หลังจากกระทู้ปลุกผีกระทู้แรก ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามถล่มทลาย
มีแต่ผีมาให้เงียบเหงาวังเวงหัวใจเหมือนป่าช้าไม่มีผิด
ไม่รอช้ารีบต่อกระทู้ 2 ทันทีเพื่อตอกย้ำความเงียบงันสนั่นเมือง
กระทู้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
ช่วงแรก รู้จักกับ Corona SDK
ช่วงสอง ทำไมจึงต้องเขียนโปรแกรม
*** ว่าแล้วเราก็เริ่มช่วงสองกันก่อนเลย ***
ทำไมจึงต้องเขียนโปรแกรม
ตอบง่าย ๆ แบบกำปั้นทุบดิน คือ
ถ้าเราไม่เขียนโปรแกรม เราจะทำอะไรกับคอมไม่ได้เลย
แต่ที่ทุกวันนี้เราไม่ต้องเขียนหรือพัฒนาโปรแกรม
ก็เพราะมีคนอื่นเขาทำไว้ให้หมดแล้ว
เรียกว่าคนส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้โปรแกรม
แต่การพัฒนาหรือเขียนโปรแกรม ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่เสมอ
เพราะคอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถพัฒนาโปรแกรมด้วยตัวมันเองได้
จึงต้องอาศัยโปรแกรมเมอร์ หรือนักเขียนโปรแกรมเพื่อมาสร้างโปรแกรมให้เราใช้นั่นเอง
แต่ไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ เราก็สามารถเขียนโปรแกรมได้
หรือจะเรียกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์สมัครเล่นก็ได้
โดยเฉพาะสมัยนี้ แม้การเขียนโปรแกรมจะมีความวุ่นวายซับซ้อนมากขึ้น
แต่ก็มีเครื่องมือช่วยในการเขียนโปรแกรมเกิดขึ้นมากมายเช่นกัน
ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น แต่ถ้าเราจะทำแบบมือสมัครเล่น
ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำให้ดีเหมือนมืออาชีพไม่ได้
เรียน ๆ เล่น ๆ กันไปนี่แหละ เดี๋ยวก็เก่งเอง
ที่สำคัญ เมืองนอกมีโปรแกรมเมอร์สมัครเล่นเยอะมาก
และบางคนก็เขียนโปรแกรมดี ๆ ออกมาจนมีบริษัทไปขอซื้อกันเลยทีเดียว
แต่ก่อนอื่นมาว่ากันด้วยความรู้พื้นฐานแบบอนุบาลกันก่อน
สมัยนี้คนรุ่นใหม่มักมีคำถามมากมาย ว่าจะเขียนโปรแกรมอย่างไร
จะเริ่มจากอะไร จะเขียนให้เก่งอย่างไร ที่จริงคำถามนี้เหมือนจะมีคำตอบ
แต่ตอบไปก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะที่จริงสิ่งที่ทำให้การเรียนรู้แตกต่างกัน
ก็คือพื้นฐานนั่นเอง โปรแกรมเมอร์สมัยเก่ามักเริ่มต้นด้วยความสนใจ
อยากรู้อยากเห็น อยากเล่น อยากลอง ไม่ใช่อยากเก่ง
จึงมักไม่ทำอะไรที่มันยากเกินไป ลองแต่เรื่องง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องพื้น ๆ
สมัยก่อนบางคนแค่ได้กดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์เล่นก็มีความสุขแล้ว
ไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับมันมากมาย แต่ทำไปทำมามันก็เข้าสายเลือด
เกิดความเข้าใจขึ้นมาเอง แล้วก็เล่นเอง เรียนรู้เอง
และเพราะพื้นฐานแน่นนี่แหละ ทำให้สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เองเสมอ
คนสมัยใหม่มีการเรียนรู้ที่กลับกันกับคนสมัยก่อน
คือมักจะเริ่มจากการทำงานก่อน โดยที่ยังไม่มีความเข้าใจหรือทักษะที่เพียงพอ
เรียนก็มุ่งแต่จะทำงาน จะหาเงิน อยากเก่งเร็ว ๆ แต่สุดท้ายถ้าไม่ย้อนมาปูพื้นฐานให้ดี
มันก็มีทางให้เลือกแค่ดันทุรังไปเรื่อย ๆ หรือไม่ก็ท้อจนถอยไปก็เท่านั้นเอง
เกริ่นมาซะยืดยาวเหมือนจะดูดีมีความน่าเชื่อถือ
แต่ที่จริงก็พล่ามไปเรื่อยเพื่อสร้างเครดิตให้ข้อเขียนของตัวเอง 5555
เริ่มเลยดีกว่า
มีต่อ...
