#109 $$$$$ โต๊ะน้ำชาแฟนโรงพยาบาล ฿฿฿฿฿ MAY. 31 2017
ขอเชิญเพื่อนๆนักลงทุนและผู้ที่สนใจการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลมาสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเล่าประสบการณ์การลงทุนสู่กันฟังครับ
(โดยปกติจะ update วันพุธเช้า สัปดาห์ละครั้ง)
สถานการณ์ทั่วไป :
วานนี้หุ้นไทย ปิดบวก 0.03 % (ปิดที่1568.57 จุด) ตลาดมีลักษณะ sideway และมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 4.800 ล้านบาท
เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่งออกขยายตัว และการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่อง
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 65.4 ปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 24 เดือน โดยมีปัจจัยบวกจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
ส่งออกไทยเดือนเม.ยขยายตัว 8.5% จากปีที่แล้ว (ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 11.7%)
ส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา +41.1% ส่งไปยังจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น
น้ำตาลทราย +47% ส่งไปยัง อินโดนิเซีย ไต้หวัน กัมพูชา
ข้าว +22.7% ส่งออกไปยังจีน เบนิน อาฟริกาใต้
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง +54.3% ส่งไปจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น
เคมีภัณฑ์ +30.7% ส่งไปยังจีน อินโดนิเซีย อินเดีย
น้ำมันสำเร็จรูป +22.3% ส่งไปยัง สิงคโปร์ ลาว จีน
ส่งออกทองคำ ขยายตัว 24.3% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัว 18.7%
ECB ยังคงนโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังปรับตัวได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ECB ทำการอัดฉีดตลาดการเงินด้วยการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จำนวน 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ โดยจะพิจารณาข้อมูลชุดใหม่ที่ได้รับในการประชุมวันที่ 8 มิถุนายนแต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน
กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นเดือนเมษายนปรับตัวลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าสู่ระดับ 295,929 เยน (2,600 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขาซานฟานซิสโกกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวเป็นอย่างดี และไม่มีความจำเป็นต้องมีการออกมาตรการคลังระยะสั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นจีน SHANGHAI +0.08% ตลาดหุ้นอินเดีย NIFTY +0.20%
ตลาดหุ้นอเมริกา DJIA -0.24% S&P 500 -0.12%
NASDAQ -0.11% US $ Index -0.11% = 97.22
ตลาดหุ้นเยอรมัน DAX -0.24% S&P500 VIX+5.81% = 10.38
GOLD = 1261.85 USD/Ounce
JPM Global Healthcare = 256.52 (+11.08 % จากต้นปี )
หุ้นในกลุ่มร.พ
(update ทุกเย็นวันอังคาร)
AHC 31.75
BCH 12.3
BDMS 18.6
BH 176.5
CHG 2.34
CMR 4.22
EKH 5.55
KDH 101
LPH 9.05
M-CHAI 218
NEW 56
NTV 4.75
RAM 2950
RJH 21.5
RPH 5.05
SKR 49.25
SVH 347
TNH 35.75
VIBHA 2.80
VIH 7.75
(การลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลที่สนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันไม่ถือว่าเป็นการชี้นำ ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโดยใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน )
* ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่พ.ศ.2559 การคาดการณ์หรือวิเคราะห์ผลการดำเนินงานหรือราคาหุ้น ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนข้อมูลอันจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและการตัดสินใจลงทุน
*ข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาอัตราค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมกับผู้บริโภคและช่วยให้การบริหารจัดการของ ร.พ.เป็นระบบระเบียบ มีธรรมภิบาลและจริยธรรมเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้บริการและต่อร.พ.เอง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
*Link เพลงในยูทูป เป็นไปเพื่อความบันเทิง เพื่อเผยแพร่ยกย่องในเกียรติคุณและคุณภาพของเพลง มิได้เป็นไปเพื่อธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
* โต๊ะน้ำชาฯไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ราคาค่ารักษาพยาบาลและราคาหุ้นแพงเกินจริง มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่มุ่งส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารประสบการณ์ลงทุน เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซื้อและขายถูกจังหวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
