ต่อจาก part ที่แล้วนะคะ https://ppantip.com/topic/36516872

Ayr เป็นเมืองการเกษตรเล็กๆอีกเมืองนึงที่ Backpackers ทั้งหลายนิยมมาทำงานฟาร์มกัน เนื่องจากมีงานเยอะแยะมากมาย และฤดูการเก็บเกี่ยวค่อนข้างนาน จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการรวบรวมวันในการทำงานฟาร์มเพื่อต่อ 2nd year visa แต่เราเองไม่ต้องการวันค่ะ เนื่องจากตอนนั้นยังไม่สามารถต่อวีซ่าปีที่สองได้ สิ่งที่เราต้องการคือเงินค่ะ และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

เมื่อเรามาถึง Ayr เราก็มุ่งหน้าไปยัง BIG4 Silverlink Caravan Park ที่ซึ่งเพื่อนๆเราพักอยู่ และหลังจากนี้เราจะพักกันที่นี่ตลอดการทำงาน และทาง Caravan Park จะเป็นคนติดต่อหางานให้เราค่ะ แต่ตอนที่เราไป ที่พักทุกห้องเต็มหมด เรามีทางเลือกเดียวคืออาศัยเต็นท์ที่เรามีอยู่ โดยจ่ายค่าที่กางเต็นท์ให้ Caravan Park สัปดาห์ละ $122/คน ซึ่งจริงๆแล้วค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกัน cabin ที่เราเคยอยู่ที่ Stanthorpe แต่เราก็ต้องเอาค่ะ ไม่มีทางเลือกเพราะตอนนี้เราเหลือเกินพอใช้แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น เท่ากับว่าเราต้องได้งานภายในอาทิตย์นี้ไม่งั้นตายแน่ๆค่ะ กินแกลบ ฮืออออ แต่ยังดีที่เพื่อนเราให้ที่นอนมา เราไม่ต้องนอนกับที่นอนเป่าลมอีกต่อไป

ต่อจากนี้ไป Carol จะเป็นคนที่จัดหางานและดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างใน Caravan แห่งนี้ พูดง่ายๆคือมีปัญหาอะไรก็ไปหา Carol ค่ะ และหลังจากมาพักที่นี่ได้แค่สองวัน แฟนเราก็ได้งาน เป็น Planting Team งานก็ง่ายๆ ขุดหลุมหยอดต้นกล้า ส่วนเราพอเข้าวันที่สาม ตอนเช้า Carol ก็มาเรียกเรา ถามว่าจะไปทำงานมั้ย วันนี้ ตอนนี้เลย มีงานมาให้เรา เราก็ตอบตกลงไปแบบงงๆค่ะ ตอนนั้นยังไม่ตื่นเลย โชคดีที่เราทำอาหารใส่กล่องไว้ เลยมีอะไรไปกินที่ทำงาน งานที่เราได้คืองานคัดพริกหยวกในโรงงาน เราต้องยืนอยู่กับที่หน้าสายพานทั้งวัน ใส่มาส์ก และเอียร์ปลั๊ก คุยกับใครไม่ได้เลย ทรมานมาก กลับมาเราเลยตัดสินใจไปหา Carol เพื่อจะบอกว่าของานอื่นได้มั้ย และเหมือนโชคจะเข้าข้าง เมื่อเรายังไม่ทันได้พูดอะไร และ Carol บอกเราว่ามีงานอื่นมาให้ทำพรุ่งนี้ ซึ่งก็คือ sorting เป็นงานกลางแจ้ง เราเลยตกลงไป พอวันรุ่งขึ้นเราก็ไปทำงานที่ฟาร์มใหม่ หน้าที่เราคือยืนในกระบะรถแทรคเตอร์ พวกหนุ่มๆก็จะเก็บพริกหยวกหรือบางครั้งจะเป็นเมล่อน และจะไหลตามสายพานมาลงในกระบะที่เรายืนอยู่ เราก็ต้องคอยคัดเกรดไม่ดีทิ้งไป ซึ่งต้องอาศัยความเร็ว เพราะคนทำ sorting มีแค่เราคนเดียว แต่คนเก็บ 5 คน จะทันม้ายยยยยยยย และพอมาถึงเมล่อน ซึ่งหนักและเหนื่อย เราต้องคอยเอาเบาะรองเพื่อไม้ให้ช้ำอีก คือเป็น multitasking มาก ก็เลยกลับมาด้วยความคิดที่ว่า ชั้นไม่อยากทำงานนี้ !!!

แล้วโชคก็เข้าข้างเราเป็นครั้งที่สอง เมื่อ Carol มาบอกเราว่า เธอไม่ต้องไปทำงานนี้ละนะ เดี๋ยวจะหางานอื่นให้ เธออยากทำ Basil Farm มั้ย ซึ่งก็คือเก็บโหระพา และเคยมีคนบอกเราว่าเป็นงานที่สนุกและไม่เหนื่อยมาก เราเลยตอบตกลงไปอีกครั้ง แต่เราต้องขับรถไปเอง และพาเพื่อนร่วมงานไปด้วยอีกสามคน แต่ทุกคนจะหารค่าน้ำมันกัน เราเลยโอเค

