ผมเป็นคนนึงที่ชอบดูคลิปการเล่นของน้องเมย์ใน YouTube ตั้งแต่สมัยน้องเมย์ได้แชมป์เยาวชนโลก ... ต้องบอกว่าสมัยนั้น โนโซมิ กับ น้องต่าย เป็นคู่ปรับกันมาตลอดกับน้องเมย์ ... จากการที่ผมดูน้องเมย์ตีมาเกือบจะทุกคลิป ต้องบอกเลยว่า เมื่อปี 2012-2013 สภาพร่างกายของน้องเมย์สมบูรณ์มาก จะเห็นได้จากความแม่นยำในการตี ความคิดสร้างสรรค์ และจุดเด่นที่สุดของน้องเมย์คือ คู่ต่อสู้ ไม่รู้ว่าน้องจะตีไปทางไหน เพราะน้องเมย์สามารถก้าวไปถึงจุดที่ข้อมือมหัศจรรย์ของน้องเลือกได้ว่าจะให้ไปทางไหน

แต่ ... จุดเด่นที่สุดของน้องเมย์ข้อนั้น ได้หายไปแล้ว ตั้งแต่ในปี 2016 ปลายๆปี ... ผมก็อธิบายไม่ถูก แต่เชื่อว่าคนที่ดูบ่อยๆเหมือนผมจะเข้าใจ ว่าผมหมายถึงอะไร ... น้องตีเป็น format ไม่รู้ว่าเพราะซ้อมมา หรือเพราะสภาพร่างกายไม่พร้อมที่จะเลือกตีได้ ... แต่น้องตีเป็น format จริงๆ ... การหลอกด้วยข้อมือหยุดลูกหน้าเนต การฟันครอสโฟร์แฮนด์ การตบตรงย้ำจุดเดิม หรือแม้แต่การตบครอสแล้วกระโดดมาซ้ำครอสอีกที ก็หายไป ทั้งๆที่บางจังหวะมันทำได้ ...

เรื่อง ความแน่นอน คือเรื่องที่สอง ที่หายไปอย่างชัดเจน ... อันนี้เป็นเพราะสภาพร่างกายที่ต้องมีอาการเจ็บแน่ๆ ... แล้วมันจะไม่หายแล้วด้วย เพราะน้องใช้ร่างกายมาถึงวันเวลาของมันแล้ว ...​ ตอนนี้ต้องยอมรับว่า แบดหญิงเดี่ยวคือการแข่งด้วยพละกำลังจริงๆ คนที่มีกำลังและเทคนิคสูง ก็ย่อมต้องเป็นมือ 1 โลก ... คนมีกำลัง ความเร็ว ก็เรียงตามลำดับโลก Ranking ปัจจุบันคือความสามารถของนักกีฬาตอนนี้จริงๆ ...

ตอนนี้น้องได้รางวัญและตำแหน่งอันทรงเกียรติมามากมายแล้ว ทั้ง แชมป์เยาวชนโลก 3 ปีซ้อน, แชมป์โลกปี 2013, แชมป์ Asia, Triple SuperSeries in 3 weeks และ ตำแหน่งมือ 1 โลก... จะขาดก็แต่ Champ All England และ Champ Olympic แค่ 2 อย่างนี้จริงๆ ... ชีวิตนักแบดอาชีพก็จะถือว่าประสพความสำเร็จที่สุดแล้ว ... เชื่อว่าน้องคงรู้ดี

ดังนั้น KPI ของน้องเมย์ ถ้าให้ผมเดา คือ เก็บ All England ให้ได้ มีโอกาสอีก 3 ปี คือ 2018 2019 และ  2020 ... รักษา ranking Top 8 จนถึง Olympic 2020 ที่ Tokyo ... อ่อนแอตอนไหนไม่เป็นไร แต่ปี 2020 คือที่สุด เพราะมันคือโอกาสสุดท้ายของน้องเมย์กับการคว้าเหรียญ Olympic ให้ได้ภายในชีวิตนี้

สู้ๆ ครับ ... ถึงอย่างไรน้องก็เป็นนักแบดไทยที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศนี้อยู่ดี