เหนโล่ววเพื่อนๆชาวพันติ้ปป.....
เรื่องมันมีอยู่ว่าอันที่จริงอะเรานัดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปทะเลด้วยกัน แต่เพื่อนดันมาเทกันดื้อๆ ด้วยความที่เรา need vacation มาก เพราะไม่ได้ไปเที่ยวมานานแล้ว ก็เลยเอาวะ คนเดียวก็คนเดียว นี่คือภาพปลากรอบระหว่างทาง
เป็นครั้งแรกของเราเลยนะที่มาเที่ยวคนเดียว ถามว่าเหงามั้ย ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็โอเค...........
เราพักอยู่แถวๆม.เกษตรบางเขน ดังนั้น การเดินทาง step แรกของเราคือขึ้นรถจากซอยตรงข้ามวัดพระศรีฯไปลงอนุเสาวรีย์ (เรานั่ง 522, 21 บาท) แล้วก็นั่งรถจากอนุเสาวรีย์ไปลงสายใต้ใหม่ (เรานั่ง 28, 13 บาท)
พอถึงสายใต้ใหม่ เราก็ตั้งใจว่าจะนั่งรถทัวร์ แต่พอไปถาม คันนึงออก 3 โมงครึ่ง ซึ่งเราออกมาจากเกษตรฯตั้งแต่หกโมง ถึงนี่ก็ 9 โมง จะให้รอบ่าย 3 ก็คงไม่รอเนาะ ส่วนอีกคันมันไม่ลงถึงอ่าวมะนาว ก็เลยไปรถตู้ 200 บาท นั่งรถรอบ 9.42 a.m. ถึงตอนบ่าย 2 พอดี เราตั้งใจว่าจะเข้าไปดูอ่าวมะนาวก่อน เลยขึ้นพี่วินจากอ่าวประจวบ ซึ่งก็คือที่รถตู้มาส่งเรา (ลุงคนขับใจดีมาก นอกจากจะไปส่งผู้โดยสารครบหมดแล้ว ลุงยังขับไปส่งเราที่อ่าวประจวบอีกต่างหาก) จ่ายไป 60 บาทค่าพี่วิน
ใช้เวลาถ่ายรูปนู่นนี่นั่นไป 2 ชั่วโมง
ภาพที่ได้ก็นี่เลย...
เอ้อออ ก่อนจะไปดูรีวิวต่อ มาดูดีหว่าว่าเราเอาไรไปบ้าง ด้วยความที่อยู่ใกล้โลตัสหลัก 4 ช้ะ แล้วก็ไปซื้อไก่กินบ่อยๆ ก็เลยเห็นร้นขายอุปกรณ์กีฬา ที่ชื่อว่า Decathlon Laksi ตอนแรกเดินเข้าก็เอ้ร้านขายอะไรอะ ใหญ่จัง พอเดินเข้าไปเรื่อยๆ ของนี่หยิบติดมือออกมาเรื่อยๆเหมือนกัน 555 ที่ Decathlon นี่เป็นของที่มาจากบริษัทในฝรั่งเศส มั้งนะ แต่ราคาแบบไทยแลนด์มาก รองเท้านี่นิ่ม ใส่สบาย มีตั้งแต่ราคา 99 บาทอะ ส่วนบิกินี่ที่เราซื้อไปนี่เล็กไปหน่อย เพราะตอนไปเลือกก็คิดว่าตัวเองผอม สรุปป่าว ไม่ได้ผอม 555 แต่เอาไปเปลี่ยนได้ ร้านเค้าให้เปลี่ยนได้ตลอดตามความพึงพอใจของลูกค้าเลย
ที่ร้านมีอุปกรณ์กีฬาเยอะมาก เผื่อใครอยากเข้าไปดู คุณภาพนี่จัดว่าดีเลยนะ เราใส่แล้วไม่ขาดเนี่ยถือว่าแข็งแรงเลยแหละ มีตั้งแต่ว่ายน้ำ ฟุตบอล บาส ปีนเขา ยิงธนู ฟิตเนส วิ่ง มีหมดอะ นี่พอได้ซื้อครั้งแรกแล้วก็ซื้อเรื่อยๆเลย
อย่างรองเท้านี่ก็ 99 นะ แล้วก็หน้ากากดำน้ำ 799, ชุดว่ายน้ำนี่มีตั้งแต่ใส่เล่นๆ ใส่จริงจัง หมวกแว่น อะไรพวกนี้ก็มีขายนะ ลองแวะไปดู ละจะไม่ผิดหวัง นี่คอนเฟิม
มาดูของที่นี่ซื้อไปดีหว่าาาาา....
