สุดสัปดาห์ที่เลอร์มองดำเนินไปท่ามกลางความกังวลและเป็นห่วงกับอาการบาดเจ็บของ Nicky Hayden แต่สิ่งที่นักแข่งทุกคนทำได้ก็เหมือนกับที่วาเลนติโน่ รอสซี่และมาร์ค มาเกวซบอก คือทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทำให้สุดสัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น น่าจดจำซึ่งมันก็ออกมาเป็นแบบนั้นจริงๆ
พื้นผิวที่เปียกไปด้วยน้ำฝน
เสน่ห์ที่นักแข่งหรือแฟนๆอาจจะไม่ค่อยชอบนักของที่นี่ก็คือสภาพอากาศที่แปรปรวน ยิ่งทำการแข่งขันในเดือนพฤษภาฯด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะเจอฝนนั้นสูงขึ้นไปอีก ซึ่งปีนี้ก็ตามคาดที่น้องฝนมาเยือนตั้งแต่วันศุกร์ โดยในช่วงเช้านั้นมาแบบชื้นๆแฉะๆ แต่ช่วงบ่ายนี่เรียกได้ว่าเปียกชุ่มกันเลย ทำให้การทดสอบรถในวันศุกร์นั้นเหมือนออกไปวิ่งเล่นกันเฉยๆ แจ็ค มิลเลอร์ ที่เลือกยางสลิคออกไปวิ่งถูกเวลา เป็นนักแข่งที่ความเร็วได้ดีที่สุดหลังจบ 2 เซสชั่น
KTM ผ่านเข้า Q2 ได้สำเร็จ
ต่อเนื่องไปถึงช่วงเช้าวันเสาร์ ที่สภาพของผิวแทรคยังคงได้รับผลกระทบจากฝน ส่งผลให้รายชื่อนักแข่งที่ผ่านเข้าไปใน Q2 สนามนี้แปลกไปจากปกติ โดยเฉพาะ 2 นักแข่งจากทีม Red Bull KTM Factory Racing ได้ผ่านเข้าไป Q2 ทั้งคู่ เมื่อเป็นแบบนี้ก็หมายควาว่านักแข่งแถวหน้าหลายๆคน ต้องร่วงไปใน Q1 ไม่ว่าจะเป็นดานี่ เพรโดซ่า ฮอร์เฮ ลอเลนโซ่หรืออังเดร โดวิเซียโอโซ่รวมไปถึงรุคกี้ฝีมือดีอย่างโยฮันห์ ซาร์โก้ ที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก สำหรับการแข่งขันในบ้านครั้งแรกของเค้าในรุ่นพรีเมียร์
ซาร์โก้ นักแข่งขวัญใจเจ้าภาพ
แม้ว่าจะทำผลงานในวันศุกร์ได้ไม่ดี แต่ก็เป็นโดวิกับซาร์โก้ที่ผ่านเข้าไป Q2 แถม JZ5 ยังได้ออกสตาร์ทในแถวแรกเป็นอันดับที่ 3 พร้อมกับนักแข่งทีมโรงงาน Yamaha ที่ยึดแถวหน้าด้วยตำแหน่งโพลของวินยาเลสตามมาด้วยรอสซี่ รถ Honda ของคาล คลัชโลว์และมาร์ค มาเกวซในแถวที่ 2 จากการทำพื้นสนามใหม่ ทำให้รถ Yamaha ที่ชื่นชอบกริบกลับมาโบยบินอีกครั้ง หลังจากที่เจอปัญหาอย่างหนักที่เฆเรส ก่อนเริ่มการแข่งขันที่นี่ มาร์ค มาเกวซก็ตั้งเป้าไว้แค่การแย่งชิงตำแหน่งบนโพเดี่ยมเท่านั้น รวมถึงเค้าพลาดล้มในช่วงการซ้อมไปถึง 2 ครั้ง นั่นแสดงให้เห็นว่ารถ RC213V ของเค้าไปไม่ได้อย่างที่ใจต้องการที่นี่