Basil Farm อยู่ห่างจาก Ayr 40 km เราต้องขับรถไปกลับทุกวัน ซึ่งงานที่นี่จะเป็น half pick half pack คือเก็บครึ่งวันและอีกครึ่งวันก็แพค ซึ่งเราชอบมาก เพราะเวลาแพคจะค่อนข้างชิลและได้อยู่ในร่ม เย็นสบาย ที่นี่จะเป็นฟาร์มเล็กๆ เจ้าของฟาร์มจะคอยดูแลเองทุกอย่างและมีลูกจ้างแค่ 8 คน เราได้เจอกับป้าทัด คนไทยคนแรกที่เราเจอในออส ป้าทัดอยู่ออสเตรเลียมาเป็นเวลาหลายปีจนได้สัญชาติที่นี่ และป้าก็ทำงานที่ Basil Farm มาเป็นปีที่ 5 แล้ว เจ้าของฟาร์มเลยมอบหมายหน้าที่ให้ป้าทัดเป็นคนดูแลและสอนงานเรา สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เอากรรไกรตัดกิ่ง แล้วมัดรวมกันเป็นช่อ ชั่งน้ำหนักแล้วเอาใส่ตะกร้า ซึ่งตอนแรกๆเราช้ามาก เพราะไม่รู้กิ่งไหนตัดได้บ้าง กลัวว่าจะสั้นไปหรือยาวไป เมื่อตัดเสร็จก็ต้องคอยแต่งต้นให้แตกยอดต่อไปอีก ป้าก็พูดเร่งเร้าเราตลอดเวลา คอยตะโกนบอกให้เราเร็วๆหน่อย ป้าคะ หนูเพิ่งมา โอ๊ยยยยย !!! เสียงของป้าทำให้เราเครียดและไม่มีความสุขในการทำงานมาก แกพูดซ้ำๆ เดิมๆ ทั้งวันค่ะ เราก็ฟังเฉยๆ ไม่ได้ตอบอะไร ทำงานของเราให้ดีที่สุดค่ะ นอกจากป้าจะดุเราแล้ว เจ้านายก็ดุเราด้วยค่ะ บอกว่าเราช้ามาก เราก็พยายามดูเพื่อนคนอื่นๆ ว่าเค้าทำกันยังไง โดยเฉพาะเพื่อนชาวอิตาลี่ที่อยู่ข้างๆเรา เค้าเร็วมาก แต่พอทำไปเรื่อยๆ ผ่านไปสักพักเราก็จะเร็วขึ้นเองค่ะ
ที่ฟาร์มนอกจากโหระพาแล้วก็จะมีพวกสมุนไพรอื่นๆด้วยค่ะ คือ Dill, Sage และ Taragon ช่วงเช้าก็จะเก็บโหระพา พอทำครบตามออเดอร์แล้ว เราก็จะแยกย้ายไปเก็บอย่างอื่นตามที่เจ้านายสั่ง แล้วแต่ว่าใครจะได้เก็บอะไร เมื่อเก็บทุกอย่างครบเราก็จะเข้าไปใน shade ค่ะ เพื่อทำการแพคลงกล่อง โดยจะเอาผักแต่ละมัดใสซองพลาสติก แล้วก็เรียงใส่กล่อง แปบๆก็หมดไปวันนึงละค่ะ

ค่าแรงช่วงนั้นเรทขึ้นพอดี เราเลยได้ $22.40/ชม. และโชคดีที่เป็น high season เราจึงได้ไม่ต่ำกว่า $1,000/สัปดาห์ ตลอดสามเดือนที่อยู่ที่นี่ ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควรค่ะ เปิดดูยอด pay check summary ที่ได้ตลอดการทำงานที่นี่แล้วน้ำตาจะไหล เป็นเงิน $13,155 ก่อนหักภาษี ซึ่งเราหักค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บวกกับค่าเปลี่ยนยางล้อรถแล้ว เหลือเป็นเงินเก็บประมาณ $8,000

Ayr เป็นที่ๆเรารู้สึกเหมือนมีสังคมขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเดินทางท่องเที่ยวกันแฟนเราแค่สองคนเป็นแรมเดือน ได้รู้จักคนมากหน้าหลายตา และมีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทบ้าง ปกติก็จะคลุกคลีอยู่กับหนุ่มๆเยอรมันที่เป็นเพื่อนกันแฟนเรา แต่ครั้งนี้เราก็จะมีเพื่อนที่ทำฟาร์มเดียวกัน วันหยุดเราก็มีนัดออกไปปาร์ตี้กันบ้าง หรือทำอาหารของแต่ละประเทศมาแลกเปลี่ยนและร่วมโต๊ะกันสังสรรค์บ่อยๆ ทำให้สามเดือนที่อยู่ที่นี่ ผ่านไปไวเหมือนโกหก

และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เราจะออกเดินทางไป road trip อีกครั้ง โดยจะมีเพื่อนร่วมทางเป็นเพื่อนชาวเยอรมันอีก 1 คู่ ซึ่งเพื่อนเราจะมีรถ 4WD และจะนอนในรถตลอดค่ะ หลายคนคงงงว่าจะนอนยังไง คือเค้าจะพับเบาะหลังลงหมด แล้วก็ใส่ที่นอนเข้าไปแทน จุดมุ่งหมายของการเดินทางครั้งนี้เราจะมุ่งหน้าไปยัง Red Center ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่ากันดารสุดๆ ทำให้เราต้องมีการเตรียมตัวกันเล็กน้อยค่ะ เดี๋ยวพาร์ทต่อไปเราจะมาบอกว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วจะพาทุกๆคนไปชมความงามของดินแดนแห่งนี้กันค่ะ