หลังจากที่เคยเขียนกระทู้ รีวิว Part 1 เกี่ยวกับพลังวิเศษของคนในเมืองซากุราดะ
https://m.ppantip.com/topic/36474466
รอบนี้ก็ยังโชคดีมากๆ ได้มีโอกาสไปดูหนังรอบสื่อ อีกครั้งนึง
กระทู้ที่แล้วพยายามเขียนเพราะอยากให้ดู ซากุราดะ รีเซ็ท แบบสนุกๆกัน ก็มีคนบ่นว่าไม่สนุกก็มี
ผลปรากฏว่ามีหลายคนถึงไม่เคยอ่านกระทู้เรา เขาไปดูมาก็สนุก ก็เลยนานาจิตตังใครใคร่สนุกก็สนุกเถอะ
ภาคแรกมีคนหลังไมค์มาถาม เรื่องที่ใช้พลังตอนท้ายเรื่อง แม้จะตอบทฤษฏีใช้พลังไปตามที่เข้าใจ
แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ การที่หนังไม่เฉลยให้คิดเองว่าใช้พลังกันยังไง แล้วคนที่ดู งง คิดไม่ออก
อันนี้ ...คิดว่าเป็น จุดบอดของหนังหรือเปล่านะ
หลังจากดูภาค 1 เราดูสนุกมากๆ เลยไปสอย light novel มา 4 เล่ม คาดหวังเล็กๆว่าจะได้รู้ภาค 2ล่วงหน้า นิดๆก็ยังดี
แต่แม่เจ้า มันไม่ใช่แบบนั้น อ่านเล่ม1-4 จบ อย่างรวดเร็วภายใน 1 อาทิตย์ครึ่ง เนื้อหาก็ยังไม่ขึ้นภาค2 ซะงั้น
ส่วน light novel ในจุดไคล์แม็กซ์ภาค 1 ที่พระเอก เคย์ นำพลังทุกคน มาใช้ ในหนังเป็นแค่การใช้พลังให้ดู ไม่ได้อธิบาย
แต่ใน light novel หารู้ไม่ ก็ไม่ได้เฉลย อะไรเลย แค่ใช้พลังให้ดู เช่นกันนะ
เพราะการที่ไม่บอก ไม่เฉลย มันไม่ใช่จุดบอดของหนังแต่เป็นเสน่ห์และศิลปะในการเล่าเรื่องที่ผู้แต่งซากุราดะ รีเซ็ท ตั้งใจ
โดยศิลปะนั้นถูกเรียกว่า
แมคคอฟฟิน
**ขออธิบายว่า แมคคอฟฟินในความหมายของการกำกับหนังโดยทั่วไป คือสิ่งของที่ดูเผินๆแล้วไม่มีความหมาย
เช่นกระเป๋าของตัวเอกที่โผล่มาบ่อยๆ ในฉากจนชินตาแต่สุดท้ายกลายเป็นกระเป๋าสำคัญที่ใช้เพื่อเฉลยปมสำคัญของเรื่อง
แล้วความสนุกมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ ทั้งหนัง ทั้ง light novel ภาค 1 มันก็อยู่ที่ความเนิบนาบ
ในการเกริ่นถึงเนื้อหาไปเรื่อยๆ แบบที่คนดูไม่รู้ว่า เนื้อหานั้น มันสำคัญ นั่นแหละ
จิ๊กซอว์เหล่านั้นถูกโปรย ลงในการสนทนาเรียบๆ แสนจะเนิบนาบ การกระทำของตัวละครที่สุดแสนจะธรรมดา มาเรื่อยๆ
ไม่มีการบอกใบ้ ว่า เป็น
แมคคอฟฟิน และการแสดงของตัวละคร ธรรมดา ๆ สิ่งของเล็กๆน้อยๆ คำพูดธรรมดาๆ
ที่เราต้องสัมผัส รับรู้ ดู รับฟัง และเลือกหยิบว่าอันไหนคือเนื้อหาธรรมดาแค่นั้น หรืออันไหนคือเนื้อหาธรรมดาๆ ที่เป็นจิ๊กซอว์ สำคัญ
หรือแมคคอฟฟิน ที่โปรยไว้ เพื่อ นำมาใช้ไขปริศนาด้วยตัวคนดูเอง เมื่อ เนื้อหาเข้าสู่ช่วงที่หนังแสดงไคล์แม็กซ์
คนดูต้องนำแมคคอฟฟินต่างๆที่โปรยไว้ อย่างแยบยลในหนัง มาคิดเอง และเมื่อภึงจุดไคล์แม็กซ์ของเรื่อง
คนที่ดูออกว่าอะไรคือ แมคคอฟฟินแต่แรก จะไขปริศนาไคล์แม็กซ์ ของหนังในตอนท้ายเรื่องได้ในที่สุด
ส่วนภาค2 ใครที่บอกว่าหนังภาค1 น่าเบื่อ เนิบนาบ นี่ก็ลืมไปได้เลย ดำเนินเรื่อง ไวมาก ซ่อนแมคคอฟฟิน ไว้หลายจุดมากๆ
(โชคดี ว่าเก็บทัน ) แต่ก็แอบ บ่นกับตัวเอง ว่าเรื่องจะเร็วไปไหน เหมือนดูไม่อิ่ม เลยคิดว่า จะไปดูรอบที่ 2 อีกรอบล่ะ
สรุปว่า ภาค2 -->80% เราตามเก็บแมคคอฟฟิน จุดหลักๆ ของหนังเรื่องนี้ทัน ทั้งตอนเฉลยการที่พระเอกนำพลังมาใช้ยังไงบ้าง
เพื่อสู้กับกระทรวง
-->ส่วน 20% ที่เเราหลุด เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อย ที่เราคิดไม่ถึง ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้
คือภาค1 เราเก็บได้หมด เพราะปมไคล์แม็กซ์ มีเรื่องเดียว แค่ภาค2 ต้องยอมรับว่า
เซนเซย์ที่เขียนเรื่องนี้ ฉลาดจริง ๆ ทำให้เราพลาดได้
แมคคอฟฟิน ก็คือแมคคอฟฟินสินะ ทิ้งไว้ตามเนือเรื่องธรรมดาๆ แบบไม่จงใจ
ที่จริงแล้วคือ... สับขาหลอกกันสินะ อาจารย์ร้ายกาจมาก รู้ตัวล่ะ ว่าความฉลาดยังห่างคนแต่งเรื่องนี้อยู่หลายขุม
ตอนที่ เงิบ ว่า เราหลุดตรงนีไปได้ยังไง นั่นแหละ หึ
-->หนังยังจงใจเล่น ให้เราสงสัยว่าใครคือแอนดรอยด์ โดยได้รับอิทธิพล จาก นักเขียนนิยายscifi ชื่อดัง ไอแซค อาซิมอฟ
ที่มีกฏ 3 ข้อของ แอนดรอยด์ ตอนเด็กเราก็เคยงานผลงานของไอแซคอยู่บ้าง เนื่องจากมันวางไว้บนชั้นหนังสือที่บ้าน
เอาเป้นว่า ต้องคิดเอาเองแล้วกันว่า ใครคือแอนดรอยด์ กระทู้รีวิวไม่มีเฉลย no สปอยซ์ แล้วกัน แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่ประเด็นเดียว
ในหนังที่ผู้แต่ง ตั้งใจสร้างไว้ และเชือว่าแต่ละคนเข้าไปดู จะจับจุดไคล์แมกซ์ออกมาได้ ไม่เท่ากัน เอาเป็นว่ามีความเป็นไปได้
หลายรูท มาก จาก แมคคอฟฟิน ที่โปรยไว้
** อ่านกฏ3ข้อ ของแอนดรอยด์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
**ส่วนแมคคอฟฟินใน anime หรือlight novel
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จะเป็นหินธรรมดาก้อนนึง ที่มีใครบางคนป่าวประกาศว่า
ถ้าครอบครองแล้วจะได้พลังวิเศษของทุกคนในเมืองซาการดะ ซึ่ง ใน หนัง part1 กับ 2 ไม่ได้เอ่ยถึง
