สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคนนะครับ
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผมได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เป็นเวลาสิบกว่าวัน โดยตั้งใจหมายมั่นว่าอยากจะไปดูหิมะฤดูร้อน
วางแผน และจองตั๋วจองที่พักล่วงหน้ากันไม่ถึงเดือนก็ออกเดินทางกันเลยครับ
เรื่องข้อมูลการเดินทาง จากสนามบงสนามบินอะไร รถไฟ ที่พัก ของกงของกิน ผมขอข้ามไปเลย
เพราะเชื่อว่าเพื่อนๆที่อยากจะไปเที่ยวคงหาข้อมูลพวกนี้ได้ไม่ยากอยู่แล้ว
จะได้มาโฟกัสกันที่ไฮไลท์ ของทริปนี้ไปเลย กับข้อมูลจำเป็นบางส่วนก็พอครับ
อันเรื่องราว ผมขอเล่าพอสังเขป ทริปนี้ ผมเดินทางทั้งหมดทั้งสิ้นในญี่ปุ่นอยู่ 11 วัน
โดยมาถึงสนามบินนาริตะปุ๊บ ผมก็นั่งชินคันเซนปั๊บ ต่อไปโทยาม่าทันทีครับ ใช้เวลาราวๆสามชั่วโมงก็ถึง
มีเวลาเที่ยวเล่น เดินชิล์ แถวๆโทยาม่า นิดๆหน่อยๆ รอไปเที่ยวเส้น Alpine Route ในเช้าอีกวัน
เนื่องจากนี่เป็นการมา โทยาม่าหนที่สองของชีวิต เลยหานั่งรถออกไปเที่ยวนอกเมืองฆ่าเวลาดีกว่า
Uchikawara river ตามมาจากหนังครับ
วิวทะเลแถวๆอ่าวโทยาม่า
กว่าจะเดินเล่น เที่ยวแถวนั้น กลับมาหาข้าวกินในตัวเมืองโทยาม่า ก็ค่ำพอดี
ตัดฉับมาที่อีกวันเลย
วันนี้ตื่นเช้าครับ(7 โมง) จริงๆญี่ปุ่นช่วงนี้ ตีสี่ก็แจ้งจางปางละ
ใครจะออกเช้ากว่านี้ได้ก็จะดีครับ
ตื่นปุ๊บ เราก็ไปซื้อตั๋ว Alpine Route แบบ One way ราคารู้สึกจะอยู่ที่ คนละ 9500 เยนต่อคน (จาก Dentetsu Toyama - Ogizawa)
พอซื้อตั๋วแล้วก็ไม่ต้องคิดมากครับ ใช้ตั๋วใบเดียวต่อๆๆๆ กันตามเส้นทางใน Alpine Route ได้เลย
ส่วนกระเป๋า ผมฝากให้ส่งข้ามไปแล้วค่อยไปรับครับ ที่ฝากกระเป๋าก็จะมีแถวๆสถานีหละ กระเป๋าเราจะไปลงที่สถานี Shinano-Omachi Station ครับ ตอนบ่ายสาม ดังนั้น ถ้าออกเช้า ก็ไม่ต้องรีบเที่ยว ชิลล์ๆ อยู่บนดอยได้เลย เพราะจะได้ลงมาพอดีกระเป๋ามาแล้วก็ไปต่อได้เลยครับ
การเดินทางบนดอยนั้น มันก็จะมีรถหลายรถให้เรานั่งสลับกันไป รถไฟ รสบัส รถราง กระเช้า
ชมวิวสวยๆ วิวค่อยๆเปลี่ยนไปตามทาง ใครอยากจะแวะจุดไหนแวะ ลงที่ไหน ลง บางจุด ลงแล้ว กะเวลารถรอบต่อไปดีๆ แล้วจองกับพนักงานไว้หน่อยจะดีครับ
ที่เหลือก็เล่าด้วยภาพละกัน
ชมวิวภูเขาหิมะสวยๆบนเส้นทางนี้กันดีกว่าครับ
