คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
hello ..... สวัสดีครับ เพื่อนพี่น้อง น้าอา ลุงป้า วันนี้มาต่อกันนะครับ พอมีเวลานิดหน่อย ก่อนจะเริ่งทำงาน ช่วงนี้ งานไกล้ส่งแล้วครับ ฝนก็ตก เงินก็ไม่ค่อยมีใช้ (อันนี้นอกประเด็น 555) ปัจจุบันตอนนี้มาติดตั้งงานทดสอบที่โรงไฟฟ้า แม่เมาะครับ ฝนตกบ่อยมากกกกกก ดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะครับ มาต่อกันครับ ...
จากรอบที่แล้ว หลังจากที่ ตัดสินใจหนึ่งคืน พอเช้ามาที่มหาลัยผมก็ตอบตกลงรับงาน ที่เคยเล่าไว้ข้างต้น อ.ก็บอกว่าจะติดต่อให้ พอตอนสายๆ ก็มีสายโทรศัพเบอร์แปลก โทรเข้ามา บอกกับผมว่า '' สวัสดีครับน้อง ผมคือคนที่จะติดต่อ อ. ให้หานักศึกษาที่จะมาทำงานให้พี่ครับ ตอนบ่ายพี่เข้าไปหานะครับ " .... ผมก็ตอบไปคำเดียว ว่า ครับ ... ตอนนั้นคิดในใจแค่ว่า จะทำให้พี่เขาได้มั่ยน้อ มันบังเอิญตรงที่ ตอนบ่ายผมมีเรียนด้วยสิครับ แล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธ พี่เขาเลย แต่ก่อนหน้ารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องติดต่อมาแน่นอนวันนี้ แล้วก็ตั้งใจที่จะเลือกไปด้วย แต่ไม่เลือกเรียน 555 พ่อมหาจำเริญ สักบ่ายสาม เบอร์เดิมที่แปลกๆก็โทรมาอีกรอบ นั้นคือพี่ที่มาติดต่อเราให้ไปทำงานั้นแหละครับ บอกว่าให้เราไปรอพี่เขาที่หน้ามอ พี่จะรับไปที่หน้างาน ก็ตอบตกลงไป พอถึงเวลาพี่ก็รับเราไปที่หน้างาน ระหว่างทางก็ได้ทำความรู้จักกันเบื้องต้นนิดหน่อยยังไม่ได้คุยรายละเอียดงาน พอถึงหน้างาน ก็งง มันคือบ้านพี่เขาครับ เป็นโรงเก็บของ ข้างในมีอุปกรณืเกี่ยวกับเครื่องท้อผ้า แล้วก็เครื่องจักรแปลกๆที่ไม่เคยเห็นเลย ก็เลยเริ่มคุยกันถึงงานที่จะให้ทำ (ไม่ขอเล่ารายละเอียดเยอะมากละกันครับเด๊ยวออกนอกประเด็นของกระทู้) ผมสรุปใจความงานนี้ที่ทำเลยละกันครับ เป็นงานออกแบบนวัตกรรม เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ เพื่อส่งเข้าประกวดผลงานครับ เป็นเครื่องท้อผ้าที่ประยุกต์มาจาก เครื่องจักรอัตโนมัติในโรงงาน โดยผมได้คอนเซฟจากพี่เขาว่าต้องการอะไร แล้วก็ลงมือทำการเก็บข้อมูลวันนั้นเลยเพื่อกับเอามาออกแบบเพิ่มที่หอพัก ทำอยู่10วันเต็มครับ ให้เวลากับเครื่องตัวนี้เยอะมาก เพราะเป็นงานที่ถือว่ายากพอสมควร มานั้งคิดในใจไปด้วยทำไปด้วย จริงๆแล้วงานมันยากจัง ไม่เหมือนงานเขียนแบบออกแบบกับนักศึกษาที่เคยทำมาเลย หรือเป็นเพระาว่าประสบการณืของเราที่ยังไม่เยอะพอ เพราะงานแบบนี้จะเป็นต้องทำให้ละเอียดมากทำข้อมูลและแบบที่จะให้เขาเอาไปผลิต เพระาไม่งั้นถ้ามีปัญหาเราต้องกับมาแก้บ่อยๆแน่เลย ใน10วันที่ทำอยู่นี้ ผมไม่ได้เข้าเรียนเลยครับ มันแย่ตรงนี้แหละ แต่ยังโชคดีเพระามันเป็นช่วงที่เพิ่งสอบมิดเทอมไปแล้ว 555 ชล่าใจมากนะเอง แล้วก็เสร็จสิ้นสมบูรณืไป มีปัญหาบ้างนิดหน่อยแต่ไม่ขอเล่าละกัน ปัจจุบับงานนี้พี่เขาจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตอนนั้นผมได้ค่างานประมาณ 60000 โดนหักภาษีเหลือ55000กว่า เรื่องภาษีนี่แหละครับที่ผมบอกว่าปัญหา เพระาผมไม่เคยรู้เรื่องภาษีมาก่อนเลย อิอิ หน้าชาเลย แต่ก็ยังดีที่ได้ค่างาน
นี่แหละครับ งานออกแบบของผม ที่เป็นงานนอก และได้เงินเยอะที่สุด ดีใจ มว๊ากกกก 5หมื่นกว่าเลยนะ แต่เหนื่อยชิบ... มันเลยทำให้ตัวเองมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากขึ้น
ผมไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมผมไม่รู้สึกเบื่อที่จะทำงานแบบนี้ เพระาผมชอบคิดและออกแบบที่จะทำ ใจรักเอามาก
เอาจริงๆแล้วนะครับ ถ้าจะให้พูดถึง การเรียนวิศวะ นั้น แต่ละสาขาตอนเริ่มต้นเรียน มันก็เหมือนกันหมดแหละครับ วิชาพื้นฐาน ฟิสิก เคมี แคลคัส กลศาสตร์ เทอโม ไฟฟ้า วัสดุ นั้นหมายถึงมันเป็นพื้นฐานที่วิศวกรนั้นต้องมี เพระามันสามารถเอาไปประยุกต์ ในสาขางานเราได้ อยู่ที่เราจะเอาไปประยุกต์ใช้ ไม่จำเป็นเลยครับที่เราจะเลือกทำแค่ในสิ่งที่เราเรียนมาในสาขานั้นๆ ดีซะอีกที่ผมเรียนวิศวอุตสาหการ ที่มีการเรียนการสอนในหลายด้านมาก เช่น งานแม่พิม งานหล่อโลหะ กระบวนการผลิต การออกแบบโดยใช้ซอฟแวร์ และอีกมากมาย จนอุตสาหการเนี่ยได้ฉายาเลยว่า เป็นวิศวกรเป็ด กร๊าบๆๆๆๆๆๆๆ ว่ายน้ำได้ บินได้ บนบกก็ได้ ทำเป็นทุกอย่างแต่ไม่เคยเก่งซักอย่าง555555 ไม่รู้ว่าที่มหาลัยอื่นเขาเรียกกันแบบนี้ป้าวนะครับ พอได้มาเรียนอตสาหการจริงๆเนี่ย ผมกับได้มุมมองที่เปลี่ยนไปเลย ผมมองว่าได้เปรียบสาขาทุกสาขามากนะครับ เพระามันได้เรียนรู้ทุกอย่างจริงๆ ในงานของวิศวกรรมจะได้เรียนหมด เพียงแต่ว่าเรียนอย่างละนิดละหน่อย ซึ่งไม่เหมือนสาขาอื่นที่จะเจาะลึกไปแนวทางเดียว เท่าที่พอรู้มานะครับ ผมเลยจำจุดได้จุดนึงว่า เราแค่รู้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง แต่เราไม่หาข้อมูลเพิ่มได้นิ ถ้าจะเจาะลึกทางนั้นจริง มันเลยไม่แปลกครับที่ผมจะถนัดงานของทางเครื่องกล มากว่าที่จะไปเดินตามงานในโรงงานเหมือนอุตสาหการทั่วๆไป แต่จริงๆแล้วคนที่จบอุตสาหการแล้วทำงานแบบผมเนี่ยมีเยอะ เพียงแต่ว่าเขาไม่ขี้น้อยใจแบบผม จนต้องมาบ่นอะไรแบบนี้ 5555 (มีความนอยล์) มันอยู่ที่สิ่งที่เราชอบจริงๆครับ อะ ต่อๆๆๆ
