รีวิวแรกของเอิงอันนี้ขอเป็นตัวช่วย และข้อมูลการดูแลผิว
แบบฉบับผิวคนขี้แพ้ ที่อ่อนแอก็ผิวพังไปจากการใช้ครีมอันตรายที่โฆษณาความขาวแบบเร่งด่วนเกินจริง
ให้กลับสตรองแข็งแรงแบบเยียวยาได้ด้วยตัวเอง
โนว์หาหมอ โนว์เข้าคอร์สแพงงง (ไม่ใช่ไม่ดีนะคะ แต่งบเค้าน้อย >< )

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเมื่อเกือบๆ 2 ปีก่อนเอิงผิวหน้าเยินมากค่ะ เข้าขั้นโคม่าเลยทีเดียว

นี่คือรูปเมื่อก่อนตามที่บอกของสาวผิวขี้แพ้ค่ะ หน้าหมองเหมือนโดนของ สิวผด อักเสบ
และอุดตันขึ้นเต็มหน้าผาก ที่แก้มก็มีบ้าง ไร้ออร่า ไร้ความเนียนใสจริงๆ
(ขอโทษที่ไม่มีรูปหน้าตรงแบบใคร บอกตรงๆ รับไม่ได้เผาทิ้งไปหลายรูปแระค่ะ
แถมช่วงนั้นไม่ชอบถ่ายเบ้าหน้าตัวเองเท่าไหร่ด้วย เข้าใจฟีลเนอะ ไม่มั่น T^T)


จริงแล้วเอิงเป็นคนผิวขาวเหลืองค่ะ โทนเอเชียทั่วไป ผิวผสม
แต่ผิวก็ไม่ได้แย่ขนาดนี้นะคะ ที่หน้าเห่อ และเริ่มแพ้ทุกสรรพสิ่งขนาดนี้
เพราะเอิงไปลองใช้ครีมอันตราย ที่เร่งหน้าขาวใสเว่อร์วัง แถมยังลอกผิวเก่าเป็นแผ่นๆ พร้อมผุดผิวใหม่ออกมา
ตอนแรกใช้มันก็ดีล่ะค่ะ หน้าขาวออร่าตามเทรนด์นิยมเลย แต่ใครจะรู้ล่ะคะ  พอหยุดปุ๊บไม่นานเกินรอเลยค่ะ
บรรดาสิว และความหมองคล้ำกว่าเดิมมมก็มาเยือนนนสภาพอย่างที่เห็นรูปบนนี่ล่ะค่ะ ใครๆ เห็นก็ตกใจ
ทักว่าใช่คนเดียวกับเมื่อก่อนป่ะเนี่ย โอ๊ยยยฟังแล้วเสียเซลฟ์เนอะ จะกลับไปใช้ครีมตัวเดิมก็กลัว เพราะก็เพิ่งมีข่าวออกมาว่า
ยี่ห้อที่เอิงสั่งมาใช้ ติดโผครีมที่มีสารต้องห้ามอันตรายต่อผิว ตอนนั้นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นเลยว่าซวยแล้วจร้า
หน้าติดสารไปแล้วสินะ จะโทษใครนอกจากตัวเองที่ไม่รอบคอบ

แต่มันก็เป็นไปแล้ว ทำไงได้เศร้าไปก็นั้นมาหาทางออกกันดีกว่า เอิงลองอ่านรีวิว ศึกษาเลยว่าถ้าเป็นผิวขี้แพ้ต้องดูแลตัวเองยังไง
ตามสรุปนี้เลยที่เอิงได้ข้อมูลมา ผิวแพ้ง่ายเกิดจากการที่ผิวของเราลดการต้านทานต่อสารระเคืองผิวลง
อาจจะเกิดมาจากสาเหตุการผลัดเซลผิวบ่อย ใช้สกินแคร์ที่มีสารอันตรายสะสมในผิวมากๆ
ผิวเกิดการอ่อนแอลง ไร้ประสิทธิภาพในการปกป้องตัวเอง หรือบางคนอาจจะเกิดจากผิวที่แห้งขาดน้ำมากเกินไป
เซลล์ผิวเกิดความเสียหายเกราะป้องกันผิวลดลง มีรูโหว่สารระคายเคืองต่างๆ ก็เข้าสู่ผิวได้ง่ายดาย

เพราะฉะนั้น…
1.    เราควรงดสกินแคร์ที่มีกลิ่นหอม แม้ว่าจะชอบมากแค่ไหนก็ตาม
2.    ดูแลความสะอาดของใบหน้าให้ดีอยู่เสมอ
3.    หลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมไฮดรอกซี แอซิด , วิตามินอีและซี, ลาโนลิน, โพรพิลีน ไกลคอล และยารักษาสิวกลุ่มเรตินอยด์
4.    ควรมีการทดสอบก่อนการใช้ครีมหน้าใส รวมถึงเวชสำอางค์ เครื่องสำอางค์ ทุกชนิด รวมถึงสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย
ก็ควรทดสอบด้วยโดยการทาผลิตภัณฑ์บริเวณท้องแขนแล้วสังเกตอาการ 24 ชั่วโมง ว่ามี อาการแดง คัน ยิบ หรือไม่
ถ้ามีควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นั้น
5.    เลี่ยงการขัดผิวหน้า และใช้โฟมสครับจะยิ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้อีก
6.    เติมความชุ่มชื้น และอาหารผิว รวมถึงดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

ตอนนั้นเอิงทดลองใช้ครีมหลายอย่างมากค่ะ แต่ด้วยผิวมันบอบบางไปมากแล้ว ใช้อะไรก็แพ้
ขนาดเคลมว่าป็นเวชสำอาง บางตัวก็ไม่รอดค่ะ



และนี่คือโฉมหน้าของสกินแคร์ผู้เข้ารอบที่เอิงการันตีเลยว่าจะมาช่วยผิวขี้แพ้ให้แกร่งขึ้นได้อย่างแน่นอน
เพราะอิงใช้มายาวนานเกือบปีกว่าๆ แล้วนะคะ
สกินแคร์เบอร์ตองของเอิงเอง ><

1. มาเริ่มกันที่ Cleansing Water ของ Mizumi  อันนี้เหมาะกับผิวบอบบาง อ่อนโยน ไร้สารที่ก่อให้เกิดฟอง
ไม่มีน้ำหอม และไม่มีแอลกอฮออล์ เอิงใช้เช็คทุกวันก่อนล้างหน้า แม้ว่าวันไหนจะไม่ได้แต่งหน้า ทาแค่กันแดดก็ตาม
แนะนำสาวๆ ว่ายังไงก็ควรใช้นะคะ ได้เอาสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นออกบ้าง เคลียร์ขยะผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน
ตัวการร้ายก่อสิวได้เหมือนกันน้า


2. Physiogel Cleanser
มีขายตามร้านขายยาทั่วไป แถมเภสัชยังแนะนำว่าใช้ดีอีกด้วย
เหมาะอีกแล้วสำหรับผิวอ่อนแอ ตัวนี้ล้างหน้าได้ดี ผิวไม่เอี๊ยดดดด แห้งตึง
แถมไม่มีฟองอีกด้วย แตก็ไม่แสบหน้าเวลาถูนะ ได้ฟีลผิวนุ่มมากกว่า คือดี ฟินชอบบบ