นี่คือผ้าเช็ดตัวไมโครไฟเบอร์ นิ่มมากๆ ตอนแรกว่าจะซื้อแบบที่ซับน้ำแห้งไวๆ แต่นี่แพ้ความนิ่ม นิ่มขนาดที่ใช้เป็นผ้าห่มก็หลับฝันดีอะ
อันนี้เป็นเสื้อยูวี แบบไม่มีไม่ได้อะ ปั่นจักรยานตั้งแต่อ่าวประจวบไปจนถึงหว้ากอ โบกกันแดดไว้ข้างหน่อยนะ จะไม่ค่อยแสบ
อันนี้เป็นรองเท้าใส่ในน้ำ ใส่เดินเขาก็ได้นะ ถึกมาก มีรูไม่ให้ทรายเข้าด้วย แต่แห้งช้า แต่ถ้าแบบไม่ได้ไปทะเลอาทิตย์ละ 5 วันก็คงไม่มีปัญหาอะไร ก็ตากทิ้งไว้ได้งี้
อันนี้รองเท้าแตะ เหมาะกับหน้าฝนเลย ดอกรองเท้าเหนียวมาก ใส่คู่นี้ไปเดินเขาเหมือนกัน ไม่มีลื่น คู่นี้ 99 บาทเอง
อันนี้บิกินี่กับรองเท้าที่ซื้อไป
ส่วนนี่คือรูปเราใส่บิกินี่ที่ดีที่สุดแล้ว ด้วยความที่เพื่อนไม่ไป ก็เลยต้องถ่ายแบบนี้ 55555
อันนี้หน้ากากดำน้ำ อันที่จริงเราควรถ่ายตอนที่มันอยู่ที่หน้าเรา แต่ก็นะ ไปคนเดียว ก็เลยต้องถ่ายแบบนี้ 555
่
ส่วนอันนี้เป็นอีกสีนึง พอดีเราซื้อมา 2 ชุด เป็นการเตือนตัวเองว่าครั้งนึงในชีวิตควรกล้าใส่บิกินี่ได้แล้วนะ
แล้วฝนก็ตก แต่เราเป็นมนุษย์ที่ไม่ค่อยฟังใครอะ เพื่อนห้ามแล้วนะบอกว่าใครเค้าไปเที่ยวฤดูนี้กัน นี่ก็บอกคนน้อยดีออก ดีจะตาย ทีนี้ ในความฝนตกยังมีความน่ารักของป้าสมาคมแม่บ้านทหารอากาศอยู่นะ เราจำได้ว่าเราเดินเข้าไปหลบฝน แล้วหันไปสบตาป้าคนนึงแล้วถามว่า ในนี้หลบฝนได้มั้ยคะ
ป้าก็ถามหนูมากับใคร แล้วหนูจะไปไหน นี่ก็ตอบไปอ๋อมาคนเดียวค่ะ กำลังจะไปที่พักตรงอ่าวประจวบ ป้าก็เลยบอกมาว่างั้นรอตรงนี้แป้บนะ เดี๋ยวเรียกทหารให้ไปส่ง นี่แบบ.. โหยไม่ต้องลำบากก็ได้มั้งคะ หนูโอเค 5555 ทีนี้ทหารก็มาพร้อมกับชุดเต็มยศทหารอากาศ แล้วเราสองคนก็อยู่ท่ามกลางสายฝนในรถยนต์คันเดียวกัน เดี๋ยวๆ ไม่มีอะไร พี่แกก็น่ารัก พี่แกบอกว่ามาจากเพชรบุรี รับราชการเป็นทหารมาหลายปีแล้ว แล้วแกก็แนะนำเขาแต่ละเขาให้ฟัง พวกเขาล้อมหมวก เขาช่องกระจก เขาคลองวาฬ อะไรแบบนี้ ฉันนี่ตกหลุมรักประจวบมากไปอี้กกก 10 เวลค่ะ