แง่มๆ
มีเหตุการณ์ที่น่าระทึกขวัญเกิดขึ้นในวันเสาร์ในรอบ FP4 เมื่อไอ้หนูแจ็ค มิลเลอร์ เกิดอาการหล้อหน้าล็อคในช่วงโค้ง 1-2 ที่เป็นโค้งความเร็วสูง ทำให้รถของ JM เสียหลักวิ่งเข้าไปหากำแพงด้วยความเร็วสูงในทิศทางใกล้กำแพงมากๆ แถมรถวิ่งผ่านรันออฟเล็กๆที่เป็นยางมะตอยผ่านรอยต่อกับผืนหญ้าทำให้รถท้ายสะบัด ทำให้ ณ ตอนนั้นไม่สามารถควบคุมรถได้แล้ว แต่เจ้าแจ็คสละรถออกมาได้ทันก่อนที่จะโดนรถอัดเข้ากับกำแพงยางได้ภายในเสี้ยววินาที ถ้าพูดกันตรงๆก็คือรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นเอง ดูภาพช้าทีไรก็ยังอดใจสั่นไม่ได้ นอกจากนี้จังหวะที่กลิ้งเป็นลูกขนุนไป ก็ไม่โดนรถที่กลิ้งตามไปทับอีก ใช้คำว่าโชคดียังน้อยไป ซึ่งไอ้แจ็คยังผ่านความฟิตเข้าไปจัดอันดับใน Q2 ได้อีกต่างหาก
เบอร์ 5
ท้องฟ้าในวันอาทิตย์ไร้เงาของเมฆฝน มีเพียงแสงแดดและท้องฟ้าสีคราม หลังสัญญาณไฟแดงทั้ง 5 ดวงดับลง ก็เป็นซาร์โก้ที่พุ่งทะยานออกไปนำในโค้งแรก พร้อมกับขี่อย่างมั่นใจ นำ 2 นักแข่งจากทีมใหญ่ได้ตลอดทั้ง 6 รอบแรก ไม่รู้ว่าหัวจิตหัวใจของซาร์โก้ทำด้วยเพชรรึเปล่า นิ่งมาก กับการแข่งขันในบ้าน ที่ปีนี้ถือว่ากองเชียร์เจ้าถิ่นตีตั๋วเข้ามาเชียร์นักแข่งของตัวเองอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แถมได้รับการจับตามองจากสื่อค่อนข้างเยอะตลอดทั้งสุดสัปดาห์
ํYZR-M1 x 3
แม้ว่าจะโดน Vinales แซงขึ้นไปนำได้ แต่ซาร์โก้ยังคงขี่ได้ดี จนทำให้ทั้ง Vinales และ Rossi นั้นเหนื่อยไปตามๆกัน เพราะเจ้าวินไม่สามารถทำความเร็วหนีจากรถเบอร์ 5 ออกไปได้เลย แม้ว่าจะใส่มาแบบสุดๆแล้วก็ตาม แต่พอมองพิทบอร์ดที่ไร เวลาก็ยังห่างอยู่แค่ 0.4 วิเท่าเดิม เช่นเดียวกับฝั่งรอสซี่ ที่ก็ไล่ไม่เข้าเช่นเดียวกัน แต่ว่ารอสซี่ก็ขี่ตามเกมของตัวเอง เพราะเค้าค่อนข้างมั่นใจในเพซของตัวเองในสุดสัปดาห์นี้
กลุ่ม 2
มาร์ค มาเกวซ ไม่สามารถทำความเร็วเข้ามารวมกลุ่มกับแก๊งซ์ยามาฮ่าได้เลย แถมยังโดนทิ้งระยะออกไปเรื่อยๆ เลยยึดตำแหน่งที่ 4 ได้แบบยาวๆ ในบรรดานักแข่งที่เหลือทั้งหมด มีเพียงเพโดรซ่าคนเดียวที่ขี่ได้ดีกว่าเค้า แต่เนื่องจากพ่อใหญ่จิ๋วพลาดต้องไปออกสตาร์ทในแถวที่ 5 ทำให้ต้องใช้เวลาในการไล่อันดับอยู่พอสมควร โดย DP26 ไล่แซงพรวด 8 คันรวด ขึ้นมารั้งอันดับที่ 7 หลังผ่านรอบแรกไป หลังจากนั้นก็ค่อยๆไล่บี้โดวิและคลัชโลว์ก่อนที่จะแซงรถดูคาติเบอร์ 4 ได้ในรอบที่ 10 และขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 ในรอบที่ 11