3. บำรุงหน้าด้วยเซรั่มเลเซอร์ Power Recover White Serum ของ CHARIS
แบรนด์นี้อาจไม่คุ้นกันเท่าไหร่ แต่เอิงได้มาจากรายการช้อปปิ้งในทีวี
เห็นเจ้าของแบรนด์หน้าใสกิ้งๆ เค้าออกมาเคลมว่าเป็นสวนผสมจากแลปต่างประเทศ
แถมยังช่วยฟื้นฟูผิวให้ขาวได้แบบอ่อนโยน (ไม่เข็ดกับครีมผิวขาว><) เอิงก็ยอมรับตรงๆล่ะค่ะว่า
ยังไงตัวเองก็ยังอยากกลับมาหน้าขาวใสอยู่ดี เลยแสวงหาไวท์เทนนิ่งสูตรเพื่อผิวคนขี้แพ้มาลองใช้
บอกเลยว่าลองมาหลายยี่ห้อก็แพ้ค่ะ พอมาเจอตัวนี้เข้าไปขอกอดแน่นๆ ไม่มีปล่อยเลยนะคะ
ช่วยได้ทั้งเรื่องผิวแข็งแรงขึ้น ความขาวใส แถมใช้แล้วสิวไม่ขึ้นก็ดีใจมากแล้วค่ะ
แบรนด์นี้ไม่ใส่น้ำหอมนะคะ



4. ปิดท้ายด้วย Power Nigth Booster X3 ตัวนี้เป็นครีมเจ้าสาว
ที่มีอาหารผิวเข้มข้น ใช้ทาวันเว้น หรือ 3 - 4 ครั้งต่ออาทิตย์ ช่วยเยียวยาผิวให้นุ่มอิ่มน้ำ
แถมยังมีส่วนผสมของมันเทศป่าที่ช่วยลดการอักเสบของผดผื่น และรอยดำรอยแดงจากสิว
ช่วงที่สิวเห่อหนักๆ เอิงใช้ตัวนี้แต้มสิว รวมถึงรอยรักที่สิวฝากไว้ตลอดเลยค่ะ หายไวเว่อร์ ดีงามมม



ช่วงการเยียวยาผิวตัวเองใช้ช่วง 3 - 4 เดือนแรก สิวหายไป หลงเหลือแต่รอยแดงๆ ไว้บ้าง
อย่างที่บอกเอิงก็จะใช้ Power Nigth Booster X3 คอยแต้มรอยดำรอยแดงตลอด


หน้าสดนะคะผิวดีขึ้นมากกกกกกกกกจริงๆ อาจไม่เพอเฟคร้อยแบบใครๆ
เพราะยังมีสิวฮอร์โมนขึ้นปะปราย รอยดำ และหลุมสิวยังพอมีบ้าง
แต่ได้เท่านี้ก็ดีใจ ปลื้มมากกับผิวตัวเองแล้วล่ะค่ะ หลังจากการดูแลผิวหน้า
ด้วยตัวเองมาตลอดเกือบๆ 1 ปีกว่าๆ
ผิวหน้าดูดี นุ่มใสเด้ง สัมผัสได้ถึงความผิวแข็งแรงกว่าที่เคย
หน้าไม่ลอกขุยๆ อีกแล้ว มั่นใจมากขึ้นเวลาไปไหนมาไหน


แต่งหน้านิดหน่อยๆ ไม่ต้องโบ๊ะรองพื้นก็ยังได้ ฟีลกู๊ดรักผิวหน้าตัวเองมากเลยค่ะตอนนี้
(ในรูปมันอาจมีความฟริ้งๆ ฟรุ้งๆ ของแสง หน่อยๆ ><)

สกินแคร์ที่เอิงมาแนะนำเกิดจากลองใช้ของเอิงด้วยตัวเองจริงๆ
สำหรับผิวขี้แพ้ท่านอื่นก็สามารถลองหามาปรับสภาพผิวให้แข็งแรงกันดูได้นะคะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรลองเทสถึงความแพ้ ไม่แพ้ของแต่ละตัวด้วยตนเองก่อน เพราะแต่ละคนมีผิว
รวมถึงความแพ้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นรอบคอบกับการเลือกสกินแคร์ให้ดีๆ แล้วหากใช้อันไหนแล้วดี อย่าเปลี่ยนบ่อยๆ
ระลึกไว้เสมอค่ะว่า “ ไม่คุ้มที่จะเสี่ยง ”