ทีนี้เราก็แยกทางกัน เราก็ถึงที่พัก เราพักที่โรงแรมสุขสันต์เก่าน่ะ ชื่อใหม่คือมนต์ทะเล ค่าห้องพัดลม 390 บาท ถ้าเตียงคู่ 420 บาท นี่มาคนเดียว แต่นี่ไม่ได้มอง ถามเจ๊หน้าล๊อบบี้ละเขาบอก 420 ก็เลยไม่ได้เอะใจ ก็คง 420 แต่พอมาดูป้ายตอน check out เอ้ะมันเตียงเดียวก็มีนี่นา แต่ก็ช่างมันเนาะ ถือว่าเอาไว้วางของละกัน 555 ห้องนี่มีทีวี (เปิดมาเจอมวยปล้ำเลย แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนช่อง เลยไม่รู้ว่ามีช่องไรมั่งนะ 555) มี wifi มีน้ำคริสตัล 2 ขวด ทิชชู่ 1 ม้วน สบู่เล็กมาก 2 ก้อน ห้องมีระเบียง กระจกสวยมาก ห้องน้ำกว้าง พัดลมกดส่ายไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะอากาศดีมากๆๆ ขั้นสุดด
พอกลับห้องมาชาร์จแบตมือถือประมาณ 1 ชม. รอจนฝนหยุดตกละฟ้าใสอีกที เราก็ออกไปเช่าจักรยาน ค่าเช่าจักรยาน 50 บาท แต่ถ้าเช่ามอไซ 200 นะ ลุงก็ใจดีไปอีก นี่ถามว่าเช่าถึงพรุ่งนี้เที่ยงได้มั้ย ลุงพยักหน้างึกๆ ไม่รู้เต็มใจรึเปล่า แต่ก็ขอบคุณค่ะ 5555
ทีนี้ล่ะ พอได้จักรยาน เราก็ปั่นตั้งแต่ 6 โมงเย็น ไปสะพานปลา
เราไม่ได้ขึ้นไปเขาช่องกระจกนะ เรากลัวลิง มีคนบอกว่ามันน่ารัก แต่เราขอผ่านละกัน
เราก็เลยไปปั่นจักรยานไปรอบๆ
รถมอไซที่นี้ส่วนมากจะเป็นสามล้อ ถามพี่วินละแกบอกว่าเป็นรถวินมอไซสมัยก่อน
หนังสือนี่ก็เอาไปอ่านนะ อ่านได้ 3 บรรทัด 555
แล้วพอหิวก็ไปหาของกินที่ถนนคนเดิน
ของกินเยอะมากๆๆๆ น่ากินมากๆๆๆ แต่ไม่ค่อยมีรูปของกินเท่าไหร่ พอดีเริ่มไดเอตแล้วแหะๆ แต่เราสอยเครปมานะ พอเราเดินเข้าไปซื้อเครปป้า บอกป้าขอถ่ายรูปหน่อย ป้าถามรู้มั้ยที่ไหนในประจวบมีสอนโยคะ นี่ก็เอ่อ หนูพึ่งถึงเมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้วอะค่ะ ก็เลยเสิชเนตให้ป้าแก สรุปไม่มีใกล้ๆเลย บอกไปกี่ที่ป้าแกก็บอกไกล นี่ก็คิดในใจ youtube มั้ยป้า แล้วก็เหมือนป้ารู้ ป้าสวนขึ้นมา ป้าทำใน youtube แล้วแต่มันก็ไม่เหมือนมีคนมาสอนอะ นี่ก็เลยบอกป้าว่าไม่งั้นป้าก็ค่อยๆตัดแป้งออก เพิ่มออกกำลังกายจาก 1 วันเป็นซัก 3 วันก่อน แล้วก็กินโปรตีนให้เยอะขึ้น ป้าแกก็ขอบคุณ พร้อมกับบีบนมใส่เครปเพิ่มให้ ซึ่ง..ป้าคะ หนูขี้เกียจไปวิ่งเอาออกค่ะ -.- แต่ก็ขอบคุณป้ามากๆค่ะ เครปอร่อยมากค่ะ
พอดีว่าเราไปวันที่ 2 June ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เค้าจัดงานมหกรรมอาหารทะเลพอดี เลยได้ไปนั่งดูคอนชิวๆไป แล้วเราก็ไปเดินเล่นต่อที่สะพานปลา
พอหมดเวลา (หมดเวลาของเราคืออิ่มและง่วง) ก็เลยกลับที่พัก
