"ไม่อยากให้ลูกเล่นมือถือเลย"
"ไม่อยากให้ลูกเล่นเกมเลย"
"ไม่อยากให้ลูกดูทีวีเลย"
"ไม่อยากให้ลูกอ่านการ์ตูนเลย"
"ไม่อยากให้ลูกอ่านนิยายเลย"
"ไม่อยากให้ลูกไปเรียนหนังสือเลย"
มันไร้สาระ ทำไมไม่ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
ตอนเราเด็กๆ เคยโดนห้ามทำอะไรที่ผู้ใหญ่บอกว่าไร้สาระไหมครับ และแปลกไหมครับว่าทุกยุคข้อห้ามความไร้สาระจะเปลี่ยนไป
ผู้ใหญ่ยุค Gen X ตอนปลายอย่างผม ก็จะโตมากับวัฒนธรรมป๊อบยุค 90 เราโตมาด้วยทีวี วิดีโอเกม หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งผู้ใหญ่ในสมัยเราจะมองว่า "ไร้สาระ"
ส่วนพ่อแม่ของเราก็จะโตมากับ เพลงฝรั่งยุคดิสโก้ กางเกงขาบาน นิยายรักน้ำเน่า ละครทีวี หนังกลางแปลง ซึ่งก็ถูกคุณตาคุณยายของเรา ซึ่งเป็นคนยุคสงครามโลก บอกว่า มัน "ไร้สาระ"
ส่วนคุณตาคุณยายของเราอาจจะโตมากับ ลิเก งิ้ว รำวง ที่พ่อแม่ของเขาก็จะบอกว่า "ไร้สาระ"
ในขณะที่ลูกๆ ของเราโตมากับ Social Network, YouTube, Facebook รีวิวของเล่นออนไลน์ Video Call แบบเห็นหน้า ไปไหนมาไหนไม่ต้องจำทางเพราะใช้ GPS และเล่นเกมบนมือถือแบบเดินไปด้วยแบบ Pokemon Go! ที่หลายคนบอกว่า "ไร้สาระ"
ความไร้สาระนี่มันแปลกตรงที่มันเปลี่ยนไปได้ตามเวลา ในสมัยหนึ่งมีคนบอกว่า อย่าอ่านนิยายเลย ไร้สาระ อ่านหนังสือเรียนดีกว่า แต่อีกสมัยหนึ่งบอกว่า อ่านนิยายยังดีกว่าเล่นเกม อย่างน้อยก็ได้อ่านหนังสือ
เชื่อไหมว่าสมัยก่อนมีคนไม่อยากให้ลูกไปเรียนหนังสือ เพราะมองว่าไร้สาระ กว่าการทำงาน หาเงิน สร้างตัว และมีครอบครัว และก็มียุคหนึ่งบอกว่าอย่าเพิ่งมีแฟนเลยเรียนก่อน
ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทัศนคติก็เปลี่ยนแปลง มันอาจจะไม่มีอะไรผิดอะไรถูกเสมอไป การเลี้ยงลูกก็เหมือนกัน ลูกจะต้องเป็นอนาคตไม่ใช่อดีต บางทีการใช้อดีตมาเลี้ยงลูกอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อชีวิตเขาจริงๆ ก็ได้
Cr:
https://m.facebook.com/2pasacando
ลูกคืออนาคตไม่ใช่อดีต
"ไม่อยากให้ลูกเล่นเกมเลย"
"ไม่อยากให้ลูกดูทีวีเลย"
"ไม่อยากให้ลูกอ่านการ์ตูนเลย"
"ไม่อยากให้ลูกอ่านนิยายเลย"
"ไม่อยากให้ลูกไปเรียนหนังสือเลย"
มันไร้สาระ ทำไมไม่ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
ตอนเราเด็กๆ เคยโดนห้ามทำอะไรที่ผู้ใหญ่บอกว่าไร้สาระไหมครับ และแปลกไหมครับว่าทุกยุคข้อห้ามความไร้สาระจะเปลี่ยนไป
ผู้ใหญ่ยุค Gen X ตอนปลายอย่างผม ก็จะโตมากับวัฒนธรรมป๊อบยุค 90 เราโตมาด้วยทีวี วิดีโอเกม หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งผู้ใหญ่ในสมัยเราจะมองว่า "ไร้สาระ"
ส่วนพ่อแม่ของเราก็จะโตมากับ เพลงฝรั่งยุคดิสโก้ กางเกงขาบาน นิยายรักน้ำเน่า ละครทีวี หนังกลางแปลง ซึ่งก็ถูกคุณตาคุณยายของเรา ซึ่งเป็นคนยุคสงครามโลก บอกว่า มัน "ไร้สาระ"
ส่วนคุณตาคุณยายของเราอาจจะโตมากับ ลิเก งิ้ว รำวง ที่พ่อแม่ของเขาก็จะบอกว่า "ไร้สาระ"
ในขณะที่ลูกๆ ของเราโตมากับ Social Network, YouTube, Facebook รีวิวของเล่นออนไลน์ Video Call แบบเห็นหน้า ไปไหนมาไหนไม่ต้องจำทางเพราะใช้ GPS และเล่นเกมบนมือถือแบบเดินไปด้วยแบบ Pokemon Go! ที่หลายคนบอกว่า "ไร้สาระ"
ความไร้สาระนี่มันแปลกตรงที่มันเปลี่ยนไปได้ตามเวลา ในสมัยหนึ่งมีคนบอกว่า อย่าอ่านนิยายเลย ไร้สาระ อ่านหนังสือเรียนดีกว่า แต่อีกสมัยหนึ่งบอกว่า อ่านนิยายยังดีกว่าเล่นเกม อย่างน้อยก็ได้อ่านหนังสือ
เชื่อไหมว่าสมัยก่อนมีคนไม่อยากให้ลูกไปเรียนหนังสือ เพราะมองว่าไร้สาระ กว่าการทำงาน หาเงิน สร้างตัว และมีครอบครัว และก็มียุคหนึ่งบอกว่าอย่าเพิ่งมีแฟนเลยเรียนก่อน
ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทัศนคติก็เปลี่ยนแปลง มันอาจจะไม่มีอะไรผิดอะไรถูกเสมอไป การเลี้ยงลูกก็เหมือนกัน ลูกจะต้องเป็นอนาคตไม่ใช่อดีต บางทีการใช้อดีตมาเลี้ยงลูกอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อชีวิตเขาจริงๆ ก็ได้
Cr:https://m.facebook.com/2pasacando