เจอกันที่บ่อกรวด
ดานี่ยังคงขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่ตำแหน่งออกสตาร์ทหล่นไปไกลเกินไป ทำให้หมดสิทธิ์ที่จะเข้าไปต่อสู้กับรถ Yamaha ทั้ง 3 คันข้างหน้า ระยะห่างของ 2 นักแข่งทีม Repsol Honda ลดลงเรื่อยๆ ก่อนที่มาร์ค มาเกวซ จะมาพลาด คุมล้อหน้าไม่ได้ เป็นนักแข่งในกลุ่มนำคนแรกที่ล้ม ต้องออกจากการแข่งขันในสนามนี้
พี่ไปก่อนนะน้อง เหนื่อยกับเอ็งจริงๆ กว่าจะแซงได้
จนกระทั่งรอบที่ 22 รถเบอร์ 46 ถึงแซงผ่านรถเบอร์ 5 จากทีม Tech3 ขึ้นมาได้ เวลาของรอสซี่ในตอนนั้นถือว่าดีมากๆ รอสซี่เองก็มั่นใจในตัวรถด้วยเช่นกัน เลยเริ่มกดเวลาไล่จี้เพื่อนร่วมทีมรุ่นน้องเข้าไปเรื่อยๆและก็เป็น 2 นักแข่งทีมโรงงานยามาฮ่าที่ออกโรงโชว์สุดท้าย VR64 แซงผ่าน MV25 ขึ้นไปได้ในรอบที่ 26 เรียกได้ว่ากองเชียร์ของคุณหมอนั้นโบกธงเหลือง เฮกันลั่นแล้วในตอนนั้น แต่ในรอบสุดท้าย รอสซี่เข้าโค้ง 6 พลาด ซึ่งเป็นโค้งที่เค้าขี่พลาดมาแล้ว 2-3 ทีในวันนี้ ทำให้รถบานออกไปจนโดนเจ้าวินแซงกลับ
จังหวะที่รอสซี่นำ
แต่รอสซี่ยังคงเดินคันเร่งตาม ซึ่ง ณ เวลานั้นก็ต้องงัดเอาน้ำมันทุกหยดออกมาใช้กันแล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเป็นรอสซี่ที่พลาด ล้อหลังปัดจนล้ม สไลด์ออกไปที่ Garage Bleu 'S' เพียงไม่กี่โค้งก่อนจะเข้ารับธงหมากรุก ต้องออกจากแข่งขันไปแบบกระชากอารมณ์ของคนดูแบบสุดๆ ยิ่งจังหวะที่คุณหมอพยายามจะนำรถกลับมาแข่งใหม่อีกครั้ง แต่ว่าไม่สำเร็จเนื่องจากรถเสียหายเกินไป ถึงกับทำให้กองเชียร์ Yellow Army หลายคนถึงกับต้องหลั่งน้ำตา Vinales ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดได้ในรอบสุดท้าย นั่นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ารถเบอร์ 25 และ 46 นั้นขี่อยู่บนลิมิตจริงๆ
ผู้ชนะการแข่งขัน