หลังจากที่จบปี 2 จ็อปงานเล็กๆน้อยๆ จนถึงใหญ่ มันก็เข้ามาเยอะมาก มีทั้งนักศึกษาด้วยกันแล้วก็อาจารย์ ก็ติดต่อให้ผมทำงานให้มากขึ้น จนการเรียนมีผลกระทบมากเลยครับ (กระทบเพระาว่าเรื่องกินเหล้ากับติดแฟนมากกว่ามั้ง 5555) ไอบ้าเอย ผมก็ได้มีโอกาสทำงานเล็กใหญ่งานนอกและในมหาลัย พอมีเงินเล็กๆน้อยได้ซื้อของกินเที่ยวใช้ฟุ่มเฟื่อยบ้างแต่ไม่เยอะ เท่าที่จำได้งานงานที่ทำแล้วยากสุดตอนปีสาม คืองานออกแบบโมเดลของเครื่องยนต์ ที่บริษัทรถยนต์แห่งนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยชื่อละกันนะครับ) จะทำเพื่อแจกให้กับโรงเรียนอาชีวะ ถึงจะเป็นงานโมเดล ง่ายๆ แต่สำหรับผม มันก็ยากอยู่นะครับ เพระาต้องมาออกแบบชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ให้ใกล้เคียงมากที่สุด แล้วก็ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน ความคิดก่อนเริ่มงานในตอนั้น
วันนี้ผมคงต้องพักไว้แค่นี้ก่อนได้มั่ยครับ ต้องนั้งเครีบร์งานแล้วครับ ไว้พรุ่งนี้จะมาสานต่อประสบการณืกันใหม่นะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะเล่า ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
จากรอบที่แล้ว หลังจากที่ ตัดสินใจหนึ่งคืน พอเช้ามาที่มหาลัยผมก็ตอบตกลงรับงาน ที่เคยเล่าไว้ข้างต้น อ.ก็บอกว่าจะติดต่อให้ พอตอนสายๆ ก็มีสายโทรศัพเบอร์แปลก โทรเข้ามา บอกกับผมว่า '' สวัสดีครับน้อง ผมคือคนที่จะติดต่อ อ. ให้หานักศึกษาที่จะมาทำงานให้พี่ครับ ตอนบ่ายพี่เข้าไปหานะครับ " .... ผมก็ตอบไปคำเดียว ว่า ครับ ... ตอนนั้นคิดในใจแค่ว่า จะทำให้พี่เขาได้มั่ยน้อ มันบังเอิญตรงที่ ตอนบ่ายผมมีเรียนด้วยสิครับ แล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธ พี่เขาเลย แต่ก่อนหน้ารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องติดต่อมาแน่นอนวันนี้ แล้วก็ตั้งใจที่จะเลือกไปด้วย แต่ไม่เลือกเรียน 555 พ่อมหาจำเริญ สักบ่ายสาม เบอร์เดิมที่แปลกๆก็โทรมาอีกรอบ นั้นคือพี่ที่มาติดต่อเราให้ไปทำงานั้นแหละครับ บอกว่าให้เราไปรอพี่เขาที่หน้ามอ พี่จะรับไปที่หน้างาน ก็ตอบตกลงไป พอถึงเวลาพี่ก็รับเราไปที่หน้างาน ระหว่างทางก็ได้ทำความรู้จักกันเบื้องต้นนิดหน่อยยังไม่ได้คุยรายละเอียดงาน พอถึงหน้างาน ก็งง