บางจุดก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้นั่งกิน นั่งชิลล์ ชมวิวเพลินๆได้ครับ
บางจุดก็คนน้อย ถ่ายรูปสบาย
บางจุดก็เป็นมุมมหาชน เจอกับคณะทัวร์บ้าง โดยเฉพาะโซนกำแพงหิมะ และ Murodo คนจะแน่นหน่อย นี่ขนาดผมมาวันธรรมดาแล้วนะ
ข้าวหน้าเนื้อ บน Murodo อร่อยครับ อร่อยยันไข่เลย
ทัศนียภาพรอบๆ Murodo เมื่อยู่กับธรรมชาติยิ่งใหญ่แล้ว คนเรามันก็ตัวเท่านี้เอง
บนยอด Murodo ยังเป็นที่ตั้งของออนเซ็นธรรมชาติที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะทำอะไร เลยแช่ออนเซ็นฆ่าเวลา
พูดได้ว่าครั้งหนึ่ง ผมก็ได้แช่ออนเซ็นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมาแล้ว
แช่ออนเซ็น ดูวิวภูเขา และทุ่งหิมะกว้างไกล อากาศก็เย็นๆหน่อย โครตจะฟินเลย
มาดูภาพกันต่อละกัน ผมไม่รู้จะบรรยายอะไรดี
ลงมาถึง Ogizawa ก็ราวๆบ่ายสาม ตั๋วเราจะสุดที่ตรงนี้นะครับ ทีนี้ใครจะไปไหนต่อก็ซื้อตั๋วรสบัสต่อได้เลย จะ Nagano ก็มีบัสไป
ผมจะไป Matsumoto ก็นั่งบัสไปลงที่ Shinano-Omachi Station แล้วต่อรถไฟเอา แวะเอากระเป๋าได้ที่นั่นเลย(ร้านค้าข้างสถานี)
[CR] (CR)หิมะฤดูร้อนที่ Alpine Route ,Kamikochi สวิตเซอร์แลนด์แห่งญี่ปุ่น ,และเที่ยวชิลล์ๆรอบมัสสึโมโต้ครับ
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผมได้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เป็นเวลาสิบกว่าวัน โดยตั้งใจหมายมั่นว่าอยากจะไปดูหิมะฤดูร้อน
วางแผน และจองตั๋วจองที่พักล่วงหน้ากันไม่ถึงเดือนก็ออกเดินทางกันเลยครับ
เรื่องข้อมูลการเดินทาง จากสนามบงสนามบินอะไร รถไฟ ที่พัก ของกงของกิน ผมขอข้ามไปเลย
เพราะเชื่อว่าเพื่อนๆที่อยากจะไปเที่ยวคงหาข้อมูลพวกนี้ได้ไม่ยากอยู่แล้ว
จะได้มาโฟกัสกันที่ไฮไลท์ ของทริปนี้ไปเลย กับข้อมูลจำเป็นบางส่วนก็พอครับ
อันเรื่องราว ผมขอเล่าพอสังเขป ทริปนี้ ผมเดินทางทั้งหมดทั้งสิ้นในญี่ปุ่นอยู่ 11 วัน
โดยมาถึงสนามบินนาริตะปุ๊บ ผมก็นั่งชินคันเซนปั๊บ ต่อไปโทยาม่าทันทีครับ ใช้เวลาราวๆสามชั่วโมงก็ถึง
มีเวลาเที่ยวเล่น เดินชิล์ แถวๆโทยาม่า นิดๆหน่อยๆ รอไปเที่ยวเส้น Alpine Route ในเช้าอีกวัน
เนื่องจากนี่เป็นการมา โทยาม่าหนที่สองของชีวิต เลยหานั่งรถออกไปเที่ยวนอกเมืองฆ่าเวลาดีกว่า
Uchikawara river ตามมาจากหนังครับ
วิวทะเลแถวๆอ่าวโทยาม่า