ปลุกผี..ซิลิคอนวัลเล่ย์ ตอนที่ 1: รู้จักกับ Corona SDK และทำไมจึงต้องเขียนโปรแกรม
มีแต่ผีมาให้เงียบเหงาวังเวงหัวใจเหมือนป่าช้าไม่มีผิด
ไม่รอช้ารีบต่อกระทู้ 2 ทันทีเพื่อตอกย้ำความเงียบงันสนั่นเมือง
กระทู้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
ช่วงแรก รู้จักกับ Corona SDK
ช่วงสอง ทำไมจึงต้องเขียนโปรแกรม
*** ว่าแล้วเราก็เริ่มช่วงสองกันก่อนเลย ***
ทำไมจึงต้องเขียนโปรแกรม
ตอบง่าย ๆ แบบกำปั้นทุบดิน คือ
ถ้าเราไม่เขียนโปรแกรม เราจะทำอะไรกับคอมไม่ได้เลย
แต่ที่ทุกวันนี้เราไม่ต้องเขียนหรือพัฒนาโปรแกรม
ก็เพราะมีคนอื่นเขาทำไว้ให้หมดแล้ว
เรียกว่าคนส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้โปรแกรม
แต่การพัฒนาหรือเขียนโปรแกรม ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่เสมอ
เพราะคอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถพัฒนาโปรแกรมด้วยตัวมันเองได้
จึงต้องอาศัยโปรแกรมเมอร์ หรือนักเขียนโปรแกรมเพื่อมาสร้างโปรแกรมให้เราใช้นั่นเอง
แต่ไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ เราก็สามารถเขียนโปรแกรมได้
หรือจะเรียกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์สมัครเล่นก็ได้
โดยเฉพาะสมัยนี้ แม้การเขียนโปรแกรมจะมีความวุ่นวายซับซ้อนมากขึ้น
แต่ก็มีเครื่องมือช่วยในการเขียนโปรแกรมเกิดขึ้นมากมายเช่นกัน
ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น แต่ถ้าเราจะทำแบบมือสมัครเล่น
ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำให้ดีเหมือนมืออาชีพไม่ได้
เรียน ๆ เล่น ๆ กันไปนี่แหละ เดี๋ยวก็เก่งเอง
ที่สำคัญ เมืองนอกมีโปรแกรมเมอร์สมัครเล่นเยอะมาก
และบางคนก็เขียนโปรแกรมดี ๆ ออกมาจนมีบริษัทไปขอซื้อกันเลยทีเดียว
แต่ก่อนอื่นมาว่ากันด้วยความรู้พื้นฐานแบบอนุบาลกันก่อน
สมัยนี้คนรุ่นใหม่มักมีคำถามมากมาย ว่าจะเขียนโปรแกรมอย่างไร
จะเริ่มจากอะไร จะเขียนให้เก่งอย่างไร ที่จริงคำถามนี้เหมือนจะมีคำตอบ
แต่ตอบไปก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะที่จริงสิ่งที่ทำให้การเรียนรู้แตกต่างกัน
ก็คือพื้นฐานนั่นเอง โปรแกรมเมอร์สมัยเก่ามักเริ่มต้นด้วยความสนใจ
อยากรู้อยากเห็น อยากเล่น อยากลอง ไม่ใช่อยากเก่ง
จึงมักไม่ทำอะไรที่มันยากเกินไป ลองแต่เรื่องง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องพื้น ๆ
สมัยก่อนบางคนแค่ได้กดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์เล่นก็มีความสุขแล้ว
ไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับมันมากมาย แต่ทำไปทำมามันก็เข้าสายเลือด
เกิดความเข้าใจขึ้นมาเอง แล้วก็เล่นเอง เรียนรู้เอง
และเพราะพื้นฐานแน่นนี่แหละ ทำให้สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เองเสมอ
คนสมัยใหม่มีการเรียนรู้ที่กลับกันกับคนสมัยก่อน
คือมักจะเริ่มจากการทำงานก่อน โดยที่ยังไม่มีความเข้าใจหรือทักษะที่เพียงพอ
เรียนก็มุ่งแต่จะทำงาน จะหาเงิน อยากเก่งเร็ว ๆ แต่สุดท้ายถ้าไม่ย้อนมาปูพื้นฐานให้ดี
มันก็มีทางให้เลือกแค่ดันทุรังไปเรื่อย ๆ หรือไม่ก็ท้อจนถอยไปก็เท่านั้นเอง
เกริ่นมาซะยืดยาวเหมือนจะดูดีมีความน่าเชื่อถือ
แต่ที่จริงก็พล่ามไปเรื่อยเพื่อสร้างเครดิตให้ข้อเขียนของตัวเอง 5555
เริ่มเลยดีกว่า
มีต่อ...