กระดานอำลา การจากไปตลอดกาลของ AlphaGo และน้ำตาของแชมป์โลก
บทความดีๆจาก เฟสบุ๊คคุณ Pumjai Chatmaitri
https://www.facebook.com/smiley.bcc?hc_ref=NEWSFEED&fref=nf
หลายคนอาจจะเคยชินกับภาพของความหยิ่งยโสของ Ke Jie ทั้งท่าทางการแสดงออก และการให้สัมภาษณ์ แต่ทันทีที่กระดานสุดท้ายจบลง น้ำตาของผู้แพ้ได้พรั่งพรูออกมาชนิดที่กลั้นไว้ไม่อยู่ จนทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า แชมป์โลกจอมอวดดีคนนี้ สุดท้ายแล้วเขาเป็นเพียงแค่วัยรุ่นอายุ 19 ปีเท่านั้นเอง
ก่อนการแข่งขัน Ke Jie ได้เขียนลงในบล็อกของเขาว่าการแข่งขันกับ AlphaGo กระดานนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตเขาที่เขาจะเล่นหมากล้อมกับ AI ไม่ใช่แค่ AlphaGo แต่เขาหมายถึง AI ทุกตัวบนโลกใบนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากนี้ AI จะพัฒนาได้ไกลกว่ายิ่งกว่าจินตนาการของมนุษย์คนไหนจะเอื้อมถึง โอกาสชนะจะไม่เหลืออีกต่อไป ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะเล่นไปทำไมถ้าเล่นแล้วยังไงก็แพ้
สำหรับ Ke Jie แล้วเป้าหมายในการเล่นหมากล้อมอาจจะแตกต่างไปจากนักหมากล้อมคนอื่นๆ สำหรับเขาแล้วความสนุกของการเล่นหมากล้อมคือชัยชนะ หรือพูดง่ายๆเขาจะสนุกต่อเมื่อชนะเท่านั้น เขาเกลียดการพ่ายแพ้ เกลียดการเป็นที่สองรองจากคนอื่นและนั่นเป็นแรงผลักดันเพียงหนึ่งเดียวของเขา ที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลก
กับคนอย่าง Ke Jie แล้วการยอมลดศักดิ์ศรีลงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลังจบกระดานที่ 2 Ke Jie ยอมทำลายทิฏฐิและความภาคภูมิใจของตัวเองลง ด้วยการเอ่ยปากกับ Demis Hassabis ว่ากระดานสุดท้ายเขาขอถือหมากขาว เพียงเพราะว่าเขารู้ว่า AlphaGo เล่นได้ดีกว่าถ้าถือหมากขาว และเขาสัญญาว่าเนรมิตให้เกมสุดท้ายเป็นเกมแห่งความฆ่าฟันจะสร้างความซับซ้อนให้แพร่กระจายไปจนทั่วกระดาน แล้วรีดเค้นทุกขีดความสามารถ จะทำให้กระดานสุดท้ายเป็นกระดานที่ทุกคนจะต้องจดจำ สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่า Ke Jie จะแพ้ไปอย่างขาดลอย แต่เขาก็ไม่ได้ผิดคำพูดของเขาเลยแม้แต่คำเดียว
Ke Jie ให้สัมภาษณ์หลังเกมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ กล่าวขอโทษทุกคนที่เขายังทำไม่ดีพอ เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นตัวแทนของนักหมากล้อมทั่วโลก และเขารู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่จะเล่นได้ดีกว่าเขาในกระดานสุดท้าย ซึ่งเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบจากปากของเขาเอง เขาสัญญาว่าหลังจากนี้เขาจะให้ความสุขกับหมากล้อมมากขึ้น เป็นความสุขที่ไม่ได้มาจากชัยชนะ แต่เป็นความสุขที่มาจากได้เล่นหมากล้อม อยากให้ทุกคนเห็นว่าหมากล้อมนั้นเป็นเกมที่สนุก และไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่ทุกคนเข้าใจ และเขาสัญญาว่า ภาพของ Ke Jie จอมโอหังที่ทุกคนเคยจดจำจะกลับมาในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