มันคือบ้านพี่เขาครับ เป็นโรงเก็บของ ข้างในมีอุปกรณืเกี่ยวกับเครื่องท้อผ้า แล้วก็เครื่องจักรแปลกๆที่ไม่เคยเห็นเลย ก็เลยเริ่มคุยกันถึงงานที่จะให้ทำ (ไม่ขอเล่ารายละเอียดเยอะมากละกันครับเด๊ยวออกนอกประเด็นของกระทู้) ผมสรุปใจความงานนี้ที่ทำเลยละกันครับ เป็นงานออกแบบนวัตกรรม เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ เพื่อส่งเข้าประกวดผลงานครับ เป็นเครื่องท้อผ้าที่ประยุกต์มาจาก เครื่องจักรอัตโนมัติในโรงงาน โดยผมได้คอนเซฟจากพี่เขาว่าต้องการอะไร แล้วก็ลงมือทำการเก็บข้อมูลวันนั้นเลยเพื่อกับเอามาออกแบบเพิ่มที่หอพัก ทำอยู่10วันเต็มครับ ให้เวลากับเครื่องตัวนี้เยอะมาก เพราะเป็นงานที่ถือว่ายากพอสมควร มานั้งคิดในใจไปด้วยทำไปด้วย จริงๆแล้วงานมันยากจัง ไม่เหมือนงานเขียนแบบออกแบบกับนักศึกษาที่เคยทำมาเลย หรือเป็นเพระาว่าประสบการณืของเราที่ยังไม่เยอะพอ เพราะงานแบบนี้จะเป็นต้องทำให้ละเอียดมากทำข้อมูลและแบบที่จะให้เขาเอาไปผลิต เพระาไม่งั้นถ้ามีปัญหาเราต้องกับมาแก้บ่อยๆแน่เลย ใน10วันที่ทำอยู่นี้ ผมไม่ได้เข้าเรียนเลยครับ มันแย่ตรงนี้แหละ แต่ยังโชคดีเพระามันเป็นช่วงที่เพิ่งสอบมิดเทอมไปแล้ว 555 ชล่าใจมากนะเอง แล้วก็เสร็จสิ้นสมบูรณืไป มีปัญหาบ้างนิดหน่อยแต่ไม่ขอเล่าละกัน ปัจจุบับงานนี้พี่เขาจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตอนนั้นผมได้ค่างานประมาณ 60000 โดนหักภาษีเหลือ55000กว่า เรื่องภาษีนี่แหละครับที่ผมบอกว่าปัญหา เพระาผมไม่เคยรู้เรื่องภาษีมาก่อนเลย อิอิ หน้าชาเลย แต่ก็ยังดีที่ได้ค่างาน
นี่แหละครับ งานออกแบบของผม ที่เป็นงานนอก และได้เงินเยอะที่สุด ดีใจ มว๊ากกกก 5หมื่นกว่าเลยนะ แต่เหนื่อยชิบ... มันเลยทำให้ตัวเองมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากขึ้น
ผมไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมผมไม่รู้สึกเบื่อที่จะทำงานแบบนี้ เพระาผมชอบคิดและออกแบบที่จะทำ ใจรักเอามาก
เอาจริงๆแล้วนะครับ ถ้าจะให้พูดถึง การเรียนวิศวะ นั้น แต่ละสาขาตอนเริ่มต้นเรียน มันก็เหมือนกันหมดแหละครับ วิชาพื้นฐาน ฟิสิก เคมี แคลคัส กลศาสตร์ เทอโม ไฟฟ้า วัสดุ นั้นหมายถึงมันเป็นพื้นฐานที่วิศวกรนั้นต้องมี เพระามันสามารถเอาไปประยุกต์ ในสาขางานเราได้ อยู่ที่เราจะเอาไปประยุกต์ใช้ ไม่จำเป็นเลยครับที่เราจะเลือกทำแค่ในสิ่งที่เราเรียนมาในสาขานั้นๆ ดีซะอีกที่ผมเรียนวิศวอุตสาหการ ที่มีการเรียนการสอนในหลายด้านมาก เช่น งานแม่พิม