อันดับที่ 2 เป็นโยฮันห์ ซาร์โก้ ที่พอหลังจากโดนรอสซี่แซงขึ้นมาแล้ว ก็จองที่ 3 ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่สุดท้ายได้ขยับขึ้นมาอีก 1 อันดับ ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมของดาวบิดชาวฝรั่งเศสผู้นี้อย่างแท้จริง ได้ขึ้นโพเดี่ยมในโมโตจีพีครั้งแรกต่อหน้าแฟนๆในสนามบ้านเกิด ถ้าลองย้อนกลับไปตอนที่เค้าออกนำแล้วไปพลาดล้มในสนามแรกที่การ์ต้า ณ ตอนนั้นทุกคนก็ยังมองว่ามันน่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่หลังจากผ่านไป 5 สนาม ซาร์โก้กลายมาเป็นนักแข่งที่ขึ้นมาเกาะอยู่ในกลุ่มนำแทบทุกสนาม ทุกคนแทบจะลืมไปแล้วว่าเค้าเป็นนักแข่งรุกกี้
Yeahhhh, I did it
ที่น่าสนใจคือ Zarco นั้นใช้ยาง Soft ทั้งหน้าและหลัง ขณะที่ 2 นักแข่งทีมใหญ่ใช้ Medium แต่ก็ยังสามารถขับเคี่ยวกับผู้ชนะได้เกือบตลอดทั้งเรซ โดย JZ5 ให้สัมภาษณ์ว่าค่อนข้างโชคดีที่อุณหภูมิผิวแทรคไม่สูงจนเกินไป ทั้งๆที่มีแดดจ้า ทำให้การสึกของยางไม่เร็วไปกว่านี้ แต่ถ้าดูพัฒนาการแล้ว ก็ต้องบอกว่าซาร์โก้เริ่มยืนระยะได้นานขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเค้าจะอยู่ในระหว่างของการเรียนรู้ พยายามลดจุดด้อยของตัวเอง ก็ยังสามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ที่ 3 ค้าบ
เพโดรซ่าขยับขึ้นมาจบที่ 3 แบบที่เจ้าตัวก็คงไม่คาดคิดว่าจะได้ขึ้นโพเดี่ยม ถ้าดูจากเรซเพซของนักแข่งทีมยามาฮ่าในช่วงต้นๆ แม้ว่าจะ Qualify ได้ไม่ดี แต่ฟอร์มการขี่ของดานี่วันนี้ถือว่าสุดๆเหมือนกัน ถ้ารักษาโมเมนตั้มตรงนี้เอาไว้ได้ กองเชียร์เบอร์ 26 ก็เตรียมตัวกลับเข้าสู่โหมดการลุ้นแชมป์เอาไว้ได้เลย
โพเดี่ยมแรกของ Zarco ใน MotoGP
เนื่องจาก 2 นักแข่งในกลุ่มนำของตารางอย่าง MM93 และ VR46 กินไข่ต้มในสนามนี้ ทำให้อันดับในตารางคะแนนสะสมมีการขยับใหม่อีกครั้ง Vinales กลับมาทวงบรรลังค์จ่าฝูงกลับมาได้อีกครั้ง โดยมี DP26 ตามมาเป็นอันดับ 2 รอสซี่หล่นไปอยู่ที่ 3 ถัดไปคือมาเกวซ ต่อด้วยโยฮัน ซาร์โก้ที่ยึดที่ 5 ด้วยคะแนน 55 คะแนน ตามหลังที่ 2 อย่างดานี่อยู่แค่ 13 คะแนนเท่านั้น ถ้าว่ากันตามทฤษฎีก็ต้องบอกว่ามีลุ้นแชมป์โลกกับเค้าได้เลยล่ะ แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง ก็คงยังไม่ใช่เวลาที่ซาร์โก้จะมานั่งคิดถึงเรื่องลุ้นแชมป์โลกหรอรก ซึ่งเจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าเค้ามีหน้าที่แค่ออกไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ ยังไม่ต้องไปนึกอนาคต