อากาศที่นี่ต้องใช้คำว่า ****ing good มากๆ นอนต้องห่มผ้าอะ ผมนี่ไม่อยากกลับกทม.เลยยยย
แล้ววิวนี่ดีมากเลย อยู่ตรงข้ามอ่าวประจวบพอดี แล้วพอพระอาทิตย์ขึ้นนะ ขึ้นตรงห้องพอดี โอ้ยชอบบบ
เรารีบตื่นขึ้นมาวันที่ 2 มาดูพระอาทิตย์ขึ้น กะว่าจะตื่นตีห้าครึ่งละรีบปั่นจักรยานออกไปเฝ้าพระอาทิตย์แต่เช้า แต่ไม่ทัน เลยได้รูปแบบแสงจ้ามาแทน 555
ทีนี้เราก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ออกจากที่พักประมาณหกโมงครึ่ง ละก็ปั่นไปที่อ่าวมะนาวอีกทีนึง เพราะวันนี้เมฆสวยย
ส่วนนี่เป็นแพะตรงข้ามอ่าวมะนาวอะ อยู่หลังร้านไอติม เข้าชมฟรี นี่เจอพวกนางด้วยความบังเอิญ เพราะว่าจอดจักรยานลงไปซื้อไอติม เลยเห็นพอดี แล้วนี่พวกนางเห็นเรา ก็เลยคงมุดหัวออกมา นี่ก็กลัวไง กว่าจะได้รูปนี้ ไอติมแทบหล่นจากมือ
แล้วก็ปั่นยาวไปที่เขาคลองวาฬ ซึ่งไกลสัสๆเลยครับ แต่พอดูรูปแล้วก็หายเหนื่อยเหมือนกันนะ
ตอนแรกตั้งใจจะปั่นไปเขาคลองวาฬ แต่ปั่นเลย เลยไปลงที่ท่าเรือคลองวาฬเฉย ลุงก็บอกให้ปั่นย้อนกลับไปตรงธนาคารกรุงเทพสาขาคลองวาฬนะลูกนะ
นี่ เขาคลองวาฬอยู่นี่ ตอนเราไปมีฝรั่งสองคนมา boating ด้วย
แล้วเราก็ปั่นต่อไปหว้ากอ ใช้เวลาปั่นเป็นชั่วโมง กว่าจะถึง 555 ก็เพราะมัวแต่จอดถ่ายรูป
เขียนไม่ได้แล้วอะ ข้อความเกิน หิวข้าวด้วย ง่วงนอนด้วย ไปดูต่อที่ tag IG #mothandherjourney กันก่อนเน้อ เดะจะรีบมาต่อ จุ้บๆ
ลองทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตดูบ้างนะ จะทำให้สมอง healthy เราเกิดมาครั้งเดียว อยากทำไรอย่าไปลังเล : )
[CR] ไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรก at อ่าวมะนาว 2 วัน 1 คืน โดยใช้ Budget 1000 บาท + ของที่เอาไปทะเลแบบถูกแต่ดีมั่กๆ แฮปปี้สุด : )
เรื่องมันมีอยู่ว่าอันที่จริงอะเรานัดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปทะเลด้วยกัน แต่เพื่อนดันมาเทกันดื้อๆ ด้วยความที่เรา need vacation มาก เพราะไม่ได้ไปเที่ยวมานานแล้ว ก็เลยเอาวะ คนเดียวก็คนเดียว นี่คือภาพปลากรอบระหว่างทาง
เป็นครั้งแรกของเราเลยนะที่มาเที่ยวคนเดียว ถามว่าเหงามั้ย ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็โอเค...........