งานหล่อโลหะ กระบวนการผลิต การออกแบบโดยใช้ซอฟแวร์ และอีกมากมาย จนอุตสาหการเนี่ยได้ฉายาเลยว่า เป็นวิศวกรเป็ด กร๊าบๆๆๆๆๆๆๆ ว่ายน้ำได้ บินได้ บนบกก็ได้ ทำเป็นทุกอย่างแต่ไม่เคยเก่งซักอย่าง555555 ไม่รู้ว่าที่มหาลัยอื่นเขาเรียกกันแบบนี้ป้าวนะครับ พอได้มาเรียนอตสาหการจริงๆเนี่ย ผมกับได้มุมมองที่เปลี่ยนไปเลย ผมมองว่าได้เปรียบสาขาทุกสาขามากนะครับ เพระามันได้เรียนรู้ทุกอย่างจริงๆ ในงานของวิศวกรรมจะได้เรียนหมด เพียงแต่ว่าเรียนอย่างละนิดละหน่อย ซึ่งไม่เหมือนสาขาอื่นที่จะเจาะลึกไปแนวทางเดียว เท่าที่พอรู้มานะครับ ผมเลยจำจุดได้จุดนึงว่า เราแค่รู้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง แต่เราไม่หาข้อมูลเพิ่มได้นิ ถ้าจะเจาะลึกทางนั้นจริง มันเลยไม่แปลกครับที่ผมจะถนัดงานของทางเครื่องกล มากว่าที่จะไปเดินตามงานในโรงงานเหมือนอุตสาหการทั่วๆไป แต่จริงๆแล้วคนที่จบอุตสาหการแล้วทำงานแบบผมเนี่ยมีเยอะ เพียงแต่ว่าเขาไม่ขี้น้อยใจแบบผม จนต้องมาบ่นอะไรแบบนี้ 5555 (มีความนอยล์) มันอยู่ที่สิ่งที่เราชอบจริงๆครับ อะ ต่อๆๆๆ
หลังจากที่จบปี 2 จ็อปงานเล็กๆน้อยๆ จนถึงใหญ่ มันก็เข้ามาเยอะมาก มีทั้งนักศึกษาด้วยกันแล้วก็อาจารย์ ก็ติดต่อให้ผมทำงานให้มากขึ้น จนการเรียนมีผลกระทบมากเลยครับ (กระทบเพระาว่าเรื่องกินเหล้ากับติดแฟนมากกว่ามั้ง 5555) ไอบ้าเอย ผมก็ได้มีโอกาสทำงานเล็กใหญ่งานนอกและในมหาลัย พอมีเงินเล็กๆน้อยได้ซื้อของกินเที่ยวใช้ฟุ่มเฟื่อยบ้างแต่ไม่เยอะ เท่าที่จำได้งานงานที่ทำแล้วยากสุดตอนปีสาม คืองานออกแบบโมเดลของเครื่องยนต์ ที่บริษัทรถยนต์แห่งนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยชื่อละกันนะครับ) จะทำเพื่อแจกให้กับโรงเรียนอาชีวะ ถึงจะเป็นงานโมเดล ง่ายๆ แต่สำหรับผม มันก็ยากอยู่นะครับ เพระาต้องมาออกแบบชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ให้ใกล้เคียงมากที่สุด แล้วก็ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน ความคิดก่อนเริ่มงานในตอนั้น
วันนี้ผมคงต้องพักไว้แค่นี้ก่อนได้มั่ยครับ ต้องนั้งเครีบร์งานแล้วครับ ไว้พรุ่งนี้จะมาสานต่อประสบการณืกันใหม่นะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะเล่า ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
วิศวกรรมอุตสาหการ แต่มาทำงานด้านเครื่องกล
วันนี้ ขอเล่าแค่นี้ก่อนได้มั่ยครับ มีงานที่ต้องทำด่วนเข้า แล้วมาติดตามกันต่อนะครับรับลองว่ามันมีสาระจริงๆ