จ่าฝูง
[MotoGP] รีวิว สนาม 5: ที่นี่เลอร์มอง สนามเล็กๆแต่มีมนต์ขลังกับชัยชนะครั้งที่ 500 ของ Yamaha
พื้นผิวที่เปียกไปด้วยน้ำฝน
เสน่ห์ที่นักแข่งหรือแฟนๆอาจจะไม่ค่อยชอบนักของที่นี่ก็คือสภาพอากาศที่แปรปรวน ยิ่งทำการแข่งขันในเดือนพฤษภาฯด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะเจอฝนนั้นสูงขึ้นไปอีก ซึ่งปีนี้ก็ตามคาดที่น้องฝนมาเยือนตั้งแต่วันศุกร์ โดยในช่วงเช้านั้นมาแบบชื้นๆแฉะๆ แต่ช่วงบ่ายนี่เรียกได้ว่าเปียกชุ่มกันเลย ทำให้การทดสอบรถในวันศุกร์นั้นเหมือนออกไปวิ่งเล่นกันเฉยๆ แจ็ค มิลเลอร์ ที่เลือกยางสลิคออกไปวิ่งถูกเวลา เป็นนักแข่งที่ความเร็วได้ดีที่สุดหลังจบ 2 เซสชั่น
KTM ผ่านเข้า Q2 ได้สำเร็จ
ต่อเนื่องไปถึงช่วงเช้าวันเสาร์ ที่สภาพของผิวแทรคยังคงได้รับผลกระทบจากฝน ส่งผลให้รายชื่อนักแข่งที่ผ่านเข้าไปใน Q2 สนามนี้แปลกไปจากปกติ โดยเฉพาะ 2 นักแข่งจากทีม Red Bull KTM Factory Racing ได้ผ่านเข้าไป Q2 ทั้งคู่ เมื่อเป็นแบบนี้ก็หมายควาว่านักแข่งแถวหน้าหลายๆคน ต้องร่วงไปใน Q1 ไม่ว่าจะเป็นดานี่ เพรโดซ่า ฮอร์เฮ ลอเลนโซ่หรืออังเดร โดวิเซียโอโซ่รวมไปถึงรุคกี้ฝีมือดีอย่างโยฮันห์ ซาร์โก้ ที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก สำหรับการแข่งขันในบ้านครั้งแรกของเค้าในรุ่นพรีเมียร์
ซาร์โก้ นักแข่งขวัญใจเจ้าภาพ
แม้ว่าจะทำผลงานในวันศุกร์ได้ไม่ดี แต่ก็เป็นโดวิกับซาร์โก้ที่ผ่านเข้าไป Q2 แถม JZ5 ยังได้ออกสตาร์ทในแถวแรกเป็นอันดับที่ 3 พร้อมกับนักแข่งทีมโรงงาน Yamaha ที่ยึดแถวหน้าด้วยตำแหน่งโพลของวินยาเลสตามมาด้วยรอสซี่ รถ Honda ของคาล คลัชโลว์และมาร์ค มาเกวซในแถวที่ 2 จากการทำพื้นสนามใหม่ ทำให้รถ Yamaha ที่ชื่นชอบกริบกลับมาโบยบินอีกครั้ง หลังจากที่เจอปัญหาอย่างหนักที่เฆเรส ก่อนเริ่มการแข่งขันที่นี่ มาร์ค มาเกวซก็ตั้งเป้าไว้แค่การแย่งชิงตำแหน่งบนโพเดี่ยมเท่านั้น รวมถึงเค้าพลาดล้มในช่วงการซ้อมไปถึง 2 ครั้ง นั่นแสดงให้เห็นว่ารถ RC213V ของเค้าไปไม่ได้อย่างที่ใจต้องการที่นี่
แง่มๆ
