พระจูเลี่ยน อาภาธโร นักบุญแห่งขุนเขา


จขกท ดูรายการหนึ่ง ช่องไทยพีบีเอส หลังจากดูจบแล้วรู้สึกปลื้มใจและอิ่มใจที่สื่อได้นำเรื่องดีๆของพระปฏิบัติดีปฎิบัติชอบมาออกอากาศ พระจูเลี่ยนที่นอกจากจะปฎิบัติตามตนแนวทางของพระศาสนาแล้ว ยังช่วยเหลือชาวบ้านในหลายๆเรื่อง ท่านฉันเจและมักจะนำของที่ชาวบ้านนำมาถวายแจกจ่ายให้ชาวบ้านอยู่เป็นประจำ ฉันง่าย อยู่ง่าย สอนการเจริญสติ และอยู่สันโดษ จึงไปหาข้อมูลมาเพิ่มเพื่อนำมาให้อ่านกันค่ะ


“พระจูเลียน” ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าเขาสบเมย จ. แม่ฮ่องสอน โดย พระฝรั่งบ้านปูทา (พระจูเลียน) ซึ่งเป็นชาวแคนนาดา และเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนวิชาเกษตรกรรม ได้ฝึกสมาธิมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี การฝึกสมาธิทำให้พบความสุขที่แท้จริงที่เกิดอยู่ภายใน ทิ้งทุกอย่างจากบ้านเกิด มาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 18 ปี ในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ในด้านการทำเกษตรกรรม เมื่อมาถึงได้ไม่นานก็รู้สึกว่า จะอยู่ที่นี่ตลอดไป

โดยพระจูเลียน ปัจจุบันได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเลโค๊ะ โดยมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่ สร้างกุฏิและสิ่งปลูกสร้างสำหรับพักอาศัย รวมทั้งจะปลูกพืชผักและผลไม้สำหรับชาวบ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ห่างไกลและยากจนมากมาเป็นเวลากว่า 17 ปี ชาวบ้านได้รับอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย จึงอยากจะช่วยให้พวกเขาได้รับอาหารที่ดีและปลอดภัยด้วยวิชาความรู้ทางการเกษตรที่ได้เรียนมา


ทั้งนี้ ตอนหนึ่งของการเล่าประวัติของพระจูเลียน ได้กล่าวว่า ” สมัยที่อาตมาเรียนหนังสือนั้น อาตมานับว่าเป็นนักเรียนที่ฉลาดเฉลียว เมื่อทำงานหาเงิน ก็หาเงินได้มาก แต่ในประเทศแคนนาดานั้นก็ เหมือนกับประเทศอื่นทั่วๆไปตามแบบฝรั่ง อาตมาไม่มีความสุข มีแต่ความเคร่งเครียด หลังจากนั้นจึงได้ทิ้งทุกอย่าง และได้เข้าสู่การเป็นผ้าขาวและเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่อ17 ปีที่แล้ว ตอนนี้ อาตมาจนมาก แต่กลับมีความสุขมาก อาตมาคิดว่าสิ่งนี้คือหนทางที่แท้จริง อาตมามั่นใจเกินร้อยว่า อาตมากำลังเดินอยู่บนทางที่ถูกต้องเพื่อมุ่งไปสู่หนทางการดับทุกข์”



ทั้งนี้ พระจูเลียน เดินทางมาถึงเมืองไทยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 18 ปี ในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ในด้านการทำเกษตรกรรม เมื่อมาถึงประเทศไทย ได้รู้สึกว่า เคยอยู่ที่นี่มาก่อน ซึ่งขณะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ได้ไปนั่งสมาธิตอนเย็นที่วัดทุกวัน เมื่อกลับประเทศแคนาดาไป ได้กลับมาอีกครั้งเมื่อปี 2541 ทำงานอยู่แถวภาคใต้ จากนั้นนุ่งขาวถือศีล 8 ศึกษาการนั่งสมาธิ ก่อนที่จะบวชในเวลาต่อมา


“หลายๆคนถามอาตมาว่า จะบวชเพื่ออะไร อาตมาตอบไม่ได้ในชาตินี้ แต่อาตมาคิดว่า อาตมาอยู่ในระหว่างการเดินทาง ต่อจากชาติที่แล้วๆโยมพ่อโยมแม่ของอาตมาไม่สามารถที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ พวกท่านได้ปรึกษานักจิตวิทยาและสงสัยว่าพวกท่านทำอะไรผิด อาตมาถึงอยากบวชเป็นพระในพุทธศาสนา



คนฝรั่งคิดไม่เหมือนคนไทย สำหรับฝรั่งแล้ว หากท่านต้องการที่จะทำประโยชน์ให้แก่โลกนี้ ท่านต้องไปเรียนหนังสือ ทำงานและหาอาหาร/ขนมปังมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร มันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากในการทำความเข้าใจสำหรับโยมพ่อ





อาตมารู้สึกไม่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารกับโยมพ่อนิดหน่อย โยมพ่อเกิดในครอบครัวที่ยากจน และมีพี่น้อง 11 คน โยมพ่อบวชในศาสนาคริสต์เพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ ท่านออกจากการเป็นนักบวชเมื่อพบกับโยมแม่ของอาตมา แต่ปัจจุบันท่านก็ค่อยๆทำความเข้าใจในการเดินทาง ในแบบของอาตมา โยมแม่มาเมืองไทยทุกๆ 2 ปี โยมพ่อไม่ได้มาเมืองไทยสัก 6 ปีแล้ว ท่านควรจะมาเมืองไทยในหน้าหนาวที่จะถึงนี้ อาตมาออกจากประเทศไทย เพียง 1 ครั้งใน 18 ปีนี้

หากโยมพ่อโยมแม่จากไป อาตมาคงไม่ไปจากเมืองไทยอีกเลย ประเทศไทยได้กลายเป็นบ้านของอาตมาไปเสียแล้ว”





Cr:ข่าวสด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่