กว่าจะเดินเล่น เที่ยวแถวนั้น กลับมาหาข้าวกินในตัวเมืองโทยาม่า ก็ค่ำพอดี
ตัดฉับมาที่อีกวันเลย
วันนี้ตื่นเช้าครับ(7 โมง) จริงๆญี่ปุ่นช่วงนี้ ตีสี่ก็แจ้งจางปางละ
ใครจะออกเช้ากว่านี้ได้ก็จะดีครับ
ตื่นปุ๊บ เราก็ไปซื้อตั๋ว Alpine Route แบบ One way ราคารู้สึกจะอยู่ที่ คนละ 9500 เยนต่อคน (จาก Dentetsu Toyama - Ogizawa)
พอซื้อตั๋วแล้วก็ไม่ต้องคิดมากครับ ใช้ตั๋วใบเดียวต่อๆๆๆ กันตามเส้นทางใน Alpine Route ได้เลย
ส่วนกระเป๋า ผมฝากให้ส่งข้ามไปแล้วค่อยไปรับครับ ที่ฝากกระเป๋าก็จะมีแถวๆสถานีหละ กระเป๋าเราจะไปลงที่สถานี Shinano-Omachi Station ครับ ตอนบ่ายสาม ดังนั้น ถ้าออกเช้า ก็ไม่ต้องรีบเที่ยว ชิลล์ๆ อยู่บนดอยได้เลย เพราะจะได้ลงมาพอดีกระเป๋ามาแล้วก็ไปต่อได้เลยครับ
การเดินทางบนดอยนั้น มันก็จะมีรถหลายรถให้เรานั่งสลับกันไป รถไฟ รสบัส รถราง กระเช้า
ชมวิวสวยๆ วิวค่อยๆเปลี่ยนไปตามทาง ใครอยากจะแวะจุดไหนแวะ ลงที่ไหน ลง บางจุด ลงแล้ว กะเวลารถรอบต่อไปดีๆ แล้วจองกับพนักงานไว้หน่อยจะดีครับ
ที่เหลือก็เล่าด้วยภาพละกัน
ชมวิวภูเขาหิมะสวยๆบนเส้นทางนี้กันดีกว่าครับ
บางจุดก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้นั่งกิน นั่งชิลล์ ชมวิวเพลินๆได้ครับ
บางจุดก็คนน้อย ถ่ายรูปสบาย
บางจุดก็เป็นมุมมหาชน เจอกับคณะทัวร์บ้าง โดยเฉพาะโซนกำแพงหิมะ และ Murodo คนจะแน่นหน่อย นี่ขนาดผมมาวันธรรมดาแล้วนะ
ข้าวหน้าเนื้อ บน Murodo อร่อยครับ อร่อยยันไข่เลย
ทัศนียภาพรอบๆ Murodo เมื่อยู่กับธรรมชาติยิ่งใหญ่แล้ว คนเรามันก็ตัวเท่านี้เอง
บนยอด Murodo ยังเป็นที่ตั้งของออนเซ็นธรรมชาติที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะทำอะไร เลยแช่ออนเซ็นฆ่าเวลา
พูดได้ว่าครั้งหนึ่ง ผมก็ได้แช่ออนเซ็นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมาแล้ว
แช่ออนเซ็น ดูวิวภูเขา และทุ่งหิมะกว้างไกล อากาศก็เย็นๆหน่อย โครตจะฟินเลย
มาดูภาพกันต่อละกัน ผมไม่รู้จะบรรยายอะไรดี
ลงมาถึง Ogizawa ก็ราวๆบ่ายสาม ตั๋วเราจะสุดที่ตรงนี้นะครับ ทีนี้ใครจะไปไหนต่อก็ซื้อตั๋วรสบัสต่อได้เลย จะ Nagano ก็มีบัสไป
ผมจะไป Matsumoto ก็นั่งบัสไปลงที่ Shinano-Omachi Station แล้วต่อรถไฟเอา แวะเอากระเป๋าได้ที่นั่นเลย(ร้านค้าข้างสถานี)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น