มีเหตุการณ์ที่น่าระทึกขวัญเกิดขึ้นในวันเสาร์ในรอบ FP4 เมื่อไอ้หนูแจ็ค มิลเลอร์ เกิดอาการหล้อหน้าล็อคในช่วงโค้ง 1-2 ที่เป็นโค้งความเร็วสูง ทำให้รถของ JM เสียหลักวิ่งเข้าไปหากำแพงด้วยความเร็วสูงในทิศทางใกล้กำแพงมากๆ แถมรถวิ่งผ่านรันออฟเล็กๆที่เป็นยางมะตอยผ่านรอยต่อกับผืนหญ้าทำให้รถท้ายสะบัด ทำให้ ณ ตอนนั้นไม่สามารถควบคุมรถได้แล้ว แต่เจ้าแจ็คสละรถออกมาได้ทันก่อนที่จะโดนรถอัดเข้ากับกำแพงยางได้ภายในเสี้ยววินาที ถ้าพูดกันตรงๆก็คือรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นเอง ดูภาพช้าทีไรก็ยังอดใจสั่นไม่ได้ นอกจากนี้จังหวะที่กลิ้งเป็นลูกขนุนไป ก็ไม่โดนรถที่กลิ้งตามไปทับอีก ใช้คำว่าโชคดียังน้อยไป ซึ่งไอ้แจ็คยังผ่านความฟิตเข้าไปจัดอันดับใน Q2 ได้อีกต่างหาก
เบอร์ 5
ท้องฟ้าในวันอาทิตย์ไร้เงาของเมฆฝน มีเพียงแสงแดดและท้องฟ้าสีคราม หลังสัญญาณไฟแดงทั้ง 5 ดวงดับลง ก็เป็นซาร์โก้ที่พุ่งทะยานออกไปนำในโค้งแรก พร้อมกับขี่อย่างมั่นใจ นำ 2 นักแข่งจากทีมใหญ่ได้ตลอดทั้ง 6 รอบแรก ไม่รู้ว่าหัวจิตหัวใจของซาร์โก้ทำด้วยเพชรรึเปล่า นิ่งมาก กับการแข่งขันในบ้าน ที่ปีนี้ถือว่ากองเชียร์เจ้าถิ่นตีตั๋วเข้ามาเชียร์นักแข่งของตัวเองอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แถมได้รับการจับตามองจากสื่อค่อนข้างเยอะตลอดทั้งสุดสัปดาห์
ํYZR-M1 x 3
แม้ว่าจะโดน Vinales แซงขึ้นไปนำได้ แต่ซาร์โก้ยังคงขี่ได้ดี จนทำให้ทั้ง Vinales และ Rossi นั้นเหนื่อยไปตามๆกัน เพราะเจ้าวินไม่สามารถทำความเร็วหนีจากรถเบอร์ 5 ออกไปได้เลย แม้ว่าจะใส่มาแบบสุดๆแล้วก็ตาม แต่พอมองพิทบอร์ดที่ไร เวลาก็ยังห่างอยู่แค่ 0.4 วิเท่าเดิม เช่นเดียวกับฝั่งรอสซี่ ที่ก็ไล่ไม่เข้าเช่นเดียวกัน แต่ว่ารอสซี่ก็ขี่ตามเกมของตัวเอง เพราะเค้าค่อนข้างมั่นใจในเพซของตัวเองในสุดสัปดาห์นี้
กลุ่ม 2
มาร์ค มาเกวซ ไม่สามารถทำความเร็วเข้ามารวมกลุ่มกับแก๊งซ์ยามาฮ่าได้เลย แถมยังโดนทิ้งระยะออกไปเรื่อยๆ เลยยึดตำแหน่งที่ 4 ได้แบบยาวๆ ในบรรดานักแข่งที่เหลือทั้งหมด มีเพียงเพโดรซ่าคนเดียวที่ขี่ได้ดีกว่าเค้า แต่เนื่องจากพ่อใหญ่จิ๋วพลาดต้องไปออกสตาร์ทในแถวที่ 5 ทำให้ต้องใช้เวลาในการไล่อันดับอยู่พอสมควร โดย DP26 ไล่แซงพรวด 8 คันรวด ขึ้นมารั้งอันดับที่ 7 หลังผ่านรอบแรกไป หลังจากนั้นก็ค่อยๆไล่บี้โดวิและคลัชโลว์ก่อนที่จะแซงรถดูคาติเบอร์ 4 ได้ในรอบที่ 10 และขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 ในรอบที่ 11
