอน มากกว่าเรื่องอื่น เชื่อผม ผมมาอยู่นี้ 6 เดือน เหมือน 5 วัน มันเร็วมาก เหมือนเพิ่งมา แปป วันศุกร์แหละ เพิ่มเติมอีกอย่างคือ ผมโชคดีอย่างครูรุ่นพี่เขาจะแนะนำดีมาก บอกทุกอย่าง เด็กแต่ละคนเป็นไง ผู้ปกครองเป็นไง คนที่บอกให้ออกแล้วบอกอย่าไปฟังคำนินทา ผมว่าคิดผิด เรื่องแบบนี้ ผ่านไป20ปี คนก็ยังพูดถึงอยู่เลย คนที่ฟังใครรู้ไหม พ่อแม่ พี่น้อง บอกว่าไม่สนใจไม่ได้หรอก ผมเคยโดน สำหรับไม่ค่อยสนใจเรื่องคำนินทา แต่พ่อแม่เครียดเลย ตัวเราทำงานที่อื่น พ่อแม่อยู่บ้าน บางครอบครัว ลูกทำผิดโดนนินทา จนพ่อแม่เข้าโรงพยาบาลก็มี เวลาถามพ่อแม่ ก็บอกไม่คิดไม่สนใจ คำนินทา แต่กลับเครียดกลับไม่มีความสุข อย่างเห็นได้ชัด ผมเคยผ่านมา เรื่องแบบนี้ ก็ด้วยเพราะผมว่า ตัวเองไ่ม่แคร์ พ่อแม่กลับรับความเสียใจไว้ จนผมต้องเปลี่ยนตัวเอง มาเป็นครู ทุกวันนี้ไปไหน พ่อแม่ยิ้มมีความสุข จขกท อายุน้อย ถ้าผมสอบได้ตอนอายุ25-26ผมมีเรื่องกับ ผอ แน่ๆ แต่โชดคใดี สอบได้ตอนวุฒิภาวะมัน ควบคุมได้ ผมสอบมา 7 ครั้งถึงได้ แต่บางคนสอบมา 10ปี ยังไม่ได้เขาก็ไม่ท้อนะ เรื่องควบคุมชั้นเรียน ครูเก่าๆเขาน่าจะแนะนำ ไม่ใช่มาว่า ของผม มีแต่ ผอ ด่า สอนมัธยม ส่วนพี่ๆดีหมด ผมยังคิดเลยว่า ถ้าผมเป็นครูยาวๆจะแนะนำน้องใหม่ๆ ทุกอย่าง เพราะผมมาใหม่ พี่เขาห่วงผม ด่าผม ให้ทำอันนี้ไว้อันนั้นไว้ แก้ไขยังนั่นอย่างนี้ ผมละโชคดี แต่บางทีเจอ ผอ ด่าก็หงุดหงิด มีครูพี่ผู้หญิงเล่าให้ฟัง มาแรกๆร้องไห้กลับบ้านทุกวัน เพราะโดนผอ ด่า แต่เขาก็อยู่มาได้ ครู คือ ผู้หนัก คุรุ
สุดท้าย
ถ้าใจมันออก ก็ต้องยอม และพร้อมรับสิ่งที่จะตามมา
ผมมีประสบการณ์มาเยอะ คิดว่าออกจากตรงนี้ไปตรงนั้นคงจะมีความสุข แต่ที่ไหนได้ ทุกทีเหมือน ต่างแค่ปัญหา ที่จะไม่เหมือนกัน เพราะทุกสังคม มีคนทุกรูปแบบ
สุดท้าย
ถ้าใจมันออก ก็ต้องยอม และพร้อมรับสิ่งที่จะตามมา
ผมมีประสบการณ์มาเยอะ คิดว่าออกจากตรงนี้ไปตรงนั้นคงจะมีความสุข แต่ที่ไหนได้ ทุกทีเหมือน ต่างแค่ปัญหา ที่จะไม่เหมือนกัน เพราะทุกสังคม มีคนทุกรูปแบบ
ความคิดเห็นที่ 7
บางคนให้ออก บางคนให้อยู่
แต่ที่ผมแปลกมาก คือ จขกท.สอบติดได้อย่างไร
ทั้งๆ ในแต่ละปี คนสอบเป็นหมื่นๆ ผิดหวังกับการสอบบรรรจุครูผู้ช่วย
ถ้าสอบได้จริงๆ แค่ความรู้ ที่ผ่านจากการสอบ คุณสามารถเอาตัวรอดได้แล้ว
หรือคุณไม่ชอบสภาพ สถานที่ทำงาน ที่นั่น คิดว่าระดับมัธยมมันหนักกว่า ประถม
หรือคุณมีจุดอ่อนด้านการคุม อารมณ์ตัวเอง ในที่ทำงาน หรือ ไม่ชอบระบบราชการ
ถามตัวเองให้ชัดเจนว่า ไม่ชอบตรงไหน อ่อนตรงไหน อันไหนมีเหตุผลที่ดีมากกว่ากัน
ระบบราชการไทยรู้ๆกันอยู่ ว่าเป็นระบบเช้าชามเย็นชาม ทำงานช้า เน้นสมรรถภาพแต่ไม่ค่อยเน้นผลิตผล
ต้องอยู่ในโอวาทในคำสั่งผู้ใหญ่ผู้อาวุโสเสมอ ห้ามข้ามหัว แม้เราจะเก่งจะรู้สึกต่อสิ่งนั้นดีกว่าอย่างไร
เค้ามักจะไม่ถือเราเป็นวาระในที่ประชุม เพราะการประชุมในระบบราชการมันคล้ายกับการแถลงเรื่องที่ได้กำหนดมากกว่า
แต่ถ้าการประชุมในบริษัทในวงการธุรกิจ มันเต็มไปด้วยการผลักดันให้เสนอความคิดใหม่ๆ ที่ท้าทายในที่ประชุม ยิ่งมากยิ่งดี
เพราะเค้าเน้นผลิตผล เน้นกำไรในเป้าหมายตามไตรมาส...
คุณเป็นแบบไหน ถามดีๆ ชอบลุยๆ ชอบสร้างผลงานแบบรวดเร็ว อย่างนี้คุณเหมาะกับธุรกิจกับบริษัท
แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบอยู่ในกรอบ มีแบบแผน ไม่กล้าเสี่ยง ไม่ชอบสิ่งใหม่ๆแบบรวดเร็ว ก็ทำงานปัจจุบันดีกว่า
เพียงแค่คุณปรับ การทำงาน ให้มีความสุข ด้วยการ เล่นกับนักเรียน อ่านแต่ตำราหนังสือ ทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
อย่าเครียด อย่ารู้สึกแบบไม่มั่นคงน่ะ
มันไม่เหมาะกับ คนเก่งๆ ที่สอบราชการได้ อย่างคุณ
แต่ที่ผมแปลกมาก คือ จขกท.สอบติดได้อย่างไร
ทั้งๆ ในแต่ละปี คนสอบเป็นหมื่นๆ ผิดหวังกับการสอบบรรรจุครูผู้ช่วย
ถ้าสอบได้จริงๆ แค่ความรู้ ที่ผ่านจากการสอบ คุณสามารถเอาตัวรอดได้แล้ว
หรือคุณไม่ชอบสภาพ สถานที่ทำงาน ที่นั่น คิดว่าระดับมัธยมมันหนักกว่า ประถม
หรือคุณมีจุดอ่อนด้านการคุม อารมณ์ตัวเอง ในที่ทำงาน หรือ ไม่ชอบระบบราชการ
ถามตัวเองให้ชัดเจนว่า ไม่ชอบตรงไหน อ่อนตรงไหน อันไหนมีเหตุผลที่ดีมากกว่ากัน
ระบบราชการไทยรู้ๆกันอยู่ ว่าเป็นระบบเช้าชามเย็นชาม ทำงานช้า เน้นสมรรถภาพแต่ไม่ค่อยเน้นผลิตผล
ต้องอยู่ในโอวาทในคำสั่งผู้ใหญ่ผู้อาวุโสเสมอ ห้ามข้ามหัว แม้เราจะเก่งจะรู้สึกต่อสิ่งนั้นดีกว่าอย่างไร
เค้ามักจะไม่ถือเราเป็นวาระในที่ประชุม เพราะการประชุมในระบบราชการมันคล้ายกับการแถลงเรื่องที่ได้กำหนดมากกว่า
แต่ถ้าการประชุมในบริษัทในวงการธุรกิจ มันเต็มไปด้วยการผลักดันให้เสนอความคิดใหม่ๆ ที่ท้าทายในที่ประชุม ยิ่งมากยิ่งดี
เพราะเค้าเน้นผลิตผล เน้นกำไรในเป้าหมายตามไตรมาส...
คุณเป็นแบบไหน ถามดีๆ ชอบลุยๆ ชอบสร้างผลงานแบบรวดเร็ว อย่างนี้คุณเหมาะกับธุรกิจกับบริษัท
แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบอยู่ในกรอบ มีแบบแผน ไม่กล้าเสี่ยง ไม่ชอบสิ่งใหม่ๆแบบรวดเร็ว ก็ทำงานปัจจุบันดีกว่า
เพียงแค่คุณปรับ การทำงาน ให้มีความสุข ด้วยการ เล่นกับนักเรียน อ่านแต่ตำราหนังสือ ทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
อย่าเครียด อย่ารู้สึกแบบไม่มั่นคงน่ะ
มันไม่เหมาะกับ คนเก่งๆ ที่สอบราชการได้ อย่างคุณ
แสดงความคิดเห็น
ลาออกจากครูผู้ช่วย
เราเพิ่งจะสอบบรรจุได้ไม่นาน
เราเลือกโรงเรียน(ที่ทำงาน)ใกล้บ้านมาก
เป็นโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง
ตั้งแต่เราเริ่มทำงาน เหมือนความสุขมันหายไป
เราพยายามเต็มที่ทุกครั้งที่สอน
แต่เหมือนมันจะไม่ใช่ เราไม่เหมาะกับโรงเรียนมัธยม
เราไม่อยากให้ตัวเองรอเวลาให้หมดเวลาราชการ
เตรียมพร้อมกลับบ้าน นั่นคือความสุขของเรา
ทุกๆเช้าเราจะร้องไห้ อึดอัด คิดอยากลาออกทุกๆวัน
แรกๆกินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ มันทรมานจริงๆ
เราฝืนทำมาสักพัก จะออกก็ไม่มีงานรองรับที่ได้รายได้แน่นอน
สวัสดิการที่แม่เพิ่งจะได้ก็จะหายไป แม่คงเสียใจไม่น้อย
ญาติๆฝั่งแม่บอกว่ารับราชการคือดีที่สุด
หลายๆคนบอกให้อดทน ไม่กี่ปีก็สบายแล้ว
เป็นอาชีพที่มีคนนับหน้าถือตา จะออกทำไม
เราอึดอัดจริงๆ บ้างก็หาว่าเพิ่งจะทำ ทำไมไปตัดสินแบบนั้น
เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เราแค่อยากระบาย และหาทางออกให้ตัวเอง
เราอยากสอนเด็กๆประถม เรารักงานสอนนะ แต่ที่อยู่ตรงนี้
เหมือนไม่ใช่ที่ของเราจริงๆ