เราพักอยู่แถวๆม.เกษตรบางเขน ดังนั้น การเดินทาง step แรกของเราคือขึ้นรถจากซอยตรงข้ามวัดพระศรีฯไปลงอนุเสาวรีย์ (เรานั่ง 522, 21 บาท) แล้วก็นั่งรถจากอนุเสาวรีย์ไปลงสายใต้ใหม่ (เรานั่ง 28, 13 บาท)
พอถึงสายใต้ใหม่ เราก็ตั้งใจว่าจะนั่งรถทัวร์ แต่พอไปถาม คันนึงออก 3 โมงครึ่ง ซึ่งเราออกมาจากเกษตรฯตั้งแต่หกโมง ถึงนี่ก็ 9 โมง จะให้รอบ่าย 3 ก็คงไม่รอเนาะ ส่วนอีกคันมันไม่ลงถึงอ่าวมะนาว ก็เลยไปรถตู้ 200 บาท นั่งรถรอบ 9.42 a.m. ถึงตอนบ่าย 2 พอดี เราตั้งใจว่าจะเข้าไปดูอ่าวมะนาวก่อน เลยขึ้นพี่วินจากอ่าวประจวบ ซึ่งก็คือที่รถตู้มาส่งเรา (ลุงคนขับใจดีมาก นอกจากจะไปส่งผู้โดยสารครบหมดแล้ว ลุงยังขับไปส่งเราที่อ่าวประจวบอีกต่างหาก) จ่ายไป 60 บาทค่าพี่วิน
ใช้เวลาถ่ายรูปนู่นนี่นั่นไป 2 ชั่วโมง
ภาพที่ได้ก็นี่เลย...
เอ้อออ ก่อนจะไปดูรีวิวต่อ มาดูดีหว่าว่าเราเอาไรไปบ้าง ด้วยความที่อยู่ใกล้โลตัสหลัก 4 ช้ะ แล้วก็ไปซื้อไก่กินบ่อยๆ ก็เลยเห็นร้นขายอุปกรณ์กีฬา ที่ชื่อว่า Decathlon Laksi ตอนแรกเดินเข้าก็เอ้ร้านขายอะไรอะ ใหญ่จัง พอเดินเข้าไปเรื่อยๆ ของนี่หยิบติดมือออกมาเรื่อยๆเหมือนกัน 555 ที่ Decathlon นี่เป็นของที่มาจากบริษัทในฝรั่งเศส มั้งนะ แต่ราคาแบบไทยแลนด์มาก รองเท้านี่นิ่ม ใส่สบาย มีตั้งแต่ราคา 99 บาทอะ ส่วนบิกินี่ที่เราซื้อไปนี่เล็กไปหน่อย เพราะตอนไปเลือกก็คิดว่าตัวเองผอม สรุปป่าว ไม่ได้ผอม 555 แต่เอาไปเปลี่ยนได้ ร้านเค้าให้เปลี่ยนได้ตลอดตามความพึงพอใจของลูกค้าเลย
ที่ร้านมีอุปกรณ์กีฬาเยอะมาก เผื่อใครอยากเข้าไปดู คุณภาพนี่จัดว่าดีเลยนะ เราใส่แล้วไม่ขาดเนี่ยถือว่าแข็งแรงเลยแหละ มีตั้งแต่ว่ายน้ำ ฟุตบอล บาส ปีนเขา ยิงธนู ฟิตเนส วิ่ง มีหมดอะ นี่พอได้ซื้อครั้งแรกแล้วก็ซื้อเรื่อยๆเลย
อย่างรองเท้านี่ก็ 99 นะ แล้วก็หน้ากากดำน้ำ 799, ชุดว่ายน้ำนี่มีตั้งแต่ใส่เล่นๆ ใส่จริงจัง หมวกแว่น อะไรพวกนี้ก็มีขายนะ ลองแวะไปดู ละจะไม่ผิดหวัง นี่คอนเฟิม
มาดูของที่นี่ซื้อไปดีหว่าาาาา....
นี่คือผ้าเช็ดตัวไมโครไฟเบอร์ นิ่มมากๆ ตอนแรกว่าจะซื้อแบบที่ซับน้ำแห้งไวๆ แต่นี่แพ้ความนิ่ม นิ่มขนาดที่ใช้เป็นผ้าห่มก็หลับฝันดีอะ
อันนี้เป็นเสื้อยูวี แบบไม่มีไม่ได้อะ ปั่นจักรยานตั้งแต่อ่าวประจวบไปจนถึงหว้ากอ โบกกันแดดไว้ข้างหน่อยนะ จะไม่ค่อยแสบ
อันนี้เป็นรองเท้าใส่ในน้ำ ใส่เดินเขาก็ได้นะ ถึกมาก มีรูไม่ให้ทรายเข้าด้วย แต่แห้งช้า แต่ถ้าแบบไม่ได้ไปทะเลอาทิตย์ละ 5 วันก็คงไม่มีปัญหาอะไร ก็ตากทิ้งไว้ได้งี้อันนี้รองเท้าแตะ เหมาะกับหน้าฝนเลย ดอกรองเท้าเหนียวมาก ใส่คู่นี้ไปเดินเขาเหมือนกัน ไม่มีลื่น คู่นี้ 99 บาทเอง
อันนี้บิกินี่กับรองเท้าที่ซื้อไป
ส่วนนี่คือรูปเราใส่บิกินี่ที่ดีที่สุดแล้ว ด้วยความที่เพื่อนไม่ไป ก็เลยต้องถ่ายแบบนี้ 55555
อันนี้หน้ากากดำน้ำ อันที่จริงเราควรถ่ายตอนที่มันอยู่ที่หน้าเรา แต่ก็นะ ไปคนเดียว ก็เลยต้องถ่ายแบบนี้ 555
่
ส่วนอันนี้เป็นอีกสีนึง พอดีเราซื้อมา 2 ชุด เป็นการเตือนตัวเองว่าครั้งนึงในชีวิตควรกล้าใส่บิกินี่ได้แล้วนะ
แล้วฝนก็ตก แต่เราเป็นมนุษย์ที่ไม่ค่อยฟังใครอะ เพื่อนห้ามแล้วนะบอกว่าใครเค้าไปเที่ยวฤดูนี้กัน นี่ก็บอกคนน้อยดีออก ดีจะตาย ทีนี้ ในความฝนตกยังมีความน่ารักของป้าสมาคมแม่บ้านทหารอากาศอยู่นะ เราจำได้ว่าเราเดินเข้าไปหลบฝน แล้วหันไปสบตาป้าคนนึงแล้วถามว่า ในนี้หลบฝนได้มั้ยคะ
ป้าก็ถามหนูมากับใคร แล้วหนูจะไปไหน นี่ก็ตอบไปอ๋อมาคนเดียวค่ะ กำลังจะไปที่พักตรงอ่าวประจวบ ป้าก็เลยบอกมาว่างั้นรอตรงนี้แป้บนะ เดี๋ยวเรียกทหารให้ไปส่ง นี่แบบ.. โหยไม่ต้องลำบากก็ได้มั้งคะ หนูโอเค 5555 ทีนี้ทหารก็มาพร้อมกับชุดเต็มยศทหารอากาศ แล้วเราสองคนก็อยู่ท่ามกลางสายฝนในรถยนต์คันเดียวกัน เดี๋ยวๆ ไม่มีอะไร พี่แกก็น่ารัก พี่แกบอกว่ามาจากเพชรบุรี รับราชการเป็นทหารมาหลายปีแล้ว แล้วแกก็แนะนำเขาแต่ละเขาให้ฟัง พวกเขาล้อมหมวก เขาช่องกระจก เขาคลองวาฬ อะไรแบบนี้ ฉันนี่ตกหลุมรักประจวบมากไปอี้กกก 10 เวลค่ะ
ทีนี้เราก็แยกทางกัน เราก็ถึงที่พัก เราพักที่โรงแรมสุขสันต์เก่าน่ะ ชื่อใหม่คือมนต์ทะเล ค่าห้องพัดลม 390 บาท ถ้าเตียงคู่ 420 บาท นี่มาคนเดียว แต่นี่ไม่ได้มอง ถามเจ๊หน้าล๊อบบี้ละเขาบอก 420 ก็เลยไม่ได้เอะใจ ก็คง 420 แต่พอมาดูป้ายตอน check out เอ้ะมันเตียงเดียวก็มีนี่นา แต่ก็ช่างมันเนาะ ถือว่าเอาไว้วางของละกัน 555 ห้องนี่มีทีวี (เปิดมาเจอมวยปล้ำเลย แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนช่อง เลยไม่รู้ว่ามีช่องไรมั่งนะ 555) มี wifi มีน้ำคริสตัล 2 ขวด ทิชชู่ 1 ม้วน สบู่เล็กมาก 2 ก้อน ห้องมีระเบียง กระจกสวยมาก ห้องน้ำกว้าง พัดลมกดส่ายไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะอากาศดีมากๆๆ ขั้นสุดด
พอกลับห้องมาชาร์จแบตมือถือประมาณ 1 ชม. รอจนฝนหยุดตกละฟ้าใสอีกที เราก็ออกไปเช่าจักรยาน ค่าเช่าจักรยาน 50 บาท แต่ถ้าเช่ามอไซ 200 นะ ลุงก็ใจดีไปอีก นี่ถามว่าเช่าถึงพรุ่งนี้เที่ยงได้มั้ย ลุงพยักหน้างึกๆ ไม่รู้เต็มใจรึเปล่า แต่ก็ขอบคุณค่ะ 5555
ทีนี้ล่ะ พอได้จักรยาน เราก็ปั่นตั้งแต่ 6 โมงเย็น ไปสะพานปลา
เราไม่ได้ขึ้นไปเขาช่องกระจกนะ เรากลัวลิง มีคนบอกว่ามันน่ารัก แต่เราขอผ่านละกัน
เราก็เลยไปปั่นจักรยานไปรอบๆ
รถมอไซที่นี้ส่วนมากจะเป็นสามล้อ ถามพี่วินละแกบอกว่าเป็นรถวินมอไซสมัยก่อน
หนังสือนี่ก็เอาไปอ่านนะ อ่านได้ 3 บรรทัด 555
แล้วพอหิวก็ไปหาของกินที่ถนนคนเดิน
ของกินเยอะมากๆๆๆ น่ากินมากๆๆๆ แต่ไม่ค่อยมีรูปของกินเท่าไหร่ พอดีเริ่มไดเอตแล้วแหะๆ แต่เราสอยเครปมานะ พอเราเดินเข้าไปซื้อเครปป้า บอกป้าขอถ่ายรูปหน่อย ป้าถามรู้มั้ยที่ไหนในประจวบมีสอนโยคะ นี่ก็เอ่อ หนูพึ่งถึงเมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้วอะค่ะ ก็เลยเสิชเนตให้ป้าแก สรุปไม่มีใกล้ๆเลย บอกไปกี่ที่ป้าแกก็บอกไกล นี่ก็คิดในใจ youtube มั้ยป้า แล้วก็เหมือนป้ารู้ ป้าสวนขึ้นมา ป้าทำใน youtube แล้วแต่มันก็ไม่เหมือนมีคนมาสอนอะ นี่ก็เลยบอกป้าว่าไม่งั้นป้าก็ค่อยๆตัดแป้งออก เพิ่มออกกำลังกายจาก 1 วันเป็นซัก 3 วันก่อน แล้วก็กินโปรตีนให้เยอะขึ้น ป้าแกก็ขอบคุณ พร้อมกับบีบนมใส่เครปเพิ่มให้ ซึ่ง..ป้าคะ หนูขี้เกียจไปวิ่งเอาออกค่ะ -.- แต่ก็ขอบคุณป้ามากๆค่ะ เครปอร่อยมากค่ะ
พอดีว่าเราไปวันที่ 2 June ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เค้าจัดงานมหกรรมอาหารทะเลพอดี เลยได้ไปนั่งดูคอนชิวๆไป แล้วเราก็ไปเดินเล่นต่อที่สะพานปลา
พอหมดเวลา (หมดเวลาของเราคืออิ่มและง่วง) ก็เลยกลับที่พัก
อากาศที่นี่ต้องใช้คำว่า ****ing good มากๆ นอนต้องห่มผ้าอะ ผมนี่ไม่อยากกลับกทม.เลยยยย
แล้ววิวนี่ดีมากเลย อยู่ตรงข้ามอ่าวประจวบพอดี แล้วพอพระอาทิตย์ขึ้นนะ ขึ้นตรงห้องพอดี โอ้ยชอบบบ
เรารีบตื่นขึ้นมาวันที่ 2 มาดูพระอาทิตย์ขึ้น กะว่าจะตื่นตีห้าครึ่งละรีบปั่นจักรยานออกไปเฝ้าพระอาทิตย์แต่เช้า แต่ไม่ทัน เลยได้รูปแบบแสงจ้ามาแทน 555
ทีนี้เราก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ออกจากที่พักประมาณหกโมงครึ่ง ละก็ปั่นไปที่อ่าวมะนาวอีกทีนึง เพราะวันนี้เมฆสวยย
ส่วนนี่เป็นแพะตรงข้ามอ่าวมะนาวอะ อยู่หลังร้านไอติม เข้าชมฟรี นี่เจอพวกนางด้วยความบังเอิญ เพราะว่าจอดจักรยานลงไปซื้อไอติม เลยเห็นพอดี แล้วนี่พวกนางเห็นเรา ก็เลยคงมุดหัวออกมา นี่ก็กลัวไง กว่าจะได้รูปนี้ ไอติมแทบหล่นจากมือ
แล้วก็ปั่นยาวไปที่เขาคลองวาฬ ซึ่งไกลสัสๆเลยครับ แต่พอดูรูปแล้วก็หายเหนื่อยเหมือนกันนะ ตอนแรกตั้งใจจะปั่นไปเขาคลองวาฬ แต่ปั่นเลย เลยไปลงที่ท่าเรือคลองวาฬเฉย ลุงก็บอกให้ปั่นย้อนกลับไปตรงธนาคารกรุงเทพสาขาคลองวาฬนะลูกนะ
นี่ เขาคลองวาฬอยู่นี่ ตอนเราไปมีฝรั่งสองคนมา boating ด้วย
แล้วเราก็ปั่นต่อไปหว้ากอ ใช้เวลาปั่นเป็นชั่วโมง กว่าจะถึง 555 ก็เพราะมัวแต่จอดถ่ายรูป
เขียนไม่ได้แล้วอะ ข้อความเกิน หิวข้าวด้วย ง่วงนอนด้วย ไปดูต่อที่ tag IG #mothandherjourney กันก่อนเน้อ เดะจะรีบมาต่อ จุ้บๆ
ลองทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตดูบ้างนะ จะทำให้สมอง healthy เราเกิดมาครั้งเดียว อยากทำไรอย่าไปลังเล : )
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น