เจอกันที่บ่อกรวด
ดานี่ยังคงขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่ตำแหน่งออกสตาร์ทหล่นไปไกลเกินไป ทำให้หมดสิทธิ์ที่จะเข้าไปต่อสู้กับรถ Yamaha ทั้ง 3 คันข้างหน้า ระยะห่างของ 2 นักแข่งทีม Repsol Honda ลดลงเรื่อยๆ ก่อนที่มาร์ค มาเกวซ จะมาพลาด คุมล้อหน้าไม่ได้ เป็นนักแข่งในกลุ่มนำคนแรกที่ล้ม ต้องออกจากการแข่งขันในสนามนี้
พี่ไปก่อนนะน้อง เหนื่อยกับเอ็งจริงๆ กว่าจะแซงได้
จนกระทั่งรอบที่ 22 รถเบอร์ 46 ถึงแซงผ่านรถเบอร์ 5 จากทีม Tech3 ขึ้นมาได้ เวลาของรอสซี่ในตอนนั้นถือว่าดีมากๆ รอสซี่เองก็มั่นใจในตัวรถด้วยเช่นกัน เลยเริ่มกดเวลาไล่จี้เพื่อนร่วมทีมรุ่นน้องเข้าไปเรื่อยๆและก็เป็น 2 นักแข่งทีมโรงงานยามาฮ่าที่ออกโรงโชว์สุดท้าย VR64 แซงผ่าน MV25 ขึ้นไปได้ในรอบที่ 26 เรียกได้ว่ากองเชียร์ของคุณหมอนั้นโบกธงเหลือง เฮกันลั่นแล้วในตอนนั้น แต่ในรอบสุดท้าย รอสซี่เข้าโค้ง 6 พลาด ซึ่งเป็นโค้งที่เค้าขี่พลาดมาแล้ว 2-3 ทีในวันนี้ ทำให้รถบานออกไปจนโดนเจ้าวินแซงกลับ
จังหวะที่รอสซี่นำ
แต่รอสซี่ยังคงเดินคันเร่งตาม ซึ่ง ณ เวลานั้นก็ต้องงัดเอาน้ำมันทุกหยดออกมาใช้กันแล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเป็นรอสซี่ที่พลาด ล้อหลังปัดจนล้ม สไลด์ออกไปที่ Garage Bleu 'S' เพียงไม่กี่โค้งก่อนจะเข้ารับธงหมากรุก ต้องออกจากแข่งขันไปแบบกระชากอารมณ์ของคนดูแบบสุดๆ ยิ่งจังหวะที่คุณหมอพยายามจะนำรถกลับมาแข่งใหม่อีกครั้ง แต่ว่าไม่สำเร็จเนื่องจากรถเสียหายเกินไป ถึงกับทำให้กองเชียร์ Yellow Army หลายคนถึงกับต้องหลั่งน้ำตา Vinales ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดได้ในรอบสุดท้าย นั่นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ารถเบอร์ 25 และ 46 นั้นขี่อยู่บนลิมิตจริงๆ
ผู้ชนะการแข่งขัน