$$$$$ โต๊ะน้ำชาแฟนโรงพยาบาล ฿฿฿฿฿ MAY. 31 2017
ขอเชิญเพื่อนๆนักลงทุนและผู้ที่สนใจการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลมาสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเล่าประสบการณ์การลงทุนสู่กันฟังครับ (โดยปกติจะ update วันพุธเช้า สัปดาห์ละครั้ง)
สถานการณ์ทั่วไป :
วานนี้หุ้นไทย ปิดบวก 0.03 % (ปิดที่1568.57 จุด) ตลาดมีลักษณะ sideway และมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 4.800 ล้านบาท
เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่งออกขยายตัว และการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่อง
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 65.4 ปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 24 เดือน โดยมีปัจจัยบวกจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
ส่งออกไทยเดือนเม.ยขยายตัว 8.5% จากปีที่แล้ว (ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 11.7%)
ส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา +41.1% ส่งไปยังจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น
น้ำตาลทราย +47% ส่งไปยัง อินโดนิเซีย ไต้หวัน กัมพูชา
ข้าว +22.7% ส่งออกไปยังจีน เบนิน อาฟริกาใต้
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง +54.3% ส่งไปจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น
เคมีภัณฑ์ +30.7% ส่งไปยังจีน อินโดนิเซีย อินเดีย
น้ำมันสำเร็จรูป +22.3% ส่งไปยัง สิงคโปร์ ลาว จีน
ส่งออกทองคำ ขยายตัว 24.3% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัว 18.7%
ECB ยังคงนโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังปรับตัวได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ECB ทำการอัดฉีดตลาดการเงินด้วยการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จำนวน 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ โดยจะพิจารณาข้อมูลชุดใหม่ที่ได้รับในการประชุมวันที่ 8 มิถุนายนแต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน
กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นเดือนเมษายนปรับตัวลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าสู่ระดับ 295,929 เยน (2,600 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขาซานฟานซิสโกกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวเป็นอย่างดี และไม่มีความจำเป็นต้องมีการออกมาตรการคลังระยะสั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นจีน SHANGHAI +0.08% ตลาดหุ้นอินเดีย NIFTY +0.20%
ตลาดหุ้นอเมริกา DJIA -0.24% S&P 500 -0.12%
NASDAQ -0.11% US $ Index -0.11% = 97.22
ตลาดหุ้นเยอรมัน DAX -0.24% S&P500 VIX+5.81% = 10.38
GOLD = 1261.85 USD/Ounce
JPM Global Healthcare = 256.52 (+11.08 % จากต้นปี )
หุ้นในกลุ่มร.พ
(update ทุกเย็นวันอังคาร)
AHC 31.75
BCH 12.3
BDMS 18.6
BH 176.5
CHG 2.34
CMR 4.22
EKH 5.55
KDH 101
LPH 9.05
M-CHAI 218
NEW 56
NTV 4.75
RAM 2950
RJH 21.5
RPH 5.05
SKR 49.25
SVH 347
TNH 35.75
VIBHA 2.80
VIH 7.75
(การลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลที่สนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันไม่ถือว่าเป็นการชี้นำ ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโดยใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน )
* ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่พ.ศ.2559 การคาดการณ์หรือวิเคราะห์ผลการดำเนินงานหรือราคาหุ้น ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนข้อมูลอันจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและการตัดสินใจลงทุน
*ข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาอัตราค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมกับผู้บริโภคและช่วยให้การบริหารจัดการของ ร.พ.เป็นระบบระเบียบ มีธรรมภิบาลและจริยธรรมเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้บริการและต่อร.พ.เอง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
*Link เพลงในยูทูป เป็นไปเพื่อความบันเทิง เพื่อเผยแพร่ยกย่องในเกียรติคุณและคุณภาพของเพลง มิได้เป็นไปเพื่อธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
* โต๊ะน้ำชาฯไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ราคาค่ารักษาพยาบาลและราคาหุ้นแพงเกินจริง มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่มุ่งส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารประสบการณ์ลงทุน เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซื้อและขายถูกจังหวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา