วันนี้ผมอิ่มเอมกับเรื่องราวของรถใหม่ป้ายแดงคันนึง ทั้งๆที่มันไม่ใช่ของผม!!!
มันเป็นรถของชายคนหนึ่ง ... ผมจำได้ว่าเมื่อผมเห็นชายคนนี้ครั้งแรกๆเมื่อ 5-6 ปีก่อน ... เขาเป็นพนักงานทำงานอยู่ใน
“โรงกลึง” เล็กๆที่แฝงตัวอยู่ในอาคารพาณิชย์ใกล้ๆออฟฟิตผม ถ้าสังเกตุจากมือไม้เนื้อตัวที่มักจะเลอะคราบน้ำมันเสมอๆและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ติดตัวอยู่ตามเสื้อช็อปและตามเข็มขัดของเขาผมเดาว่าแกน่าจะเป็นช่างด้วย ผมเดาว่าอย่างนั้น ถามว่าทำไมผมจำชายคนนี้ได้ บอกเลยว่าเขาเป็นคนยิ้มเก่ง หน้าตาเป็นมิตร ผมชอบเจอแกแถวๆร้านสะดวกซื้อในตลาด ผมเดาว่าอย่างมาก็อายุอานามจะมากกว่าผมก็เพียงปีสองปี(ปีนี้ผมอายุ 32)
จำไม่ได้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เมื่อผมกลับมาเห็นเขาอีกทีเขากลับใส่
“เสื้อวิน” ขี่มอเตอร์ไซค์รับส่งคนอยู่ในตลาด ... ผมก็คิดในใจว่าเขาคงจะออกจากโรงกลึงแล้วมาขับวิน ผมปล่อยใจให้คิดไปตามตาที่เห็นเช่นนั้น ... หลายวันถัดมาผมก็เห็นแกใส่ชุดเดิมๆเหมือนที่ผมเคยเห็นตอนสมัยที่แกทำอยู่โรงกลึง ... ผมชักเริ่มสงสัย!?! … ผมเริ่มสังเกต ... อ้อออ เขาไม่ได้ออกจากโรงกลึงเพื่อมาขับวินหรอกครับ เพราะ เขาขับวินเป็นงานเสริมแค่ช่วงเย็นเท่านั้น งานโรงกลึงก็ยังอยู่ทำเช่นเดิม
ผ่านไปอีกหลายปีที่ผมเห็นเขาทำงานสองอย่างควบกันไปอย่างนี้ .... จนวันหนึ่ง ผมเห็นแกมาตั้ง
“ร้านขายก๋วยจั๊บ” ในตลาดเช้า (ตลาดเช้าแถวออฟฟิตผมมีร้านไม่เยอะครับเพียง 4-5 ร้าน ร้านไหนมาใหม่สังเกตง่าย) ... จากที่เห็นหน้าค่าตากันหลายปี ผมก็เข้าไปอุดหนุน และ เป็นฝ่ายทักทายสอบถามเขาถามถึงเรื่องราวของร้านก๋วยจั๊บที่พึ่งเปิดใหม่ ... จากคำบอกเล่าได้ความว่า แฟนแกมีฝีมือมีสูตรก๋วยจั๊บกระดูก เลยชักชวนให้มาเปิดร้านแถวนี้จะได้อยู่ใกล้ๆกัน ... ในช่วงนั้นแกมีรถกระบะเก่าๆไว้ช่วยขนของคันนึง
เป็นเวลานานเป็นปีที่แกทำสามอย่างอยู่แบบนี้เป็นกิจวัตร ... เช้ามืดช่วยแฟนแกตั้งร้านก๋วยจั๊บ กลางวันไปทำงานโรงกลึง เย็นๆค่ำๆว่างๆก็มาขับวิน ... ผมมองอยู่ห่างๆ ด้วยความชื่นชมในความขยันของแกมาตลอดหลายปี ... จนเช้าตรู่ของวันนี้ผมเห็นแกขับรถป้ายแดงขนถังแก๊สและกำลังยกลงมาจากกระบะท้าย ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากแซวแกหรอกครับ ผมก็ได้ยินแกพูดกับลูกค้าคนอื่นถึงรถป้ายแดงคันนี้เสียก่อน ...
“รถคันเก่ามันแก่แล้ว ต้องขนของมาขายของทุกวัน ขับไปซ่อมไป ซ่อมบ่อยมากก็ไม่ไหว ก็เลยตัดใจซื้อคันใหม่ รถใหม่วิ่งสบายใจกว่า” แล้วแกก็ยิ้มร่า สนทนาเรื่องอื่นกันต่อ ลูกค้าคนที่สนทนากับแกจะพละไป แกกล่าวว่า
“ถ้าวันหลังถ้าผมกลับบ้านต่างจังหวัด ผมจะขนผลไม้มาขายมาด้วย อย่าลืมมาอุดหนุนกันนะ!!!”
ผมได้แต่ฟังเงียบๆแล้วยิ้มในใจ แต่ใจผมมันอิ่มเอมเหลือเกินครับ ยินดีกับแกจากใจจริง ... เ
รื่องราวของแกสอนผมว่า ชีวิตเกิดมาทั้งทีต้องดิ้นให้สุด อย่ารอคอยโชคชะตา อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมา … ผมมองดูพี่เขาแล้วก็ย้อนมองตัวครับ ว่าวันนี้ผมทำเต็มที่หรือยัง!!! ... สู้ต่อไป เฮ้ยยยย!!!
…[^_^]…
ปล.
- เล่าสู่กันฟังครับ .... ติดตามเรื่องราวผมได้ในเพจนี้ครับ ... เพจคุยเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่
https://www.facebook.com/creativeshooter/
วันนี้ผมอิ่มเอมกับเรื่องราวของรถใหม่ป้ายแดงคันนึง ทั้งๆที่มันไม่ใช่ของผม!!!
มันเป็นรถของชายคนหนึ่ง ... ผมจำได้ว่าเมื่อผมเห็นชายคนนี้ครั้งแรกๆเมื่อ 5-6 ปีก่อน ... เขาเป็นพนักงานทำงานอยู่ใน “โรงกลึง” เล็กๆที่แฝงตัวอยู่ในอาคารพาณิชย์ใกล้ๆออฟฟิตผม ถ้าสังเกตุจากมือไม้เนื้อตัวที่มักจะเลอะคราบน้ำมันเสมอๆและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ติดตัวอยู่ตามเสื้อช็อปและตามเข็มขัดของเขาผมเดาว่าแกน่าจะเป็นช่างด้วย ผมเดาว่าอย่างนั้น ถามว่าทำไมผมจำชายคนนี้ได้ บอกเลยว่าเขาเป็นคนยิ้มเก่ง หน้าตาเป็นมิตร ผมชอบเจอแกแถวๆร้านสะดวกซื้อในตลาด ผมเดาว่าอย่างมาก็อายุอานามจะมากกว่าผมก็เพียงปีสองปี(ปีนี้ผมอายุ 32)
จำไม่ได้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เมื่อผมกลับมาเห็นเขาอีกทีเขากลับใส่ “เสื้อวิน” ขี่มอเตอร์ไซค์รับส่งคนอยู่ในตลาด ... ผมก็คิดในใจว่าเขาคงจะออกจากโรงกลึงแล้วมาขับวิน ผมปล่อยใจให้คิดไปตามตาที่เห็นเช่นนั้น ... หลายวันถัดมาผมก็เห็นแกใส่ชุดเดิมๆเหมือนที่ผมเคยเห็นตอนสมัยที่แกทำอยู่โรงกลึง ... ผมชักเริ่มสงสัย!?! … ผมเริ่มสังเกต ... อ้อออ เขาไม่ได้ออกจากโรงกลึงเพื่อมาขับวินหรอกครับ เพราะ เขาขับวินเป็นงานเสริมแค่ช่วงเย็นเท่านั้น งานโรงกลึงก็ยังอยู่ทำเช่นเดิม
ผ่านไปอีกหลายปีที่ผมเห็นเขาทำงานสองอย่างควบกันไปอย่างนี้ .... จนวันหนึ่ง ผมเห็นแกมาตั้ง “ร้านขายก๋วยจั๊บ” ในตลาดเช้า (ตลาดเช้าแถวออฟฟิตผมมีร้านไม่เยอะครับเพียง 4-5 ร้าน ร้านไหนมาใหม่สังเกตง่าย) ... จากที่เห็นหน้าค่าตากันหลายปี ผมก็เข้าไปอุดหนุน และ เป็นฝ่ายทักทายสอบถามเขาถามถึงเรื่องราวของร้านก๋วยจั๊บที่พึ่งเปิดใหม่ ... จากคำบอกเล่าได้ความว่า แฟนแกมีฝีมือมีสูตรก๋วยจั๊บกระดูก เลยชักชวนให้มาเปิดร้านแถวนี้จะได้อยู่ใกล้ๆกัน ... ในช่วงนั้นแกมีรถกระบะเก่าๆไว้ช่วยขนของคันนึง
เป็นเวลานานเป็นปีที่แกทำสามอย่างอยู่แบบนี้เป็นกิจวัตร ... เช้ามืดช่วยแฟนแกตั้งร้านก๋วยจั๊บ กลางวันไปทำงานโรงกลึง เย็นๆค่ำๆว่างๆก็มาขับวิน ... ผมมองอยู่ห่างๆ ด้วยความชื่นชมในความขยันของแกมาตลอดหลายปี ... จนเช้าตรู่ของวันนี้ผมเห็นแกขับรถป้ายแดงขนถังแก๊สและกำลังยกลงมาจากกระบะท้าย ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากแซวแกหรอกครับ ผมก็ได้ยินแกพูดกับลูกค้าคนอื่นถึงรถป้ายแดงคันนี้เสียก่อน ... “รถคันเก่ามันแก่แล้ว ต้องขนของมาขายของทุกวัน ขับไปซ่อมไป ซ่อมบ่อยมากก็ไม่ไหว ก็เลยตัดใจซื้อคันใหม่ รถใหม่วิ่งสบายใจกว่า” แล้วแกก็ยิ้มร่า สนทนาเรื่องอื่นกันต่อ ลูกค้าคนที่สนทนากับแกจะพละไป แกกล่าวว่า “ถ้าวันหลังถ้าผมกลับบ้านต่างจังหวัด ผมจะขนผลไม้มาขายมาด้วย อย่าลืมมาอุดหนุนกันนะ!!!”
ผมได้แต่ฟังเงียบๆแล้วยิ้มในใจ แต่ใจผมมันอิ่มเอมเหลือเกินครับ ยินดีกับแกจากใจจริง ... เรื่องราวของแกสอนผมว่า ชีวิตเกิดมาทั้งทีต้องดิ้นให้สุด อย่ารอคอยโชคชะตา อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมา … ผมมองดูพี่เขาแล้วก็ย้อนมองตัวครับ ว่าวันนี้ผมทำเต็มที่หรือยัง!!! ... สู้ต่อไป เฮ้ยยยย!!!
…[^_^]…
ปล.
- เล่าสู่กันฟังครับ .... ติดตามเรื่องราวผมได้ในเพจนี้ครับ ... เพจคุยเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่
https://www.facebook.com/creativeshooter/