ดังนั้น จขกทจึงขอใช้คำว่า แมคคอฟฟิน ในความหมายของการกำกับหนัง อย่างทั่ได้เกริ่นไว้ แทนจิ๊กซอว์
ที่หนังใส่ไว้ท้องเรื่องอย่างไม่จงใจ เพื่อนำไปสู่การไขปริศนาจุดไคล์แม็กซ์ ของหนังด้วยตัวคนดูเอง
หากใครเก็บแมคคอฟฟิน เหล่านี้ไม่ทัน ก็จะงงกับจุดไคล์แม็กซ์ของหนัง กัน ผลที่ได้คือ เงิบกันเป็นแถบๆ
ความสนุกของหนัง ให้ 8/10
หักคะแนนเนื่องจาก บทที่โซมะ สุมิเระ มารหัวใจ ฮารุกิ โผล่มามากกว่า ฮารูกิ นิดหน่อย
และหักคะแนน เคย์ พระเอกที่ทำหน้าแบกโลก หน้าตายมากขึ้น ทั้งๆที่ฮารูกิ เรื่มพูดเยอะมากขึ้น ยิ้มหวาน น่ารักแล้วแท้ๆ ชริ
แม้จะคงความหล่อระดับมาคราฐานและดูเข้มมากขึ้น แต่ก็หักคะแนนอยู่ดี ล่ะ
ส่งท้ายด้วยตัวอย่างหนัง ภาค 2
หนังเรื่องนี้ แล้วแต่ใครอยากสนุกแบบไหน
แนะนำว่า แมคคอฟฟินธรรมดาๆ ในเนื้อเรื่องธรรมดาๆ
ก็อาจทำให้คุณมีพลังวิเศษเหมือนพระเอก หรือเคย์ได้
เพราะการที่คุณความจำดี เป็นพิเศษ จะทำให้คุณจำเนื้อเรื่องรายละเอียดได้ทั้งหมด
ไม่ว่าจะทฤษฏีพลังวิเศษ ทฤษฏีการรีเซ็ท อันไหนคือเนื้อเรื่องธรรมดา อันไหนคือเนื้อเรื่องธรรมดา เนิบนาบ
แสนน่าเบื่อที่เป็นแมคคอฟฟิน และนำสิ่งเหล่านั้นไขปริศนาตอนไคล์แม็กซ์ ปมสำคัญของเรื่อง ได้ด้วยตัวคุณเอง
(ส่วนตัว ประเมินตัวเองแล้ว มีความเป็นเคย์ แค่ 80% ภาค 2 ประมาทไปหน่อย หึ
แม้จะไม่หลุดตอนเฉลยปม แค่ก็เงิบในเรื่องที่คาดไม่ถึงและหลุดไปหลายรายละเอียด อยู่เหมือนกัน)
ขอให้คะแนน 4/5 ดาวแล้วกัน
[SR] รีวิว ซากุราดะ รีเซ็ท Part2 หลังจากไปดูรอบสื่อมา
https://m.ppantip.com/topic/36474466
รอบนี้ก็ยังโชคดีมากๆ ได้มีโอกาสไปดูหนังรอบสื่อ อีกครั้งนึง
กระทู้ที่แล้วพยายามเขียนเพราะอยากให้ดู ซากุราดะ รีเซ็ท แบบสนุกๆกัน ก็มีคนบ่นว่าไม่สนุกก็มี
ผลปรากฏว่ามีหลายคนถึงไม่เคยอ่านกระทู้เรา เขาไปดูมาก็สนุก ก็เลยนานาจิตตังใครใคร่สนุกก็สนุกเถอะ
ภาคแรกมีคนหลังไมค์มาถาม เรื่องที่ใช้พลังตอนท้ายเรื่อง แม้จะตอบทฤษฏีใช้พลังไปตามที่เข้าใจ
แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ การที่หนังไม่เฉลยให้คิดเองว่าใช้พลังกันยังไง แล้วคนที่ดู งง คิดไม่ออก
อันนี้ ...คิดว่าเป็น จุดบอดของหนังหรือเปล่านะ
หลังจากดูภาค 1 เราดูสนุกมากๆ เลยไปสอย light novel มา 4 เล่ม คาดหวังเล็กๆว่าจะได้รู้ภาค 2ล่วงหน้า นิดๆก็ยังดี
แต่แม่เจ้า มันไม่ใช่แบบนั้น อ่านเล่ม1-4 จบ อย่างรวดเร็วภายใน 1 อาทิตย์ครึ่ง เนื้อหาก็ยังไม่ขึ้นภาค2 ซะงั้น
ส่วน light novel ในจุดไคล์แม็กซ์ภาค 1 ที่พระเอก เคย์ นำพลังทุกคน มาใช้ ในหนังเป็นแค่การใช้พลังให้ดู ไม่ได้อธิบาย
แต่ใน light novel หารู้ไม่ ก็ไม่ได้เฉลย อะไรเลย แค่ใช้พลังให้ดู เช่นกันนะ
เพราะการที่ไม่บอก ไม่เฉลย มันไม่ใช่จุดบอดของหนังแต่เป็นเสน่ห์และศิลปะในการเล่าเรื่องที่ผู้แต่งซากุราดะ รีเซ็ท ตั้งใจ
โดยศิลปะนั้นถูกเรียกว่า แมคคอฟฟิน
**ขออธิบายว่า แมคคอฟฟินในความหมายของการกำกับหนังโดยทั่วไป คือสิ่งของที่ดูเผินๆแล้วไม่มีความหมาย
เช่นกระเป๋าของตัวเอกที่โผล่มาบ่อยๆ ในฉากจนชินตาแต่สุดท้ายกลายเป็นกระเป๋าสำคัญที่ใช้เพื่อเฉลยปมสำคัญของเรื่อง
แล้วความสนุกมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ ทั้งหนัง ทั้ง light novel ภาค 1 มันก็อยู่ที่ความเนิบนาบ
ในการเกริ่นถึงเนื้อหาไปเรื่อยๆ แบบที่คนดูไม่รู้ว่า เนื้อหานั้น มันสำคัญ นั่นแหละ
จิ๊กซอว์เหล่านั้นถูกโปรย ลงในการสนทนาเรียบๆ แสนจะเนิบนาบ การกระทำของตัวละครที่สุดแสนจะธรรมดา มาเรื่อยๆ
ไม่มีการบอกใบ้ ว่า เป็น แมคคอฟฟิน และการแสดงของตัวละคร ธรรมดา ๆ สิ่งของเล็กๆน้อยๆ คำพูดธรรมดาๆ
ที่เราต้องสัมผัส รับรู้ ดู รับฟัง และเลือกหยิบว่าอันไหนคือเนื้อหาธรรมดาแค่นั้น หรืออันไหนคือเนื้อหาธรรมดาๆ ที่เป็นจิ๊กซอว์ สำคัญ
หรือแมคคอฟฟิน ที่โปรยไว้ เพื่อ นำมาใช้ไขปริศนาด้วยตัวคนดูเอง เมื่อ เนื้อหาเข้าสู่ช่วงที่หนังแสดงไคล์แม็กซ์
คนดูต้องนำแมคคอฟฟินต่างๆที่โปรยไว้ อย่างแยบยลในหนัง มาคิดเอง และเมื่อภึงจุดไคล์แม็กซ์ของเรื่อง
คนที่ดูออกว่าอะไรคือ แมคคอฟฟินแต่แรก จะไขปริศนาไคล์แม็กซ์ ของหนังในตอนท้ายเรื่องได้ในที่สุด
ส่วนภาค2 ใครที่บอกว่าหนังภาค1 น่าเบื่อ เนิบนาบ นี่ก็ลืมไปได้เลย ดำเนินเรื่อง ไวมาก ซ่อนแมคคอฟฟิน ไว้หลายจุดมากๆ
(โชคดี ว่าเก็บทัน ) แต่ก็แอบ บ่นกับตัวเอง ว่าเรื่องจะเร็วไปไหน เหมือนดูไม่อิ่ม เลยคิดว่า จะไปดูรอบที่ 2 อีกรอบล่ะ
สรุปว่า ภาค2 -->80% เราตามเก็บแมคคอฟฟิน จุดหลักๆ ของหนังเรื่องนี้ทัน ทั้งตอนเฉลยการที่พระเอกนำพลังมาใช้ยังไงบ้าง
เพื่อสู้กับกระทรวง
-->ส่วน 20% ที่เเราหลุด เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อย ที่เราคิดไม่ถึง ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้