อันดับที่ 2 เป็นโยฮันห์ ซาร์โก้ ที่พอหลังจากโดนรอสซี่แซงขึ้นมาแล้ว ก็จองที่ 3 ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่สุดท้ายได้ขยับขึ้นมาอีก 1 อันดับ ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมของดาวบิดชาวฝรั่งเศสผู้นี้อย่างแท้จริง ได้ขึ้นโพเดี่ยมในโมโตจีพีครั้งแรกต่อหน้าแฟนๆในสนามบ้านเกิด ถ้าลองย้อนกลับไปตอนที่เค้าออกนำแล้วไปพลาดล้มในสนามแรกที่การ์ต้า ณ ตอนนั้นทุกคนก็ยังมองว่ามันน่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่หลังจากผ่านไป 5 สนาม ซาร์โก้กลายมาเป็นนักแข่งที่ขึ้นมาเกาะอยู่ในกลุ่มนำแทบทุกสนาม ทุกคนแทบจะลืมไปแล้วว่าเค้าเป็นนักแข่งรุกกี้
Yeahhhh, I did it
ที่น่าสนใจคือ Zarco นั้นใช้ยาง Soft ทั้งหน้าและหลัง ขณะที่ 2 นักแข่งทีมใหญ่ใช้ Medium แต่ก็ยังสามารถขับเคี่ยวกับผู้ชนะได้เกือบตลอดทั้งเรซ โดย JZ5 ให้สัมภาษณ์ว่าค่อนข้างโชคดีที่อุณหภูมิผิวแทรคไม่สูงจนเกินไป ทั้งๆที่มีแดดจ้า ทำให้การสึกของยางไม่เร็วไปกว่านี้ แต่ถ้าดูพัฒนาการแล้ว ก็ต้องบอกว่าซาร์โก้เริ่มยืนระยะได้นานขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเค้าจะอยู่ในระหว่างของการเรียนรู้ พยายามลดจุดด้อยของตัวเอง ก็ยังสามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ที่ 3 ค้าบ
เพโดรซ่าขยับขึ้นมาจบที่ 3 แบบที่เจ้าตัวก็คงไม่คาดคิดว่าจะได้ขึ้นโพเดี่ยม ถ้าดูจากเรซเพซของนักแข่งทีมยามาฮ่าในช่วงต้นๆ แม้ว่าจะ Qualify ได้ไม่ดี แต่ฟอร์มการขี่ของดานี่วันนี้ถือว่าสุดๆเหมือนกัน ถ้ารักษาโมเมนตั้มตรงนี้เอาไว้ได้ กองเชียร์เบอร์ 26 ก็เตรียมตัวกลับเข้าสู่โหมดการลุ้นแชมป์เอาไว้ได้เลย
โพเดี่ยมแรกของ Zarco ใน MotoGP
เนื่องจาก 2 นักแข่งในกลุ่มนำของตารางอย่าง MM93 และ VR46 กินไข่ต้มในสนามนี้ ทำให้อันดับในตารางคะแนนสะสมมีการขยับใหม่อีกครั้ง Vinales กลับมาทวงบรรลังค์จ่าฝูงกลับมาได้อีกครั้ง โดยมี DP26 ตามมาเป็นอันดับ 2 รอสซี่หล่นไปอยู่ที่ 3 ถัดไปคือมาเกวซ ต่อด้วยโยฮัน ซาร์โก้ที่ยึดที่ 5 ด้วยคะแนน 55 คะแนน ตามหลังที่ 2 อย่างดานี่อยู่แค่ 13 คะแนนเท่านั้น ถ้าว่ากันตามทฤษฎีก็ต้องบอกว่ามีลุ้นแชมป์โลกกับเค้าได้เลยล่ะ แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง ก็คงยังไม่ใช่เวลาที่ซาร์โก้จะมานั่งคิดถึงเรื่องลุ้นแชมป์โลกหรอรก ซึ่งเจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าเค้ามีหน้าที่แค่ออกไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ ยังไม่ต้องไปนึกอนาคต
จ่าฝูง