สำหรับนักหมากล้อมและคนที่รักหมากล้อมแล้ว Ke Jie ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไม ด้วยวัยเพียงแค่ 19 เขาถึงถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของมนุษย์ทุกคน Lian Xiao 9D ได้เสริมว่า เขาอยากจะบอกให้ Ke Jie รู้ว่านอกจากเขาแล้วจะไม่มีมนุษย์คนไหนที่สามารถต่อกรกับ AlphaGo ได้สมศักดิ์ศรีขนาดนี้อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระดานที่ 2
กลับมาที่ AlphaGo - แตกต่างจาก Deep Blue ที่เอาชนะ Kasparov บนกระดานหมากรุก 20 ปีก่อน กระดานนี้จะเป็นกระดานสุดท้ายตลอดกาลของ AlphaGo , DeepMind ไม่ได้มีแผนที่จะพัฒนา AlphaGo ต่อและจะไม่จัดทำโปรแกรม AlphaGo ให้ทุกคนได้เข้าถึงเหมือนอย่าง Zen หรือ CrazyStone นั่นหมายความว่า AlphaGo กำลังจะกลายเป็น Sai ในเรื่องฮิคารุเซียนโกะ ที่จะกลายเป็นเพียงตำนานและหายไปตลอดกาล แต่สิ่งที่ DeepMind จะเหลือทิ้งไว้ให้เป็นมรดกตกทอดต่อไปคือบันทึกหมาก 50 กระดานของ AlphaGo และเอกสารทางวิชาการทั้งหมดของ AlphaGo เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นนำไปพัฒนาและต่อยอดให้มีโปรแกรมที่จะสามารถเทียบเท่าหรือเก่งกว่า AlphaGo ต่อไปในอนาคตข้างหน้า
เป็นการปิดฉาก AlphaGo อย่างสมบูรณ์แบบ
Great is the art of beginning, but greater is the art of ending
Goodbye AlphaGo ...
/ AlphaGo ไม่ได้กล่าวไว้...
ตาหมากสุดท้ายของ AlphaGo....การจากไปของหัตถ์เทวะ..หน้าที่ของข้าจบแล้ว/ซาอิกล่าว....
บทความดีๆจาก เฟสบุ๊คคุณ Pumjai Chatmaitri
https://www.facebook.com/smiley.bcc?hc_ref=NEWSFEED&fref=nf
หลายคนอาจจะเคยชินกับภาพของความหยิ่งยโสของ Ke Jie ทั้งท่าทางการแสดงออก และการให้สัมภาษณ์ แต่ทันทีที่กระดานสุดท้ายจบลง น้ำตาของผู้แพ้ได้พรั่งพรูออกมาชนิดที่กลั้นไว้ไม่อยู่ จนทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า แชมป์โลกจอมอวดดีคนนี้ สุดท้ายแล้วเขาเป็นเพียงแค่วัยรุ่นอายุ 19 ปีเท่านั้นเอง
ก่อนการแข่งขัน Ke Jie ได้เขียนลงในบล็อกของเขาว่าการแข่งขันกับ AlphaGo กระดานนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตเขาที่เขาจะเล่นหมากล้อมกับ AI ไม่ใช่แค่ AlphaGo แต่เขาหมายถึง AI ทุกตัวบนโลกใบนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากนี้ AI จะพัฒนาได้ไกลกว่ายิ่งกว่าจินตนาการของมนุษย์คนไหนจะเอื้อมถึง โอกาสชนะจะไม่เหลืออีกต่อไป ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะเล่นไปทำไมถ้าเล่นแล้วยังไงก็แพ้
สำหรับ Ke Jie แล้วเป้าหมายในการเล่นหมากล้อมอาจจะแตกต่างไปจากนักหมากล้อมคนอื่นๆ สำหรับเขาแล้วความสนุกของการเล่นหมากล้อมคือชัยชนะ หรือพูดง่ายๆเขาจะสนุกต่อเมื่อชนะเท่านั้น เขาเกลียดการพ่ายแพ้ เกลียดการเป็นที่สองรองจากคนอื่นและนั่นเป็นแรงผลักดันเพียงหนึ่งเดียวของเขา ที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลก
กับคนอย่าง Ke Jie แล้วการยอมลดศักดิ์ศรีลงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลังจบกระดานที่ 2 Ke Jie ยอมทำลายทิฏฐิและความภาคภูมิใจของตัวเองลง ด้วยการเอ่ยปากกับ Demis Hassabis ว่ากระดานสุดท้ายเขาขอถือหมากขาว เพียงเพราะว่าเขารู้ว่า AlphaGo เล่นได้ดีกว่าถ้าถือหมากขาว และเขาสัญญาว่าเนรมิตให้เกมสุดท้ายเป็นเกมแห่งความฆ่าฟันจะสร้างความซับซ้อนให้แพร่กระจายไปจนทั่วกระดาน แล้วรีดเค้นทุกขีดความสามารถ จะทำให้กระดานสุดท้ายเป็นกระดานที่ทุกคนจะต้องจดจำ สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่า Ke Jie จะแพ้ไปอย่างขาดลอย แต่เขาก็ไม่ได้ผิดคำพูดของเขาเลยแม้แต่คำเดียว
Ke Jie ให้สัมภาษณ์หลังเกมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ กล่าวขอโทษทุกคนที่เขายังทำไม่ดีพอ เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นตัวแทนของนักหมากล้อมทั่วโลก และเขารู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่จะเล่นได้ดีกว่าเขาในกระดานสุดท้าย ซึ่งเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบจากปากของเขาเอง เขาสัญญาว่าหลังจากนี้เขาจะให้ความสุขกับหมากล้อมมากขึ้น เป็นความสุขที่ไม่ได้มาจากชัยชนะ แต่เป็นความสุขที่มาจากได้เล่นหมากล้อม อยากให้ทุกคนเห็นว่าหมากล้อมนั้นเป็นเกมที่สนุก และไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่ทุกคนเข้าใจ และเขาสัญญาว่า ภาพของ Ke Jie จอมโอหังที่ทุกคนเคยจดจำจะกลับมาในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
สำหรับนักหมากล้อมและคนที่รักหมากล้อมแล้ว Ke Jie ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไม ด้วยวัยเพียงแค่ 19 เขาถึงถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของมนุษย์ทุกคน Lian Xiao 9D ได้เสริมว่า เขาอยากจะบอกให้ Ke Jie รู้ว่านอกจากเขาแล้วจะไม่มีมนุษย์คนไหนที่สามารถต่อกรกับ AlphaGo ได้สมศักดิ์ศรีขนาดนี้อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระดานที่ 2
กลับมาที่ AlphaGo - แตกต่างจาก Deep Blue ที่เอาชนะ Kasparov บนกระดานหมากรุก 20 ปีก่อน กระดานนี้จะเป็นกระดานสุดท้ายตลอดกาลของ AlphaGo , DeepMind ไม่ได้มีแผนที่จะพัฒนา AlphaGo ต่อและจะไม่จัดทำโปรแกรม AlphaGo ให้ทุกคนได้เข้าถึงเหมือนอย่าง Zen หรือ CrazyStone นั่นหมายความว่า AlphaGo กำลังจะกลายเป็น Sai ในเรื่องฮิคารุเซียนโกะ ที่จะกลายเป็นเพียงตำนานและหายไปตลอดกาล แต่สิ่งที่ DeepMind จะเหลือทิ้งไว้ให้เป็นมรดกตกทอดต่อไปคือบันทึกหมาก 50 กระดานของ AlphaGo และเอกสารทางวิชาการทั้งหมดของ AlphaGo เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นนำไปพัฒนาและต่อยอดให้มีโปรแกรมที่จะสามารถเทียบเท่าหรือเก่งกว่า AlphaGo ต่อไปในอนาคตข้างหน้า
เป็นการปิดฉาก AlphaGo อย่างสมบูรณ์แบบ
Great is the art of beginning, but greater is the art of ending
Goodbye AlphaGo ...
/ AlphaGo ไม่ได้กล่าวไว้...