คือภาค1 เราเก็บได้หมด เพราะปมไคล์แม็กซ์ มีเรื่องเดียว แค่ภาค2 ต้องยอมรับว่า
เซนเซย์ที่เขียนเรื่องนี้ ฉลาดจริง ๆ ทำให้เราพลาดได้
แมคคอฟฟิน ก็คือแมคคอฟฟินสินะ ทิ้งไว้ตามเนือเรื่องธรรมดาๆ แบบไม่จงใจ
ที่จริงแล้วคือ... สับขาหลอกกันสินะ อาจารย์ร้ายกาจมาก รู้ตัวล่ะ ว่าความฉลาดยังห่างคนแต่งเรื่องนี้อยู่หลายขุม
ตอนที่ เงิบ ว่า เราหลุดตรงนีไปได้ยังไง นั่นแหละ หึ
-->หนังยังจงใจเล่น ให้เราสงสัยว่าใครคือแอนดรอยด์ โดยได้รับอิทธิพล จาก นักเขียนนิยายscifi ชื่อดัง ไอแซค อาซิมอฟ
ที่มีกฏ 3 ข้อของ แอนดรอยด์ ตอนเด็กเราก็เคยงานผลงานของไอแซคอยู่บ้าง เนื่องจากมันวางไว้บนชั้นหนังสือที่บ้าน
เอาเป้นว่า ต้องคิดเอาเองแล้วกันว่า ใครคือแอนดรอยด์ กระทู้รีวิวไม่มีเฉลย no สปอยซ์ แล้วกัน แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่ประเด็นเดียว
ในหนังที่ผู้แต่ง ตั้งใจสร้างไว้ และเชือว่าแต่ละคนเข้าไปดู จะจับจุดไคล์แมกซ์ออกมาได้ ไม่เท่ากัน เอาเป็นว่ามีความเป็นไปได้
หลายรูท มาก จาก แมคคอฟฟิน ที่โปรยไว้
** อ่านกฏ3ข้อ ของแอนดรอยด์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
**ส่วนแมคคอฟฟินใน anime หรือlight novel [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความสนุกของหนัง ให้ 8/10
หักคะแนนเนื่องจาก บทที่โซมะ สุมิเระ มารหัวใจ ฮารุกิ โผล่มามากกว่า ฮารูกิ นิดหน่อย
และหักคะแนน เคย์ พระเอกที่ทำหน้าแบกโลก หน้าตายมากขึ้น ทั้งๆที่ฮารูกิ เรื่มพูดเยอะมากขึ้น ยิ้มหวาน น่ารักแล้วแท้ๆ ชริ
แม้จะคงความหล่อระดับมาคราฐานและดูเข้มมากขึ้น แต่ก็หักคะแนนอยู่ดี ล่ะ
ส่งท้ายด้วยตัวอย่างหนัง ภาค 2
หนังเรื่องนี้ แล้วแต่ใครอยากสนุกแบบไหน
แนะนำว่า แมคคอฟฟินธรรมดาๆ ในเนื้อเรื่องธรรมดาๆ
ก็อาจทำให้คุณมีพลังวิเศษเหมือนพระเอก หรือเคย์ได้
เพราะการที่คุณความจำดี เป็นพิเศษ จะทำให้คุณจำเนื้อเรื่องรายละเอียดได้ทั้งหมด
ไม่ว่าจะทฤษฏีพลังวิเศษ ทฤษฏีการรีเซ็ท อันไหนคือเนื้อเรื่องธรรมดา อันไหนคือเนื้อเรื่องธรรมดา เนิบนาบ
แสนน่าเบื่อที่เป็นแมคคอฟฟิน และนำสิ่งเหล่านั้นไขปริศนาตอนไคล์แม็กซ์ ปมสำคัญของเรื่อง ได้ด้วยตัวคุณเอง
(ส่วนตัว ประเมินตัวเองแล้ว มีความเป็นเคย์ แค่ 80% ภาค 2 ประมาทไปหน่อย หึ
แม้จะไม่หลุดตอนเฉลยปม แค่ก็เงิบในเรื่องที่คาดไม่ถึงและหลุดไปหลายรายละเอียด อยู่เหมือนกัน)
ขอให้คะแนน 4/5 ดาวแล้วกัน